สวัสดีค่าา สาวๆSistaCafeคนสวยเริ่ดทั้งหลาย(ノ´ヮ`)ノ*: ・゚แป๊บๆ ก็เข้าสู่ช่วงซัมเมอร์กันอีกครั้ง! ( ไม่ใช่ว่าประเทศเราซัมเมอร์ทั้งปีหรอกเหรอ.... ) ฤดูร้อนแบบนี้แสงแดดก็จะเข้มข้นเป็นพิเศษ เหงื่อไหลง่าย ความมัน ฝุ่น สิ่งสกปรกจากมลภาวะก็มาเกาะหน้าได้ง่ายสุด ส่งผลให้สิ่งไม่พึงประสงค์อย่างสิวอุดตัน สิวอักเสบ ฝ้า กระ หน้าหมองคล้ำก็ตามมาเป็นขบวนซึ่งนอกจากเราต้องใส่ใจกับการทาครีมกันแดดเป็นพื้นฐานอยู่แล้วนั้น หลายคนอาจลืมไปว่า ' เมคอัพและสกินแคร์ ' ก็มีมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วยเช่นกันSkincare Routine และเครื่องสำอางที่ทากันอยู่ทุกวันเช้าเย็น เมื่อเปลี่ยนฤดูกาล ขั้นตอนบางอย่าง หรือแม้แต่ไอเทมบางตัวก็ต้องปรับเปลี่ยน เพราะเมื่อสภาพอากาศไม่เหมือนเดิม แต่ไม่ปรับ texture ตาม เนื้อก็จะเข้าไปอุดตันจนหน้าไม่ใสปิ๊งเหมือนที่ผ่านๆ มาถ้าเธอเป็นคนหนึ่งที่อยู่ดีๆ สิวขึ้นไม่รู้สาเหตุ ลองเข้ามาเช็กใน' 7 เมคอัพ-สกินแคร์ ที่สาวๆ ควรลดละเลิก ในช่วงซัมเมอร์ ถ้าไม่อยากหน้าพัง 'แล้วเช็กว่ามีสิ่งเหล่านี้ในกรุของตัวเองหรือไม่ ถ้าใช่ ขอให้ห่างกันสักพัก ก่อนหน้าจะแหกไปมากกว่านี้นะคะซิสขาาา!

1. ออยล์บำรุงผิวหน้า ( facial oil )

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/00739a43ef3f3965050603824a4e1885.jpg

ออยล์ ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นน้ำมัน เมื่อเข้าสู่ซัมเมอร์ อากาศร้อนชื้น น้ำมันผลิตบนใบหน้าเยอะกว่าปกติอยู่แล้ว เธอคงไม่อยากเทน้ำมันเพิ่มบนผิวหน้าหรอก จริงไหม?

หากเธอไม่ใช่คนผิวแห้งมากเป็นพิเศษจริงๆ จะดีกว่าถ้าเธองดใช้สกินแคร์ ' ทุกชนิด ' ที่มีส่วนผสมของออยล์ รวมถึงเซรั่มและน้ำตบบางชนิดที่มีส่วนผสมของน้ำมันด้วยเช่นกัน เพราะบางครั้งแม้แค่ออยล์หยดเล็กๆ ก็อาจกระตุ้นให้ผิวเกิดสิวอุดตัน สิวอักเสบ ผิวเห่อแดงขึ้นมาได้ค่ะ

ดังนั้นไอเทมแรกที่เธอควรกำจัดจากโต๊ะเครื่องแป้งในช่วงนี้เลยก็คือ ' Facial Oil ' หรือออยล์บำรุงผิวหน้าเข้มข้น เพราะมีเปอร์เซนต์ของน้ำมันสูงมาก แม้จะทาบางๆ ก็ไม่น่าไว้ใจ


เพราะช่วงนี้เราต้องใส่แมสก์ออกนอกบ้าน มันหมักหมมให้ผิวมันเยิ้มอยู่แล้ว ยิ่งทาออยล์เพิ่มตั้งแต่แรก กลับบ้านมาสิวผุดรัวๆ เต็มหน้าแน่นอน อย่าเสี่ยงจะดีกว่าค่ะ

2. สกินแคร์ทุกชนิดที่ทาแล้ว ' ไวต่อแสงแดด '

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/80a566749e5df4324826ee08b3442fe5.jpg

