สวัสดีค่าา สาวๆSistaCafeคนสวยเริ่ดทั้งหลาย(ノ´ヮ`)ノ*: ・゚แป๊บๆ ก็เข้าสู่ช่วงซัมเมอร์กันอีกครั้ง! ( ไม่ใช่ว่าประเทศเราซัมเมอร์ทั้งปีหรอกเหรอ.... ) ฤดูร้อนแบบนี้แสงแดดก็จะเข้มข้นเป็นพิเศษ เหงื่อไหลง่าย ความมัน ฝุ่น สิ่งสกปรกจากมลภาวะก็มาเกาะหน้าได้ง่ายสุด ส่งผลให้สิ่งไม่พึงประสงค์อย่างสิวอุดตัน สิวอักเสบ ฝ้า กระ หน้าหมองคล้ำก็ตามมาเป็นขบวนซึ่งนอกจากเราต้องใส่ใจกับการทาครีมกันแดดเป็นพื้นฐานอยู่แล้วนั้น หลายคนอาจลืมไปว่า ' เมคอัพและสกินแคร์ ' ก็มีมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วยเช่นกันSkincare Routine และเครื่องสำอางที่ทากันอยู่ทุกวันเช้าเย็น เมื่อเปลี่ยนฤดูกาล ขั้นตอนบางอย่าง หรือแม้แต่ไอเทมบางตัวก็ต้องปรับเปลี่ยน เพราะเมื่อสภาพอากาศไม่เหมือนเดิม แต่ไม่ปรับ texture ตาม เนื้อก็จะเข้าไปอุดตันจนหน้าไม่ใสปิ๊งเหมือนที่ผ่านๆ มาถ้าเธอเป็นคนหนึ่งที่อยู่ดีๆ สิวขึ้นไม่รู้สาเหตุ ลองเข้ามาเช็กใน' 7 เมคอัพ-สกินแคร์ ที่สาวๆ ควรลดละเลิก ในช่วงซัมเมอร์ ถ้าไม่อยากหน้าพัง 'แล้วเช็กว่ามีสิ่งเหล่านี้ในกรุของตัวเองหรือไม่ ถ้าใช่ ขอให้ห่างกันสักพัก ก่อนหน้าจะแหกไปมากกว่านี้นะคะซิสขาาา!
1. ออยล์บำรุงผิวหน้า ( facial oil )

ออยล์ ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นน้ำมัน เมื่อเข้าสู่ซัมเมอร์ อากาศร้อนชื้น น้ำมันผลิตบนใบหน้าเยอะกว่าปกติอยู่แล้ว เธอคงไม่อยากเทน้ำมันเพิ่มบนผิวหน้าหรอก จริงไหม?
หากเธอไม่ใช่คนผิวแห้งมากเป็นพิเศษจริงๆ จะดีกว่าถ้าเธองดใช้สกินแคร์ ' ทุกชนิด ' ที่มีส่วนผสมของออยล์ รวมถึงเซรั่มและน้ำตบบางชนิดที่มีส่วนผสมของน้ำมันด้วยเช่นกัน เพราะบางครั้งแม้แค่ออยล์หยดเล็กๆ ก็อาจกระตุ้นให้ผิวเกิดสิวอุดตัน สิวอักเสบ ผิวเห่อแดงขึ้นมาได้ค่ะ
ดังนั้นไอเทมแรกที่เธอควรกำจัดจากโต๊ะเครื่องแป้งในช่วงนี้เลยก็คือ ' Facial Oil ' หรือออยล์บำรุงผิวหน้าเข้มข้น เพราะมีเปอร์เซนต์ของน้ำมันสูงมาก แม้จะทาบางๆ ก็ไม่น่าไว้ใจ
เพราะช่วงนี้เราต้องใส่แมสก์ออกนอกบ้าน มันหมักหมมให้ผิวมันเยิ้มอยู่แล้ว ยิ่งทาออยล์เพิ่มตั้งแต่แรก กลับบ้านมาสิวผุดรัวๆ เต็มหน้าแน่นอน อย่าเสี่ยงจะดีกว่าค่ะ
2. สกินแคร์ทุกชนิดที่ทาแล้ว ' ไวต่อแสงแดด '

