#ผิวดีต่อไม่รอแล้วน้า! 7 'ปณิธานความสวย' ดูแลบำรุงผิวให้สวยปิ๊งจากภายใน ต้อนรับปีใหม่ 2021 (◍•ڡ•◍)❤
จะเริ่มตั้งแต่ตอนนี้ หรือรอช่วงปีใหม่ ผิวใหม่ 2021 ก็ได้ทั้งนั้น ใครทำก่อน ก็ผิวสวยก่อน ถ้าทำได้ ก็เตรียมผิวสวยตลอดปีไปเลย
เผยแพร่: 22 ธ.ค. 2563 14:00 น.
Views: 7,360
รหัสบทความ: 80848
ฮัลโหลค่าา สาวๆSistaCafeทีม #จะสวยข้ามปี ทั้งหลายอีกไม่กี่วันก็ใกล้จะสิ้นปี 2020 กันแล้วเนอะ ก็หวังว่าเหตุการณ์ร้ายๆ ที่น่าเศร้าตลอดปีนี้จะจบลง จากที่บอบช้ำกันมานาน ไปเริ่มต้นใหม่อย่างสดใสในปีใหม่ 2021 กันเสียที TT ซึ่งก่อนจะโบกมือลาปีเก่า ตามธรรมเนียมของสาวๆ หลายคนก็ต้องมี' New Year's Resolution 'หรือปณิธานในปีใหม่ที่เราตั้งใจจะทำให้ได้ เพื่อเป็นตัวเองในเวอร์ชั่นที่ดีขึ้น เติบโตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นนั่นเองเช่น จะลดน้ำหนัก, เทอมหน้าจะสอบให้ได้เกรด A ทุกวิชา, ไปเที่ยวประเทศที่ไม่เคยไป, มีเงินในบัญชีครบ xx บาท, ออกกำลังกายให้ได้ทุกวันเพื่อสุขภาพที่ดี เป็นต้นส่วนสายบิวตี้อย่างเรา เป้าหมายรวมที่เรามีรวมกันก็คงหนีไม่พ้น ' ความสวย ' ซึ่งอยู่ดีๆ ผิวสวยหน้าใสก็คงไม่สามารถเสกปิ๊งได้ใน 1 นาที แต่ต้องใช้เวลาบ่มเพาะ ฟื้นฟู บำรุงกว่าออร่าผิวจะค่อยๆ เปล่งประกาย และทุกอย่างต้องมีวิธีดูแลอย่างเป็นขั้นตอน การเลือกใช้สกินแคร์ การทำความสะอาด ล้วนส่งผลให้ผิวสวยจากภายในด้วยกันทั้งสิ้น!ถ้ายังไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนดี ก็มาอ่าน' 7 ปณิธานความสวย ดูแลผิวต้อนรับปี 2021 'ทำตามนี้ รับรองปีหน้าผิวจะดีขึ้นจนอาจไม่ต้องพึ่งหมอสิวแล้วก็ได้น้า~ ไปดูกันเลยดีกว่ามีอะไรบ้าง
1. ทิ้งสกินแคร์ / เมคอัพที่ 'ถึงวันหมดอายุ' ได้แล้ว อย่าไปเสียดาย!
สาวๆ หลายคนถือโอกาสช่วงสิ้นปีโละของเก่าๆ ที่ค้างฝุ่นจับไว้ในบ้านทิ้งไป เพื่อเคลียร์พื้นที่ต้อนรับของใหม่ บางทีอาจถึงเวลาอันสมควรแล้ว ที่ต้องเลือกว่าสกินแคร์กับเมคอัพกองพะเนินในกรุของเธอ ใครจะอยู่ ใครจะไป!
ครีมขวดไหนหมดอายุจนเนื้อครีมแยกชั้น มาสคาร่าที่แห้งกรัง ลิปสติกที่กลิ่นเหม็นหืน ของเหล่านี้แม้จะซื้อมาในราคาแพงแค่ไหนก็ไม่ต้องเสียดาย ทิ้งไปเลย ฝืนใช้แล้วปากเป็นเริมหรือผิวหน้าแพ้จนติดเชื้อ ต้องไปหาหมอ ไม่คุ้มกันเลยสักนิด!
