โซมะ - เมืองแห่งปลาและม้า

รูปภาพ:https://img.japankuru.com/prg_img/img/img2020092416310860409400.jpg

สำหรับคนที่คุ้นกับชื่อโซมะ อาจนึกภาพถึงงานเทศกาลม้าและกองทัพอันยิ่งใหญ่ มากกว่าทะเลอันเงียบสงบ

รูปภาพ:https://img.japankuru.com/prg_img/img/img2020092416381181342400.jpg

หากพูดถึงเรื่องราวของม้านั้นต้องย้อนกลับไปในสมัยของตระกูลโซมะ ที่เคยปกครองภูมิภาคนี้ พวกเขาทำให้เทศกาลโซมะ โนมะโออิ ดำเนินมาได้จนถึงทุกวันนี้ รวมถึงขบวนม้าของนักรบและม้าป่า ที่เป็นของขวัญอันศักดิ์สิทธิ์แก่ศาลเจ้าชินโตเช่นกัน เรื่องราวทั้งหมดนี้ได้รับการบันทึกไว้เป็นอย่างดีในพิพิธภัณฑ์เมืองมินามิโซมะ แม้กระทั่งในปัจจุบันเราก็สามารถพบเห็นม้าได้ทั่วไปในโซมะ และครึ่งหนึ่งของม้า 250 ตัว ที่วิ่งในงานเทศกาลประจำปีนั้นก็อาศัยอยู่ในเมืองนี้ แม้ว่าโซมะจะเป็นเมืองเล็ก ๆ แต่ที่ Minamisoma Equestrian Park นั้น ก็เป็นหนึ่งในสนามขี่ม้าในร่มที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น

รูปภาพ:https://img.japankuru.com/prg_img/img/img2020092417330656694400.jpg

นอกเหนือจากช่วงเวลาของเทศกาลโซมะโนมะโออิ ในช่วงฤดูร้อน ผู้คนก็นิยมมาพักผ่อนในบริเวณใกล้กับทะเลและพื้นที่โดยรอบ บริเวณชายฝั่งทะเลของโซมะ มี Matsukawaura Prefectural Natural Park และ ทะเลสาบมัตสึคาวาอุระ (Matsukawaura Lagoon) ขนาดใหญ่ ที่เต็มไปด้วยเกาะเล็ก ๆ บรรยากาศสวยงามแปลกตา ไม่เหมือนใคร และมีแผ่นดินยื่นออกไปยังทะเล ที่เป็นหนึ่งใน 100 สถานที่ที่มีทัศนียภาพสวยที่สุดของญี่ปุ่น นอกจากนี้บริเวณชายฝั่ง ก็มักจะมีทั้งชาวบ้านและนักท่องเที่ยวมานั่งชมความสวยงามของทะเลสาบอันเงียบสงบ ตีกอล์ฟที่สนามกอล์ฟติดทะเล หรือนั่งตกปลา ทำความรู้จักกับสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลที่ซ่อนตัวอยู่

การประมงที่โซมะ - ตลาด การคัดแยก และการตรวจสอบความปลอดภัย

รูปภาพ:https://img.japankuru.com/prg_img/img/img2020092418054622444300.jpg

ทีม Japankuru ได้มุ่งหน้าไปยังตลาดปลาขายส่ง และจุดตรวจสอบความปลอดภัยในฮาราคามะ

( Harakama ) เมืองโซมะ เพื่อมาหาคำตอบเพิ่มเติมเกี่ยวกับการประมงของโซมะ และไปดูการทำงานของธุรกิจประมง เนื่องจากในบริเวณชายฝั่งฟุกุชิมะเป็นจุดที่กระแสน้ำโอยาชิโอะและกระแสน้ำคุโรชิโอะได้มาบรรจบกัน จึงทำให้อาหารทะเล หรือโจบังโมโนของที่นี่เป็นอาหารทะเลคุณภาพระดับพรีเมี่ยม โดยสามารถพบเห็นปลาและสัตว์น้ำอื่นๆในตลาดได้ประมาณ 200 ชนิด และในแต่ละวันพบได้ 30 - 40 ชนิด

รูปภาพ:https://img.japankuru.com/prg_img/img/img2020092419104526470100.jpg

เหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ และสึนามิในปี 2011 ได้คร่าชีวิตคนไปมากมาย  และเปลี่ยนแปลงชีวิตของผู้คนในฟุกุชิมะไปโดยสิ้นเชิง ในปัจจุบันหากเอ่ยถึง ฟุกุชิมะ หลายคนก็จะมีความกังวลเกี่ยวกับสารกัมมันตภาพรังสี และคิดว่าทั้งจังหวัดกลายเป็นพื้นที่ที่ว่างเปล่าและถูกทำลายไปหมด แต่สำหรับคนที่ได้ไปที่จังหวัดฟุกุชิมะ ก็จะเห็นได้ว่า ชาวบ้านที่นี่ทำงานกันอย่างหนักในการฟื้นฟูให้โซมะกลับมาเป็นเมืองที่เจริญรุ่งเรืองอีกครั้ง

