รูปภาพ:https://pa1.narvii.com/7095/01dce1c70287d37cd1e0a1565a69eb6349b211b8r1-972-548_hq.gif

หนีห่าว! สาวๆSistaCafeที่น่ารักทุกคนเลยย °˖✧◝(⁰▿⁰)◜✧˖°อีกไม่กี่วันแล้ว ที่เราจะได้อวยพรสาวๆ ให้' เฮงเฮงเฮง! 'ต้อนรับเทศกาลตรุษจีนปี 2564 ที่กำลังจะมาถึงนี้! แม้ยังอยู่ในสถานการณ์โควิดที่ไม่น่าไว้วางใจ แต่เราก็เห็นหลายๆ สถานที่เริ่มตกแต่ง ประดับประดาร้านค้าและทำแพ็กเกจไอเทมต่างๆ ด้วยโทนสีแดงซึ่งความสุขของสาวซิสหลายคนก็คงหนีไม่พ้นได้แต่งชุดกี่เพ้าไปเที่ยว ได้กลับไปรวมญาติ เจอครอบครัวที่นานๆ จะได้เจอกันพร้อมหน้า กินขนมแสนอร่อย และที่สำคัญใครเป็นคนไทยเชื้อสายจีน บางบ้านก็จะได้' อั่งเปา 'ซองสีแดงแน่นๆ เน้นๆ รับทรัพย์ไปซื้อของให้ฟินกันไป เรียกว่าเป็นเทศกาลแห่งความสุขที่แท้จริง  \(٥⁀▽⁀ )/แต่ก่อนที่จะไปสนุกสนาน สังสรรค์กับเทศกาลมงคลนี้ เราอยากจะพาสาวซิสไปทำความรู้จักตรุษจีนให้มากขึ้น ว่านอกจากอั่งเปา กี่เพ้า ขนมเข่ง เธอรู้ความเป็นมาของประเพณีนี้มากน้อยแค่ไหน ลองมาอ่าน' 7 เกร็ดน่ารู้ของประวัติเทศกาลตรุษจีน 'ในบทความนี้ แม้จะไม่จำเป็นต้องอ่านเอาไปสอบ แต่มีความรู้รอบตัวไว้คุยเล่นกับเพื่อนๆ ก็ดูเจ๋งดีเหมือนกันนะมาดูกันว่ามีอะไรที่เธออาจจะยังไม่รู้บ้าง? =w=b

1. คนจีนท้องถิ่นไม่ได้เรียกว่า ' ปีใหม่จีน ' แต่เรียกว่า ' ปีใหม่ทางจันทรคติ '

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/cea30e3a957ebe3253a31eacb5ffd4f8.jpg

สาวซิสในไทยอาจคุ้นชื่อเทศกาลนี้กับคำว่า ' ตรุษจีน ' หรือ Chinese New Year เท่านั้น แต่ที่จริงแล้วคนจีนท้องถิ่นจะเรียกเทศกาลนี้ว่า chunjie ( 春节 ) หรือเทศกาลฤดูใบไม้ผลิ นั่นเพราะช่วงกุมภาพันธ์ในจีนยังเป็นฤดูหนาว และเทศกาลนี้จะเริ่มต้นในวันสิ้นสุดของวันที่อากาศหนาว หรือ ' เริ่มฤดูใบไม้ผลิอย่างเป็นทางการ ' นั่นเอง

ซึ่งสัญลักษณ์ของฤดูนี้ก็คือการหว่านพืชและเก็บเกี่ยว อุดมสมบูรณ์มั่งคั่ง การเริ่มต้นใหม่ที่สดใส ใครที่กำลังสิ้นหวังหรือท้อแท้กับชีวิตก็สามารถใช้ช่วงเวลานี้เพื่อปลุกกำลังใจตัวเอง เพื่อยืนขึ้นให้ได้อีกครั้งค่ะ

บางคนจะเรียกเทศกาลนี้ว่า Nónglì xīnnián ( 农历新年 ) หรือปีใหม่ทางจันทรคติเพราะบางประเทศเช่นเกาหลีเหนือ, เกาหลีใต้และเวียดนามก็เฉลิมฉลองตรุษจีนด้วยเช่นกัน ซึ่งตรงตามปฏิทินจันทรคติของประเทศเหล่านั้นพอดี

2. ตรุษจีนในแต่ละปี วันที่ฉลองจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/a3d40e9e8153cd83ce22da23835c3eef.jpg

หลายคนอาจจะไม่ทันสังเกตว่า ตรุษจีนเป็นเทศกาลที่ไม่ได้มีวันกำหนดแน่นอนในทุกปี ไม่เหมือนวาเลนไทน์ที่ต้องทุก 14 กุมภา หรือปีใหม่ที่ต้องทุก 1 มกรา เพราะจะอิงตามปฏิทินจันทรคติเป็นหลัก ซึ่งจะหมุนเวียนเปลี่ยนไปเรื่อยๆ


