รูปภาพ:https://i.pinimg.com/originals/ab/ef/f5/abeff5a0cc365214f05cae4a7e411cb0.gif

สวัสดีค่าาา สาวๆSistaCafeที่กำลัง' ลดน้ำหนัก 'ทุกคน (°◡°♡)จากสถานการณ์โควิดที่ระบาดมาตั้งแต่ต้นปี สาวซิสหลายคนต้อง work from home หรือออกมาเป็นฟรีแลนซ์อยู่บ้านกินๆ นอนๆ ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย หิวเมื่อไหร่ก็กดสั่งแอปเดลิเวอรี่มาส่งถึงหน้าบ้าน ใช้ชีวิตแบบนี้ไม่กี่เดือน เอ๊ะ ทำไมตอนนั่งทำงานแอบอึดอัดพุง เลยไปส่องกระจกทั้งตัวแบบชัดๆ เท่านั้นแหละ โอมายก๊อด ทำไมฉันตัวบวมขึ้นได้ขนาดนี้!!ที่อึดอัดเพราะพุงปลิ้น กระดุมเสื้อจะปริอยู่แล้ว เดินทีก็ขาเบียด เคลื่อนไหวร่างกายแล้วเหนื่อยหอบ ไม่คล่องตัวเหมือนแต่ก่อน คงถึงเวลาไดเอทจริงๆ จังๆ แล้วสักที ก่อนไซส์ S จะเทิร์นสู่ XL! (⇀‸↼‶)เมื่อตัดสินใจจะลดน้ำหนักจริงจังแล้ว การแพลนมื้ออาหารในแต่ละวันเป็นสิ่งสำคัญมาก!อย่างที่รู้กันว่า จะผอมลงได้อาหารมีส่วนถึง 70% ถ้ากินสะเปะสะปะแบบไม่ดูโภชนาการ ไม่ดูแคลอรี่ โอกาสที่จะลดได้สำเร็จก็เลือนลาง เผลอๆ อาจอ้วนขึ้นได้ด้วยซ้ำ เพราะไปกินอาหารที่ทำให้หิวมากขึ้นโดยไม่รู้ตัว T__Tก่อนจะคุมอาหารจริงจัง ลองมาเช็ค' 7 อาหารกระตุ้นต่อมหิว ยิ่งกินเยอะ แคลอรี่ยิ่งพุ่งปรื๊ด 'ใครกำลังลดความอ้วนอยู่ ควรหลีกหนีให้ไกล จะมีอะไรบ้างมาดูกัน!

1. ชีส

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/d5e14835a420df7d22c555c505ba2a21.jpg

สาวๆ คนไหนเป็นสาวกชีสบ้างยกมือขึ้น! อาหารทุกอย่างต้องหย่อนชีสลงไป แซนด์วิชชีส เบอร์เกอร์ชีส เฟรนช์ฟรายส์เขย่าผงชีส etc. เพราะรสชาติเข้มข้น หอมมันนม อร่อยสุดๆ กินเพลินหยุดไม่ได้ แป๊บเดียวชีสหมดห่อ!

ที่เป็นแบบนี้ นักโภชนาการให้เหตุผลไว้ว่าเพราะธรรมชาติมนุษย์ถูกโปรแกรมไว้ตั้งแต่เกิดว่า ให้ตอบสนองต่อโปรตีนที่พบในนม เพื่อให้ทารกได้รับนมแม่อย่างเพียงพอนั่นเอง

ชีสเองก็คือนมในรูปแบบเข้มข้น เมื่อร่างกายได้รับเข้าไปจึงให้ผลเหมือนกับการกินนม โดยชีสมีสารประกอบโปรตีนเรียกว่า casomorphins ประกอบกับไขมันและเกลือในปริมาณที่สูง รสเค็มๆ มันๆ ทำให้กินแล้วเกิดอาการเสพติด กินเท่าไหร่ก็ไม่พอ

