ฮัลโหลค่าา สาวๆSistaCafeสุดน่ารักทั้งหลาย(°◡°♡)เรายังอยู่กันในเดือนแห่งความรัก และก็เพิ่งผ่านเทศกาลที่คนมีความรักต่างรอคอยมาเอง นั่นคือเทศกาล' วาเลนไทน์ 'ที่จะได้เฉลิมฉลอง ให้ของขวัญและช็อกโกแลต มอบความห่วงใยและปรารถนาดีให้แก่กันหากเป็นคนโสดก็คงวางแผนทำกิจกรรมที่ชอบ ไปเที่ยว หาความสุขให้ตัวเอง ส่วนคนมีคู่ก็อาจจะมีการนัดเดตพิเศษ เป็น valentine's night ที่ห้องอาหารดีๆ ในโรงแรม หรือต้องแต่งหน้า แต่งตัวให้เกียรติสถานที่สักนิด เพื่อให้เป็นโมเมนต์สุดพิเศษ น่าประทับใจร่วมกับคุณแฟน หนึ่งปีมีหนเดียวก็ต้องทุ่มเทหน่อย!หมดเวลาขี้เกียจแล้ว เดือนแห่งความรักนี่แหละ โอกาสชั้นดีที่จะได้ปรนเปรอ ดูแลผิวตัวเองอย่างจริงจัง! คนที่ดูแลตัวเองเป็นประจำน่ะไม่มีปัญหาหรอก แต่คนที่ใช้เวลาวันๆ ไปกับการอดนอน กินจั๊งก์ฟู้ด ครีมก็ไม่ทา ตอนจะต้องโชว์ตัวในวันพิเศษมันก็จะต้องใส่ใจเป็นพิเศษนิดนึงใครที่กำลังจะมีเดตอันแสนหวานในช่วงสุดสัปดาห์แต่สภาพหน้า ผิวยังไม่ไหว มาส่อง' 7 ทริคความงาม ดูแลตัวเองตั้งแต่หัวจรดเท้า 'ให้สวยปิ๊งที่สุด รับรองว่าถูกใจตัวเองและคุณแฟนอย่างแน่นอน อิอิ >///<

1. เริ่มเตรียมตัว เตรียมผิวตั้งแต่ ' เนิ่นๆ '

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/d695e492fb2fbcf45d53d2b00c7c3b51.jpg

ความพิเศษในแต่ละโมเมนต์เกิดขึ้นครั้งเดียว และไม่สามารถย้อนกลับไปแก้ไขได้แล้ว ในวันนั้นจึงควรจะมีผิวที่เตรียมพร้อมที่สุด จึงควรเตรียมตัวตั้งแต่เนิ่นๆ อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ก่อนวันพิเศษ โดยเริ่มจาก ' สครับผลัดเซลล์ผิวกาย '


อย่างน้อยสองครั้งต่อสัปดาห์ เลือกเม็ดสครับที่เนียนละเอียดไม่บาดผิว ใช้วัตถุดิบแบบโฮมเมดเองก็ได้ เช่น กากกาแฟและน้ำตาล ทาให้ทั่วผิวแล้วนวดเป็นวงกลม เพื่อให้เซลล์เก่าที่ตายแล้วหลุดลอกออกไป เท่านี้ผิวก็จะดูโกลว์ นุ่มเนียนเป็นธรรมชาติสุดๆ ค่ะ

จะสครับอย่างเดียว ชั้นผิวก็จะบางลงและเสี่ยงระคายเคืองง่าย จึงต้องลงทุนกับ ' มอยส์เจอไรเซอร์ ' ที่ให้ความชุ่มชื้นกับผิวเป็นพิเศษ เลือกยี่ห้อที่มีส่วนผสมของ ceramide และ hyaluronic acid สำหรับผิวแพ้ง่าย ทาผิวทุกวันก่อนนอน ( ถ้าผิวแห้งมากก็ทาบางๆ ช่วงเช้าด้วย )

และทาให้ทั่วหลังสครับเสร็จทุกครั้ง เป็นขั้นตอนที่แม้ไม่มีโอกาสพิเศษก็ควรทำอยู่เสมอ รับรองผิวสวยปิ๊ง จะวันไหนก็ไปเดตได้ค่ะ

2. ขจัดความหมอง เพิ่มผิวหน้าโกลว์ด้วยการ ' สครับ/มาสก์ '

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/fadffbed05769083ff6ae5205c51df47.jpg

จัดการกับผิวกายไปแล้ว ก็มาโฟกัสที่ ' ผิวหน้า ' ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญที่สุดของการเตรียมตัวครั้งนี้กัน! เราเชื่อว่าสาวๆ หลายคน ถ้าเป็นสายบิวตี้ก็มีทาครีม ทาโลชั่นบนหน้าบ้างอยู่แล้ว


