คิดให้ดีก่อนนัดช่าง! 7 ประโยคคำถาม ตอบตัวเองให้ได้ก่อนจะ 'ตัดผมทรงใหม่' ที่ไม่เคยทำมาก่อน (o-_-o)

สวัสดีค่าา สาวๆSistaCafeที่กำลังอยากเปลี่ยน' ทรงผมใหม่ 'ทั้งหลายอยู่กับผมทรงเดิมๆ ลุคเดิมๆ มานานหลายปี บางทีมันก็เบื่อแหละ เราก็เป็น! ตัดสินใจเดินงงๆ เข้าร้านทำผม มาถึงช่างก็รีบเอาแคตตาล็อกมาให้ พูดกล่อมใดๆ จนเรายอมจิ้มเลือกไปทรงนึง ( ซึ่งก็ไม่รู้หรอกว่ามาอยู่บนหัวเราจะสวยไหม แต่นางแบบน่ารักดี ก็เอาเลยละกัน )นั่งให้ช่างเล็มๆ ซอยๆ สักพัก มองกระจกอีกทีแทบร้องกรี๊ด โค-ตะ-หระ ไม่เข้ากับหน้าเลยจ่ะ!! จะต่อผมกลับเข้าไปก็ไม่ได้ ต้องรออีกหลายเดือนกว่าจะยาวใหม่ เนี่ย บอกเลยว่าอย่าหาทำ พังมาไม่รู้กี่รายละ บางคนรับไม่ได้ถึงกับไปต่อผมหรือใส่วิกเลยเด้อ!ไม่ใช่ทุกคนที่ทรงศีรษะสวย ตัดทรงไหนก็รอด มันต้องทำการบ้าน หาข้อมูลเกี่ยวกับทรงผมที่จะตัดมาด้วย อย่าลืมว่าทรงผมช่วยเสริมบุคลิกคน จะสวยมากหรือน้อยลงก็อยู่ที่ผมนี่แหละ ในบทความนี้เราจึงขอชวนสาวๆ ที่อยากเปลี่ยนลุค ให้ลองทบทวนตัวเองด้วยการตอบ' 7 คำถามก่อนทำทรงผมใหม่ 'แล้วคิดดีๆ ว่าการนัดช่างทำผมครั้งนี้ จะตอบโจทย์เธอจริงๆ หรือเสียเงินฟรีแถมเสียเซลฟ์ ไปค่ะซิสสส!

1. "อยากตัดผมใหม่จริงๆ หรือแค่อยากประชดใคร?"

ถามใจตัวเองดีๆ ว่า อยากตัดผมทรงใหม่เพื่อ ' ตัวเธอเอง ' จริงๆ หรือแค่อยากทำเพื่อประชดชีวิต เช่น ป้าข้างบ้านทักบ่อยๆ ว่า " ผมยาวจะถึงก้นอยู่แล้ว ดูรุงรังอย่างกับโฮมเลส ไปตัดซะบ้างนะ ", เพิ่งเลิกกับแฟน เลยอยากตัดสั้นหรือสกินเฮดไปเลย ไหนๆ ผู้ชายก็ทิ้งแล้ว ( เพื่อออ ), ดาราไอดอลที่ชอบออกซิงเกิ้ลใหม่กับทรงผมใหม่ สีผมใหม่ ก็เลยอยากไปตัดตามบ้างแม้จะไม่เข้ากับหน้าเธอเลยก็ตาม

ถ้าเหตุผลคืออะไรประมาณนี้ สต็อปตัวเองด่วน! เพราะสุดท้ายถ้าตัดมาแล้วหน้าแย่ ( ซึ่งส่วนใหญ่มันก็จะแย่แหละ ) คนที่จะเสียใจที่สุดก็คือตัวเธอเองนั่นแหละค่ะ #ฉันทำอะไรลงไป

จะมีผมทรงใหม่ ขอให้เป็นเพราะเธออยากเปลี่ยนบรรยากาศใหม่ๆ เสริมบุคลิกและสไตล์ของตัวเองให้ดูดีขึ้น ทำให้ตัวเองสวยขึ้น ไม่ต้องแคร์ว่าใครจะคิดยังไง เลือกทรงที่เหมาะกับรูปหน้าของเธอที่สุดก็พอ

หรือทริคง่ายๆ คือ ไม่ว่าจะอยากตัดทรงอะไรก็ตาม ฮึบไว้แล้วรอไปก่อนสัก 2 สัปดาห์ ถ้ายังอยากตัดผมอยู่ ก็เชิญที่ร้านทำผมโลด ถือว่าเธอไตร่ตรองมาดีแล้วค่ะ