ในส่วนของกระบวนการฟื้นฟูเมือง โดยเฉพาะในส่วนของการเกษตรนั้น มีการตรวจสอบความปลอดภัยอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งในปัจจุบันศูนย์ตรวจสอบอย่าง ศูนย์เทคโนโลยีการเกษตรฟุกุชิมะ (Fukushima Agricultural Technology Center) มีการวิเคราะห์น้ำทะเลและพื้นทะเลของชายฝั่งทะเลฟุกุชิมะ รวมถึงมีการตรวจสอบหารังสี เพื่อตรวจสอบความปลอดภัยแก่ประชาชนในเมืองโซมะ และสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในทะเล นอกเหนือจากนั้น ปลาโจบังโมโนของฟุกุชิมะทุกชนิดที่วางขายในตลาดจะต้องผ่านการทดสอบความปลอดภัยอย่างละเอียดที่ตลาดค้าส่งปลา

รูปภาพ:https://img.japankuru.com/prg_img/img/img2020092510162402580600.jpgรูปภาพ:https://img.japankuru.com/prg_img/img/img2020092510174637262600.jpg

เรือประมงที่นำปลามายังฮาคามะในทุก ๆ เช้านั้น มีทั้งเรือลำใหญ่และเรือลำเล็ก แต่เรือที่ลำใหญ่ที่สุดนั้นมีลูกเรือเพียง 5 - 6 คนเท่านั้น บางคนก็ออกหาปลาคนเดียวตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้น เพื่อออกไปหาปลาในทะเลสาบและทะเลนอกชายฝั่งของโซมะ แม้ว่าเรือที่ออกไปหาปลานั้นจะไม่ใช่เรือใหญ่ แต่เนื่องจากความอุดมสมบูรณ์ของท้องทะเล ทำให้ชาวประมงกลับขึ้นฝั่งมาพร้อมกับอาหารทะเลหลากชนิด เช่น หอยปีกนก ส่วนเรือใหญ่ก็มุ่งหน้าไปยังบริเวณน้ำลึก นำปลาที่อาศัยอยู่ในน้ำลึก อย่างเช่น ปูหิมะเมนูพิเศษของฟุกุชิมะกลับมา

รูปภาพ:https://img.japankuru.com/prg_img/img/img2020092510172752678700.jpg

ในช่วงเช้าเรือจะนำปลาที่จับมาขึ้นฝั่ง บรรดาปลาที่อยู่ในถังจะถูกจำแนกตามประเภทและขนาด พร้อมสำหรับการนำไปประมูล ซึ่งก่อนที่จะนำไปขายนั้นสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งเลยก็คือ ต้องมีการตรวจสอบความปลอดภัย ไม่ว่าวันนั้นจะมีปลาที่จับได้ถึง 40 ชนิด ก็ต้องมีการตรวจสอบให้แน่ใจทุกชนิด หรือแม้แต่วันที่สามารถจับปลาที่หายากมาได้เพียงตัวเดียว ก็ต้องนำไปตรวจสอบ ( ชาวประมงจะได้รับการชดเชยอย่างเป็นธรรม สำหรับปลาหายาก ) จากบันทึกการตรวจสอบระดับรังสี แสดงให้เห็นว่าปริมาณรังสีของปลาทุกชนิดนั้นอยู่ในระดับที่ต่ำมาหลายปีแล้ว แต่หากเกิดการตรวจพบตัวเลขที่สูงผิดปกติ ปลาสายพันธุ์นั้นทั้งหมดจะถูกเรียกคืน พร้อมกับนำไปตรวจสอบและวิจัยเพิ่มเติม จากนั้นนำไปเก็บไว้ให้ห่างไกลจากตลาด อย่างไรก็ตามเหตุการณ์แบบนี้ไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยนัก

รูปภาพ:https://img.japankuru.com/prg_img/img/img2020092510185706112700.jpgรูปภาพ:https://img.japankuru.com/prg_img/img/img2020092510191242549000.jpg

ในปัจจุบันธุรกิจการประมงในโซมะมีขนาดเล็กลงกว่าก่อนเกิดแผ่นดินไหวที่โทโฮคุในปี 2011 แต่ก็จะมีแผนการที่จะเพิ่มจำนวนขึ้นในอีกห้าปีข้างหน้า สมาคมประมงพื้นบ้านมีเป้าหมายที่จะขยายและทำธุรกิจของพวกเขาให้กลับไปเป็นเหมือนเดิมก่อนเกิดภัยพิบัติประมาณ 50% นอกจากนี้ยังมีแผนสำหรับอีก 10 ปี ที่จะสร้างเรือลำใหม่และหาชาวประมงเพิ่ม ซึ่งเด็กรุ่นใหม่ก็มีความสนใจเกี่ยวกับการประมงที่จะเกิดขึ้นในโซมะอีกด้วย