เพราะหน้าร้อนคือช่วงที่ดวงอาทิตย์เข้าใกล้โลกเป็นพิเศษ แสงแดดจะร้อนแรงและเข้มข้นมากกว่าฤดูอื่นๆ แบบที่ไม่ทาครีมกันแดดก็เตรียมผิวไหม้ได้เลย ดังนั้นถึงแม้ว่าจะทาครีมกันแดดไว้ชั้นนอกแล้ว ก็ปลอดภัยไว้ก่อนด้วยการไม่ทา' สกินแคร์ทุกชนิดที่ไวต่อแสง 'จะดีกว่า
เพราะถ้ารังสียูวีทะลุเข้าไปแม้แต่นิดเดียว เธออาจได้ฝ้า กระ หน้าไหม้แดงเป็นของแถม แถมจะซ่อมผิวให้เหมือนเดิมก็ยากซะด้วยสิ
สกินแคร์ที่ไวต่อแสงหลักๆ ก็เช่น ครีม เซรั่ม โทนเนอร์ทุกอย่างที่มีส่วนผสมของ' วิตามินซี 'และกรดที่มักใช้ในการผลัดเซลล์ผิว ให้ผิวหน้ากระจ่างใส เช่น AHA, BHA, glycolic acid และเรตินอยด์ แม้จะใช้แค่นิดเดียวก็ตาม
ก็อาจกระตุ้นให้ผิวแดงช้ำ ยิ่งอุณหภูมิสูงก็ยิ่งเอื้อให้กรดเหล่านี้ซึมเข้าผิวได้มากขึ้น จึงไม่ควรใช้อย่างยิ่งในช่วงกลางวัน แต่ยังสามารถใช้ได้ช่วงกลางคืน หรือคืนเว้นคืนถ้าผิวเซนซิทิฟ แพ้ง่ายค่ะ
3. สครับขัดผิวหน้า ( Facial Scrub )

สาวๆ คนไหนที่ชื่นชอบการขัดผิวเป็นชีวิตจิตใจ ฤดูนี้ขอให้ห่างกันสักพัก พักก่อน พักไปยาวๆ เลยค่ะ เพราะชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า ' ขัด ' หรือสครับผิว แน่นอนว่าจะเกิดการรบกวนเซลล์ผิวชั้นนอกเพราะถูกลอกออกมา
texture สากๆ เวลาเธอถูไปตามผิวหน้า เสี่ยงจะเกิดบาดแผลจิ๋วๆ สะเก็ดลอก หรืออาการระคายเคืองได้ง่ายมาก แม้จะใช้สครับเม็ดเล็กแค่ไหนก็ตาม ยิ่งช่วงหน้าร้อน แดดเจอแผล อะไรจะเกิดขึ้นล่ะ หน้าพังน่ะสิ!
แม้หน้าจะไม่มีบาดแผลอะไรมาก แต่การออกจากบ้านให้หน้ารับแสงแดดทุกวัน ก็ทำให้ผิวเซนซิทิฟกว่าเดิม ไม่ควรเอาสครับคมๆ ไปถูหน้า ไม่ว่าจะแบบขัดหน้าหรือขัดตัวก็ตามแต่
เน้นทาโลชั่นหรือเจลไปก่อนจะดีกว่า ปล่อยให้ผิวผลัดเซลล์ไปเองตามธรรมชาติ ไม่ต้องไปเร่งมัน เลี่ยงโอกาสหน้าตะปุ่มตะป่ำโดยไม่จำเป็นนะคะ
4. Sleeping Mask เนื้อครีมข้น

เข้าใจว่าสาวๆ หลายคนมีผิวแห้ง ต้องการอัดความชุ่มชื้นในยามค่ำคืน ให้ผิวหน้าอิ่มฟูในเช้าวันใหม่ ซึ่งเราก็ไม่มีอะไรจะเถียงเลยหากเธอจะอัดครีม 4-5 ตัวในฤดูหนาว
แต่ถ้าเป็นฤดูร้อนที่ล้างหน้าเสร็จไม่ถึง 2 นาทีก็หน้าเริ่มเยิ้มแล้วล่ะก็ อย่าหาทำเอา sleeping mask เนื้อครีมข้นๆ มาทาบนใบหน้าจะดีกว่า แม้จะนอนในห้องแอร์ก็ตาม เพราะเสี่ยงจะเกิดสิวอุดตันได้ง่ายมากๆ เลยค่ะ
เปลี่ยนจากเนื้อครีมที่ทำให้ผิวหายใจไม่ออก เป็น sleeping mask แบบเนื้อเจลครีมหรือเนื้อเจลใสๆ จะสบายผิว และลดอาการเกิดสิวได้ง่ายกว่า และถ้าอยากได้ผลดียิ่งขึ้น แนะนำให้ทาคู่กับมาส์กโคลนชาร์โคล ( charcoal mask ) เพื่อลอกสิ่งสกปรก ฝุ่น และมลภาวะที่ผิวหน้าต้องเจอในแต่ละวันออก
เมื่อผิวสะอาด ก็ไม่มีทั้งสิวและความหมองคล้ำ ทาทิ้งไว้ 10-15 นาทีแล้วล้างออก ทำสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ก็เห็นความแตกต่างได้ชัดเจนแล้วล่ะค่ะ
5. รองพื้นแต่งหน้าเนื้อแมตต์

