รูปภาพ:https://media1.tenor.com/images/a306a98aa8e1742ad73fa48336a5bb8d/tenor.gif?itemid=12923823

ฮัลโหลค่าา สาวๆSistaCafeคนรักการดูแลผิว ' ขั้นเทพ ' ทั้งหลาย (* ̄▽ ̄)bใครที่เข้าวงการสกินแคร์ บำรุงให้รางวัลผิวอยู่บ่อยๆ น่าจะต้องเคยทำ' สปาผิว 'อย่างน้อยหนึ่งครั้งในชีวิต!เข้าร้านสปาอโรม่าหอมผ่อนคลาย นอนให้พนักงานนวดหน้าเบาๆ ลงผลิตภัณฑ์ออยล์ มาส์ก ปนกับเสียงเพลงกล่อมในสปา จนบางทีก็เคลิ้มหลับไป ฟินสุดอะไรสุด แต่ถ้าไม่ใช่คนเงินเหลือเก็บมากมาย จะไปสปาบ่อยๆ ก็กลัวจะได้กินแกลบแทนข้าวซะก่อน ตอนนี้เศรษฐกิจก็ไม่ค่อยดี ไม่อยากถลุงเงิน หลายคนจึงเริ่มหาวิธีปรนนิบัติผิวแบบชิลล์ๆ ที่บ้านแทน save cost กว่าเยอะ!ヽ(>∀<☆)ノในบทความนี้ เราขอมาแนะนำวิธีรีแล็กซ์ผิว ดูแลให้ผิวนุ่มนิ่มกระจ่างใสแบบไม่มีอะไรกั้น ด้วยผลิตภัณฑ์' มาส์กหน้า 'ทั้งแบบพอกและแบบแผ่นในกรุที่มี ให้ผลลัพธ์ไม่ต่างกับการไปสปา แต่ไม่ต้องเสียค่าชั่วโมงแพงๆ ไม่ต้องหงุดหงิดการเดินทาง เพราะสามารถทำเองได้ที่บ้านแบบชิลล์ๆ!จะต้องทำอะไรบ้าง ก็มาอ่านมายกเลเวลความปั๊วะของผิวขึ้นไปอีกระดับกันเถอะ!

1. ใช้ 'มาส์กหน้าสูตรถ่านชาร์โคล' กระตุ้นให้ผิวกระจ่างใสขึ้น

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/94f69bdfbdd90b7af56ad7a70d80208b.jpg

สาวๆ ส่วนใหญ่ที่ใช้ชีวิตอยู่ในประเทศไทย คงต้องเผชิญกับฝุ่น สิ่งสกปรกและมลภาวะที่รบกวนผิวหน้าทุกวัน แค่เดินออกไปนอกบ้าน ก็เจอฝุ่น PM2.5 มลภาวะต่างๆ ท่อไอเสียจากรถเมล์และมอเตอร์ไซค์ ควันจากแผงขายหมูปิ้งแล้ว ยังไม่นับน้ำมันส่วนเกินบนผิวระหว่างวันอีก


เมื่อเจอแบบนี้ซ้ำๆ ทุกวันหน้าที่เคยใสก็หมองคล้ำลงเรื่อยๆ ส่องกระจกแล้วแอบตกใจ ทำไมหน้าฉันดูเหนื่อยขนาดนี้นะ บางทีก็ดูร่วงโรยกว่าวัยซะงั้น เพราะมลภาวะนี่แหละ ตัวกัดกร่อนผิวเลย!

เพียงสาวๆ ใช้

' มาส์กหน้าสูตรชาร์โคล '

ที่โด่งดังในด้านสรรพคุณดูดจับสิ่งสกปรกออกจากผิวหน้า ทำหน้าที่คล้ายแม่เหล็ก จับคราบที่ตกค้าง อุดตันรูขุมขนออกมาให้สิ้นซาก และยังช่วยดีท็อกซ์ผิวให้สะอาดหมดจด

เมื่อใช้มาส์กสูตรนี้เป็นประจำอย่างต่อเนื่อง จะทำให้ผิวหน้ากระจ่างใสขึ้น สิวอักเสบก็ลดลงเพราะไม่มีสิ่งสกปรกกระตุ้นให้ผิวระคายเคือง เพียงพอกมาส์กทิ้งไว้ 10-15 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น ก็เป็นอันเสร็จพิธี

2. ใช้มาส์กหลายประเภทบนใบหน้า (Multi-Masking) ในครั้งเดียว

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/20071287b55ae2823ecd54c6bcb7433a.jpg

สาวๆ มากมายมักเคยชินกับการใช้มาส์กโคลนแค่ชนิดเดียวทั่วหน้า แต่จริงๆ แล้ว ถ้าอยากใช้มาส์กให้เต็มประสิทธิภาพ ควรต้องใช้ผสมกัน 2-3 ชนิดในครั้งเดียวกัน!

