สวัสดีค่าา สาวๆSistaCafeเมคอัพเลิฟเวอร์ที่รักทุกคน (*♡∀♡)ถ้าผู้หญิงทุกคนมีผิวเนียนสวย ติดฟิลเตอร์คนผิวดีตั้งแต่ออกมาจากท้องแม่ รองพื้นกับคอนซีลเลอร์คงไม่ได้เกิด แต่เพราะชีวิตจริงยังมีสาวๆ ที่ยังกังวลกับปัญหาผิวร้อยแปด ทั้งผิวหมองคล้ำ มีจุดด่างดำ ฝ้ากระ สีผิวไม่สม่ำเสมอกัน รอยสิว หลุมสิว สิวอักเสบเม็ดเล็กๆ ที่ชอบผุดตามแก้ม ตามคางจึงทำให้ขาด 2 ไอเทมปรับงานผิวนี้ไปไม่ได้ เป็น must have ที่ต้องมีติดกระเป๋าเครื่องสำอาง ถ้าไม่ได้ใช้ ถือว่าลุควันนั้นไม่คอมพลีท ความมั่นใจหดลงกว่าครึ่ง กลัวคนข้างนอกจะทักผิว ไม่เซลฟ์เลยแง!แม้รองพื้นและคอนซีลเลอร์ จะเป็นดูโอ้ที่ช่วยปรับผิวให้เนียนสวย เหมือนใช้พู่กันค่อยๆ บรรจงแต้มให้ผิวสวยเหมือนกระเบื้องเคลือบก็จริง แต่ก็ต้องมีเทคนิคในการแต่งด้วย ไม่ใช่ทุกคนจะแต่งได้ผิวสวยเหมือนกันหมดเอาง่ายๆ เมคอัพอาร์ทติสกับคนธรรมดา ใช้เมคอัพยี่ห้อเดียวกันเป๊ะ ยังได้ลุคออกมาต่างกันเลย มันอยู่ที่ขั้นตอนการลงผิวนี่แหละที่คนทั่วไปอย่างเรามักพลาดทำโป๊ะโดยไม่รู้ตัว ทำให้ผิวออกมาไม่ปังปุริเย่เท่าที่ควรถ้าอยากรู้ว่าเผลอทำอะไรลงไปบ้าง ก็มาอ่านเช็คในบทความนี้กันได้เลยค่ะซิสขา จะได้ไม่เผลอทำอีกในครั้งหน้านะ จุ๊บๆ

1. ไม่รู้ว่าจะใช้คอนซีลเลอร์ หรือรองพื้น เป็น 'ขั้นตอนแรก'

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/1d063881b6e28014317a0e1ff8004828.jpg

สำหรับมือใหม่ที่เห็นว่า รองพื้นกับคอนซีลเลอร์ก็สีเหมือนกันไปหมด เนื้อก็คล้ายๆ กัน อาจมีความสับสนว่าเวลาจะลงงานผิว ควรใช้รองพื้นหรือคอนซีลเลอร์เป็นขั้นตอนแรก

ซึ่งเรื่องเล็กๆ ที่ไม่น่ามีผลกับการแต่งหน้านี่แหละ ทำให้ลุคในวันนั้นดูเด่นหรือดูดับไปเลย เพราะมันคือการเตรียมพื้นฐานของผิว แค่สลับขั้นตอนเมคอัพไอเทมก็ชีวิตเปลี่ยนได้ค่ะ

กฎแรกที่ควรจำไว้คือ

' ต้องลงรองพื้นเป็นอันดับแรกเสมอ ' แล้วจึงตามด้วยคอนซีลเลอร์

หรือจำหลักการว่า ผิวหน้าก็เหมือนผืนผ้าใบในวิชาศิลปะ ก่อนที่เราจะเริ่มวาดหรือครีเอทลายอะไรลงไป เราต้อง

' ปรับพื้นให้เรียบเนียนเสมอกันทั้งหมด ' ด้วยการเทรองพื้นลงไป

ซะก่อน จุดบกพร่องเล็กๆ ก็จะถูกกลบหายไป หากยังมีจุดที่ยังเห็นชัด

จึง ' เก็บงาน ' ด้วยคอนซีลเลอร์อีกที

ค่ะ

2. ไม่เตรียมผิวด้วย 'ครีมบำรุงผิวและไพรเมอร์' ก่อนแต่งหน้า

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/ce1b5eecabc1212c1ca112664d41adf9.jpg

