วิตามินซีตัวช่วยหน้าใส

วิตามินซี (Vitamin C) หรือ แอสคอร์บิก แอซิด (Ascorbic acid) เป็นวิตามินที่มีประสิทธิภาพดีมากในการดูแลผิวหน้า แต่มีความเสถียรหรือความคงตัวต่ำ และมีการเสื่อมสภาพอย่างรวดเร็วเมื่อได้รับการกระตุ้นจากแสง ออกซิเจน และน้ำ สารบำรุงผิวออกฤทธิ์ของวิตามินซีจะช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนที่จะช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระและคืนความกระชับให้ผิว ขจัดปัญหาหน้าหมองคล้ำ จัดการริ้วรอย จุดด่างดำ รอยสิวจางลง พร้อมผลัดเซลล์ผิว ลดสิวอุดตันด้วย ถ้าพบส่วนผสมของวิตามินซี หรือ แอสคอร์บิกแอซิดในสกินแคร์ใดก็หมายถึงสกินแคร์นั้นมีคุณสมบัติของการดูแลผิวหน้าใสแน่นอน

เลือกวิตามินซีในรูปแบบของเซรั่ม

หากเปรียบเทียบกันระหว่างผลิตภัณฑ์สกินแคร์ที่เป็นเนื้อครีมหรือเนื้อเซรั่ม วิตามินซีที่มาในรูปแบบของเซรั่มจะเข้มข้นและมีประสิทธิภาพสูงกว่า

รูปแบบของวิตามินซีที่ใช่ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันวิตามินซี ได้รับความนิยมในด้านความงามมาโดยตลอด จึงมีการคิดค้นรูปแบบของผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าที่มีส่วนผสมของวิตามินซีในหลายรูปแบบ โดยสามารถแบ่งรูปแบบของวิตามินซีออกได้เป็น 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ แบบครีม แบบเซรั่ม/ ซีรั่ม และ แบบผง ซึ่งแต่ละรูปแบบจะมีลักษณะการใช้งาน ข้อบ่งใช้ และประสิทธิภาพที่แตกต่างกัน

รูปแบบวิตามินซีเซรั่ม/ ซีรั่ม เป็นการผสมวิตามินซีทั้งรูปแบบแอสคอร์บิก แอซิด และอนุพันธ์ของวิตามินซีรูปแบบอื่นๆ ร่วมกับสารละลายหรือสารออกฤทธิ์อื่น อยู่ในรูปแบบของเหลวที่มีลักษณะไม่ข้นมาก ออกฤทธิ์ได้ในระดับดี และมีความเสถียรของผลิตภัณฑ์ค่อนข้างมาก จึงสามารถเก็บรักษาได้ในระยะยาวกว่า

เซรั่มวิตามินซี ควรบรรจุในขวดสีชา หรือสีทึบแสง

เมื่อเลือกซื้อเซรั่มวิตามินซีหรือสกินแคร์ที่มีส่วนผสมของวิตามินซี ควรเลือกแพ็คเกจจิ้งที่มีสีทึบหรือเป็นขวดแก้วสีชาเพื่อช่วยป้องกันการออกซิไดซ์จากแสงแดด นอกจากนี้ควรปิดขวดให้สนิทเมื่อใช้เสร็จช่วยรักษาความเสถียรของวิตามินซีไว้ให้ยาวนานขึ้น

ดูให้ดีค่า pH ของเซรั่มวิตามิน ซี

โดยปกติแล้ว การที่เซรั่มวิตามินซี จะสามารถซึมซาบลงสู่ผิวได้ดี ต้องมีค่าพีเอช (pH) ที่ค่อนข้างเป็นกรด (ราว 3.5) แต่ก็เป็นค่าพีเอชที่ก่อให้เกิดอาการระคายเคืองต่อผิวได้ โดยเฉพาะในผู้ที่ผิวบอบบางแพ้ง่าย อาจเกิดอาการ คัน แสบ แดง หรือเป็นผื่น จึงมีการคิดค้นอนุพันธ์ของวิตามินซี เพื่อเพิ่มความเสถียรและลดความเป็นกรด โดยมีค่า pH อยู่ที่ราว 4.5 - 5.5 ซึ่งจะอ่อนโยนต่อผิวแพ้ง่ายมากกว่า แต่ก็อาจจะให้ประสิทธิภาพน้อยกว่ากันเล็กน้อยเช่นกัน ท้ายที่สุด เมื่อชีวิตต้องเลือก เราควรเลือกรูปแบบของเซรั่มวิตามินซีที่มีค่า pH ที่เหมาะสมและเป็นมิตรกับผิวแพ้ง่าย ไม่ก่อให้เกิดอาการระคายเคืองจะดีที่สุด