จำไว้เสมอว่า สุขภาพผิวของเราสำคัญที่สุด! ถ้าต้องเลือกระหว่างไอเทมราคากลางๆ แต่ยังใช้ได้ดี กับไอเทมเคาน์เตอร์แบรนด์ที่ใกล้จะหมดอายุ ยังไงประสิทธิภาพของอันแรกย่อมดีกว่าอยู่แล้ว
หาวันว่างสักวันมาคัดแยกของ แบ่งเป็นสองกอง ดูฉลากวันหมดอายุ กองไหนยังใช้ได้ เก็บ กองไหนหมดอายุแล้ว ย้ายลงถุงดำโลด ( หรือจะนำไปบริจาคแต่งหน้าศพ, ทำงานศิลปะใดๆ ก็แล้วแต่ ) แนะนำว่าให้เหลือไว้แค่ไอเทมที่ยังมีอายุใช้งานไม่ต่ำกว่า 3 เดือน หรือดีสุดคือ 6 เดือนขึ้นไป เพราะถ้าต่ำกว่านั้นจะเริ่มเสื่อมสภาพแล้วค่ะ
2. ให้ความสำคัญกับ 'ครีมกันแดด' เป็นอันดับแรก ต้องทาทุกวัน!
จะเป็นคนแต่งหน้าอยู่แล้ว หรือไม่ชอบแต่งหน้าก็ตาม ทุกคนต้องใช้ ' ครีมกันแดด ' ก่อนออกจากบ้านทุกครั้ง! เพราะครีมกันแดดถือเป็นสกินแคร์ที่สำคัญอันดับต้นๆ ถ้าไม่ค่อยมีเงินและไม่รู้จะซื้ออะไรเข้ากรุ ให้เลือกครีมกันแดดก่อน เนื่องจากเราต้องเจอรังสียูวีจากแสงอาทิตย์ทุกวัน ไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้
ซึ่งรังสีเหล่านี้แหละจะทำลายคอลลาเจนใต้ผิวของเราไปเรื่อยๆ ทำให้ผิวหมอง คล้ำเสีย เกิดริ้วรอย มีฝ้ากระ จุดด่างดำ ถ้าเจอรังสีเข้มข้นมากๆ ก็อาจผิวไหม้เป็นแผลเลยด้วยซ้ำ ดังนั้นจึงต้องตัดไฟแต่ต้นลมด้วยการ ' กันแดด ' แม้ในวันที่แดดร่มลมตก มืดครึ้ม มีแต่เมฆปกคลุมเต็มฟ้าก็ต้องทา เพราะยูวีก็ลอดผ่านเมฆลงมาได้อยู่ดี!
ในประเทศร้อนชื้นแบบบ้านเรา ที่ฤดูร้อนแทบจะครองพื้นที่ตลอดปี รังสียูวีก็รุนแรงสุดๆ เราแนะนำให้ใช้ครีมกันแดดเริ่มต้นที่ SPF50+ PA+++ ขึ้นไป เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวมีอันตรายจากแสงแดด และควรทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมง โดยเฉพาะเมื่อทำกิจกรรมกลางแจ้งจนเหงื่อออก หากกลัวเหนียวตัวระหว่างวันก็ใช้แบบสเปรย์ได้
ทั้งนี้ หากสาวๆ เป็นคนผิวแพ้ง่าย ก็ควรใช้ครีมกันแดดแบบ Physical Sunscreen ที่ใช้การสะท้อนแสงออกจากผิว ไม่ดูดซึมแสงเข้าจนเกิดปัญหาผิวได้ในภายหลังค่ะ รวมถึงเลี่ยงเวลาแดดจัด ( 10 โมงเช้า - บ่าย 2 ) และใส่เสื้อผ้าแขนขายาวปกคลุม ใส่แว่นกันแดดและหมวก ก็ช่วยป้องกันแดดได้ในระดับดีเยี่ยมแล้วล่ะค่ะ
3. เหงื่อออกเมื่อไหร่ ให้ 'ทำความสะอาดผิว' เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้!