แต่จะมีช่วงเวลากว้างๆ ที่แน่นอนคือ 21 มกราคม ถึง 20 กุมภาพันธ์ สำหรับปีนี้ ( 2564 หรือสากลคือ 2021 ) วันแรกของตรุษจีนคือ' วันศุกร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ 'ค่ะ

แม้การนับวันเดือนปีแบบสากลจะทำกันทั่วโลกแล้วก็ตาม แต่ปฏิทินจันทรคติ ( lunar calendar ) ก็ยังใช้กันแพร่หลายและสำคัญมากในประเทศจีน เพราะวันหยุดราชการหลายวันในจีนก็ยึดถามจันทรคติกันเป็นหลัก คนจีนหลายๆ คนก็ยังคำนวณอายุและวันเกิดของตัวเองตามปฏิทินจีน ไม่ใช่ปฏิทินฝรั่งแบบที่เราๆ ใช้กันด้วยละค่ะ( ใครตามไอดอลเกาหลีอยู่น่าจะเก็ท เพราะที่เกาหลีก็ใช้หลักการนับอายุ +1 ในทุกปีใหม่ด้วยเช่นกัน คนจีนและคนเกาหลีจึงจะมีอายุในประเทศเยอะกว่าสากล 1 ปีนั่นเอง )

3. เป็นเทศกาลที่ขอพรพระเจ้า บรรพบุรุษ และปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/29896461fb9851302fbad99e76562b1b.jpg

แต่เดิม เทศกาลตรุษจีนเป็นช่วงที่เอาไว้ภาวนาต่อพระเจ้าทั้งหลาย เพื่อให้เมล็ดพืชที่หว่านพืชผลไว้ผลิดอกออกผล เจริญเติบโตอย่างงดงาม ได้เก็บเกี่ยวผลิตผลที่คุณภาพดีและสมบูรณ์ ในสังคมเกษตรกรนั้น การเก็บเกี่ยวคือทุกสิ่งอย่าง จะจนหรือรวยก็อยู่ที่พืชผลในฤดูนั้นนั่นแหละ


จึงต้องมีการสวดภาวนา ขอพรกับ ' บรรพบุรุษ ' ที่นับถือเยี่ยงพระเจ้านั่นเอง ( ถ้าใครอยากหาข้อมูลเพิ่มเติม แนะนำให้ไปหาการ์ตูนเรื่อง ' มู่หลาน ' มาดูนะคะ )

นอกจากเรื่องพระเจ้าแล้ว มีอีกหนึ่งตำนานที่บอกว่าในทุกๆ วันก่อนวันตรุษจีนวันแรก หรือ new year's eve จะมีอสุรกายชื่อ Nian ( 年 ) ลงมาที่แผ่นดินโลก คนส่วนใหญ่จะหลบอยู่ในบ้านไม่ให้อสุรกายตนนั้นเห็น แต่มีเด็กชายคนหนึ่งกล้าหาญพอที่จะต่อสู้และชนะได้ด้วยการใช้ ' ดอกไม้ไฟ ' จนมันหนีไปและไม่กลับมาอีกหลังจากนั้นดอกไม้ไฟจึงถูกจุดขึ้นในช่วงเที่ยงคืนของวันแรก และช่วงเช้าของวันต่อมาของทุกปี เพื่อปัดเป่าอสุรกาย สิ่งชั่วร้ายให้ออกไป และเรียกโชคดีเข้ามาแทนค่ะ

4. มีบริการ ' เช่าแฟน ' สำหรับคนโสด ไปทักทายพ่อแม่ด้วยนะ!

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/03742e5cbf0f36196c2393e6f3342391.jpg

อย่างที่หลายคนพอรู้กันว่า ประเทศจีนค่อนข้างให้ความสำคัญกับการแต่งงานและมีลูกมากๆ ต้องมีทายาทสืบสกุลเอยอะไรเอย คนจีนจะแต่งงานกันค่อนข้างเร็ว เรียนจบไม่กี่ปีก็จะเริ่มจริงจังกับการสร้างเนื้อสร้างตัว มีลูกมีภรรยากันแล้ว


สังคมคนไทยเชื้อสายจีน คงเข้าใจกับการรวมญาติที ญาติห่างๆ ก็จะชอบถามว่า " มีแฟนหรือยัง? แฟนทำงานอะไร? เมื่อไหร่จะแต่งงาน? จะมีลูกกี่คน? " ต่อท้ายด้วยคำแนะนำสไตล์ญาติผู้ใหญ่ ( ที่บางทีเราก็ไม่ได้อยากได้... )