ความเข้มข้นของเซรั่มวิตามินซี ที่ได้ผล

ความเข้มข้นของเซรั่มวิตามินซี มีผลต่อการออกฤทธิ์บนผิวของเรา จากการทดสอบพบว่าความเข้มข้นของเซรั่มวิตามิน ซี ที่ทำให้เห็นผลชัดเจนต่อผิวหนังของเรา อยู่ที่ราว 5% - 20% หากใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของวิตามินซีต่ำกว่า 5% คงยากที่จะคาดหวังในผลลัพธ์ แต่ในขณะเดียวกัน มากกว่าก็ไม่ได้หมายความว่าจะดีกว่า เพราะหากใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของวิตามิน ซี เข้มข้นมากว่า 20% อาจก่อให้เกิดอาการระคายเคืองต่อผิวได้ง่าย

ฉะนั้นการเลือกความเข้มข้นของเซรั่มวิตามินซีควรอยู่ในระดับที่ไม่เกิน 20% เพราะอาจทำให้อาการระคายเคืองผิวแพ้ง่ายแทนที่จะเกิดผลลัพธ์ที่ดีได้ และก่อนใช้ควรต้องทดสอบอาการแพ้ หรือระคายเคืองก่อนเสมอ เนื่องจากคุณสมบัติของวิตามินซีมีความเป็นกรดอ่อนๆ และทำงานได้ดีที่ค่าพีเอชต่ำ (pH) จึงอาจทำให้ผู้ใช้ผลิตภัณฑ์รู้สึกร้อน หรือคันยิบๆ ที่ผิวในช่วงแรกที่ใช้ซึ่งถือว่าเป็นอาการปกติ และจะหายไปได้เองเมื่อเวลาผ่านไป แต่หากเกิดอาการแสบร้อน ผื่นแดง หรืออาการอักเสบควรหยุดใช้ผลิตภัณฑ์ทันที และปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร ดังนั้นการเลือกประโยชน์จากวิตามินซีให้เหมาะกับผิวก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทุกคนจำเป็นต้องทราบก่อน

รูปภาพ:

ผลลัพธ์ของเซรั่มวิตามินซี

- เซรั่มวิตามินซีเข้มข้นมีประสิทธิภาพในการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ชะลอการเกิดริ้วรอย วิตามินซีจะออกฤทธิ์ในการช่วยเสริมสร้างเซลล์ผิวใหม่ เพื่อทดแทนเซลล์ผิวเก่าที่ตายหรือโดนทำร้าย ซึ่งกระบวนการสร้างเซลล์ผิวใหม่นี้ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยแห่งวัย รวมไปถึงช่วยให้ริ้วรอยแห่งวัยดูดีขึ้นในระดับหนึ่ง

- เซรั่มวิตามินซีช่วยให้หน้าใส ปรับให้ผิวขาวกระจ่างใส ขจัดรอยหมองคล้ำ วิตามินซี มีส่วนช่วยในการต้านการเกิดเม็ดสีหรือเมลานิน ซึ่งเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำ เกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ จากการสร้างเมลานินที่มากเกินไป

- เซรั่มวิตามินซีช่วยเร่งกระบวนการผลัดเซลล์ผิว จึงเห็นผลลัพธ์ได้ชัดในเรื่องผิวขาวใส และช่วยลดปัญหาสิวอุดตันอีกด้วย

- เซรั่มวิตามินซีช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ดี มีงานวิจัยหลายชิ้นที่ระบุว่า วิตามินซีช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิวได้ ซึ่งคอลลาเจนเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ผิวหน้าของเรามีความยืดหยุ่น นุ่มฟู ดูเป็นผิวที่มีสุขภาพดี เนื่องจากเมื่ออายุมากขึ้น การผลิตคอลลาเจนของร่างกายจะลดลง ดังนั้นการเติมสารที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ถือเป็นเป็นเรื่องที่ดี และเซรั่มวิตามิน ซี ก็เป็นตัวช่วยที่ยอดเยี่ยมทีเดียว

- เซรั่มวิตามินซีช่วยปกป้องผิวที่ถูกทำร้ายด้วยแสงยูวี วิตามินซีมีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระ จัดเป็นหนึ่งในสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงประสิทธิภาพ ด้วยคุณสมบัตินี้ทำให้วิตามิน ซี ช่วยปกป้องผิวจากการถูกทำร้ายด้วยแสงแดดได้