2. "ผมทรงนี้เข้ากับรูปหน้าของฉันหรือเปล่า"

คำถามที่สองนี้ เรียกว่าเป็นแก่นหลักของการตัดผมทรงใหม่เลย! ถึงผมของนางแบบจะดูดีบนรูปภาพ หรือในคลิปแค่ไหน ก็ไม่ได้การันตีว่าเธอทำผมทรงเดียวกันแล้วจะดูเป๊ะเท่ากัน นางแบบอาจมีหน้ารูปไข่ รูปหัวใจที่ทำผมเปิดหน้าแล้วดูดี

แต่ถ้าเธอรูปหน้ากลมหรือมีมุมเหลี่ยม ฟีลลิ่งที่ได้ก็จะต่างออกไป ไหนจะโทนสีผิว อันเดอร์โทนผิว สีตา รูปร่างผอม-อ้วน ทุกอย่างส่งผลต่อ Finishing Look หลังตัดได้หมดค่ะ

หลักๆ ที่ละเลยไม่ได้เลยคือ ' รูปหน้า ' เพราะแทบจะเป็นตัวตัดสินเลยว่า หน้าจะสวยหรือจะดับ ทรงผมหนึ่งทรงไม่ได้เหมาะสำหรับทุกคน แนะนำให้เลือกดูทรงผมที่ใช้นางแบบรูปหน้าคล้ายกับเธอ ถ้าเธอหน้ากลมก็ควรดูนางแบบทรงผมที่หน้ากลม เป็นต้นหรือถ้าใจมันเรียกร้องจริงๆ ถึงทรงนี้อาจตัดแล้วดูแย่ก็ยอม ก็ถือแบบไปที่ร้านให้ช่างดูเลย ให้เขาช่วยปรับ ออกแบบทรงให้ใหม่ที่แนวคล้ายกันแต่เข้ากับเธอมากกว่าค่ะ ไม่แน่ว่าเธออาจชอบทรงที่ช่างตัดให้มากกว่าก็ได้นะ

3. "ตัดผมทรงนี้แล้ว จะเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของฉันไหมนะ"

ปัจจัยนี้ก็ค่อนข้างสำคัญ! เพราะทรงผมที่ตัดแล้วก็จะอยู่บนหัวของเรา 24 ชั่วโมงถูกไหมคะ จึงควรคิดเรื่อง ' ไลฟ์สไตล์ ' หรือสิ่งที่เราทำในชีวิตประจำวันตั้งแต่เช้าจรดเย็นด้วยว่า เหมาะกับผมแบบนี้หรือไม่

คิดง่ายๆ ว่าถ้าเธอเป็นสายลุย นักกีฬา สายแอดเวนเจอร์ หรือเป็นสายขี้เกียจตื่นสาย ไม่ชอบเซ็ตผมก่อนออกจากบ้าน ก็ไม่ควรเลือกทรงผมดัดลอนยาวสยายเป็นเจ้าหญิง หรือถ้าเป็นคนหวานๆ สายบิวตี้ ชอบถักเปีย ชอบม้วนผม จะตัดทรงผมสั้นโมฮ็อกก็ไม่ใช่

ยังมีอีกหลายเงื่อนไขที่ควรคิดให้รอบด้าน เวลาตัดจริงจะได้ไม่โป๊ะแตกเช่น ไม่ชอบเล็มผมเองบ่อยๆ ไม่ชอบไปหาช่าง ผมหน้าม้าจะกลายเป็นปัญหาทันที, เป็นคนผมบาง บางทรงผมก็ยิ่งเน้นให้ผมดูบางมากขึ้น ต้องใช้แฮร์พีซถึงจะรอด พร้อมจะติดแฮร์พีซทุกวันหรือเปล่า, ชอบเข้าฟิตเนสออกกำลังกาย ก็ควรเลือกทรงผมที่มัดเป็นบันหรือหางม้าได้ง่าย เป็นต้น

สรุปว่า

หาทรงผมที่ไม่รบกวนการใช้ชีวิต

ของเธอ ถือว่าผ่านค่ะ

4. "ฉันจะเซ็ตผมเองได้ไหม ถ้าไม่มีช่างทำให้"

ทรงผมผู้หญิงมากมายที่ต้องอาศัยการ ' เซ็ต ' ด้วยที่หนีบผมตรงเอย แกนม้วนผมเอย ถึงจะได้ผมสวยเป๊ะเหมือนเพิ่งออกมาจากซาลอน ผมที่เธอเห็นช่างทำให้ในร้าน ไม่ได้อยู่ไปตลอดนะรู้ยัง ตื่นมาวันรุ่งขึ้นผมก็ยับยู่ยี่ชี้ฟูแล้ว

ปัญหาคือเธอรู้วิธีเซ็ตใหม่ให้เหมือนช่างทำรึเปล่า และสำคัญกว่านั้นคือ ' สะดวกที่จะทำหรือเปล่า ' เพราะถ้าชีวิตเร่งรีบ ตื่นไปทำงานยังไม่ทัน จะให้มานั่งเป่าผม ม้วนผม ฉีดสเปรย์ทีละช่อก็กระไรอยู่ คิดให้ดีๆ!!

