รูปภาพ:https://i.pinimg.com/originals/d6/05/2c/d6052c613c28f7d15016bdb25bb60f26.gif

ฮัลโหลค่าาา สาวๆSistaCafeที่' อยากผอมซะที ( ว้อย ) 'ทั้งหลาย ❤ถ้าความอ้วนคือคำสาป ความผอม หุ่นเป๊ะก็คงเป็นพรชั้นสูงจากสวรรค์ที่ใครๆ ก็อยากได้มาครอบครอง ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ว่าถ้ามีรูปร่างสมส่วน หรือค่อนไปทางผอมหน่อย โอกาสก้าวหน้าในอาชีพการงาน หรือการถูกปฏิบัติจากคนในสังคมก็ย่อมมีเยอะกว่าคนท้วมหรืออวบอ้วนและยังเสี่ยงกับโรคทางสุขภาพ เช่น โรคอ้วน โรคไขข้อเสื่อม โรคเบาหวานน้อยกว่า จึงไม่แปลกที่ผู้หญิงมากมายสรรหาวิธีทุกทางที่จะลดน้ำหนัก ไดเอท ยัดตัวเองลงไปในเสื้อผ้าไซส์ S ให้ได้!!แต่สาวๆ หลายคนก็ไปไม่ถึงเป้าหมาย น้ำหนักไม่ลงสักที เผลอๆ อ้วนขึ้นด้วยซ้ำ ทั้งที่คิดว่าตั้งใจคุมอาหาร ออกกำลังกายเป็นประจำอย่างเคร่งครัดแล้วนะ มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? บางทีคีย์เวิร์ดที่แอบซ่อนอยู่อาจเป็นพฤติกรรมเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตประจำวันที่เผลอทำโดยไม่รู้ตัวก็ได้เรามาหาคำตอบไปพร้อมกันกับ' 7 ไลฟ์สไตล์ทั่วไปที่ส่งผลกับน้ำหนัก อ้วนขึ้น พุงปลิ้นไม่รู้ตัว 'ในบทความนี้ดีกว่า ว่าเผลอทำข้อไหนไปแล้วบ้าง??

1. ทำงาน/ดูหนัง/เล่นโซเชียลจนดึกดื่น ตาจะปิดก็ยังไม่นอน!

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/a241fa559b14abb29431fee3c4242e4e.jpg

ในยุคนี้โดยเฉพาะในสังคมคนเมือง การนอนดึกเป็นเรื่องปกติไปแล้ว เพราะบางทีฝนตกรถติด กว่าจะถึงบ้านก็สามสี่ทุ่ม อาบน้ำ เปลี่ยนชุด เคลียร์งานค้าง ตามข่าวสาร ดูหนังที่ดองไว้ เวลาก็ล่วงเลยไปหลังเที่ยงคืน ตีหนึ่ง บางคนก็ติดลมทำงานหรือดูซีรีส์ยาวๆ จนถึงเช้า


ถ้าคนที่ work from home ตื่นสายได้ยังพอว่า แต่บางคนก็ต้องตื่นเช้าไปทำงานข้างนอก วันๆ นึงนอนไม่ถึง 6 ชั่วโมง แบบนี้น้ำหนักจะไม่ลงเลยก็ไม่แปลกใจ!

มีงานวิจัยค้นพบว่า คนที่อยู่ในช่วงไดเอท ถ้านอนน้อยกว่า 5 ชั่วโมง จะน้ำหนักขึ้นได้ง่ายกว่าคนที่ได้นอน 7-8 ชั่วโมงถึง 2.5 เท่าเลยทีเดียว! นั่นเพราะเมื่ออดนอนหรือนอนไม่พอ ร่างกายจะหลั่งทั้งสารความเครียด ฮอร์โมนหิวออกมามากเกินจำเป็น ทำให้เธอหิวจุกจิก กินเท่าไหร่ก็ไม่พอ และยังทำให้ระบบเมตาบอลิซึ่มผิดปกติอีกด้วย

