รูปภาพ:https://data.whicdn.com/images/309253770/original.gif

สวัสดีค่า สาวๆSistaCafeมือใหม่เพิ่งเข้าวงการแต่งหน้าทั้งหลาย (♡°▽°♡)ไม่ใช่ผู้หญิงทุกคนที่จะแต่งหน้าถูกต้องเป๊ะๆ ตามขั้นตอน หลายคนก็แต่งเป็นจากการดูแม่ ดูพี่สาวแต่งตั้งแต่เด็ก บางคนที่บ้านไม่แต่งหน้า ก็ไปให้เพื่อนสนิท ให้รุ่นพี่ที่โรงเรียนสอน หรือเปิดคลิป How To ในยูทูปทำตามเอง มั่วๆ ผิดถูกก็เรียนรู้กันไปบางคนครั้งแรกแต่งเสร็จส่องกระจกนึกว่านกแก้ว กรีดตาเส้นยาวปรื๊ด อายแชโดว์ก็ไม่เบลนด์ กองบนเปลือกตาเป็นก้อนๆ ลิปสติกก็ทาออกมาล้นปากฟีลเหมือนระบายสี กว่าจะปรับแก้ให้พอออกไปพบปะผู้คนได้ ก็ใช้เวลาอยู่เหมือนกัน #เรารู้เธอต้องเคยเป็น!แต่เพราะชั่วโมงบินยังน้อย เพิ่งแต่งหน้าเองมาไม่กี่ครั้ง บางทีก็สงสัยว่าทำไมลุคที่เราแต่งออกมา มองเผินๆ ก็ดูไม่ได้แย่มากนะ แต่ถ่ายรูปออกมาแล้วดูหน้าหมองๆ เทาๆ ชอบกล บางทีรองพื้นก็หลุดระหว่างวัน คนอื่นเขาทำยังไงให้เครื่องสำอางยังสวยเป๊ะอยู่บนหน้าทั้งวันกันนะ?บางทีอาจเป็นเพราะว่า เธอไม่ได้ทำขั้นตอนสำคัญบางอย่างของการแต่งหน้า มองว่าไม่จำเป็นขนาดนั้น แต่ถ้าจะแต่งหน้าให้เป๊ะทั้งวัน ไอเทมเหล่านี้คือตัวชี้เป็นชี้ตายเลยว่า ลุคนี้จะรอดหรือจะดับ!ลองไปเช็คว่าเธอเผลอทำพลาด 7 สิ่งเหล่านี้หรือไม่ ในบทความนี้กันเลยค่ะซิสส (*^.^*)

1. ไม่ทา 'ไพรเมอร์' เตรียมผิวก่อนแต่งหน้า ทารองพื้นไม่ค่อยติดผิว

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/b9c4baa46e8a4403b5ab717cfb586d4d.jpg

สาวๆ ที่เพิ่งเข้าวงการแต่งหน้าหลายคน เลือกจะ skip ขั้นตอนเตรียมผิวไปเลย บางทีครีมบำรุงยังไม่ทา เพราะไปให้ความสำคัญกับรองพื้นและคอนซีลเลอร์มากกว่า ทั้งที่จริงแล้วจะแต่งหน้าให้ผิวสวยได้ การปรับพื้นฐานสภาพผิวให้สม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญที่สุดแล้ว!


เธอจึงไม่ควรละเลยการใช้ ' ไพรเมอร์ ' เป็นขั้นตอนแรกของการเตรียมผิว เพราะถ้าผิวหน้าคือที่ดินผืนหนึ่ง ไพรเมอร์ก็เหมือนรถไถที่ช่วยเกลี่ยหน้าดินให้เรียบ พร้อมถมที่และปลูกบ้านให้สวยงามนั่นเองค่ะ

ข้อดีของไพรเมอร์อีกอย่างคือ ทำให้เครื่องสำอางเกาะติดทนบนผิวได้นานขึ้น และเวลาแต่งหน้าในขั้นตอนของรองพื้น คอนซีลเลอร์ บลัชออน คอนทัวร์ ก็จะเกลี่ยบนผิวได้เรียบเนียน ไม่มีแปรงสะดุดเอี๊ยดๆ บนผิวให้ขัดใจ


ยัง ยังไม่หมด ไพรเมอร์ยังทำหน้าที่ ' ล็อคเมคอัพให้อยู่กับที่ ' ไม่หลุดลอกตลอดวันอีกด้วย ดังนั้นอย่ามองว่ามันสิ้นเปลือง มีติดไว้ในกรุสักชิ้นเถอะ โดยเฉพาะสาวผิวมันที่แต่งหน้าแค่ 3-4 ชั่วโมงก็เยิ้มแล้ว ใช้ไพรเมอร์สิ ชีวิตเปลี่ยนชัวร์!