เพราะหน้าร้อนคือช่วงที่ดวงอาทิตย์เข้าใกล้โลกเป็นพิเศษ แสงแดดจะร้อนแรงและเข้มข้นมากกว่าฤดูอื่นๆ แบบที่ไม่ทาครีมกันแดดก็เตรียมผิวไหม้ได้เลย ดังนั้นถึงแม้ว่าจะทาครีมกันแดดไว้ชั้นนอกแล้ว ก็ปลอดภัยไว้ก่อนด้วยการไม่ทา' สกินแคร์ทุกชนิดที่ไวต่อแสง 'จะดีกว่า


เพราะถ้ารังสียูวีทะลุเข้าไปแม้แต่นิดเดียว เธออาจได้ฝ้า กระ หน้าไหม้แดงเป็นของแถม แถมจะซ่อมผิวให้เหมือนเดิมก็ยากซะด้วยสิ

สกินแคร์ที่ไวต่อแสงหลักๆ ก็เช่น ครีม เซรั่ม โทนเนอร์ทุกอย่างที่มีส่วนผสมของ' วิตามินซี 'และกรดที่มักใช้ในการผลัดเซลล์ผิว ให้ผิวหน้ากระจ่างใส เช่น AHA, BHA, glycolic acid และเรตินอยด์ แม้จะใช้แค่นิดเดียวก็ตาม


ก็อาจกระตุ้นให้ผิวแดงช้ำ ยิ่งอุณหภูมิสูงก็ยิ่งเอื้อให้กรดเหล่านี้ซึมเข้าผิวได้มากขึ้น จึงไม่ควรใช้อย่างยิ่งในช่วงกลางวัน แต่ยังสามารถใช้ได้ช่วงกลางคืน หรือคืนเว้นคืนถ้าผิวเซนซิทิฟ แพ้ง่ายค่ะ

3. สครับขัดผิวหน้า ( Facial Scrub )

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/75bd8d5f6babb564ab47b652df4b25b7.jpg

สาวๆ คนไหนที่ชื่นชอบการขัดผิวเป็นชีวิตจิตใจ ฤดูนี้ขอให้ห่างกันสักพัก พักก่อน พักไปยาวๆ เลยค่ะ เพราะชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า ' ขัด ' หรือสครับผิว แน่นอนว่าจะเกิดการรบกวนเซลล์ผิวชั้นนอกเพราะถูกลอกออกมา

texture สากๆ เวลาเธอถูไปตามผิวหน้า เสี่ยงจะเกิดบาดแผลจิ๋วๆ สะเก็ดลอก หรืออาการระคายเคืองได้ง่ายมาก แม้จะใช้สครับเม็ดเล็กแค่ไหนก็ตาม ยิ่งช่วงหน้าร้อน แดดเจอแผล อะไรจะเกิดขึ้นล่ะ หน้าพังน่ะสิ!

แม้หน้าจะไม่มีบาดแผลอะไรมาก แต่การออกจากบ้านให้หน้ารับแสงแดดทุกวัน ก็ทำให้ผิวเซนซิทิฟกว่าเดิม ไม่ควรเอาสครับคมๆ ไปถูหน้า ไม่ว่าจะแบบขัดหน้าหรือขัดตัวก็ตามแต่


เน้นทาโลชั่นหรือเจลไปก่อนจะดีกว่า ปล่อยให้ผิวผลัดเซลล์ไปเองตามธรรมชาติ ไม่ต้องไปเร่งมัน เลี่ยงโอกาสหน้าตะปุ่มตะป่ำโดยไม่จำเป็นนะคะ

4. Sleeping Mask เนื้อครีมข้น

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/e482fcdad4921eccad8a75458ef20350.jpg

เข้าใจว่าสาวๆ หลายคนมีผิวแห้ง ต้องการอัดความชุ่มชื้นในยามค่ำคืน ให้ผิวหน้าอิ่มฟูในเช้าวันใหม่ ซึ่งเราก็ไม่มีอะไรจะเถียงเลยหากเธอจะอัดครีม 4-5 ตัวในฤดูหนาว


แต่ถ้าเป็นฤดูร้อนที่ล้างหน้าเสร็จไม่ถึง 2 นาทีก็หน้าเริ่มเยิ้มแล้วล่ะก็ อย่าหาทำเอา sleeping mask เนื้อครีมข้นๆ มาทาบนใบหน้าจะดีกว่า แม้จะนอนในห้องแอร์ก็ตาม เพราะเสี่ยงจะเกิดสิวอุดตันได้ง่ายมากๆ เลยค่ะ