มาส์กโคลนแต่ละชนิด แต่ละสีก็มีสรรพคุณเด่นๆ แตกต่างกัน บางชนิดดูดซับสิ่งสกปรกได้ดี บางชนิดบำรุงให้ผิวนุ่ม บางชนิดกำจัดน้ำมันส่วนเกินโดยเฉพาะ จึงควรใช้ให้เหมาะสมกับผิวบริเวณนั้นๆ บนใบหน้าค่ะ

ตัวอย่างเช่น คนที่มีสภาพผิวที่มันแค่ช่วงทีโซน ก็ใช้มาส์กชาร์โคลสีดำแค่ส่วนของหน้าผากและจมูก ( ครึ่งบนของใบหน้า ) และใช้มาส์กสีเหลืองหรือชมพูที่ทำจาก Kaolin Clay ที่มีสรรพคุณดูดซับน้ำมัน ต่อต้านการอักเสบของผิว ที่ส่วนของแก้มและคาง เป็นต้น


สามารถปรับแต่งได้ตามปัญหาผิวของสาวๆ แต่ละคนค่ะ อย่าลืมล้างหน้าให้สะอาดก่อนใช้มาส์ก พอกทิ้งไว้ 10-15 นาทีแล้วล้างออกให้สะอาดด้วยน้ำอุ่น เท่านี้ก็หน้าสวยใสได้ครบทุกส่วนของหน้าแล้ว!

3. อายุมากขึ้น ควรใช้มาส์กหน้าที่ 'ผสมสครับ' ไปด้วยในตัว

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/1c4ba58cb2d443ba6ceda31dd8299430.jpg

เมื่อสาวๆ อายุมากขึ้น ร่างกายที่ปกติจะมีการผลัดเซลล์ผิวทุก 28 วัน ขจัดเซลล์ผิวเก่า กระตุ้นเซลล์ผิวใหม่ให้ใสปิ๊ง จะเริ่มทำงานช้าลงเรื่อยๆ ทำให้ผิวเกิดการหมองคล้ำ เพราะเศษซากเซลล์ที่ตายแล้วยังติดค้างอยู่บนผิวหน้า


เราจึงต้องมีตัวช่วยอย่าง ' สครับ ' ที่ช่วยกระตุ้นให้ผิวยังดูสว่างใสอยู่เสมอ หรือจะเป็นสูตรผสมกรดผลไม้ AHA ที่ช่วยลอกผิวตามธรรมชาติก็ได้เช่นกันค่ะ

มาส์กเหล่านี้จะค่อยๆ ขจัดเซลล์ผิวเก่าออกจากชั้นบนสุดของผิวหนังที่เห็นได้ด้วยตาเปล่า ทำให้ผิวสะอาด สดชื่นขึ้นในทันที เพียงทามาส์กหน้าผสมสครับลงบนผิวหน้าที่ล้างสะอาดแล้ว ทิ้งไว้ 5 นาที ( อย่านานเกินไป สครับบางสูตรมีฤทธิ์เป็นกรด จะทำให้ผิวหน้าระคายเคืองได้ )

ก่อนจะใช้นิ้วนวดสครับวน เป็นวงกลมบนผิวหน้าอย่างอ่อนโยน ช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิต สุดท้ายล้างออกด้วยน้ำอุ่น ทำซ้ำ 2 ครั้ง/ สัปดาห์เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดนะคะซิส

4. ใช้แปรงทารองพื้น ทามาส์กให้ทั่วผิวหน้าได้ ป้องกันมือเลอะ!

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/45fcb6d2d931e1c753e0986752b76ecc.jpg

มาส์กบางชนิดมีส่วนผสมของ AHA ซึ่งมีฤทธิ์เป็นกรด หากใช้มือเปล่าๆ ทามาส์กเป็นประจำ อาจมีผลข้างเคียงทำให้มือลอก มือแห้ง หรือถึงเป็นมาส์กสูตรธรรมดา สาวๆ บางคนก็ไม่อยากเอามือจุ่มลงไปให้เลอะ


เสี่ยงเนื้อมาส์กผสมกับเชื้อโรคบนมือ แล้วนำมาป้ายทั่วหน้า สรุปแทนที่หน้าจะใส กลับสิวบุกกว่าเดิมแทน ร้องไห้ T^T