นอกจากรองพื้นและคอนซีลเลอร์แล้ว หนึ่งในไอเทมที่ไม่ควรมองข้ามก็คือ ' ไพรเมอร์ ' ที่ช่วยเตรียมผิวให้เรียบเนียนสม่ำเสมอ ช่วยให้เครื่องสำอางเกาะติดผิวหน้าได้ทนนานตลอดทั้งวัน ซึ่งควรลงเป็นขั้นตอนที่ 0 คือก่อนรองพื้นเสียอีก

หากใบหน้าคือผ้าใบ รองพื้นคือการปรับพื้นฐาน ไพรเมอร์ก็คือการปรับจากข้างใต้รองพื้นลงไปอีก เพื่อให้ผิวมีความชุ่มชื้น หลังแต่งหน้าเสร็จก็จะดูมีออร่ามากกว่าคนที่ไม่ได้ลงไพรเมอร์ก่อนด้วยค่ะ

หากย้อนกลับไปก่อนไพรเมอร์อีก ก็จะมาถึงขั้นตอนการดูแลผิว ( Skincare Routine ) อย่างการทำความสะอาดผิวหน้าวันละ 2 ครั้งเช้า-เย็น สครับหน้าเพื่อผลัดเซลล์ผิวเก่าสัปดาห์ละครั้ง และลงครีมบำรุง เติมสารอาหารให้ผิวหน้าทั้งเช้าและเย็น ซึ่งขั้นตอนเหล่านี้คือขั้นตอน ' หลังบ้าน ' ที่สาวๆ ทุกคนควรทำเป็นปกติอยู่แล้ว

ทุกผลลัพธ์ล้วนมีสาเหตุเสมอ ถ้าแต่งหน้าไม่สวยเท่าที่ควร ลองย้อนกลับไปดูขั้นตอนทั้งหมดที่ร่ายมา แล้วดูว่าอันไหนที่เธอลืมทำไปบ้าง นั่นอาจเป็นเหตุที่ทำให้ผิวไม่มีออร่าหรือสุขภาพดีเท่าคนอื่นก็เป็นได้

3. ใช้ 'คอนซีลเลอร์สี' ปิดใต้ตาผิดเฉด ยิ่งดูแพนด้ากว่าเดิม

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/e1dfd46004de935b519650822105aa54.jpg

อันนี้คือความพังมากอย่างไม่น่าให้อภัย ของมือใหม่หัดใช้คอนซีลเลอร์! หากสาวๆ มีรอยคล้ำใต้ตาจากพันธุกรรมหรือนอนดึก และต้องการปกปิดในลุคแต่งหน้า กฎที่ควรจำไว้ให้ขึ้นใจคือ

' ห้ามใช้คอนซีลเลอร์สีที่เข้มเท่า หรือเข้มกว่าสีผิวของตัวเองเด็ดขาด '


เพราะรอยคล้ำคือสีเทา เมื่อใช้สีที่เข้มไปทับ ก็เหมือนการไฮไลท์ให้ผิวส่วนนั้นดูดำหมองกว่าเดิม คราวนี้ทุกคนรู้เลยว่ามีแพนด้า TT

ควรใช้คอนซีลเลอร์สีแนวโทนพีชสีอ่อนกว่าผิวจริง 1 เฉด เพื่อตัดกับสีคล้ำใต้ตาและถุงใต้ตา และหากจุดบกพร่องของเธอไม่ได้มีแค่ใต้ตา ก็จงรู้ไว้ว่าคอนซีลเลอร์มีหลายสี แต่ละสีแก้ปัญหาต่างกัน ลองนำไปปรับใช้ตามปัญหาผิวที่มีได้เลย

เช่น

สีเหลือง ใช้แก้สีผิวไม่สม่ำเสมอ

,

สีเขียว ลดรอยแดงจากสิว

และ

สีม่วง ช่วยเพิ่มความกระจ่างใสให้ผิวหมองคล้ำ

แนะนำให้ซื้อเป็นแบบพาเลทรวมสีเลยก็ยิ่งใช้สะดวกขึ้นค่ะ

4. ทาคอนซีลเลอร์ 'หนา' เกินไป

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/fc067d48e87bd57b64d72d23dd147ef2.jpg