แต่ชีสเองก็มีประโยชน์มากเพราะโปรตีนสูง บำรุงกระดูกและฟัน ลดความเสี่ยงเบาหวาน จึงควรกินในปริมาณที่พอเหมาะ เพียงวันละ 1-2 แผ่นเท่านั้น ( และควรกินชีสแท้ ไม่ใช่ผงชูรสกลิ่นชีส หรือชีสแต่งกลิ่น ) เท่านี้ก็สุขภาพดี น้ำหนักลดตามเป้าได้ค่ะ

2. น้ำผลไม้

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/cd0ab474541797288af0a4d85eaf1027.jpg

แม้ช่วงนี้กระแสน้ำผลไม้แท้ น้ำผลไม้สกัดเย็นกำลังมาแรง แต่ส่วนใหญ่น้ำผลไม้ในท้องตลาดมักผ่านกระบวนการที่ไฟเบอร์ตามธรรมชาติสูญสลายไปหมดแล้ว เหลือเพียงน้ำตาลหวานๆ ในผลไม้เท่านั้น

เมื่อดื่มเข้าไปจึงไม่ต่างกับดื่มน้ำตาลที่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงปรื๊ด แล้วตกลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นสาเหตุให้สมองกระตุ้นอาการหิวทั้งที่ร่างกายไม่ได้หิวจริง น้ำหนักจึงขึ้นพรวดๆ #แง

มีงานวิจัยเปิดเผยว่า ร่างกายของเราไม่ได้ต้องการแคลอรี่จากน้ำผลไม้ แค่พลังงานที่ได้รับจากอาหารก็เพียงพอแล้ว ดังนั้นถ้าจะดื่มเครื่องดื่มอะไร แนะนำเป็น ' น้ำเปล่า ' นี่แหละดีกับสุขภาพที่สุด แล้วเลือกกินเป็นผักผลไม้สดที่มีไฟเบอร์ตามธรรมชาติแทน

หากวันไหนเร่งรีบ ขี้เกียจเคี้ยว ก็โยนผักผลไม้สดลงไปในเครื่องปั่น ตามด้วยผงโปรตีนหรือเนยถั่วสักหน่อย เท่านี้ก็ได้สมูทตี้ที่มีประโยชน์และกินแทนมื้ออาหารได้ แม้จะมีน้ำตาลในผลไม้ แต่ก็มีไฟเบอร์และโปรตีนที่อิ่มนาน ดีกว่าซื้อน้ำผลไม้ตามท้องตลาดที่เราไม่รู้ว่าเขาผสมอะไรลงไปบ้างค่ะ

3. โยเกิร์ตไขมันต่ำ

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/0163b8be42160313beab509f25b6f65b.jpg

อ่านมาถึงข้อนี้ สาวๆ หลายคนอาจสงสัยว่า โยเกิร์ตไขมันต่ำเป็นอาหารลดความอ้วนไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงกินไม่ได้? คืออย่างนี้ค่ะ ตัวโยเกิร์ตรสธรรมชาติเพียวๆ น่ะดีต่อสุขภาพอยู่แล้ว แต่โยเกิร์ตไขมันต่ำมักจะไม่ได้เป็นอาหารคลีนตามชื่อ


แม้จะไขมันต่ำจริง แต่ถ้าดูฉลากโภชนาการ มักเติมคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาลมาเยอะขึ้น เพื่อให้รสชาติกลมกล่อมถูกใจคนส่วนใหญ่ที่ยังติดหวาน ไปๆ มาๆ กินโยเกิร์ตปกติอาจจะอันตรายน้อยกว่าด้วยซ้ำ

โดยเฉพาะสาวๆ ที่ชอบกินโยเกิร์ตไขมันต่ำรสผลไม้รวม รสสตรอว์เบอร์รี่ รสบลูเบอรี่ทั้งหลาย ถ้าดูส่วนประกอบของอาหารจะพบว่ามีน้ำตาลเยอะมหาศาล ยี่ห้อทั่วๆ ไปอยู่ที่ 16-20 กรัม หรือ 4-6 ช้อนชาต่อถ้วยเลยทีเดียว น้ำตาลเป็นสิ่งกระตุ้นต่อมหิวอยู่แล้ว หลังกินโยเกิร์ตหมด จึงมีแนวโน้มหาขนมหวานกินต่อสูงมาก สรุปอ้วนกว่าเดิม!