2. ไม่สครับปากก่อนทาลิปสติก ปากลอกเป็นแผ่น ตกสะเก็ดเป็นขุยๆ

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/2ef0a9b491fb3460ddbc1e542b6bd915.jpg

ริมฝีปากเป็นส่วนที่สำคัญอันดับต้นๆ ในการแต่งหน้ารองจากดวงตา เวลาคนแปลกหน้าจะมี First Impression ที่ดีหรือแย่กับเรา ไม่มองตาก็ปาก ถ้าปล่อยให้ผิวปากแห้งลอกแตกเป็นขุย หรือเป็นแผ่นๆ โดยไม่เคยผลัดเซลล์ผิวเก่าออกเลย เวลาทาลิปสติกก็จะตกร่อง ยิ่งเนื้อแมตต์จะเห็นเป็นช่องๆ บนปาก ดูเสียบุคลิกไปเลย

แม้จะใช้ลิปกลอสก็เถอะ ถ้าปากตกร่องเยอะๆ ก็จะเห็นเป็นสะเก็ดเปื้อนอยู่บนเนื้อกลอสเหมือนกัน ' ลิปสครับ ' จึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ ถ้าอยากแต่งปากให้ปัง!

สาวๆ ควรสครับปากอาทิตย์ละครั้งเป็นประจำ ( นับเป็นขั้นตอนหนึ่งของ Skincare Routine ไปเลย ) โดยใช้ลิปสครับ หรือทำเองแบบโฮมเมดคือวาสลีนผสมน้ำผึ้งและน้ำตาล นวดวนๆ ลงบนผิวริมฝีปากที่เปียก ทิ้งไว้ 5 นาทีแล้วล้างออก ควบคู่กับการใช้แปรงสีฟันแห้งๆ แปรงริมฝีปากเพื่อขจัดเซลล์ผิวเก่าที่แห้งลอก เพื่อเวลาแต่งหน้าจะได้ทาลิปสวยได้ทันที

เชื่อเถอะว่าปากที่ไม่เคยสครับเลยกับสครับเป็นประจำ เวลาทาลิปออกมาให้ฟีลลิ่งที่ต่างกันจริงๆ ไม่เชื่อต้องลองค่ะ

3. ใช้ฟองน้ำแต่งหน้า 'ถูปื้ดๆ' ทารองพื้นบนใบหน้า

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/4d84a3754bff27032353e4d570d8d3c9.jpg

สาวๆ หลายคนคงรู้จักอุปกรณ์ในการแต่งหน้า ที่เรียกว่าต้องมีติดกรุกันทุกบ้านอย่าง ' ฟองน้ำแต่งหน้า ' ที่โด่งดัง เพราะช่วยประหยัดเวลาลงรองพื้น เร็วกว่าใช้นิ้วเกลี่ยเยอะและได้ฟินิชชิ่งลุคที่สวยขึ้น


แต่ทั้งนี้ก็ต้องมีเทคนิคการลง ถ้าอยากได้ลุคผิวใสๆ เบาๆ แต่งเหมือนไม่แต่งแบบสาวเกาหลี หรือที่เรียกว่า airbrush effect จะมาถูปื๊ดๆ บนผิวหน้าเหมือนฟองน้ำล้างจานไม่ได้เด้อ ต้องใช้วิธี ' Stippling ' แทน

Stippling มาจากศัพท์เทคนิควาดภาพในวิชาศิลปะ คือการที่เราวาดภาพที่มีลักษณะเป็นจุดๆ ในที่นี้คือให้เธอใช้ฟองน้ำแตะรองพื้นพอประมาณ แล้วใช้วิธีแท็ปบนผิวหน้าเบาๆ เร็วๆ ให้ทั่วผิวหน้า

เหมือนใช้พู่กันแต้มจุดเร็วๆ ทั่วผืนผ้าใบให้ออกมาเป็นรูปภาพ หากมีส่วนไหนแท็ปไปไม่ถึงก็ค่อยเกลี่ยให้เข้ากันอีกที รับรองว่าลุคที่ออกมาผิวจะดูเบลอๆ ฟุ้งๆ เหมือนผิวดีตั้งแต่เกิดเลยล่ะค่ะ

4. ทารองพื้นผิดเบอร์ หน้าลอย หน้าเทาเป็นแบงค์พัน

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/512badb62670393e54abdea716beef68.jpg

โอยยย ข้อนี้ถือว่าพื้นฐานมากสำหรับคนหัดแต่งหน้า แต่บางคนแม้แต่งมาสักพักแล้วก็อาจยังเจอปัญหานี้อยู่ คือเลือกเบอร์รองพื้นที่กลมกลืนกับผิวหน้าตัวเองไม่เป็น!