ดังนั้นเหล่านกฮูกทั้งหลาย เมื่ออ่านจบแล้วควรปรับเวลาชีวิตตัวเองใหม่ นอนเร็วขึ้น แอบกระซิบว่ากินโปรตีนมื้อเล็กๆ ก่อนนอน จะช่วยให้ร่างกายเผาผลาญได้ดีขึ้นด้วยนะคะ ><

2. ตั้งใจ ' อดอาหาร ' อยู่บ่อยๆ มื้อไหนไม่หิวไส้ขาด ก็จะไม่แตะเลย

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/7d3201d4525cfad5c7ef01834bbd70de.jpg

พฤติกรรมหนึ่งที่ถ้าพูดแรงๆ ก็คือ ' ค่อนข้างสิ้นคิด ' ของคนที่กำลังลดความอ้วนก็คือ อดอาหาร กินให้น้อยที่สุด ถ้าไม่หิวจนจะเป็นลมก็ไม่ยอมแตะอะไรเลย! ลอกมาจากสูตรไดเอท 3 วัน 7 วันในอินเตอร์เน็ตที่ใครเขียนขึ้นมาก็ไม่รู้ แต่เชื่อเข้าไปแล้วเต็มเปา


มื้อเช้ากินโยเกิร์ต มื้อเที่ยงกินสลัด มื้อเย็นกินแอปเปิ้ล 1 ลูก หรือบางคนก็ตั้งใจข้ามมื้อเช้าไปเลย เพราะคิดว่ายิ่งกินหลายมื้อ = ยิ่งอ้วน สุดท้ายก็ไปตบะแตกตอนเย็น แล้วมาถามว่าทำไมไม่ผอม? #กุมขมับแล้วนะ

การอดอาหารในระยะแรกน้ำหนักอาจลดได้เยอะจริง แต่ทำไปนานๆ ระบบเผาผลาญของเธอจะแย่ลงเรื่อยๆ ที่น่ากลัวคือจากที่เคยทนหิวได้ อดได้ ก็จะเริ่มหิวขึ้นมา และหิวมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะร่างกายเข้าสู่โหมดจำศีลและพร้อมจะกักเก็บไขมันให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้

นอกจากจะกินเยอะขึ้นในมื้อถัดไปแล้ว ก็จะเผาออกได้ยากขึ้นอีกด้วย พังทั้งขึ้นทั้งล่อง!

ควรกินให้ครบ 3 มื้อ เน้นมื้อเช้าเป็นโปรตีนและไขมันดี ถ้าหิวระหว่างวันก็กินถั่ว ธัญพืชหรือไฟเบอร์ จะกระตุ้นให้ร่างกายเผาผลาญและใช้ไขมันได้ดีที่สุด

3. กินอาหารแบบ ' รีบเร่ง ' ยัดยังไงก็ได้ให้เร็วที่สุด

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/b1c29fbc78e528b26f28e857018fa855.jpg

ยุคนี้อะไรๆ ก็ต้องรีบเร่ง ประหยัดเวลา เพื่อเอาเวลาในแต่ละวันไปใช้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด หวยจึงมาลงที่ ' การกินอาหาร ' ที่หลายคนมองว่าเป็นเรื่องเสียเวลากับการต้องมานั่งเคี้ยวให้ละเอียดแล้วกลืน


แค่เคี้ยวพอหยาบๆ ให้ไม่ติดคอก็พอ และกินให้เร็วที่สุด 5 นาที 10 นาทีต้องหมดจานแล้ว แต่เอ๊ะ ทำไมจานเดียวไม่อิ่มนะ เบิ้ลสักหน่อยแล้วกัน กินไปกินมาได้แคลอรี่คูณสองซะงั้นอะ!

สมองของคนเราจะมีการรับรู้จากกระเพาะว่า ' อิ่มแล้ว ' ต้องใช้เวลาถึง 20 นาที ไม่ใช่การเปิดปิดสวิตช์ไฟที่จะรู้ได้ในเสี้ยววิ ดังนั้นกินเร็วไปก็ไม่รู้สึกว่าอิ่มอยู่ดี สุดท้ายก็ต้องกินเพิ่มจนน้ำหนักพุ่ง แต่จะให้เลิกวิถีชีวิตรีบเร่งก็ทำไม่ได้ง่ายๆ งั้นลองใช้ทริคนี้ดู!