แต่ในโอกาสที่ต้องใช้หน้าเป็นพิเศษ ก็ต้องเพิ่มขั้นตอนบำรุงให้ล้ำลึก ผิวโกลว์เฮลตี้ขึ้นไปอีกนิดด้วยการ ' มาสก์หน้า ' ซึ่งไม่ใช่แค่ใช้มาสก์อะไรก็ได้ แต่มีสูตรที่ควรใช้อยู่ 2 อย่าง และใช้มาสก์ถึง 2 ชนิดด้วยกันค่ะ

มาสก์แผ่น ให้เน้นสูตรผสมวิตามินซีเพิ่มผิวกระจ่างใส สามารถใช้ได้ทุกวัน และมาสก์โคลนแบบพอก ( clay mask ) ให้เลือกสูตรดีท็อกซ์ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าแบบไม่แสบผิว หน้านุ่ม ขี้ไคลหลุดลอกออกอย่างเป็นธรรมชาติ เพราะถ้าผิวหน้าเรามีเซลล์ผิวเกติดค้างอยู่เยอะ แต่งหน้ายังไงก็ผิวหมอง ไม่ค่อยสวย ไม่มีออร่าเท่าที่ควร


รวมถึงใช้สครับหน้าเม็ดเล็กๆ วนให้ทั่วผิวสัปดาห์ละ 1-2 ครั้งควบคู่กันไปด้วย ให้หน้าเปล่งประกายส่องสว่างถึงขีดสุด! แม้จะดูยุ่งยากแต่ขอให้มีวินัยอดทนทำ เมื่อวันพิเศษมาถึงเธอจะอยากย้อนกลับมาขอบคุณตัวเองแน่นอน

3. เข้าสปา นวดให้ผ่อนคลาย ลดอาการตัวบวมน้ำได้ด้วย

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/c254e7a9e600b3567d56cccbad33da73.jpg

คล้ายกับคอร์สเจ้าสาวก่อนแต่งงาน ถ้าสาวๆ มีเงินเหลือพอ และค่อนข้างซีเรียสกับเดตวันวาเลนไทน์พอสมควร ก็แนะนำให้ไปเข้า ' สปานวด ' เพราะไม่ใช่แค่ได้กลิ่นหอมผ่อนคลายอโรม่าเท่านั้น แต่ยังมีคุณประโยชน์มากมาย


เช่น ลดความตึงเครียดของกล้ามเนื้อ, เพิ่มการไหลเวียนโลหิต, ระบายต่อมน้ำเหลือง ลดการบวมน้ำ, ลดความเครียดของต่อมฮอร์โมน, เพิ่มการยืดหยุ่นของข้อต่อ, เพ่มอัตราการฟื้นฟูของเนื้อเยื่ออ่อนที่บาดเจ็บ และที่หลายคนอาจไม่เชื่อ คือการนวดบ่อยๆ ช่วยทำให้สีผิวกระจ่างใสขึ้น เพราะผิวได้ดีท็อกซ์ตัวเองอีกด้วย

ถ้าเข้าสปาเป็นระยะๆ อยู่แล้ว เลือกร้านที่ไว้ใจได้ และหมอนวดที่เชื่อน้ำหนักมือว่าจะทำให้เรารีแล็กซ์ ไม่ทำให้เราเจ็บ แต่ถ้าเป็นมือใหม่ไม่เคยเข้าร้านมาก่อน ก็เลือกคอร์สแบบนวดน้ำมันเป็นหลัก

เลี่ยงคอร์สนวดแบบจัดหนักแบบฤาษีดัดตนที่มีการดัดแขนขาของเราแรงๆ เพราะถ้าไม่คุ้นมาก่อน จะยิ่งทำให้เราเมื่อย ปวดยิ่งขึ้น ทำให้เดตในวันนั้นไม่สนุกเท่าที่ควรได้

4. แต่งหน้าให้สวยเป๊ะ ไล่ตั้งแต่คิ้ว ตา แก้ม ปาก

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/5b0674ae49b0dc15e0a749253569dbd2.jpg

เมื่อผิวหน้าเปลั่งปลั่ง กระจ่างใสขนาดนี้แล้ว ก็ต้องบรรจงเติมแต่งให้สวยเป๊ะให้ทั่วทุกส่วนของใบหน้า! ไม่ใช่สายบิวตี้ทุกคนที่แต่งหน้าเก่ง สามารถแต่งสไตล์หวานๆ ในวันวาเลนไทน์ได้ทันที และการแต่งเพื่อโอกาสพิเศษกับแต่งในชีวิตประจำวันก็ไม่เหมือนกัน