เราจะขอเว้นเทรนด์หน้าขาวกว่าคอของสาวๆ เกาหลีไปก่อน อันนั้นคือเขาตั้งใจ แต่สำหรับมือใหม่ที่ต้องการความรู้ที่ถูกต้อง เธอต้องรู้จักคำว่าอันเดอร์โทนสีผิว และเลือกบริเวณผิวบนใบหน้าที่ทดลองเนื้อรองพื้นให้ได้ก่อนค่ะ

สาวๆ แต่ละคนมีอันเดอร์โทน หรือสีผิวด้านในที่แตกต่างกัน แยกหลักๆ ได้สองกลุ่มคือ Warm Tone ( ขาวอมเหลือง ) กับ Cool Tone ( ขาวอมชมพู ) ทดสอบได้ง่ายๆ ด้วยการดูเส้นเลือดบนข้อมือ ถ้าออกเขียวคือโทนอุ่น ถ้าออกม่วงคือโทนเย็น หรือถ้าสีปนๆ กันดูไม่ค่อยออกคือ Neutral ที่ใช้ได้ทั้งสองแบบ

จากนั้นเลือกรองพื้นที่เข้ากับอันเดอร์โทนตัวเอง เลือกเฉดสีที่ใกล้เคียงผิวหน้าที่สุด แล้วนำไปปาดทดสอบช่วงสันกราม ถ้ากลืนไปกับผิวจนแยกไม่ออกว่าปาดไปตรงไหน นั่นแหละรองพื้นสีที่ใช่ของเธอค่ะ ใช้ทริคนี้ไม่มีใครมาล้อว่าหน้าลอย หน้าเทาอีกแน่นอน

5. ลืมทารองพื้นลงมาที่ 'ส่วนลำคอ' #หน้าเป็นทูโทนซะงั้น

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/adb8d548dfae480ac4aa7a4f34fd9351.jpg

เชื่อว่าสาวๆ หลายคนตกม้าตายที่ข้อนี้ อาจจะเพราะลืมไปว่าเวลาแต่งหน้าบางลุคที่ต้องใส่เสื้อผ้าโชว์ผิว เช่น เกาะอก สายเดี่ยว เสื้อเปิดไหล่ ผิวบริเวณลำคอและไหปลาร้าก็เหมือนเป็นส่วนหนึ่งของผิวหน้า ต้องแต่งให้สวยกลมกลินไปด้วยกัน ไม่อย่างนั้นจะเกิดปรากฎการณ์ผิวทูโทน หรือหน้าลอยได้


เพราะการลงรองพื้นไม่ได้มีจุดสิ้นสุดที่ช่วงสันกรามเสมอไป ควรทาให้ครอบคลุมอย่างน้อยๆ ก็ถึงส่วนของ ' ลำคอ ' จะดีกว่า

เพื่อเชื่อมส่วนของใบหน้าและลำคอลงมาให้เป็นเนื้อเดียวกัน เราแนะนำให้ใช้ฟองน้ำแต่งหน้าเบลนด์ช่วงสันกรามให้ผิวเรียบเนียนก่อน แล้วค่อยๆ ใช้ฟองน้ำนั้นแท็ปไล่ลงมา่ถึงลำคอ แล้วค่อยใช้รองพื้นทาเกลี่ยอีกรอบ

พยายามอย่าให้มีจุดตัดระหว่างสันกรามกับคอชัดเจน เพราะหน้าจะดูไม่เป็นธรรมชาติได้ค่ะ

6. ไม่เขียนคิ้ว แต่งยังไงหน้าก็ไม่เป๊ะ

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/ffc0d652184f94cd49a6caffe275159f.jpg

เพราะคิ้วคือมงกุฎของใบหน้า แม้วลีนี้จะถูกพูดซ้ำมาเป็นร้อยๆ ครั้งแล้ว ก็ยังมีสาวมือใหม่หัดแต่งหน้ามากมายที่ละเลยการเขียนคิ้ว ปล่อยคิ้วโล้นออกจากบ้าน บอกตรงนี้เลยว่า ถึงแต่งตาเป๊ะ แก้มสวย ปากปัง แต่คิ้วไม่มีโครง ขนหรอมแหรม ยังไงลุคก็ไม่ปัง


คิ้วที่เหมาะกับรูปหน้าจะช่วยทำให้ใบหน้าดูชัดเจน มีมิติมากขึ้น และยังกำหนดอารมณ์ในวันนั้นๆ ได้ด้วยค่ะ ถ้าคิ้วโก่งก็จะดูดุ ถ้าคิ้วโค้งลงมาหน้าก็จะดูหวานขึ้น เป็นต้น

แม้ว่าเธอจะมีคิ้วเข้มตามธรรมชาติ ก็ไม่ควรละเลยขั้นตอนเขียนคิ้วอยู่ดี หากแต่งคิ้วให้สวย หน้าของเธอก็จะยิ่งสวยขึ้นไปอีก!