ก่อนกินข้าว 15-20 นาที ดื่มน้ำเปล่าเพียวๆ ไปเลยสองแก้ว ( ไม่ต้องเคี้ยวน้า จะอ้างว่าเสียเวลาไม่ได้แล้วเด้อ ) เพื่อรองท้องให้พื้นที่กระเพาะมีที่ว่างน้อยลง จากนั้นจึงกินอาหารมื้อหลัก พยายามเคี้ยวให้ช้าและละเอียดที่สุด ถ้ามีเวลาจำกัด กินน้อยเท่าที่เคี้ยวได้ ยังดีกว่ายัดเข้าไปทั้งจานแบบไม่เคี้ยว ถ้าอาหารนั้นย่อยยาก ท้องอืด ท้องเฟ้อ กรดไหลย้อนมาเยือนแน่นอน!

4. ไม่ค่อยพก ' น้ำเปล่า ' ไปไหนมาไหนด้วย

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/07a97f433730d027c597458d92840798.jpg

สาวๆ หลายคนมักละเลยคุณงามความดีของ ' น้ำเปล่า ' ไป บางคนอ้างไม่ค่อยมีเวลาเข้าห้องน้ำ จึงไม่ยอมดื่มน้ำเลย วันนึงดื่มน้ำน้อยมากๆ เข้าห้องน้ำทีสีปัสสาวะฟ้องว่าร่างกายกำลังจะแย่แล้ว!


นอกจากอาการปากแห้ง คอแห้ง มึนหัวแล้ว คนไม่ค่อยดื่มน้ำมักหิวจุกจิก หิวไร้สาระ อยากกินนั่นนี่ไปหมด ถ้าห้ามใจตัวเองไม่อยู่ก็อาจกินเกินไปหลายร้อยหลายพันแคลอรี่ ทั้งที่ร่างกายแค่ต้องการน้ำเปล่าเท่านั้นเอง -_-

แม้จะไม่ได้ทำงานนั่งโต๊ะ ต้องออกภาคสนามตลอด ก็อยากให้สาวๆ ทุกคนพกน้ำดื่มติดตัว ติดรถไว้เสมอ ไม่ต้องดื่มทีเป็นลิตรก็ได้ ใช้วิธีจิบเรื่อยๆ ทั้งวันก็พอ แต่ถ้าเป็นสาวออฟฟิศอยู่แล้ว ก็หาขวดน้ำลิตรมาตั้งไว้ข้างโต๊ะโลด!


เมื่อร่างกายได้รับน้ำเพียงพอ ระบบข้างในก็สมดุล ไม่หลั่งฮอร์โมนหิวหรือฮอร์โมนเครียดที่ทำให้หิว กินแหลกโดยไม่จำเป็น อีกทั้งไม่มีพลังงาน 0 แคลอรี่ ดื่มเท่าไหร่ก็ได้ แถมส่งผลดีกับสุขภาพร่างกาย ผิวชุ่มชื้นขึ้นอีกด้วย

5. เวลาไปกินข้างนอกกับเพื่อน มักจะได้สั่ง ' เป็นคนท้ายๆ ' เสมอ

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/de812ba404ba60c33f42cc8f548a90d3.jpg

มันก็ต้องมีบ้างแหละ โมเมนต์เพื่อนชวนไปแฮงเอาต์สุดสัปดาห์ ที่ทำงานพาไปกินเลี้ยง หรือรุ่นพี่นัดคุยงาน ซึ่งการมากันเป็นกลุ่มในร้านอาหาร บางทีเธอก็ไม่ได้เป็นคนสั่งก่อนทุกครั้ง ต้องให้เจ้ามือหรือคนที่แก่กว่าสั่งก่อนเป็นธรรมเนียม หรือบางทียังหาเมนูไม่ได้ก็ให้เพื่อนสั่งก่อน