ถ้าซีเรียสกับความเป๊ะ ติดทน เนี้ยบๆ ให้ผู้ประทับใจ และมีงบ เราแนะนำให้จ้างช่างแต่งหน้า เหมือนงานรับปริญญาหรืองานแต่งงานค่ะ เพราะช่างที่ฝึกมาอย่างดี มองผิวลูกค้าแป๊บเดียวก็รู้แล้วว่ารูปหน้าและสภาพผิวเราเป็นยังไง บรีฟแค่นิดหน่อยก็สามารถเสกลุคที่เราต้องการออกมาได้แล้ว

หากไม่มีงบมากพอที่จะทำอะไรแบบนั้น ลองมองไปรอบตัวว่า มีเพื่อนสนิทที่แต่งหน้าเก่งๆ อยู๋บ้างไหม ไหว้วานขอให้เขาแต่งให้แลกกับพาไปเลี้ยงข้าว หรือทักไปขอคำแนะนำในการแต่งก็เป็นช้อยส์ที่ดี

แต่ถ้าพอมีเวลาเหลือๆ อยากลองแต่งเอง ก็เปิดคลิป youtube ที่บอกทริคดีๆ ของบิวตี้บล็อกเกอร์และเมคอัพอาร์ตทิสที่มีอยู่มากมายในอินเตอร์เน็ต แม้จะแต่งไม่เหมือนเขาทั้งหมด แต่ก็ได้ความรู้และอาจได้อินสไปร์ไปต่อยอดเพิ่มเติมด้วยค่ะ

5. บำรุงเส้นผมให้ ' นุ่มสลวย มีวอลลุ่ม '

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/6c08f87ea601f32501ad87c125ba449b.jpg

ถัดจากใบหน้าลงมา สิ่งที่คนนอกและคู่เดตของเราจะโฟกัสแน่ๆ ก็คือ ' เส้นผม ' ผมที่นุ่มสลวยจะทำให้ผู้หญิงดูเซ็กซี่และมั่นใจมากขึ้น ไม่ว่าจะผมสั้นหรือผมยาว เพราะฉะนั้นจะปล่อยให้ฟูฟ่องเป็นสิงโต แห้งเหมือนไม้กวาดจนจับแล้วสะดุ้ง หริอแตกปลายเป็นเป็ดก๊าบๆ ก็คงไม่ดีแน่!

ต้องบอกก่อนว่าเส้นผมก็เหมือนผิวตัว ผิวหน้าเลยที่ต้องบำรุงมาแล้วตั้งแต่เนิ่นๆ ถึงจะได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด แต่ไม่จำเป็นต้องเตรียมเป็นสัปดาห์ แค่ 2-3 วันก็ยังไหวอยู่ค่ะ

เริ่มจากใช้ ' มาสก์หมักผม ' ตัวดังมากมายที่มีขายตามอินเตอร์เน็ต เลือกสูตรที่เนื้อเข้มข้นเป็นกระปุก หมักบริเวณกลางถึงปลายผมทุกวัน 2-3 วันต่อเนื่อง เว้นช่วงหนังศีรษะ เพราะผมจะมันเกินไปจนร่วงแทน! หลังจากหมักเสร็จ ล้างออก ก็ใช้ออยล์บำรุงผมลงตอนที่ผมยังชื้นๆ เปียกๆ ให้เส้นผมซึมซับความชุ่มชื้นเข้าไปอย่างเต็มที่ ผมจะนุ่มและเงางาม


และไม่ว่าจะทำทรงผมใดในวันวาเลนไทน์ สระผมตั้งแต่เช้าๆ แล้วปล่อยให้แห้งตามธรรมชาติ หรือใช้ลมเย็นไม่ให้ผมเสีย หนีบหรือม้วนลอนตามปกติ อย่าลืม! ใช้ setting spray เพื่อล็อกลอนให้อยู่ทนตลอดวัน ถ้าลอนคลายจนผมลู่ตกต่อหน้าผู้คงเขินน่าดู ><

6. ' ผิวกาย ' ที่เนียนเรียบไร้ขน ก็เป็นสิ่งที่ละเลยไม่ได้

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/2cc677671748c35d956bb0887b5973b3.jpg

เพื่อให้ผิวดูเนียนใส สว่างกว่าปกติ ' การกำจัดขน ' ทั้งใบหน้าและร่างกายก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ! เพราะเวลาผิวส่วนไหนมีขนปกคลุม แม้จะเป็นชั้นบางๆ ก็ตาม จะทำให้มองเผินๆ แล้วผิวดูคล้ำลง ทั้งที่จริงมันคือสีของขน ไม่ใช่สีของผิว และการสัมผัสก็จะมีความสะดุด รู้สึกถึง texture ของเส้นขน