ถ้าจะกินโยเกิร์ตจริงๆ ควรกินเป็น ' กรีกโยเกิร์ต ' ที่เนื้อเข้มข้น โปรตีนสูงเป็นสองเท่ากว่าโยเกิร์ตปกติ ใส่ผลไม้สดและเมล็ดธัญพืชลงไปแทน ได้ทั้งโปรตีน ไฟเบอร์ และสารต้านอนุมูลอิสระ 3 in 1 เลยค่ะ

4. ไข่ขาว

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/9e532f3c9453fe7593c03842010621bc.jpg

ข้อนี้ต้องมีสาวๆ หลายคนไม่เชื่อแน่ เพราะปกติถ้าดูในกลุ่มลดความอ้วนในโซเชียล หรือหนังสือไดเอทที่ไหนก็มักบอกว่า ' ไข่ขาว ' แคลอรี่ต่ำ กินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วนใช่ไหมคะ?


ซึ่งก็จริงที่ว่าไข่ขาวเป็นแหล่งของโปรตีน แต่เพราะไม่ได้มีไขมัน วิตามินและแร่ธาตุเท่าที่มีในไข่แดง อีกทั้งรสก็จืดๆ จึงมีแนวโน้มที่กินไม่กี่วันก็เบื่อ กินได้ไม่กี่ฟองก็รู้สึกอยากขย้อนออกมา เหมือนกินกระดาษ นอกจากจะไม่อิ่มท้องแล้วยังฟินกับมื้ออาหารไม่สุด มีโอกาสที่จะตบะแตกสูงมากๆ

บทความวิเคราะห์ปี 2010 ที่ตีพิมพ์ใน American Journal of Clinical Nutrition บอกว่า ' ไขมันอิ่มตัวไม่มีความเกี่ยวข้องต่อการเพิ่มความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจ สโตรกหรือโรคหลอดเลือดหัวใจใดๆ ไขมันอิ่มตัวในไข่แดง นอกจากรสชาติอร่อยแล้ว ยังช่วยให้ร่างกายผลิตฮอร์โมน ดูดซึมวิตามินและแร่ธาตุที่ละลายในไขมันได้ดี

เช่น วิตามิน A ( บำรุงผิวและระบบภูมิคุ้มกัน ), วิตามิน B เพิ่มพลังงาน และโคลีน ( choline ) ที่ช่วยเสริมสร้างสมองและกล้ามเนื้อ ดังนั้นการกินไข่ทั้งไข่ขาวและไข่แดง แต่ควบคุมปริมาณให้เหมาะสม 1 ฟองต่อวัน จะเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพและน้ำหนักในระยะยาวมากกว่าค่ะ

5. กราโนล่าบาร์

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/40e8c918f0a8af018961c2c02b6f646c.jpg

กราโนล่าบาร์ มักเป็นอาหารสุดฮิตของสาวๆ ที่กำลังลดน้ำหนักในยุคนี้ เพราะชีวิตที่เร่งรีบ ไม่มีเวลาทำอาหารเอง แค่พกกราโนล่าใส่กระเป๋าไปได้ทุกที่ หิวเมื่อไหร่ก็กินได้ทุกเวลา อัดแน่นไปด้วยธัญพืช น้ำผึ้งธรรมชาติ มีแต่ของดีๆ ทั้งนั้น กินแล้วก็ต้องผอมลงสิ แต่ผิดถนัด! คนที่ใช้ชีวิตด้วยกราโนล่าบาร์นี่แหละ เสี่ยงจะน้ำหนักพุ่งมากๆ