ช่วงนี้แม้จะยังอยู่ในยุคโควิดระบาด ต้องใส่แมสก์ สาวๆ ที่แต่งหน้าก็มักจะเลือกใช้ ' รองพื้นเนื้อแมตต์ ' เพราะไม่ติดแผ่นแมสก์จนดูน่าเกลียด ติดทนผิวหน้าได้ตลอดวัน แต่ในฤดูร้อน การใช้เนื้อแมตต์ไม่น่าจะใช่ความคิดที่ดีนัก
เพราะแม้จะทำให้หน้าดูสวยเนี้ยบตอนแต่งเสร็จ แต่เสี่ยงทำความสะอาดได้ไม่ดี อุดตันได้ง่าย เนื้อรองพื้นเองก็เช็ดออกยากอยู่แล้ว ยิ่งมีน้ำมันบนผิวผสมลงไปอีก คือพัง! บางคนใช้แล้วครั้งนึง ต้องใช้ตลอดไปเพื่อปกปิดสิวที่เห่อมากขึ้นเรื่อยๆ กลัวคนนอกเห็นหน้าสดไปเลยก็มี T^T
ควรเลือกเมคอัพเนื้อบางๆ ให้ผิวหายใจได้ง่าย และไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน ( non-comedogenic ) ไว้เป็นพื้นฐาน เลี่ยงเครื่องสำอางที่เนื้อหนาหนัก เพราะสิวจะถามหาแน่นอน
ใครที่เคยชินกับรองพื้นเนื้อด้าน บางทีช่วงซัมเมอร์นี้อาจต้องเปลี่ยนเป็น tinted moisturizer ที่มีลักษณะคล้ายครีมกันแดดสีเนื้อแทน แม้จะปกปิดจุดบกพร่องบนหน้าไม่ได้ 100% แต่ก็ไม่ทำให้สิวเกิดใหม่ขึ้นเพิ่มค่ะ
6. โฟมล้างหน้าเนื้อเข้มข้น หรือมีส่วนผสมของซิลิโคน

คนเราจะล้างหน้า ก็ย่อมหวังผลให้คลีนซิ่งโฟมเหล่านั้นกำจัดคราบสิ่งสกปรก มลภาวะที่อุดตันออกให้เกลี้ยง ไม่ใช่ไปเพิ่มให้มันมีสิวมากขึ้นกว่าเดิม! ฤดูอื่นๆ แม้จะใช้คลีนซิ่งที่มีเนื้อหนาหนักสักหน่อย แต่ผิวหน้าไม่ได้มีน้ำมันเยอะ ก็อาจไม่ได้แสดงผลอะไร หน้าก็ยังเนียนเกลี้ยงปกติ
แต่เมื่อเข้าหน้าร้อนเท่านั้นแหละ ใช้โฟมตัวเดิม เอ๊ะ ทำไมสิวขึ้นข้างปาก สันกราม คาง เรียงกันเป็นลูกระนาดเลยจ้าแม่ มันเกิดอะไรขึ้น???
สาวๆ ที่มีผิวเซนซิทิฟ หรือผิวมันเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ช่วงซัมเมอร์ไม่ควรใช้โฟมล้างหน้าที่เนื้อเข้มข้น หนาหนัก หรือมีส่วนผสมของ ' ซิลิโคน ' เป็นอย่างยิ่ง แม้จะกลิ่นหอมหรือใช้ส่วนผสมดีแค่ไหนก็ตาม เพราะซิลิโคนจะก่อให้เกิดการอุดตันได้ง่าย และเร่งให้มีการผลิตน้ำมันออกมามากขึ้นด้วย
เปลี่ยนไปใช้โฟมล้างหน้าเนื้อเจลหรือเนื้อน้ำใสๆ ที่ผสม salicylic acid, glycolic acid หรือ lactic acid แทนจะดีต่อผิวหน้ามากกว่าค่ะ
7. มอยส์เจอไรเซอร์เนื้อครีม

