ฮัลโหลค่าา สาวๆSistaCafeที่ไม่อยากเป็น' ของตาย 'ทุกคนความรักสำหรับบางคนมันก็คือน้ำผึ้งขมจริงๆ นะ! ตอนคบกันแรกๆ ทุกอย่างหวานจ๋อยไปหมด มองโลกเป็นสีชมพู ผู้ชายรักเอยเตยหอม ดูแลเทคแคร์ดีตลอด 24 ชั่วโมง แต่หมดช่วงโปรเท่านั้นแหละเธอจ๋า จากหน้ามือเป็นหลังเท้ากันเลยทีเดียวเชียว!!!จากที่เคยโทรหา ส่งข้อความเป็นห่วงทุกวัน กลายเป็นวันละครั้ง สองวันครั้ง สัปดาห์ละครั้งถ้าไม่ทักก่อนก็ไม่ตอบ พูดแบบขอไปที ขอให้ช่วยอะไรก็ปฏิเสธ นัดไปเดตกันก็เทกลางคันซะดื้อๆ ก็มี จนใจเราพังไปทีละน้อย รู้อีกทีรักครั้งนี้ก็ขมปี๋แบบไม่น่าให้อภัยซะแล้ว แต่ก็ยังเสียดายความทรงจำที่ผ่านมา ยังไม่อยากเลิก จะต้องเริ่มแก้ไขยังไงดี?สำหรับผู้ชายบางคน เราก็อาจจะเหมือนของเล่น หรือของขวัญที่ตอนยังไม่ได้ครอบครองก็ถวิลหา ใฝ่ฝันอยากจะได้มา แต่เมื่อเชยชมจนพอใจแล้วก็ทิ้งขว้าง ไม่ได้ให้ความสำคัญเท่าเดิมเพราะถือว่าตัวเองเป็น ' เจ้าของ ' แล้วแต่เขาคงลืมไปว่าสาวๆ อย่างเราเป็นมนุษย์ มีหัวใจ มีอิสระ ไม่ได้ผูกสังกัดเป็นสิ่งของของใครทั้งนั้น!วันนี้เราขอชวนซิสๆ ที่ตกอยู่ในสภาวะนี้ ทวงศักดิ์ศรีของพวกเราคืนมาด้วย' 7 ทริคให้คุณแฟนรักและหลงเราเป็นที่หนึ่ง ไม่มองเป็นลูกไก่ในกำมืออีกต่อไป 'ก็ให้มันรู้กันไปว่าถ้ามองกันเป็นอากาศธาตุอีก เราจะได้เห็นดีกัน!

1. ต้องรู้จัก ' คุณค่า ' ของตัวเองให้ได้ก่อน

รูปภาพ:https://www.i-pic.info/i/Exyi38505.jpg

ถ้าพูดกันตามตรง ผู้หญิงหลายคนที่ตกอยู่ในความสัมพันธ์แบบ ' ยอมจำนน ' ให้ตัวเองอยู่ต่ำกว่า อีกฝ่ายอยู่เหนือกว่าและเอาเปรียบอยู่เสมอ เพราะเธอมี self-esteem หรือความภูมิใจในตัวเองค่อนข้างต่ำ คิดว่าแค่นี้ก็ดีเท่าไหร่แล้ว เธอไม่มีปัญญาหาคนที่ดีกว่านี้หรอก

หรืออ้างว่าเสียดายเวลาที่คบกันมา ความทรงจำร่วมกันเยอะแล้ว ไม่อยากเริ่มต้นใหม่ หรือบางคนคิดไปถึงว่าเธอไม่สมควรได้รับสิ่งดีๆไม่จำเป็นต้องมีใครมาใส่ใจดูแลเธอหรอก เพราะฉะนั้นถึงแฟนจะเมินไปบ้างก็ไม่เป็นไร ซึ่งเป็นความคิดที่ดูถูกตัวเองสุดๆ และไม่ดีกับสภาพจิตเลยค่ะ

ไม่ว่าเธอจะเป็นใคร มาจากไหน เป็นคนจนหรือคนรวย ประวัติครอบครัวเป็นยังไงมาก่อน เราขอคอนเฟิร์มตรงนี้ให้เธอมั่นใจว่า ' ทุกคนมีคุณค่าในตัวเอง ' เธอมีสิทธิ์ที่จะถูกรัก ควรค่าแก่การใส่ใจดูแล แสดงความเป็นห่วง ปกป้องในวันที่อ่อนแอจากคู่รัก เขามีหน้าที่นั้น เป็นเรื่องปกติที่คนเป็นแฟนต้องทำ ไม่ใช่เรื่องที่เธอจะต้องไปร้องขออยู่ตลอดเวลา


เธอคือคนพิเศษและจงเชื่อเถอะว่า ในโลกภายนอกยังมีคนอีกมากมายที่พร้อมจะดูแลเธอเหมือนเจ้าหญิง นี่ไม่ใช่รถไฟขบวนสุดท้าย เธอมีสิทธิ์เลือกเสมอว่าจะให้ใครเข้ามาหรือออกไปจากชีวิต เขาควรหัดเรียนรู้ที่จะกลับมาทะนุถนอมและใส่ใจเธอ ไม่อย่างนั้นเธอก็สามารถเดินจากไปได้ง่ายๆ เช่นเดียวกัน