ถ้าคิดว่ามีเวลามากพอ พร้อมจะเซ็ตผมในทุกวันก็จัดไป แต่หากเป็นคนชีวิตยุ่งๆ คนนึง หรือขี้เกียจวุ่นวายกับผมหลายขั้นตอน เราแนะนำเป็นทรงที่ไม่จำเป็นต้องเซ็ต เช่น ผมตัดตรง ผมซอยสไลด์แบบธรรมดาๆ จะดีกว่า

แค่หวีให้เรียบเสมอกัน ( อย่างมากก็เป่าด้วยไดร์สักหน่อย ) แล้วจบ ไม่กินเวลาจนไปเรียนหรือไปทำงานสายด้วยค่ะ

5. "ผมทรงนี้ เข้ากับสไตล์การแต่งตัวของฉันหรือเปล่า"

นอกจากรูปหน้า ไลฟ์สไตล์ในชีวิตประจำวันแล้ว อีกปัจจัยนึงที่จะมองข้ามไม่ได้ก็คือ ' สไตล์การแต่งตัว ' นั่นเอง เพราะการจะมองคนนึงว่าดูดี ดูเก๋ โทนแต่งหน้า ทรงผม กับเสื้อผ้ามันก็ต้องไปด้วยกัน

ถ้าปกติเธอเป็นสายหวาน ใส่เสื้อผ้าแนวลูกไม้ กระโปรงสั้น รองเท้าส้นสูง จะให้ตัดผมสกินเฮดครึ่งหัว หรือบ๊อบสั้นกุดก็อาจลดทอนความคิ้วท์ลง, ปกติแต่งแนวสาวร็อค แซ่บๆ เผ็ชๆ สีผมดำก็อาจดูธรรมดาเกินไป ถ้าทำสีผมเป็นสีทอง สีแดง สีส้ม ก็จะดูเสริมบุคลิกมากขึ้น เป็นต้น

นึกภาพว่าเป็นคนแต่งตัวปอนๆ ชอบหน้าสดออกจากบ้าน แต่เผลอทำสีผมแดงก่ำ หรือกัดสีผมบลอนด์อ่อน ก็ต้องบังคับตัวเองให้แต่งหน้า ไม่งั้นหน้าก็จะดูป่วย เสื้อผ้าก็ต้องใส่ให้มีสีสันขึ้น ไม่งั้นก็ไม่เข้ากับสีผม ไปๆ มาๆ เธอจะอึดอัดและอยากกลับไปย้อมผมกลับอยู่ดี เพราะมันไม่ใช่ตัวเธอ

ดังนั้นเช็คด้วยว่า ผมที่คิดจะตัดหรือทำสี จะเข้ากับเสื้อผ้าในตู้ของเธอหรือเปล่า ถ้าแมทช์ในหัวแล้วมันไม่ใช่ ก็อย่าทำดีกว่า

6. "ผมทรงนี้ เข้ากับสภาพเส้นผม หรือความหนาของผมไหม"

ผมของสาวๆ แต่ละคนหนาบางไม่เท่ากัน บางคนผมหนามีวอลลุ่ม จะทำผมทรงไหนก็ได้ แต่หลายคนก็มีผมบางที่หากได้ทรงผมดีๆ ผมจะดูหนาขึ้น แต่ถ้าแจ็กพอตตัดผิดทรง อาจจะดูหัวล้านเลยก็เป็นได้ #แง!