ไม่ว่าเธอจะเป็นคนทำกิจกรรมกลางแจ้งบ่อย เล่นกีฬา หรือเข้ายิม ฟิตเนสทุกวันก็ตาม หากร่างกายมีเหงื่อออกชุ่มโดยเฉพาะใบหน้า ควรหาเวลาล้างทำความสะอาดใบหน้าให้สะอาดโดยทันที
คนปกติควรล้าง 2 รอบเช้า-เย็น แต่คนที่มีกิจกรรมค่อนข้างโลดโผน แอดเวนเจอร์ ก็อาจต้องล้างบ่อยกว่านั้น ถ้าสถานที่ตรงนั้นไม่มีอ่างล้างมือ ไม่สะดวกล้างหน้าเป็นกิจจลักษณะ ทางลัดที่ง่ายที่สุดคือใช้คลีนซิ่ง ' ไมเซลลาร์วอเตอร์ ' ชุบสำลีแล้วเช็ดผิวหน้าให้สะอาด
เนื่องจากไมเซลลาร์วอเตอร์จะมีโมเลกุลเล็กๆ ช่วยดูดจับน้ำมันและสิ่งสกปรกออกมาได้อย่างรวดเร็ว ล้ำลึกเหมือนแม่เหล็ก โดยไม่จำเป็นต้องใช้คู่กับหน้าที่มีเมคอัพเสมอไป หน้าสดที่เหงื่อออกเยอะก็ใช้ได้เหมือนกัน โดยไม่จำเป็นต้องใช้น้ำเปล่าล้างหน้าซ้ำอีกรอบ
และยังมีข้อดีคือทำให้ผิวหน้าชุ่มชื้น บำรุงให้ผิวเนียนนุ่มอีกด้วย เลือกสูตรที่เหมาะกับสภาพผิวแบบขวดพกพา กับสำลีกล่องเล็กพกใส่กระเป๋าติดตัวไว้ รู้สึกหน้ามันๆ สกปรกๆ ก็หยิบขึ้นมาเช็ด ถูกสุขอนามัยด้วยเพราะใช้แล้วทิ้ง ไม่ต้องนำมาซักแล้วใช้ซ้ำ บอกเลยว่าเริ่ด!
4. สครับผลัดเซลล์ผิวบ้าง แต่อย่าบ่อยเกินไปจนแสบผิว!
ผิวจะสวยเปล่งประกายจากภายในได้ ไม่ใช่แค่การทำความสะอาดหรือบำรุงอย่างเดียว แต่ต้อง ' ผลัดของเก่าออก ' ด้วย โดยใช้สครับที่มีเม็ดบีตส์เล็กๆ เพื่อขจัดเซลล์ผิวเก่าที่ร่างกายผลัดออกไม่หมด ยังตกค้างเป็นขี้ไคลหรือเศษที่ทำให้หน้าหมองบนผิว
หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่เคยใช้สครับเลย บางครั้งขี้ไคลเหล่านี้จะไปรวมกับน้ำมันและแบคทีเรียบนผิว ทำให้เกิดสิวอักเสบขึ้นได้ด้วยล่ะค่ะ!
แต่ทั้งนี้ อะไรที่มากเกินไปก็ไม่ดี ถ้าใช้สครับขัดถูหน้าทุกวัน ก็เกรงว่าผิวจะพังซะก่อนหน้าจะมีออร่า -_- สำหรับคนผิวปกติทั่วไป ความถี่ที่เหมาะสมคือใช้แค่สัปดาห์ละครั้ง ถึงสองครั้งก็พอ ถ้าไม่เคยใช้สครับมาก่อน ลองใช้ครั้งแรกแล้วสังเกตว่าผิวหน้ามีปฏิกิริยาอย่างไร