อาจจะดูไม่ใช่ปัญหาขนาดนั้น แต่ถ้าอยากมีผิวสวยๆ เหมือนตื่นมาก็ผิวดีเลย คือมีสภาพผิวที่ใสแบบไม่หนาโบ๊ะเหมือนโบกปูน การลงคอนซีลเลอร์ปิดปัญหาผิวก็ต้องลงอย่างเบามือ ไม่ใช่เห็นจุด เห็นรอยอะไรก็พอกเข้าไป แค่คนอื่นไม่เห็นก็พอ

เธอต้องอย่าลืมว่าจะต้องตบแป้งอีก ถ้าแต่งไว้หนา แป้งก็ต้องทาให้หนาขึ้น คราวนี้ก็รับบทนางหน้าแข็งทื่อ เป็นตุ๊กตายางไปอี๊ก ถ้าชอบแนวนั้นก็ไม่ว่ากัน แต่ถ้าอยากได้ลุคใสๆ ก็อย่าหาทำ!

วิธีใช้คอนซีลเลอร์ง่ายๆ คือลงทีละนิด แต้มครั้งละจุดบางๆ พอปิดรอยที่กังวล แล้วใช้นิ้ว หรือฟองน้ำแต่งหน้าแท็ปๆ เกลี่ยๆ ให้เนียนไปกับผิวหน้า หากยังเห็นชัดเจนอยู่ก็ค่อยลงอีกรอบ เหมือนเวลาระบายสีน้ำที่ต้องลงทีละเลเยอร์


การแต่งหน้าก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่ ถ้าลงหนักทีแรกมันจะแก้ยาก อาจต้องลบแล้วลงใหม่เลยซึ่งจะเสียเวลา ดังนั้นใจเย็นๆ ค่อยๆ เกลี่ยทีละชั้นจะปลอดภัยกว่าค่ะ

5. ไม่ได้ใช้รองพื้น 'สูตรกันน้ำ กันเหงื่อ' (waterproof)

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/d67b34ed4f3366e05cedd9b682e75404.jpg

อย่างที่เห็นว่าอากาศประเทศไทยร้อนมากถึงมากที่สุด ออกไปนอกบ้านตอนเช้าแป๊บเดียว แดดมาก็เหงื่อชุ่มแล้ว ไหนจะน้ำมัน คราบสิ่งสกปรก บางทีใช้ชีวิตประจำวันก็อาจมีเหตุการณ์ไม่คาดฝัน

เช่น ล้างมือแล้วน้ำแรงเกินจนกระเด็นใส่หน้า อยู่กลางแจ้งทั้งวันจนเหงื่ออาบ, ไปทริปแอดเวนเจอร์กับเพื่อนๆ ว่ายน้ำ ดำน้ำ ห่วงแค่ตาต้องปัง อายไลเนอร์กับมาสคาร่ากันน้ำขั้นสุด แต่ว่ายน้ำไปๆ มาๆ เหลือแต่ตา ผิวหลุดหมด อายเพื่อนมากเวอร์ Y^Y

หากแต่งแป๊บๆ ออกงานไม่กี่ชั่วโมงก็พอว่า แต่ถ้าอยากได้แต่งเช้า แล้วหน้ายังเป๊ะยันเย็น ยังไงก็ต้องใช้รองพื้นและคอนซีลเลอร์สูตรกันน้ำ ' เท่านั้น ' เพราะกันน้ำที่ว่าคือกันของเหลวทุกชนิดที่อาจมาเกาะผิว ทั้งเหงื่อ น้ำมันต่างๆ ซึ่งแม้จะไม่ลงน้ำมันก็จะเกิดขึ้นเองระหว่างวันอยู่แล้ว

แต่ทั้งนี้ รองพื้นกันน้ำส่วนใหญ่จะเนื้อค่อนข้างเข้มข้น ก่อนเข้านอนต้องทำความสะอาดผิวหน้าอย่างหมดจด ใช้คลีนซิ่งไมเซลลาร์ ล้างหน้าสองรอบ เช็ดด้วยโทนเนอร์เพื่อไม่ให้เหลือสิ่งตกค้างบนใบหน้าค่ะ

6. ใช้แปรงทารองพื้นผิดประเภท ลากไปมา จนหน้าเป็นเส้นๆ

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/f3e384480868b0a48ef55d7d5b11813c.jpg