ใครที่มีขนเยอะ ชอบขึ้นในที่แปลกๆ เช่น ข้อนิ้ว ข้อเท้า ก็อาจรู้สึกไม่ค่อยมั่นใจ กลัวถ่ายรูปไม่สวย ( ใครมั่นใจก็ข้ามข้อนี้ไปน้า ) ดังนั้นในวันวาเลนไทน์สุดพิเศษ ก็ทำให้ขนหายไปจะดีกว่า

ในยุคนี้การกำจัดขนก็มีมากมาย ตั้งแต่การโกน, แว็กซ์, ครีมกำจัดขน หรือถ้ามีงบเหลือๆ และมีเวลาเตรียมตัวล่วงหน้านาน เข้าคอร์สเลเซอร์ไปเลยก็ครบดี แม้จะแพงแต่กว่าขนจะกลับมาอีกก็นานมากๆ หรือถ้าขนบางอยู่แล้ว ก็อาจหายไปอย่างถาวร


บริเวณหลักๆ ที่ผู้หญิงซีเรียสกันก็เช่นไรขนบนใบหน้า, เรียวขา และบิกินี่ไลน์ ก็จัดการให้เรียบร้อย แล้วลงครีมบำรุงตามทุกครั้ง เพื่อไม่ให้ผิวเกิดความแสบและระคายเคืองนะคะซิส

7. เพ้นท์เล็บ ' สไตล์หวานๆ ' เข้ากับวันวาเลนไทน์

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/afca95416430b6ff2480c7ebd916bfa9.jpg

ปิดจ๊อบที่การเพ้นท์เล็บให้สวยกรุบ เข้ากับเดือนแห่งความรัก! นอกจากใบหน้า เส้นผมที่พลิ้วไสวอยู่ตลอดเวลาแล้วนั้น ก็มีเล็บนี่แหละที่ต้องใส่ใจ เพราะเวลาทำกิจกรรมในการเดตร่วมกัน เลี่ยงไม่ได้แน่ๆ ที่จะต้องใช้มือทำนั่นนี่


ถือของ, จับแก้ว ช้อน ส้อม, โบกมือทักแฟน, สีหน้าท่าทางเวลาคุยกัน ที่จะต้องมีการยกไม้ยกมือประกอบบ้างอยู่แล้ว ถ้าตกแต่งให้สวยงาม ก็จะเป็นเสน่ห์มัดใจผู้ได้อีกระดับค่ะ

เล็บโทนที่เข้ากับเดือนแห่งความรักนี้ ก็จะมีตั้งแต่เล็บใสๆ, เล็บโทนสีชมพู, เล็บดีไซน์รูปหัวใจสีแดง เธอสามารถหาเรฟได้จากบทความไอเดียต่างๆ ใน sistacafe หรือถ้ายังไม่พอก็ไถดูในไอจีและ pinterest ได้ ( เสิร์ชว่า ' Valentine Nails Art )


จะทำที่ร้านหรือทำเองก็ได้ถ้ามั่นใจในฝีมือมากพอ และอย่าลืมทาออยล์บำรุงเล็บอยู่เสมอ เวลาลงสีเล็บหรือทำเล็บที่ค่อนข้างทำลายหน้าเล็บ เช่น อะคริลิก เจล เล็บจะได้ไม่เสียมากตอนถอดออกนะคะ

-------------------------------------

เมื่อได้บำรุง ดูแล ใส่ใจตัวเองมากขึ้น ความสวยที่ตอนแรกอาจจะมีอยู่แค่ภายใน ก็จะเริ่มฉายแววออกมาสู่ภายนอก!ทั้งผิวที่ไม่จำเป็นต้องขาว แต่เรียบเนียนกระจ่างใส มีออร่า สีเล็บสวยเงาวาวมีเสน่ห์ ผิวกายละมุนกลมกลึงไปทั้งตัว เส้นผมยาวสลวยมีน้ำหนัก และใบหน้าที่แต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางที่เสริมบุคลิก จุดเด่นของเธอให้ชัดยิ่งขึ้น ตอกย้ำว่าเธอสวยและมีค่าสำหรับคนรักแค่ไหน นี่แหละคุณค่าของ self-care หรือการรักตัวเองค่ะ

เราอยากให้สาวๆ ทุกคนคอยดูแลตัวเองเสมอ ไม่ว่าจะในชีวิตปกติหรือเตรียมออกงานพิเศษก็ตาม เพราะถ้าผู้หญิงทุกคนสวย มีความมั่นใจ ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะโสดหรือมีแฟนก็แฮปปี้ =w=สุดท้ายนี้ก็ขอให้ซิสทุกคนมีเดตที่ดี สุดแสนประทับใจในเดือนแห่งความรักนี้และทุกๆ ปีนะคะ วันนี้ขอตัวลาไปก่อน บ๊ายบายยย ♡ ( ̄З ̄)