ถ้าแสบหน้า แปลว่าสูตรที่ใช้เม็ดบีตส์ใหญ่ไปหรือส่วนผสมแรงไป, ถ้าหน้ายังไม่ใสเท่าที่ควร สูตรนี้อาจเอาไม่อยู่ ต้องใช้แบบที่ทำความสะอาดได้ดีขึ้น, ถ้าแพ้เป็นผื่นแดง ก็ต้องเปลี่ยนสูตรใหม่หรือทบทวนว่าเราถูหน้าแรงเกินไปรึเปล่า เป็นต้น ปรับไปเรื่อยๆ เธอก็จะได้วิธีใช้สครับที่เหมาะกับผิวหน้าของตัวเองค่ะ
**ไม่ใช่แค่ผิวหน้าเท่านั้น แต่เธอควรมี ' บอดี้สครับ ' ติดห้องน้ำไว้ เพื่อผลัดเซลล์ผิวเก่าบริเวณที่แห้งลอกง่ายเป็นแผ่นๆ เช่น หัวเข่า ข้อศอก ข้อเท้า โดยใช้ที่ความถี่เท่ากัน คือสัปดาห์ละ 1-2 ครั้งนะคะ
5. อาบน้ำ ล้างหน้า เลือกเป็น 'น้ำอุณหภูมิปกติ/ เย็น' ดีกว่าน้ำอุ่น
สาวไทยหลายคนติดอาบน้ำด้วย ' น้ำอุ่น ' เอาซะมากๆ กับเหตุผลเรื่องความสบายตัว ช่วยรีแล็กซ์ผิว ผ่อนคลายความเครียดจากการเรียนหรือทำงาน แต่น้ำอุ่นก็ถือเป็นดาบสองคม เพราะข้อเสียก็ค่อนข้างรุนแรง
ถ้าใช้ต่อเนื่องเป็นเวลานาน ผลลัพธ์ที่ตามมาคือผิวแห้งลอก แดงง่าย ถ้าผิวแพ้ง่ายและใช้น้ำอุ่นจนร้อน ก็จะแห้งลอกเป็นขุย แตกเป็นแผลเลือดซิบเล็กๆ บนร่างกายบริเวณที่เซนซิทีฟได้ด้วย เช่น หน้าอก เต้านม ผิวหน้า จุดซ่อนเร้น ขาหนีบ เป็นต้น
ดังนั้นถ้าอยากเซฟผิวให้นุ่มเนียนอย่างยาวนาน ก็ควรเลือกอาบด้วยน้ำอุณหภูมิห้องหรือน้ำเย็นไปเลยจะดีกว่า แม้เธอจะมีผิวแข็งแรงไม่ลอกง่าย แต่น้ำร้อนก็เหมือนมีดที่ลอกเอาชั้นฟิล์มเคลือบผิวให้ชุ่มชื้นตามธรรมชาติออก ทำให้ผิวแห้งกร้านขึ้น พร้อมติดเชื้อได้ง่ายขึ้น
แต่หากวันไหนต้องการน้ำอุ่นเยียวยาจิตใจจริงๆ ก็ขอให้เปิดน้ำอุ่นผสมน้ำเย็น หรือที่ฝรั่งเรียกว่า lukewarm water แบบที่เราสาดใส่ตัวแล้วไม่สะดุ้งเพราะร้อน ก็ถือว่าใช้ได้แล้วค่ะ ^^
6. เช็ดเมคอัพตกค้างบนผิวหน้า ก่อนเข้านอนทุกครั้ง
จะบำรุงผิวให้เต็มที่ ก็ต้องเริ่มจากรากฐานที่ดี หรือผิวหน้าที่สะอาดหมดจดเสียก่อน! แม้จะเหนื่อยจากการเดินทางจนอยากคลานไปนอนที่เตียงมากแค่ไหนก็ตาม ก่อนนอนก็ต้องลากตัวเองไปเช็ดหน้าเอาคราบสกปรก เมคอัพที่ตกค้างออกทุกครั้ง
อย่านอนหลับโดยปล่อยให้เครื่องสำอางเต็มหน้าตลอด 8 ชั่วโมงเป็นอันขาด ตื่นมาสิวยิ้มทัก เบ่งบานเต็มหน้าแน่นอน ไม่ต้องสืบ เผลอๆ ตาจะติดเชื้อด้วย เพราะผงมาสคาร่าแห้งเป็นเกล็ดๆ ร่วงเข้าดวงตา อย่าหาทำ!