หลังจากที่เราหลังจากที่ตอนเช้าเราได้เห็นปลาถังใหญ่และถาดใส่ปลาตาเดียวถูกลำเลียงในตลาด เราก็พร้อมที่จะลองชิมแล้ว แต่ก่อนอื่นเราได้ขอคำแนะนำจากประธานสมาคมสหกรณ์ประมงโซมะ คุณ Kanji Tachiya “ สิ่งที่พิเศษสำหรับชายฝั่งแห่งนี้คือ ปลาที่หลากหลายชนิด และรสชาติของปลาที่ไม่เป็นสองรองใคร ” เขายังอธิบายเพิ่มว่า “ ด้วยรูปทรงที่ลาดเอียงของชายฝั่งบริเวณรอบๆนี้ เหมาะกับการเจริญเติบโตของปลาตาเดียว ซึ่งปลาตาเดียวของโซมะนั้นได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในปลาที่ดีที่สุดของญี่ปุ่น ”

ลองชิมปลาโจบังโมโนของโซมะ

รูปภาพ:https://img.japankuru.com/prg_img/img/img2020092510200632114800.jpg

เริ่มต้นกันด้วยอาหารกลางวันที่ ทาโกะฮาจิ ( Takohachi, タコ八 ) ร้านยอดนิยมของคนในพื้นที่ ที่เต็มไปด้วยอาหารอร่อย ทางร้านเสริฟอาหารชุดตามฤดูกาล ที่ทำจากวัตถุดิบที่หาได้ในท้องถิ่น ส่งตรงจากทะเลสาบมัตสึคาวะอุระและทะเลโดยรอบ ในวันที่เราไป เราขอเป็นเมนูตามใจเชฟ และบอกว่าขอเป็นเมนูที่ดีที่สุดของโซมะ ซึ่งก็ไม่ทำให้เราผิดหวังเลย

จานด้านหน้าและตรงกลางเป็นซาชิมิปลาตาเดียว ( ปลาฮิราเมะ ) เสิร์ฟมาพร้อมกับโชยุทามาซุซุที่หมักในฟุกุชิมะ เนื้อปลาสีขาวแต้มด้วยสีชมพูอ่อน ทั้งสดและนุ่ม แถมยังใสจนมองเห็นใบชิโสะที่วางอยู่ด้านล่าง ต่อมาเป็นเมนู เท็มปุระสาหร่ายอาโอโนริ ที่เติบโตและเก็บเกี่ยวในทะเลสาบมัตสึคาวาอุระ เป็นหนึ่งในเมนูพิเศษของโซมะ เมนูข้าวหน้าหอยปีกนก ( ฮอกกิเมชิ, ホッキ飯 ) อีกหนึ่งวัตถุดิบที่มีชื่อเสียงของโซมะ กล่องข้าวที่อัดแน่นไปด้วยหอยปีกนก และข้าวที่ปรุงรสมาอย่างดี เป็นเมนูที่เราไม่สามารถหยุดกินได้ จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมข้าวหน้าหอยปีกนกถึงเป็นเมนูขึ้นชื่อของโซมะ และปิดท้ายกันที่ปลาตาเดียวต้ม เนื้อปลานุ่ม ๆ น้ำซุปรสหวาน-เค็มกลมกล่อม หลังจากได้ลองชิมอาหารทั้งหมดแล้ว เราก็เข้าใจมากขึ้นว่าทำไมผู้คนในชุมชนริมชายฝั่งฟุกุชิมะ จึงอยากให้คนได้รู้จักกับอาหารทะเลที่สดใหม่และรสชาติเยี่ยมของเขา

รูปภาพ:https://img.japankuru.com/prg_img/img/img2020092510210580849600.jpgรูปภาพ:https://img.japankuru.com/prg_img/img/img2020092510212379876500.jpg

โซมะในวันข้างหน้า

รูปภาพ:https://img.japankuru.com/prg_img/img/img2020092510562843179100.jpg

โซมะ เมืองที่เต็มไปด้วยธรรมชาติ ตั้งแต่สาหร่ายที่ขึ้นเฉพาะในทะเลสาบมัตสึคาวาอุระ ไปจนถึงโจบังโมโน สิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลจำนวนมาก พวกเขามีแผนที่จะให้คนทั้งโลกได้รู้จัก ซึ่งในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้ชาวประมงรวมถึงทุกคนที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจประมงในฟุกุชิมะจะต้องทำงานอย่างหนัก ควบคู่กับการการทดสอบและการวิจัยด้านความปลอดภัย ซึ่งทีม Japankuru เองก็รอคอยที่จะได้เห็นผลตอบรับที่ดีเยี่ยมนี้ด้วยเช่นกัน

สามารถติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับอาหารทะเลของฟุกุชิมะ และข้อมูลอื่นเกี่ยวกับฟุกุชิมะ ทั้งการตรวจสอบน้ำทะเลและการทดสอบความปลอดภัยของฟุกุชิมะเพิ่มเติมได้เร็ว ๆ นี้ และหากต้องการข้อมูลอัปเดตเกี่ยวกับญี่ปุ่นก็สามารถติดตามเราได้ทาง

http://facebook.com/japankuruthai