เพราะแค่บาร์แท่งเล็กๆ ก็มีทั้งน้ำตาล โปรตีนและน้ำมันเต็มเปี่ยม ถ้าให้อยู่ท้อง แท่งนึงต่ำๆ ก็ 150 แคลอรี่ กินหนึ่งแท่งอาจจะช่วยแก้หิวได้ แต่ก็ไม่ทำให้อิ่มได้เต็มที่ ลงเอยด้วยการกินมื้อนึง 2-3 แท่ง ได้แคลอรี่มากกว่าข้าวหนึ่งจานไปอีก แถมราคาแพงกว่าข้าวด้วย คุ้มกันไหมนั่น -_-

ไม่ได้อยากโจมตีว่ากินกราโนล่าบาร์ไม่ดี เพราะมันก็มีประโยชน์เวลาไม่สะดวกกินข้าว เช่น กำลังเดินทาง, ไปเที่ยว เดินป่า เข้าค่ายที่ไม่สะดวกทำอาหาร, เติมพลังงานรวดเร็วหลังออกกำลังกาย แต่สาวๆ ก็ควรใช้ให้ตรงวัตถุประสงค์

คือกินเป็นมื้อว่าง ควบคุมร่างกายไม่ให้หิวเกินพิกัด เพื่อไปกินอาหารที่มีประโยชน์ในมื้อหลัก ไม่ควรกินแทนอาหารปกติ เพราะสารอาหารไม่พอจะกินเป็นมื้อขนาดนั้น จะยิ่งทำให้ร่างกายโหย แทนที่จะทำให้ผอมลง กลับอ้วนขึ้นซะงั้น!

6. ซอสมะเขือเทศ

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/50e49560d07ee6c4421444862e3b46e6.jpg

ใครติดนิสัยชอบจิ้ม ' ซอสมะเขือเทศ ' กับอาหารทุกชนิดที่ขวางหน้าบ้าง? ทั้งมันฝรั่งทอด ไข่ เนื้อสัตว์ หรือแม้แต่ก้านแครอท บร็อคโคลี่ ขอให้ได้จิ้มซอสไว้ก่อน ไม่งั้นไม่อร่อย กินไม่ลง แคลอรี่คงเพิ่มขึ้นไม่เยอะหรอก...

สาวซิสบางคนคิดผิดว่า ซอสมะเขือเทศทำจากมะเขือเทศอย่างเดียว โนวววว กว่าจะเข้ากระบวนการโรงงานมาถึงผู้บริโภค ใส่สารประกอบ น้ำตาลไปมากมายเพื่อให้รสกลมกล่อม นั่นหมายถึงเวลาเธอจิ้มซอสเข้าปาก เธอกำลังเพิ่มแคลอรี่มหาศาลเข้าไปด้วย!

ซอสมะเขือเทศโดยทั่วไปจะผสมน้ำเชื่อมข้าวโพดฟรุกโตส เพื่อทำให้ซอสมีรสเปรี้ยวอมหวานหน่อยๆ ซึ่งทำให้เจริญอาหาร อยากกินเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ โดยน้ำเชื่อมชนิดนี้จะเข้าไปขัดขวางระบบเผาผลาญของร่างกาย ทำให้การผลิตฮอร์โมนเลปติน ( ฮอร์โมนอิ่ม ) ช้าลง จึงทำให้เธอกินได้เรื่อยๆ ไม่รู้จักอิ่ม กว่าสมองจะสั่งการให้หยุดกิน เธอก็รับแคลอรี่ส่วนเกินเข้าไปมากโขแล้ว

แทนที่จะจิ้มซอส กินมะเขือเทศสดๆ เลยจะดีกับสุขภาพและน้ำหนักมากกว่า แต่ถ้าเลิกไม่ได้จริงๆ ก็ต้องจำกัดปริมาณอย่างเข้มงวด เช่น ไม่เกินหนึ่งถ้วยจิ๋ว ห้ามเติม ไม่อย่างนั้นน้ำหนักไม่ลงแน่ๆ ค่ะซิสขา