เปลี่ยนจากเนื้อครีมที่ทำให้ผิวหายใจไม่ออก เป็น sleeping mask แบบเนื้อเจลครีมหรือเนื้อเจลใสๆ จะสบายผิว และลดอาการเกิดสิวได้ง่ายกว่า และถ้าอยากได้ผลดียิ่งขึ้น แนะนำให้ทาคู่กับมาส์กโคลนชาร์โคล ( charcoal mask ) เพื่อลอกสิ่งสกปรก ฝุ่น และมลภาวะที่ผิวหน้าต้องเจอในแต่ละวันออก

เมื่อผิวสะอาด ก็ไม่มีทั้งสิวและความหมองคล้ำ ทาทิ้งไว้ 10-15 นาทีแล้วล้างออก ทำสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ก็เห็นความแตกต่างได้ชัดเจนแล้วล่ะค่ะ

5. รองพื้นแต่งหน้าเนื้อแมตต์

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/b74e963acb8426fa3d08bfbb2ec87810.jpg

ช่วงนี้แม้จะยังอยู่ในยุคโควิดระบาด ต้องใส่แมสก์ สาวๆ ที่แต่งหน้าก็มักจะเลือกใช้ ' รองพื้นเนื้อแมตต์ ' เพราะไม่ติดแผ่นแมสก์จนดูน่าเกลียด ติดทนผิวหน้าได้ตลอดวัน แต่ในฤดูร้อน การใช้เนื้อแมตต์ไม่น่าจะใช่ความคิดที่ดีนัก

เพราะแม้จะทำให้หน้าดูสวยเนี้ยบตอนแต่งเสร็จ แต่เสี่ยงทำความสะอาดได้ไม่ดี อุดตันได้ง่าย เนื้อรองพื้นเองก็เช็ดออกยากอยู่แล้ว ยิ่งมีน้ำมันบนผิวผสมลงไปอีก คือพัง! บางคนใช้แล้วครั้งนึง ต้องใช้ตลอดไปเพื่อปกปิดสิวที่เห่อมากขึ้นเรื่อยๆ กลัวคนนอกเห็นหน้าสดไปเลยก็มี T^T

ควรเลือกเมคอัพเนื้อบางๆ ให้ผิวหายใจได้ง่าย และไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน ( non-comedogenic ) ไว้เป็นพื้นฐาน เลี่ยงเครื่องสำอางที่เนื้อหนาหนัก เพราะสิวจะถามหาแน่นอน


ใครที่เคยชินกับรองพื้นเนื้อด้าน บางทีช่วงซัมเมอร์นี้อาจต้องเปลี่ยนเป็น tinted moisturizer ที่มีลักษณะคล้ายครีมกันแดดสีเนื้อแทน แม้จะปกปิดจุดบกพร่องบนหน้าไม่ได้ 100% แต่ก็ไม่ทำให้สิวเกิดใหม่ขึ้นเพิ่มค่ะ

6. โฟมล้างหน้าเนื้อเข้มข้น หรือมีส่วนผสมของซิลิโคน

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/a56f3131eb235717a9379130b72afe17.jpg

คนเราจะล้างหน้า ก็ย่อมหวังผลให้คลีนซิ่งโฟมเหล่านั้นกำจัดคราบสิ่งสกปรก มลภาวะที่อุดตันออกให้เกลี้ยง ไม่ใช่ไปเพิ่มให้มันมีสิวมากขึ้นกว่าเดิม! ฤดูอื่นๆ แม้จะใช้คลีนซิ่งที่มีเนื้อหนาหนักสักหน่อย แต่ผิวหน้าไม่ได้มีน้ำมันเยอะ ก็อาจไม่ได้แสดงผลอะไร หน้าก็ยังเนียนเกลี้ยงปกติ


แต่เมื่อเข้าหน้าร้อนเท่านั้นแหละ ใช้โฟมตัวเดิม เอ๊ะ ทำไมสิวขึ้นข้างปาก สันกราม คาง เรียงกันเป็นลูกระนาดเลยจ้าแม่ มันเกิดอะไรขึ้น???