เช่น ถ้าซิสผมหนา ช่างทำผมจะแนะนำให้เธอทำทรงผมยาวมากกว่าสั้น เพราะถ้าตัดสั้นแล้วผมจะดูฟูเกินไป แต่ถ้าผมบาง ทรงผมสั้นก็จะดูแลง่ายกว่า ไม่เน้นความบางของผมมากกว่าค่ะ

นอกจากความหนาแล้ว สภาพเส้นผมก็เป็นสิ่งที่ควรพิจารณา หากผมปัจจุบันของเธอแห้งเสีย กรอบเป็นไม้กวาด ก็ไม่ควรทำผมลอน หรือผมหนีบตรงที่ต้องใช้ความร้อนจากเครื่องซ้ำเข้าไปอีก,มีผมตรง ตัดหน้าม้าเรียบๆ ได้ แต่คนที่ผมหยักศกต้องระวังไม่ทำทรงที่ให้ผมดูชี้ฟูกว่าเดิม ( ยกเว้นจะยืดผมถาวรไปเลย ) เพราะฉะนั้นเช็คผมตัวเองให้ดีก่อนเลือกทรงผมนะคะซิส

7. "จะเซ็ตผมทรงนี้ทุกวัน ต้องซื้อไอเทมอะไรเพิ่มบ้าง ราคารับไหวไหม"

สำหรับสาวๆ คนไหนที่อยากทำผมลอนยาวเหมือนไอดอลเกาหลี ต้องเข้าใจก่อนว่านั่นคือผมที่เซ็ตมาแล้ว แลกมากับค่าใช้จ่าย บำรุงรักษาที่มองไม่เห็นแต่มีอยู่จริง เช่น แชมพู ครีมนวด เซรั่มใส่ผม แกนม้วนผม สเปรย์ล็อคลอนผม ถ้าทำสีผมด้วยก็ต้องคอยเติมโคนถ้าเป็นสีแปลกๆ ที่กัดมาก็ต้องเสียเงินเข้าซาลอนอีก ไม่งั้นก็จะดูไม่สวย เสียบุคลิก อย่างผมทองทั้งหัว แต่มีผมดำขี้นแซมที่โคนก็หงุดหงิดแล้วงี้ ต้องถามตัวเองว่ารับค่าใช้จ่ายที่ตามมา ' หลังตัดผม ' ได้รึเปล่าแม้แต่ทรงผมสั้นธรรมดา ถ้าอยากให้สั้นอยู่เสมอก็ต้องหมั่นเล็ม ขยันตัดส่วนที่ยาวออกมา ซึ่งถ้ากลัวแหว่งหรือไม่มั่นใจในฝีมือตัวเองก็ต้องพึ่งช่าง เตรียมเงินตรงนี้ไว้หรือยัง?บางทรงผมไม่ได้จบแค่จ่ายครั้งเดียว แต่มี ' ค่าบำรุงรักษา ' ที่จะงอกออกมาเรื่อยๆ ถ้าเธอรับได้ก็ค่อยตัด จะได้ไม่มีปัญหาตามมาทีหลังค่ะ

-------------------------------------------------

เพราะการเปลี่ยนลุคใหม่ แม้จะไม่ใช่โอกาสครั้งเดียวในชีวิต แต่ก็กระทบกับชีวิตประจำวันเหมือนกัน ยิ่งใครที่อาชีพการงานเข้มงวดกับทรงผม ยิ่งต้องใส่ใจถามตัวเองกับ 7 คำถามก่อนตัดผมทรงใหม่เป็นพิเศษ จะได้ตัดออกมาพร้อมความมั่นใจ ไม่ต้องมานั่งเสียใจทีหลังว่า" ตอนนั้นฉันไม่น่าตัดผมทิ้งเลย ไม่กล้าส่องกระจกแล้ว TT "โดยเฉพาะทรงผมที่อยากตามเทรนด์นี่แหละ น่าเป็นห่วงที่สุด!

ขอย้ำอีกรอบว่าทรงศีรษะกับรูปหน้าของแต่ละคนไม่เหมือนกัน แม้ในรูปจะดูดีแค่ไหน เราตัดเองอาจไม่สวยก็ได้ ในทางกลับกัน ทรงที่เราไม่เคยแล พอตัดเองอาจสวยกว่าที่คิด ต้องลองปรึกษาช่างเยอะๆ หรือใช้โปรแกรมโฟโต้ช้อป หรือแอพแบบ Virtual Hairstyle ที่อัพรูปเราเข้ากับทรงผมที่เลือก ก็เป็นทางเลือกที่ดี ใช้เวลาตัดสินใจให้เยอะๆ น้า อยากให้สาวซิสทุกคนเจอทรงผมที่ใช่ ช่วยเสริมลุคให้สวยเป๊ะยิ่งขึ้นในแบบของตัวเองค่ะ ^ ^ วันนี้ก็ต้องขอตัวไปก่อน พบกันใหม่คราวหน้าค่ะ See You!

Cr. 14 Questions to Ask Yourself Before Getting a Haircut [lorealparisusa.com]https://www.lorealparisusa.com/beauty-magazine/hair-care/all-hair-types/questions-to-ask-before-getting-haircut.aspx