ตัวเธอเลยได้สั่งเป็นคนท้ายๆ อยู่บ่อยๆ พอขี้เกียจคิดเมนูก็ลอกของเพื่อนซะเลย ซึ่งเป็นอาหารที่แคลอรี่สูงมากเวอร์! หรือถ้าสั่งแบบรวมๆ มาแล้วหารกัน ก็จะเลือกอะไรไม่ค่อยได้อีก


ถ้าสาวๆ มีไลฟ์สไตล์แบบนี้หลายครั้ง จะอ้วนขึ้นก็เรื่องปกติ เพราะการนัดกินเลี้ยงส่วนใหญ่ก็มักเป็นช่วงเย็นหรือกลางคืนอยู่แล้ว กินเสร็จก็ดื่มแอลกอฮอล์ต่อ หรือกลับบ้านนอนเลย จะมีสักกี่คนที่กินเสร็จแล้วไปออกกำลังกายต่อกลางดึก??


ดังนั้นแก้ปัญหาตั้งแต่ต้น ด้วยการสั่งน้ำเปล่า หรือเมนูแคลอรี่ต่ำในร้านมากินแทน หรือถ้ามากับเจ้านาย สั่งแยกก็กลัวจะเสียมารยาท ก็กินไม่กี่คำก็พอ บอกว่าอิ่มแล้ว ไม่ค่อยสบาย อะไรก็ว่าไป แล้วดื่มน้ำเปล่าเติมเข้าไปให้อิ่มค่ะ

6. ซื้อฟาสต์ฟู้ดทีไร ต้องเพิ่มเงินอัปไซส์ตลอด เพราะคุ้มกว่า!

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/0ad9b6002f80eaeb409e5a6a37396c39.jpg

รู้แหละว่ากินฟาสต์ฟู้ดไม่ดีกับการไดเอท แต่บางวันก็อยากปลดปล่อยบ้าง จะเสียเงินซื้อกินทั้งที ความขี้งกก็ไม่เข้าใครออกใคร โปรโมชันตามร้านแฮมเบอร์เกอร์ ไก่ทอดทั้งหลายก็ยั่วยวนใจซะเหลือเกิน สั่งเซตนึงร้อยกว่าบาท แต่ถ้าเพิ่มอีกไม่กี่บาทจะ ' อัปไซส์ ' ทั้งเฟรนช์ฟรายส์และน้ำอัดลม ยิ่งเพิ่มเงินเยอะก็ยิ่งได้แบบจัมโบ้ ตอนหิวก็หน้ามืดไปหมด


พอพนักงานพูดกล่อมหน่อย ก็เคลิ้มสั่งมาแบบขนาดใหญ่สุดเลยจ้า พอได้อาหารถึงได้สติว่าไม่ได้อยากกินเยอะขนาดนั้น แต่ก็ต้องยัดให้หมดเพราะกลัวเสียของ รู้ตัวอีกทีกางเกงตัวเดิมที่เคยใส่ได้ก็แน่นเปรี๊ยะแล้ว!

ถ้าไม่อยากวนเวียนอยู่ในลูปอ้วนๆ นี้อีกต่อไป ต้องใจแข็ง! ต้องกล้าปฏิเสธ! สั่งแค่เซ็ตธรรมดาแค่นั้นจบ ไม่เพิ่มเงิน ไม่เพิ่มขนาดใดๆ ทั้งสิ้น กินแล้วต้องจบในมื้อนั้น ไม่ต้องคิดเผื่อว่าจะเอาไปกินต่อที่บ้าน


เพราะเอาจริงๆ ของพวกนี้ถ้าไม่กินตอนทอดใหม่ๆ ก็จะเป็นขนมปังหรือมันฝรั่งเหี่ยวๆ แข็งๆ สุดท้ายก็ต้องเททิ้งอยู่ดี ไม่ต้องสั่งมาเป็นขยะแต่แรกจะดีกว่านะ