การเกลี่ยรองพื้นและคอนซีลเลอร์ให้เรียบเนียน ถือเป็นหัวใจหลักของการแต่งหน้าเลยก็ว่าได้ ซื้อเครื่องสำอางมาแสนแพงแค่ไหน ถ้าลงไม่ถูกวิธีหน้าก็ไม่สวยขึ้นมาได้ ดังนั้นการใช้ควบคู่กับอุปกรณ์ที่เหมาะกับผิวจึงสำคัญมากๆ


อันที่จริงถ้าต้องเลือกระหว่างรองพื้นแพงแต่ลงผิวไม่เป็น กับรองพื้นกลางๆ แต่ฝีมือลงผิวดี อย่างหลังจะทำให้ลุคแต่งหน้าดูสวยเป๊ะมีออร่ามากกว่าด้วยซ้ำไป

สิ่งนึงที่ห้ามทำเด็ดขาดก็คือ อย่าใช้ ' แปรงแต่งหน้าพุ่ม ' หรือแปรงแต่งหน้าแบบขนๆ ลงรองพื้น ถ้าอยากได้ผิวสวยใสเป็นธรรมชาติ ยิ่งมือใหม่ยิ่งไม่ควร เพราะเสี่ยงจะหน้าเป็นเส้นๆ ริ้วๆ คราบๆ เหมือนลูกหมาตกน้ำ

แนะนำให้ใช้ฟองน้ำแต่งหน้าช่วยแท็ปรองพื้นให้กลมกลืนกับผิวหน้าจะดีกว่า หรือถ้าไม่มีอุปกรณ์อะไรจริงๆ ใช้นิ้วก็ยังดี แต่อย่าใช้แปรง ถือว่าขอ!!

7. ใช้รองพื้นไม่ตรงกับสภาพผิว / เฉดสีผิว

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/2d905f82cf2c5dc92f79e680c12206f2.jpg

ก่อนจะมีรองพื้นหรือคอนซีลเลอร์ในกรุ การเลือกเนื้อ หรือประเภทของรองพื้นให้เข้ากับสภาพผิว และเฉดสีผิวก็เป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้กัน!ถ้าเธอผิวมันแต่ดันซื้อครีมรองพื้นเนื้อเข้มข้นมา นอกจากจะได้ลุคหนาหนักไม่ธรรมชาติแล้ว ก็เสี่ยงจะอุดตันรูขุมขน เป็นสิวในภายหลังได้อีก จึงควรวิเคราะห์ว่าตัวเองผิวแบบไหนก่อนจะซื้อดูโอ้ไอเทมสองชิ้นนี้นะคะหากเป็นคนผิวแห้ง ไม่มีปัญหากับเนื้อที่ค่อนข้างหนัก ก็สามารถใช้ได้ทั้งเนื้อลิควิดและเนื้อครีม เลือกสูตรที่มีชิมเมอร์ให้ผิวโกลว์ด้วยยิ่งดี สร้างสภาพผิวให้ดูชุ่มชื้นขึ้นในทางกลับกัน ถ้าเป็นคนผิวผสมหรือผิวมัน ใช้รองพื้นที่มีเนื้อกึ่งแมตต์ หรือเนื้อแมตต์ไปเลยจะดีกว่า ไม่เพิ่มความมันให้กับผิว และใช้กฎเดียวกันนี้กับการเลือกซื้อคอนซีลเลอร์ด้วยเช่นกันค่ะในส่วนของการเลือกให้ตรงเฉดสีผิว มีทริคง่ายๆ ว่ารองพื้น > ให้เทสสีรองพื้นตรงสันกราม สีไหนกลมกลืนจนดูไม่ออกว่าป้ายลงไปแล้ว นั่นแหละรองพื้น หรือคอนซีลเลอร์ที่สีตรงกับผิวของเธอส่วนคอนซีลเลอร์ > เลือกที่สีเข้มกว่าผิวจริง 1 เฉด ไม่เอาสีอ่อนหรือสีตรงผิวเป๊ะ เพื่อไม่ให้เป็นการไฮไลท์รอยสิว จุดด่างดำต่างๆ ให้ชัดขึ้นกว่าเดิม

8. ไม่เซ็ตผิวด้วย 'แป้งฝุ่นโปร่งแสง' ในขั้นตอนสุดท้าย

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/c0926335e3603114dcf98431d3e25598.jpg