ตัวช่วยที่จะแก้ปัญหานี้ก็ง่ายๆ แค่ใช้ ' แปรงทารองพื้น ' ที่มีลักษณะแบบแบน นำมาทามาส์กให้ทั่วผิวหน้าแทน ( แนะนำให้ซื้อแบบใหม่เอี่ยมถอดด้าม เพราะหากเคยใช้ลงรองพื้นมาแล้ว ก็เสี่ยงที่จะมีเชื้อโรคติดค้างบนขนแปรงอยู่ดี และถ้าใช้ทามาส์กแล้ว จะไม่สามารถนำกลับไปลงรองพื้นได้อีก เพื่อสุขอนามัยที่ดี )

เมื่อใช้อุปกรณ์ช่วย ก็มั่นใจได้ว่าเนื้อมาส์กที่อยู่บนหน้าสะอาด ไม่เลอะเปรอะเปื้อน และยังเกลี่ยมาส์กบนหน้าได้ง่ายขึ้น เรียบเสมอกันกว่าใช้นิ้วมือเพียวๆ อีกด้วยนะ

5. ใช้มาส์กพอกหน้าข้ามคืน (Overnight Mask) เป็นประจำ

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/8a0893c17c1169178213986ae186c948.jpg

สาวๆ ผิวมันเกินครึ่งที่หวาดกลัวการใช้ overnight mask หรือมาส์กพอกหน้าข้ามคืนเป็นอย่างมาก ด้วยเนื้อสัมผัสที่มีภาพจำว่าต้องเป็นครีมเข้มข้น เหนียวๆ หนึบๆ กลัวทาแล้วสิวจะบุก เลอะหมอน

แต่ถ้าอยากบำรุงผิวอย่างเต็มที่จริงๆ การใช้มาส์กแผ่นหรือมาส์กโคลนอาจไม่พอ ต้องใช้มาส์กในช่วงกลางคืนขณะหลับด้วย ซึ่งไม่จำเป็นต้องใช้แบบครีมเท่านั้น เดี๋ยวนี้ก็มีมาส์กเนื้อเจลที่ทาแล้วสบายหน้า แต่ให้ความชุ่มชื้นสูงในท้องตลาดให้เลือกมากมาย

หลักๆ ของการทามาส์กชนิดนี้คือ ล็อคความชุ่มชื้นของผิวหน้าไว้ตลอด 8 ชั่วโมงของการนอน เพื่อให้ตื่นมาหน้ายังนุ่ม ยังดูเฟรช ไม่ได้เกี่ยวกับลักษณะของเนื้อครีมเสมอไป


หากมีผิวมันหรือผิวผสม ก็เลือกใช้เจลมาส์กทาให้ทั่วผิวหน้า สันกราม ไล่ลงมาถึงลำคอ เป็นขั้นตอนสุดท้ายของการใช้สกินแคร์ นวดวนเบาๆ ให้เนื้อซึมเข้าผิวก่อนเข้านอน ตื่นเช้ามารับรองว่าผลลัพธ์ปั๊วะปังชัวร์ๆ

6. เก็บรักษา 'มาส์กแผ่น (Sheet Mask)' ในที่เย็นเสมอ

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/8b2935bc0972d45af6e8d121a004adb9.jpg

แม้ปกติมาส์กแผ่นจะไม่มีวันหมดอายุชัดเจน และแม้จะวางในอุณหภูมิห้องก็ไม่เสื่อมคุณภาพง่ายๆ แต่เพื่อความฟินในการบำรุงผิว ให้มีความรู้สึกเหมือนอยู่สปา เคล็ดลับคือนำมาส์กแบบแผ่นไปแช่ในตู้เย็น ( แค่ช่องเย็นธรรมดาก็พอ ไม่ต้องถึงกับช่องฟรีซนะ นั่นก็เย็นเกิน เดี๋ยวผิวแตก! )

ส่

วนใหญ่สาวๆ สายบิวตี้จะแช่ตรงช่องตรงด้านข้างของตู้เย็นกัน จะได้ความเย็นที่กำลังพอดีๆ กับผิวหน้าค่ะ

ความเย็นจากแผ่นมาส์กจะทำให้ผิวหน้าสดชื่น ผ่อนคลายผิวที่เครียด เหนื่อยล้า ทำงานหนักมาทั้งวัน และยังช่วยลดความบวมชั่วคราวของผิวหน้าหลังตื่นนอนได้อีกด้วย สังเกตว่าคนที่กินโซเดียมจัดๆ มื้อดึกในวันก่อนหน้า เช่น บะหมี่สำเร็จรูป ตื่นมาหน้าจะอูมๆ เพราะร่างกายอมน้ำ บวมเกลือ


แต่การใช้มาส์กแปะจะช่วยบรรเทาให้อาการนั้นหายไปได้ เป็นเคล็ดลับที่ดารา นางแบบ เน็ตไอดอลใช้กันทั่วไปเลยล่ะค่ะ

7. ใช้มาส์กตา (Eye Mask) และมาส์กปาก (Lip Mask) เพิ่มความปัง!