7. คาร์โบไฮเดรตในมื้ออาหาร ทั้งหมดคือ ' แป้งขาว/ขนมปังขาว '

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/a7eb4a52d6c74d3f5b88a1962065b1fc.jpg

จะลดความอ้วนสำเร็จหรือไม่นั้น ' ประเภทและปริมาณอาหารที่กิน ' เป็นปัจจัยหลักที่สำคัญ ถ้าเธอกินแต่อาหารขยะ แป้ง ไขมันพูนๆ ถึงจะออกกำลังกายเอาเป็นเอาตายยังไง อย่างดีสุดหุ่นก็คงที่ แต่จะไม่ลีน กล้ามเนื้อสวยเหมือนคนกินอาหารที่มีประโยชน์อย่างแน่นอน


ลองสังเกตมื้ออาหารของตัวเองในทุกวันดูว่า ยังกิน ' ข้าวขาว / ขนมปังขาว ' เป็นหลักอยู่หรือไม่ เพราะนั่นอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอไม่ผอมลงเสียที!

เพราะข้าวและขนมปังเหล่านี้ถือเป็น ' คาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยว ' ที่นอกจากให้พลังงาน ดูดซึมไวแล้วก็ไม่ค่อยมีสารอาหารอื่นๆ มากนัก หากกินเยอะเกินไป ร่างกายก็จะย่อยเป็นน้ำตาลและไขมัน สะสมตามอวัยวะส่วนต่างๆ ของร่างกาย ทั้งน้ำหนักขึ้น และเสี่ยงกับโรคภัยทางสุขภาพมากมาย เช่น เบาหวาน ไขมันในเลือด ความดัน โรคหัวใจ เป็นต้น

ดังนั้นใครที่เป็นสาวกกินแป้ง ไม่จำเป็นต้องงดไปเลย แต่เปลี่ยนจากเชิงเดี่ยวเป็นเชิงซ้อนแทน เช่น ข้าวกล้อง โฮลเกรน ไรซ์เบอร์รี่ ควบคู่กับโปรตีน ไฟเบอร์ และผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ เท่านี้ความผอมก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/originals/8b/ae/2e/8bae2e43ef23cedcdb9b78ea56cebdf3.gif

-------------------------------------

ทั้ง 7 ไลฟ์สไตล์ของคนอยากผอม แต่ดันสกัดกั้นหุ่นเป๊ะ น้ำหนักไม่ขยับหรือโชคร้ายก็เด้งพรวดจนซิปกางเกงต้องกราบอ้อนวอนขอชีวิต ก็จะมีประมาณนี้! ดูเล็กๆ น้อยๆ มากเลยเนอะ ถ้าไม่ใช่สายเฮลทีหรือไดเอทที่เคร่งจริงๆ ก็คงมองผ่านไป ไม่ได้มองว่ามันเป็นปัญหา แต่เรื่องที่ดูเล็ก เมื่อสะสมรวมกันมากๆ ก็เป็นเรื่องใหญ่ที่ส่งผลกับระบบร่างกาย ทำให้หุ่นไม่สวยเพรียวอย่างที่คิดไว้ได้เช่นกัน ต้องลด ละ เลิกให้ได้!

คนที่อยากลดน้ำหนักให้มีประสิทธิภาพ ไม่ต้องพึ่งสูตรพิสดารหรืออดข้าวให้หิวตาลายเลย แค่ใช้ชีวิตปกติแบบคนรักสุขภาพ กินอาหารเน้นโปรตีน ไฟเบอร์ คาร์บเชิงซ้อน และกินอย่างพอดีไม่ยัดแหลก นอนแต่หัวค่ำให้เต็มอิ่ม ออกกำลังกายบ้างแบบไม่ต้องหักโหม, ดื่มน้ำเปล่าเยอะๆ ที่สำคัญต้องมีวินัย! เท่านี้ก็ได้ใส่เสื้อผ้าโชว์หุ่นได้อย่างมั่นใจแล้วละค่ะ เป็นกำลังใจให้ซิสที่อยากผอมทุกคนน้า  (´ ε ` )♡