สาวๆ ทั้งมือใหม่และมือเก่า ตกม้าตายที่ข้อนี้กันเยอะมาก! ทั้งที่สภาพอากาศเมืองไทยร้อนพร้อมเยิ้มละลายแท้ๆ แต่หลายคนก็ละเลยหรือหลงลืมการเซ็ตเมคอัพทั้งหมดให้ติดทนนาน ผิวนวลเนียนเป็นธรรมชาติด้วย ' แป้งฝุ่นโปร่งแสง '


ไม่ว่าจะผิวมันหรือผิวแห้ง ก็ควรทาเพื่อล็อคสิ่งที่แต่งไว้ให้ไม่หลุดลอกระหว่างวันค่ะ ถ้าลงรองพื้นแล้วจบเลย เจอฝุ่นเจอเหงื่อระหว่างวัน มีสิทธิ์ที่ผิวจะเริ่มหลุดลอกบางส่วน เช่น จมูกกับหน้าผากรองพื้นหลุดจนเห็นรอยแดง หลุมสิว แต่แก้มกับคางยังโอเคอยู่ แต่มองรวมๆ ก็คือไม่โอเคอยู่ดี TT

หากอยากได้ลุคธรรมชาติสุดๆ ควรใช้แป้งฝุ่นโปร่งแสงหรือแป้งฝุ่นสีเนื้อ แต่ถ้าอยากได้ลุคที่เป๊ะขึ้นมาอีกหน่อย แต่ยังเบาสบายผิวอยู่ แนะนำให้ใช้แปรงปัดแป้งฝุ่น วนๆ ที่ตลับแป้งผสมรองพื้น แล้วนำมาแท็ปเบาๆ บนหน้า จะได้ผลลัพธ์เป็นผิวที่เนียนมากยิ่งขึ้นหลังจากนั้นก็ใช้ setting spray หรือสเปรย์ล็อคเมคอัพอีกรอบ โดยเขย่ากระป๋อง ถือห่างจากหน้า 30 เซนติเมตร แล้วฉีดเป็นรูปตัว X และ T เพื่อครอบคลุมทั้งช่วงแก้มกับคาง และช่วงทีโซน ระวังละอองเข้าตา! เท่านี้ก็พร้อมออกไปใช้ชีวิตด้วยหน้าปังๆ แบบไม่มีอะไรมากั้นแล้วค่าσ(≧ε≦σ) ♡

--------------------------

พูดเลยว่า สำหรับมือใหม่หัดแต่งหน้า ( หรือแม้แต่คนแต่งหน้ามานานแล้วก็เถอะ ) ขั้นตอนการลงผิวคือยากสุดเสมอ! กลบให้เนียนๆ ไปน่ะง่าย แต่จะทำให้ผิวดูกระจ่างใส ผิวดีเองตามธรรมชาติแต่ซ่อนจุดบกพร่องไว้ ต้องใช้เวลาฝึกฝนเยอะมาก รวมถึงไม่เผลอทำความโป๊ะ 8 ข้อนี้อีกด้วย เพราะถึงฝีมือดีแค่ไหน ก็อาจทำให้ลุคในวันนั้นดูดรอปได้ ที่ต้องมีอาชีพเมคอัพอาร์ทิสต์ ต้องจ้างช่างในวันสำคัญๆ ก็เพราะแบบนี้นี่แหละค่ะ

แต่เราเชื่อว่าถ้าสาวๆ สละเวลาฝึกแต่งหน้าทุกวัน ค่อยๆ เรียนรู้การชูจุดเด่น ซ่อนจุดด้อยบนผิว เธอก็จะเสกผิวสวยแบบ #makeupnomakeup ได้แน่ๆ ก็เหมือนงานศิลปะ ที่อาจไม่ได้แต่งสวยปุบปับได้ในครั้งเดียว แต่ต้องใช้เวลากับมัน มีอาวุธอย่างรองพื้นและคอนซีลเลอร์แล้ว ก็ต้องใช้ให้เป็นด้วย เพื่อผิวหน้าสวยเป๊ะของเราเองเนอะ วันนี้ก็มาบอกต่อทริคเท่านี้ ต้องขอตัวลาไปก่อนละน้า บ๊ายบายค่า

(*¯ ³¯*)♡