สาวๆ ที่มีผิวเซนซิทิฟ หรือผิวมันเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ช่วงซัมเมอร์ไม่ควรใช้โฟมล้างหน้าที่เนื้อเข้มข้น หนาหนัก หรือมีส่วนผสมของ ' ซิลิโคน ' เป็นอย่างยิ่ง แม้จะกลิ่นหอมหรือใช้ส่วนผสมดีแค่ไหนก็ตาม เพราะซิลิโคนจะก่อให้เกิดการอุดตันได้ง่าย และเร่งให้มีการผลิตน้ำมันออกมามากขึ้นด้วย


เปลี่ยนไปใช้โฟมล้างหน้าเนื้อเจลหรือเนื้อน้ำใสๆ ที่ผสม salicylic acid, glycolic acid หรือ lactic acid แทนจะดีต่อผิวหน้ามากกว่าค่ะ

7. มอยส์เจอไรเซอร์เนื้อครีม

รูปภาพ:https://www.img.in.th/images/4393db21d0b5cfbe0c8d7fca8b9333bd.jpg

ถึงจะขึ้นชื่อว่าเป็นมอยส์เจอไรเซอร์บำรุงผิว แต่ในช่วงหน้าร้อน ' ครีมบำรุงผิวหน้าเนื้อเข้มข้น ' ก็ควรเป็นสิ่งที่ต้องละเว้นไว้ก่อน เพราะยิ่งทา ยิ่งเสี่ยงอุดตันจนสิวยกขบวนมาทักทาย

ถึงบางคนจะเป็นสาวผิวแห้ง ต้องการความชุ่มชื้น ลดอาการคันหน้า แต่ถ้ามีสิวอักเสบบวมปูดโผล่มาในเช้าวันรุ่งขึ้นก็คงไม่โอเคเท่าไหร่ ยิ่งถ้าทาแบบโบกหนาๆ ทับๆ กันหลายชั้นแล้วล้างไม่เกลี้ยงล่ะก็... #ขนลุกซู่

เปลี่ยนจากเนื้อครีม มาใช้เป็นเนื้อเจลใสๆ หรือถ้าผิวแห้งมากก็เป็นเนื้อเจลครีมจะดีกว่า โดยใช้เนื้อเจลหรือน้ำตบโลชั่นในตอนเช้าก่อนออกจากบ้าน ถ้าโลชั่นนั้นมีส่วนผสมของ SPF กันแดดอย่างน้อย 30 จะยิ่งป้องกันผิวได้ดีขึ้นอีก ป้องกันการอุดตันและถ้าอยากใช้ครีมจริงๆ ก็ค่อยทาเลเยอร์บางๆ ในตอนกลางคืนก่อนเข้านอน และทำความสะอาดในตอนเช้าด้วยโฟมล้างหน้า 2 รอบ เท่านี้ก็ยังมีผิวเนียนใสกิ๊งได้

-------------------------------------------------------------

สาวๆ บางคนอาจเข้าใจผิดว่า ถ้าสกินแคร์ชิ้นหนึ่งใช้ได้ผลกับผิวหน้าเราได้ดีแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนอีกเลย สามารถทาตัวเดิมๆ ได้ตลอดปีตลอดชาติ ซึ่งเป็นความคิดที่ผิดมาก! ความจริงคือเป็นหน้าที่เราที่ต้องเช็กสภาพผิวหน้า-ผิวกายของตัวเองอยู่ตลอด เพราะสภาพผิวเปลี่ยนแปลงได้เสมอ ที่เห็นชัดสุดก็คือตามฤดูกาล หน้าร้อนผิวเราก็มัน หน้าหนาวผิวเราก็แห้งตกสะเก็ด ก็ต้องปรับเนื้อสกินแคร์ให้เข้ากับผิวในช่วงนั้นๆ ยังไม่นับผิวที่แห้งขึ้นตามวัย หรือเกิดอาการแพ้เฉพาะกิจอีกนะ ดังนั้นถ้าผิวผิดปกติ ต้องรีบแก้ไขโดยเริ่มจาก ' สกินแคร์ ' เป็นขั้นตอนแรกค่ะ

หากลองปรับมอยส์เจอไรเซอร์ให้เข้ากับผิวแล้ว แต่ยังมีอาการเห่อ แสบแดง คันระคายเคืองไม่หายสักที หรือมีสิวอักเสบที่แต้มยาเท่าไหร่ก็ไม่หาย ก็ควรไปปรึกษากับแพทย์ผิวหนังโดยเร็วที่สุด เพื่อรับยากิน ยาทามาใช้คู่กับสกินแคร์ ผิวจะได้กลับมาสวยปิ๊งได้ไวๆ นะคะ สำหรับวันนี้ขอลาไปก่อน พบกันใหม่คราวหน้าค่า บ๊ายบายยย ☆ ~('▽^人)