ถึงจะขึ้นชื่อว่าเป็นมอยส์เจอไรเซอร์บำรุงผิว แต่ในช่วงหน้าร้อน ' ครีมบำรุงผิวหน้าเนื้อเข้มข้น ' ก็ควรเป็นสิ่งที่ต้องละเว้นไว้ก่อน เพราะยิ่งทา ยิ่งเสี่ยงอุดตันจนสิวยกขบวนมาทักทาย
ถึงบางคนจะเป็นสาวผิวแห้ง ต้องการความชุ่มชื้น ลดอาการคันหน้า แต่ถ้ามีสิวอักเสบบวมปูดโผล่มาในเช้าวันรุ่งขึ้นก็คงไม่โอเคเท่าไหร่ ยิ่งถ้าทาแบบโบกหนาๆ ทับๆ กันหลายชั้นแล้วล้างไม่เกลี้ยงล่ะก็... #ขนลุกซู่
เปลี่ยนจากเนื้อครีม มาใช้เป็นเนื้อเจลใสๆ หรือถ้าผิวแห้งมากก็เป็นเนื้อเจลครีมจะดีกว่า โดยใช้เนื้อเจลหรือน้ำตบโลชั่นในตอนเช้าก่อนออกจากบ้าน ถ้าโลชั่นนั้นมีส่วนผสมของ SPF กันแดดอย่างน้อย 30 จะยิ่งป้องกันผิวได้ดีขึ้นอีก ป้องกันการอุดตันและถ้าอยากใช้ครีมจริงๆ ก็ค่อยทาเลเยอร์บางๆ ในตอนกลางคืนก่อนเข้านอน และทำความสะอาดในตอนเช้าด้วยโฟมล้างหน้า 2 รอบ เท่านี้ก็ยังมีผิวเนียนใสกิ๊งได้
-------------------------------------------------------------
สาวๆ บางคนอาจเข้าใจผิดว่า ถ้าสกินแคร์ชิ้นหนึ่งใช้ได้ผลกับผิวหน้าเราได้ดีแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนอีกเลย สามารถทาตัวเดิมๆ ได้ตลอดปีตลอดชาติ ซึ่งเป็นความคิดที่ผิดมาก! ความจริงคือเป็นหน้าที่เราที่ต้องเช็กสภาพผิวหน้า-ผิวกายของตัวเองอยู่ตลอด เพราะสภาพผิวเปลี่ยนแปลงได้เสมอ ที่เห็นชัดสุดก็คือตามฤดูกาล หน้าร้อนผิวเราก็มัน หน้าหนาวผิวเราก็แห้งตกสะเก็ด ก็ต้องปรับเนื้อสกินแคร์ให้เข้ากับผิวในช่วงนั้นๆ ยังไม่นับผิวที่แห้งขึ้นตามวัย หรือเกิดอาการแพ้เฉพาะกิจอีกนะ ดังนั้นถ้าผิวผิดปกติ ต้องรีบแก้ไขโดยเริ่มจาก ' สกินแคร์ ' เป็นขั้นตอนแรกค่ะ
หากลองปรับมอยส์เจอไรเซอร์ให้เข้ากับผิวแล้ว แต่ยังมีอาการเห่อ แสบแดง คันระคายเคืองไม่หายสักที หรือมีสิวอักเสบที่แต้มยาเท่าไหร่ก็ไม่หาย ก็ควรไปปรึกษากับแพทย์ผิวหนังโดยเร็วที่สุด เพื่อรับยากิน ยาทามาใช้คู่กับสกินแคร์ ผิวจะได้กลับมาสวยปิ๊งได้ไวๆ นะคะ สำหรับวันนี้ขอลาไปก่อน พบกันใหม่คราวหน้าค่า บ๊ายบายยย ☆ ~('▽^人)
Cr. 7 Skin Care Products You Should Stop Using In The Summer [huffpost.com]
https://www.huffpost.com/entry/skin-care-stop-using-in-warm-weather_l_5ebc270bc5b61767852de1ad