ในประเทศจีน จึงมีหนุ่มสาวชาวจีนที่ยังโสดมากมายตัดสินใจ ' เช่าแฟนชั่วคราว ' เป็นคู่รักหลอกๆ เพื่อพาไปเยี่ยมที่บ้านด้วยกัน เพื่อป้องกันการต้องมาฟังคำถามเดิมๆ ให้รำคาญหู พอพ้นเทศกาลไปก็ค่อยเนียนๆ ไปว่าเข้ากันไม่ได้ ตอนนี้เลิกกันแล้ว ปิดดีล!!ซึ่งค่าเช่าจะอยู่ที่วันละ 500-6000 หยวนแล้วแต่สเปคของคนจ้าง บางคนมีโปรโมชัน ' กอดฟรี จับมือฟรี และหอมแก้มฟรี ' และอาจมีเงื่อนไขอื่นๆ ที่ต้องเสียเงินเพิ่มเติมด้วย #เปิดโลกมากกับธุรกิจนี้...

5. เป็นวันหยุดยาวของจีนที่ ' นาน ' ที่สุดของปี

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/fa8ba55f7c4ddf4596d1decebb0a70fb.jpg

ตามหลักแล้ว เทศกาลตรุษจีนจะกินเวลายาวนานถึง 15 วัน ใช่ค่ะอ่านไม่ผิด ครึ่งเดือนกันเลยทีเดียว! แต่ไม่จบแค่นั้น เพราะงานฉลองจะเริ่มวันแรกที่วันก่อนขึ้นวันตรุษจีน ( ถ้าจะนับจริงๆ ก็เป็น 16 วัน )


หรือถ้าจะฉลองรวมกับเทศกาลล่าปา Laba Festival ( 腊八节 / là bā jié ) ไปด้วย ก็จะเริ่มวันฉลองวันแรกในเดือนธันวาคม ซึ่งกินเวลาทั้งหมดถึง 40 วันหรือเดือนกว่าๆ เลยละค่ะ #หูวววว!

ถ้าทำตามประเพณีเป๊ะๆ เธอต้องกลับบ้านไปใช้เวลาร่วมกันกับครอบครัว และจะเดินทางได้เมื่อถึงวันที่ 5 ของเทศกาล ซึ่งเป็นวันหยุดราชการเท่านั้น ตั้งแต่วันที่ 5 ของตรุษจีน ร้านค้าส่วนใหญ่ก็จะทยอยปิดทำให้เดือนก่อนหน้า คนจีนส่วนใหญ่จะซื้อ nian huo ( 年货 ) หรือสินค้าปีใหม่เก็บไว้เลย และทยอยซื้ออาหารแห้ง ขนม ของขวัญ เสื้อผ้าใหม่และอื่นๆ ตุนไว้ด้วย**เกร็ดน่ารู้ : ในช่วงตรุษจีน เป็นช่วงที่มีการเดินทางระหว่างประเทศเพื่อกลับบ้านเกิดเยอะที่สุด ครึกครื้นที่สุด โดยเฉพาะจีนแผ่นดินใหญ่ที่มีอัตราแย่งชิงตั๋วรถไฟกลับต่างจังหวัดสูงมาก เพราะจะซื้อตั๋วรถได้ล่วงหน้าเพียง 60 วันเท่านั้น! สถิติปี 2015 แสดงให้เห็นว่า ตั๋วรถไฟ 1,000 ใบจะขายได้ทุก 1 วินาทีในช่วงเทศกาลนี้ค่ะ

6. มีธรรมเนียมกิน ' ขนมมงคล ' หลายชนิด ในเทศกาลตรุษจีน

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/dc0d7116d52f59332e4c0c3324dbeeed.jpg

ในช่วงตรุษจีน สิ่งหนึ่งที่ไม่ว่าจะคนไทย ฝรั่งหรือจีนก็น่าจะรู้จัก คือการกินขนมต่างๆ ที่ทำมาขายในเทศกาลนี้โดยเฉพาะ ซึ่งไม่ใช่แค่กินเอาอร่อยเท่านั้น แต่หลายชนิดมีความหมายพิเศษแฝงไว้เสมอ


ตัวอย่างเช่น tuanyuan ( 团圆 ) หรือขนมแป้งปั้นกลมคล้ายบัวลอย ซึ่งมีความหมายอีกอย่างว่าการกลับมารวมตัวกันของครอบครัว ขนมนี้จึงเป็นขนมยอดฮิตสุดๆ ในช่วงเทศกาลนี้ค่ะ

