ที่ราบสูงอากิโยชิไดและถ้ำอากิโยชิโด เป็นสิ่งที่ทำให้เรารู้ว่าธรรมชาตินั้นสวยงามเหลือเกิน โดยเฉพาะหากคุณกำลังวางแผนจะไปเที่ยวทางตะวันตกเฉียงใต้ของญี่ปุ่น เราแนะนำให้ไปที่จังหวัดยามากุจิ ที่ที่คุณจะได้พบความสวยงามของญี่ปุ่นในมุมมองที่คุณไม่เคยเห็นมาก่อน

จาก 300 ล้านปีของการเปลี่ยนแปลงทางภูมิศาสตร์ เป็นวิวดุจเทพนิยาย
ที่ราบสูงอากิโยชิไดเกิดจากการก่อตัวของภูมิประเทศแบบคาร์สต์ เคยเป็นแนวปะการังในมหาสมุทร เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กหลายล้านตัวที่เกิดและตายอยู่ใต้น้ำ หลังจากนั้น 300 ล้านปี ปะการังก็ค่อยๆเปลี่ยนกลายเป็นหินปูน และหินปูนที่ละลายน้ำได้ก็ได้ถูกกำจัดออกไป จนกระทั่งเหลือเพียงถ้ำหินปูนที่อยู่ภายในถ้ำ และก้อนหินที่อยู่บนพื้น (ภูมิประเทศแบบคาร์สต์) ที่มีความสวยงาม และยังเป็นอุทยานแห่งชาติอีกด้วย ไม่ว่าจะมาเที่ยวฤดูไหนก็มีความสวยงามแตกต่างกันไป ทั้งหญ้าสีเขียว และสีน้ำตาล

บริเวณนี้เหมาะแก่การขับรถเล่น และผู้ที่ชื่นชอบการเดินทางบนท้องถนน ซึ่งวิธีการเที่ยวที่ดีที่สุดก็คือ การเช่ารถขับ

ลักษณะภูมิประเทศที่สวยงามสะกดสายตา

ก้อนหินที่แทรกตัวอยู่ในหญ้าก็คือ ซากหินปูนของปะการังโบราณ
ที่ราบสูงนั้นถูกปกคลุมด้วยทุ่งหญ้า โดยเราสามารถมองได้ไกลสุดลูกหูลูกตาโดยไม่มีต้นไม้สักต้นมาขวาง ในเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี ทุ่งหญ้าจะถูกเผาและเปลวไฟก็จะปลิวไปติดหญ้าแห้งเต็มไปหมด อากาศจะเต็มไปด้วยควัน และหลังจากเผา ต้นอ่อนต้นเล็กๆก็จะค่อยๆเติบโตขึ้น กลับมาเป็นทุ่งหญ้าสีเขียวอีกครั้ง

ลงไปในถ้ำใต้ดิน
ก่อนหน้านี้ที่เราได้บอกไปว่า มีหินปูนจากปะการังกระจัดกระจายอยู่เต็มพื้น บางส่วนมีขนาดใหญ่มาก และกระจายตัวอยู่เต็มพื้นที่ ซึ่งส่วนที่มีชื่อเสียงมากที่สุดก็คือ ถ้ำอากิโยชิได ถ้ำหินปูนที่มีขนาดใหญ่และยาวที่สุดของญี่ปุ่น

เที่ยวถ้ำ
ถ้ำเต็มไปด้วยหินงอก หินย้อย และหินรูปร่างแปลกตา บริเวณนี้ยังมีประวัติที่ให้คุณได้เรียนรู้เพิ่มขณะที่อยู่ใต้ดิน
น้ำที่ไหลผ่านถ้ำบางส่วน ยังคงทำหน้าที่แกะสลักหินปูนให้มีรูปทรงที่น่าสนใจ ซึ่งกว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ ต้องใช้เวลาถึง 300 ล้านปี

ถ้ำถูกประดับประดาด้วยหินที่มีความสวยงาม

ราวกับเป็นงานศิลปะจากธรรมชาติ
แม้ว่าที่นี่อาจไม่ใช่ภาพของสถานที่ท่องเที่ยวในญี่ปุ่นที่อยู่ในหัวของใครหลายคน แต่ต้องบอกเลยว่าญี่ปุ่นนั้นมีภูมิประเทศที่หลากหลาย
ติดตามเรื่องราวสนุกๆจากญี่ปุ่นกับ Japankuru ได้ทาง Facebook ทุกวัน!
Comments