ทางแก้ก็ง่ายสุดๆ แค่ใช้คลีนซิ่งสูตรที่ไม่ต้องล้างออกแบบไหนก็ได้ เช็ดให้ทั่วผิวหน้าก่อนนอน แต่แนะนำเป็นสูตรไมเซลลาร์ เพราะดูดจับสิ่งสกปรกและน้ำมันได้ค่อนข้างล้ำลึกกว่า รวมถึงเอามาสคาร่ากันน้ำและลิปแมตต์ออกด้วยได้ในปาดเดียว
ขั้นตอนสุดท้ายอย่าลืมทาครีมบำรุงผิวสูตร water-based เนื้อเจลใสๆ อีกสักเล็กน้อย เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหน้าตลอดชั่วเวลาหลับนะคะซิส
7. บำรุงดวงตา ผิวหน้า และริมฝีปากให้ชุ่มชื้นเป็นพิเศษ
ข้อสุดท้าย ขอแนะนำการบำรุงผิวแบบเจาะลึกขึ้นสักเล็กน้อย เพื่อผิวที่สวยใสเนียนละเอียดมากยิ่งขึ้น! เริ่มจากผิวหน้าโดยรวม ไอเทมที่ใช้บำรุงได้ล้ำลึกและเหมาะกับทุกสภาพผิวแม้มีผิวมันก็คือ ' เซรั่ม '
ที่ใส่สารสกัดเข้มข้น ช่วยฟื้นฟูผิวแห้งกร้านให้นุ่มละมุน ลดริ้วรอย ลดความหมองคล้ำ โดยทาเป็นพื้นฐานไว้ก่อนใช้มอยส์เจอไรเซอร์เนื้อครีมที่เข้มข้นขึ้น เลือกสูตรที่ใส่ hyaluronic acid ที่อุ้มน้ำได้ถึง 1000 เท่า ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น อิ่มน้ำเป็นพิเศษค่ะ
อวัยวะต่อมาที่ไม่ควรละเลยอย่างยิ่งก็คือ ' ดวงตา ' โดยเฉพาะใต้ตาที่ผิวหนังค่อนข้างบาง จึงเกิดริ้วรอยได้ง่าย หากไม่บำรุงดีๆ จะดูมีอายุก่อนวัยได้ง่ายมาก จึงควรใช้อายครีมบำรุงอยู่เสมอ ควบคู่กับการดื่มน้ำบ่อยๆ ให้ผิวชุ่มชื้น
ส่วนสุดท้ายคือ ' ริมฝีปาก ' ที่มักดึงดูดสายตาคนภายนอกตั้งแต่แรกพบ จึงควรบำรุงและดูแลให้ปากนุ่มเด้งน่าจุ๊บ อย่าปล่อยให้แห้งกรังเลือดซิบจนน่ากลัว ทาลิปบาล์มอยู่เสมอ และใช้ลิปมาส์กพอกปากข้ามคืน เพื่อให้ปากสุขภาพดี และควรใช้ลิปบาล์มสูตรผสมสารกันแดดระหว่างวัน เพราะปากก็เป็นผิวอย่างนึงที่ต้องการการป้องกันรังสียูวีเช่นกันนะ!
----------------------------
แต่ละข้อเป็นหลักดูแลผิวขั้นพื้นฐาน ผิวจะดีไม่ได้เลยหากละเลย 7 กฎนี้ ซึ่งก็ไม่ได้ยากเกินความสามารถสาวซิสแน่นอน เราเชื่ออย่างนั้น! เพียงใส่ใจกับการทำความสะอาด หรือล้างหน้าให้ดี ทาครีมกันแดด อย่าปล่อยให้ผิวมีสิ่งสกปรกติดค้างนาน ผลัดเซลล์ผิวเก่า กระตุ้นเซลล์ผิวใหม่เป็นประจำ ไม่ใช้น้ำอุ่นกับผิวบ่อยๆ เพราะทำให้ผิวแห้งลอกค่ะในส่วนของการบำรุงผิวหน้า ก็ใช้มอยส์เจอไรเซอร์อย่างสม่ำเสมอ เน้นดวงตาและริมฝีปากที่ค่อนข้างเซนซิทีฟ เท่านี้เธอก็พร้อมเป็นดอกไม้ที่สวยเปล่งประกายในปี 2021 ได้ไม่ยากขอเพียงตั้งใจและมีวินัยกับตัวเองเท่านั้นเลย! สู้ๆ นะคะ อยากเห็นซิสทุกคนสวยจากภายในในแบบของตัวเอง >///< สำหรับวันนี้ขอตัวลาไปก่อน พบกันใหม่คราวหน้านะค้า บ๊ายบายย