ทั้งนี้ก็ยังมีขนมความหมายดีชนิดอื่นๆ ที่น่าสนใจ เช่น Nian gao ( 年糕 ) หรือเค้กข้าวชนิดหนึ่งที่เป็นสัญลักษณ์ของความสำเร็จในปีนี้และทุกๆ ปี, Fa gao ( 发糕 ) ลูกผสมระหว่างเค้กชิฟฟอนกับมัฟฟิน หรือขนมถ้วยฟูที่มีสีสันพาสเทลน่ากิน ตัว fa เป็นตัวจีนเดียวกับ fa cai ( 发财 ) ซึ่งหมายถึงจะมีฐานะร่ำรวย เป็นต้นแต่แอบเตือนนิดนึงว่าขนมเหล่านี้แทบทั้งหมด ' หวานมาก!! ' ใครชอบกินรสหวานน้อยอาจไม่ถูกใจสิ่งนี้นะคะ ^^'''

7. ปีไหนที่ตรงกับปีนักษัตรของตัวเอง เธอจะ ' โชคร้ายที่สุด ' !!!

รูปภาพ:https://cache.gmo2.sistacafe.com/images/uploads/content_image/image/1023984/1612787979-411182e6ceb7bdb02b00ee200b0cc148.jpg

โดยปกติ ปีนักษัตรหรือปีตามจันทรคติของจีน ในหนึ่งรอบจะมีทั้งหมด 12 ปีโดยมีสัตว์เป็นตัวแทน เช่น หนู ( ชวด ), วัว ( ฉลู ), เถาะ ( กระต่าย ) เป็นต้น ซึ่งมี ความเชื่ออย่างหนึ่งของคนจีนว่า ปีเกิดของเธอ ( 本命年 / běn mìng nián )

ถ้าตรงกับปีนักษัตรของเทศกาลตรุษจีนในปีนั้น จะเป็นปีที่ดวงของเธอ ' โชคร้ายที่สุด ' หรือพูดง่ายๆ ก็คือเป็น ' ปีชง ' นั่นเอง!!

มีตำราอธิบายไว้ว่า คนจีนมีความเชื่อว่าเด็กๆ จะถูกลักพาตัวจากปีศาจได้ง่ายในปีชง ( ในที่นี้คือเจ็บปวดหรือเสียชีวิต ) เพราะปี 本命年 เป็นปีที่ถือว่าเธอได้ ' เกิดใหม่อีกครั้ง ' ถ้ามองแบบคนไทยที่มีเบญจเพสตอนอายุ 25 คนจีนก็จะเจอตั้งแต่อายุ 24 สากล ยังไม่นับปีชงที่จะวนรอบขึ้นมาใหม่เรื่อยๆ ทุก 12 ปี #น่ากลัวว

คนที่เชื่อก็ต้องไปแก้ชงด้วยวิธีต่างๆ เช่น ไปวัด ใส่เครื่องราง หรือใส่ชุดสีแดงตลอดปีนั้น ตกแต่งบ้านด้วยสีแดง ใส่ชั้นในสีแดงทุกวันทั้งปี หรือใส่เครื่องประดับสีแดงทุกวันก็ได้ เพื่อขับไล่โชคร้ายและนำความโชคดีเข้ามานั่นเอง

รูปภาพ:https://media0.giphy.com/media/3orieX7ZArG7rX1uqQ/giphy.gif

---------------------------------------------------เป็นยังไงบ้างคะซิสสส มีข้อไหนที่เธอไม่เคยรู้มาก่อนบ้างรึเปล่า? เราเชื่อว่าในหลายๆ เทศกาลอย่างปีใหม่สากล วาเลนไทน์ ตรุษจีน คริสต์มาส คนมากมายที่อาจจะไม่ได้รู้ประวัติลึกซึ้ง หรือชินกับการเติบโตมาแบบได้ของขวัญ ได้กินเลี้ยงจบในช่วงเทศกาลนั้น ซึ่งบางทีเวลาเราไปเดินเที่ยว เห็นของตกแต่งหรือสัญลักษณ์แปลกๆ เราก็มองแล้วเดินผ่านไปเพราะไม่เข้าใจ เพราะไม่รู้ประวัติความเป็นมาของมันแต่เมื่ออ่านจบบทความนี้ ซิสก็น่าจะได้ความรู้เพิ่มเติมมากขึ้น เข้าใจที่มาของเรื่องต่างๆ อย่างความหมายของชุดสีแดง หรือการจุดดอกไม้ไฟว่าทำไปเพื่ออะไร เป็นต้น สุดท้ายนี้ก็ขอให้สาวๆ ทุกคนไม่ว่าจะมีเชื้อสายจีนหรือไม่ มีความสุข สุขภาพแข็งแรง ร่ำรวยๆ ตลอดปี 2021 และตลอดไปเลยนะค้า#ซินเจียยู่อี่ซินนี่ฮวดใช้(ノ´ヮ`)ノ*: ・゚