7. หมากฝรั่ง

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/a3ab2fcf820ebb5cf843a291e299c26b.jpg

สาวๆ ที่กำลังไดเอทมากมาย เลือกใช้ ' หมากฝรั่ง ' เป็นตัวช่วยลดความอยากอาหาร เพราะคิดว่าถ้าปากไม่ว่าง เคี้ยวอะไรสักอย่างอยู่ ก็คงทำให้หิวน้อยลง แต่ไม่จริงเสมอไป!


เพราะการ ' เคี้ยว ' ยิ่งกระตุ้นให้ร่างกายคิดว่ามีอาหารกำลังจะเข้าสู่กระเพาะ จึงผลิตน้ำย่อยออกมา เมื่อไม่มีอาหารที่เป็นเนื้อเป็นหนังจริงๆ ตกถึงท้อง ท้องก็จะร้องและเริ่มย่อยกระเพาะตัวเองทั้งที่ไม่มีอาหารค่ะ

ผลลัพธ์คือเธอจะปวดท้องและเป็นการบังคับกลายๆ ให้เธอหาอะไรใส่ปาก เพื่อไม่ให้น้ำย่อยกัดกระเพาะ แทนที่จะคุมหิวได้ กลับต้องกินอาหารเพิ่มขึ้นซะอย่างนั้น ดังนั้นเราจึงไม่แนะนำให้เธอใช้หมากฝรั่งเพื่อควบคุมน้ำหนัก

ถ้าอยากผอมให้

ดื่มน้ำเปล่าเยอะๆ ระหว่างวัน หรือหากิจกรรม งานอดิเรกอื่นๆ ให้ไม่ต้องโฟกัสกับเรื่องกินไปเลย เช่น เล่นกีฬา อ่านหนังสือ ฟังเพลง ดูหนัง เล่นเกม เดินเล่น จะดีกว่า

รูปภาพ:https://i.imgur.com/3NlDB3a.gif

---------------------------------------

ไม่อยากแพลนไดเอทล่มระหว่างทาง ก็อย่าเผลอตัวเผลอใจไปกินอาหาร 7 อย่างนี้ ด้วยรสชาติที่อร่อยติดปลายลิ้น ทำให้สาวๆ อยากจะกินต่อชิ้นที่สอง ชิ้นที่สาม ไปๆ มาๆ หมดห่อ หมดขวดไม่รู้ตัว!! ระหว่างลดน้ำหนัก เราก็มักจะเจอสิ่งยั่วยุเยอะอยู่แล้ว ทั้งความขี้เกียจออกกำลัง สังคมแวดล้อมไม่เป็นใจ ฮอร์โมนก่อนมีประจำเดือน etc. อย่าให้อาหารซึ่งเป็นส่วนที่สำคัญที่สุด ดับฝันความผอมก่อนจะได้เริ่มควรปรับไปกินอาหารสุขภาพที่ช่วยทำให้อิ่มนาน ไม่มีรสชาติที่เข้มข้นเกินไป จะได้กินแล้วจบในมื้อนั้นโดยไม่หิวจุกจิก เช่น ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีทที่เป็นคาร์บเชิงซ้อน และผักผลไม้น้ำตาลต่ำที่มีไฟเบอร์และสารอาหารสูง ควบคู่กับออกกำลังกายเป็นประจำสม่ำเสมอ เท่านี้การกลับไปใส่เสื้อผ้าไซส์เท่าเดิม ( หรือเล็กลง ) ก็ไม่ไกลเกินเอื้อมอย่างแน่นอน เป็นกำลังใจให้ซิสหุ่นเป๊ะต้อนรับปี 2021 ทุกคนนะค้า

(≧◡≦) ♡