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/4728d2ce3882e59a047123b7a8139326.jpg

เวลาเรามองผิวของผู้หญิงคนหนึ่งว่าสวยฉ่ำ แวววาวเป็นประกาย แน่นอนว่าไม่ใช่แค่ส่วนของผิวหน้าโดยรวม แต่ผิวใต้ดวงตาและริมฝีปากก็ต้องอิ่มน้ำ ชุ่มชื้นไม่แพ้กัน จึงควรใช้ไอเทมดูแลเสริมอย่าง ' อายมาส์ก ' และ ' ลิปมาส์ก ' ที่ช่วยเติมสารอาหารให้ดวงตาและริมฝีปากโดยเฉพาะ


คนทั่วไปอาจไม่คิดว่าสองไอเทมนี้จะสำคัญนัก บำรุงแค่ผิวหน้าก็พอ แต่ถ้าผิวดีอย่างเดียว ใต้ตาแห้งกร้าน ริมฝีปากลอกเป็นขุยเลือดซิบ ก็คงไม่น่ามองเท่าไหร่หรอกนะจริงมั้ย?

อายมาส์กจะมาในลักษณะเหมือนแผ่นมาส์ก แต่เป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว แปะที่ใต้ตาทิ้งไว้ 15-20 นาที นวดวนๆ แล้วค่อยเอาออก ( แนะนำให้ทาอายครีมเพิ่มความชุ่มชื้นปิดท้ายอีกรอบ )

ส่วนลิปมาส์กมีสองแบบ คือในรูปแบบกระปุกคล้ายลิปบาล์ม ไว้ทาก่อนนอน ล็อคความชุ่มชื้นให้ปากไม่แห้งระหว่างหลับ และแบบที่ทำเป็นแผ่นคล้ายรูปริมฝีปาก วิธีใช้คือลอกแผ่นฟิล์มออก แปะมาส์กทิ้งไว้บนปาก 5-10 นาที เอาออก ใช้นิ้วนางนวดวนบนริมฝีปากเบาๆ เท่านี้ก็สวยเป๊ะครบทุกส่วน ไม่จกตาแน่นอน!

รูปภาพ:https://media1.tenor.com/images/bbf74b31789853f21fabf820edc10e22/tenor.gif?itemid=15325519

------------------------------------

ใช้งบระดับน้อยนิด แต่ได้บำรุงผิวอย่างคุ้มค่ามากๆ! หากใครยังไม่เคยมีมาส์กหน้าชาร์โคล, มาส์กแผ่นสูตรให้ความชุ่มชื้นดีๆ, สครับหน้า, overnight mask มาก่อน อาจต้องยอมลงทุนด้วยเงินจำนวนหนึ่ง แต่เทียบกับเงินจำนวนเท่ากันไปสปาผิว อาจได้ค่าชั่วโมงสปาแค่ 1-2 ครั้ง แต่ถ้าทำเองที่บ้านสามารถใช้ได้มากกว่า 10 ครั้ง ประหยัดเงินกว่าเห็นๆ เพราะไม่ต้องเสียค่าตัวพนักงานค่ะส่วนตัวคิดว่าการที่เรานวดหน้าเอง แม้จะแอบเมื่อยแขนบ้าง ไม่ฟินเหมือนคนทำให้ แต่เราจะรู้จังหวะผิวตัวเองว่าควรลงน้ำหนักมือส่วนไหน นวดวนยังไงให้หน้ามีเลือดฝาดแบบไม่เจ็บ ซึ่งไม่ใช่พนักงานทุกคนจะทำได้ถูกใจ เผลอๆ นวดเก่งแล้วรับจ้างสปาให้เพื่อน ได้รายได้เสริมไปอีก >///< ผลิตภัณฑ์ที่ใช้บนผิวเราก็เลือกแบบที่เหมาะกับผิว ไม่ทำให้ผิวแพ้ได้ในภายหลัง แต่สปาเราไม่รู้เลยว่าเขาใช้ครีมอะไรพอกหน้าเราบ้าง นี่ก็เป็นอีกหนึ่งข้อได้เปรียบ =w= ทั้งเซฟเงิน เซฟสุขภาพผิวหน้าแบบนี้ ก็ลองนำทริคไปทำตามกันดูนะคะ เพื่อผิวสวยในเวอร์ชั่นราคาน่ารัก อิอิ เจอกันใหม่คราวหน้าค่า บ๊ายบายยย (〃^▽^〃)