เริ่มจากกันคิ้วเอาขนที่ขึ้นรุงรังออกไปก่อน ใช้ดินสอเขียนคิ้วเติมส่วนหางหรือหัวคิ้วที่ขาดไป แล้วใช้มาสคาร่าคิ้วเนื้อเจลใส ปัดย้อนแนวขน เซ็ตให้ขนคิ้วฟูๆ แน่นๆ ผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดคือเมคอัพช่วงตา ทั้งอายแชโดว์ อายไลเนอร์และมาสคาร่าที่แต่งไว้จะโดดเด่นขึ้นไปด้วย เพราะไม่มีขนคิ้วรกมากวนใจบดบังสายตาค่ะ

7. แต่งหน้าใน 'แสงสลัว แสงส้ม' แทนแสงธรรมชาติ #หน้าหลอกมากแม่

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/1a9c78f5d52db1388110c174ecb93ce9.jpg

จะเอาแต่ความสะดวกเข้าว่าไม่ได้ คนแต่งหน้าด้วยแสงส้ม แสงขาวนีออนหลอกๆ ในที่ทำงานนี่ ถ่ายรูปแล้วดับ ออกไปข้างนอกเจอคนซุบซิบว่าลิเกหลงโรงกันมาเยอะแล้ว!

แสงปลอมเหล่านี้จะทำให้เวลาส่องกระจกหน้าดูซีดกว่าปกติ เวลาใช้เครื่องสำอางก็จะหนักมือ แต่งให้หน้าดูเข้มไปโดยไม่รู้ตัว บอกเลยว่าถ้าใช้แสงพวกนี้ในห้องแต่งหน้า ยังไงลุคก็ออกมาพัง ยิ่งลุคใสๆ แบบสาวเกาหลี ลืมไปได้เลยค่ะซิสขาา

ถ้าอยากแต่งหน้าให้ได้ผิวใสๆ บางๆ เหมือนอยู่กับธรรมชาติ ก็ต้องใช้แสงธรรมชาติ หรือถ้าจะแต่งลุคหวาน ลุคเซ็กซี่ ลุคแซ่บ แสงธรรมชาติก็ยังสำคัญอยู่ดี! เป็นแสงที่ ' จริง ' ที่สุด แต่งออกมายังไง ถ่ายรูปออกมาก็หน้าแบบนั้น คนเดินถนนเห็นหน้าแล้วไม่ตกใจ

แนะนำให้เป็นแสงช่วงเช้าๆ 7-8 โมง และช่วงบ่ายแก่ๆ 4-5 โมงเย็น จะได้แสงที่กำลังดี ละมุน เหมาะกับการแต่งหน้าในวันที่ต้องอยู่กลางแจ้งกับแสงแดดทั้งวัน เช่น งานรับปริญญา งานแต่งงานเอ้าท์ดอร์ หรืออีเวนต์ต่างๆ ในช่วงกลางวันค่ะ

รูปภาพ:https://data.whicdn.com/images/309253770/original.gif

-----------------------------------

เป็นยังไงกันบ้าง? เหล่ามือใหม่ทั้งหลาย มีไอเทมข้อไหนในบทความนี้ที่เธอเผลอหลงลืมไปบ้าง เราเชื่อว่าหลายๆ คนก็ไม่ได้ใช้พวกนี้ในขั้นตอนแต่งหน้าทั่วไปหรอก เพราะดูเผินๆ เหมือนไม่ได้มีผลอะไร ใช้ไม่ใช้ก็หน้าเหมือนเดิม แต่ที่จริงหากเปิดใจลองใช้ดู เช่นสครับปาก หรือเปลี่ยนวิธีลงรองพื้นด้วยฟองน้ำแต่งหน้า ผลลัพธ์บนผิวจะแตกต่างจากเดิมอย่างไม่น่าเชื่อ!การแต่งหน้าก็เหมือนศิลปะแขนงหนึ่ง บางทีเพิ่มไอเทมนี้นิด ปรับเทคนิคนี้หน่อย ก็ทำให้ลุคเมคอัพธรรมดาๆ หรือดูหมองคล้ำไม่สดใส ให้สวยปัง ถ่ายรูปแล้วมีออร่าแบบไม่ต้องติดฟิลเตอร์ได้ ลองเอาข้อผิดพลาดในบทความนี้ไปปรับกับ Makeup Routine ของตัวเองกันดูน้า วันนี้เราขอตัวลาไปก่อน พบกันใหม่คราวหน้า บ๊ายบายย

(´。• ω •。`) ♡