2. กล้าที่จะบอกว่าตอนนี้ ' รู้สึกไม่โอเค ' และเขาต้องปรับปรุงแก้ไข

รูปภาพ:https://www.i-pic.info/i/9sLr38504.jpg

หากตอนนี้ความรักกำลังอยู่ในจุด' น้ำผึ้งขม 'เต็มที คือรู้ว่าความสัมพันธ์กำลังเจออุปสรรคก้อนใหญ่ที่มาจากฝั่งแฟนของเธอเอง ถ้าไม่รีบแก้ไขตอนนี้คงไปต่อยากแน่นอน เธอต้องรวบรวมความกล้าที่จะบอกว่า " ตอนนี้รู้สึกไม่โอเคแล้วนะ ช่วยปรับตรงนี้ แก้ตรงนั้นได้ไหม "


อย่ากลัวว่าจะดูเรื่องมากหรือเป็นคนงี่เง่า เพราะความรักที่ไปรอด ต้องรู้สึกสบายใจจากทั้งสองฝ่าย ไม่ใช่แฟนรู้สึกสบายใจอยู่คนเดียว แต่เธออึดอัด เศร้า เหงา แบบนี้ไม่ใช่รักที่เฮลท์ตี้แน่นอน //เลิกกันไปไม่รู้กี่คู่แล้ว

หาเวลาว่างๆ ที่สามารถเปิดใจคุยได้ พูดไปตรงๆ ว่าเขามีอะไรที่เธอไม่ชอบ และควรแก้ไขตรงไหนอย่างไร ทำไมตอนแรกเคยทำให้บ่อยๆ แต่ตอนนี้เลิกทำ ระบายไปเลยให้หมดเปลือก เขาจะได้รู้ว่าตอนนี้เธอคิดอะไรอยู่ และถ้าเขายังรักยังแคร์เธอ เขาจะต้องปรับปรุงตัวตามที่ขอ ( อาจจะไม่ใช่ 100% แต่อย่างน้อยเขาก็พยายามเพราะยังเห็นเธอเป็นคนสำคัญ )

ในทางกลับกัน ถ้าบอกไปหมดแล้วเขายังเฉย ทำเหมือนเดิม ไม่ได้สนใจว่าเธอจะรู้สึกยังไง ก็ควรพิจารณาได้แล้วนะว่าจะยังไปต่อกับคนคนนี้จริงๆ หรือเปล่า

3. เลิก ' หน้าชื่นอกตรม ' ในเรื่องที่ไม่ควรทน เราไม่ควรเจ็บอยู่ฝ่ายเดียว

รูปภาพ:https://www.i-pic.info/i/7ZIU38503.jpg

สาวๆ บางคนก็รับบท' นางอดทน 'คิดไปเองว่านี่คือรักในแบบผู้ใหญ่ จะมีความสุขบ้าง ความทุกข์บ้างก็เป็นเรื่องธรรมดา เขาไม่สนใจเพราะเขางานยุ่ง เขาไม่ว่าง เขามีหน้าที่ที่ต้องทำ etc. สารพัดจะแก้ตัวแทนทั้งที่แฟนไม่ได้ใส่ใจเธอในเรื่องที่ common sense ด้วยซ้ำ

โทรหาไม่รับ มีเรื่องด่วนก็หายตัวไปเลย วันสำคัญก็ลืม นัดก็ไม่มา แต่เธอก็ยังกล่อมตัวเองว่า ' คบไปนานๆ ก็แบบนี้แหละ ช่างมัน ไม่เป็นไรหรอก ' จนบางทีอกแทบจะระเบิดอยู่แล้ว ถามหน่อย ทำเพื่อใคร??

ไม่มีใครได้โล่จากการเป็นคนอดทนดีเด่น สิ่งที่เธอจะได้จริงๆ คือความเข้าใจผิดจากแฟนว่าทำแบบนี้คือดีแล้ว เธอแฮปปี้ ถ้าเธอไม่ว่าก็ไม่เห็นจำเป็นต้องเปลี่ยนนี่นา เมื่อเก็บสะสมความไม่พอใจหนักเข้าแล้วระเบิดใส่แฟน

เขาก็งงว่าทำไมต้องด่ารุนแรงด้วย ก็ที่ผ่านมาไม่เห็นพูดอะไรเลย แย่สุดก็อาจจะทะเลาะครั้งนั้นครั้งเดียวแล้วเลิกเลย เธอเห็นปัญหาแล้วรึยัง? ถ้าไม่อยากให้คู่ตัวเองดำดิ่งไปถึงจุดนั้น ก็จงเคลียร์กับแฟนเสียตั้งแต่เนิ่นๆ นะคะซิสขา

4. ไม่ใช่แค่พูด แต่แสดงออกให้เขารู้ตรงๆ ว่า ' ทำแบบนี้ เธอเสียใจขนาดไหน '

รูปภาพ:https://www.i-pic.info/i/gE1Q38502.jpg

บางครั้งคำพูดก็อาจไม่ใช่ทั้งหมดของการเปิดใจ! อย่างที่รู้กันว่าผู้ชายคิดอะไรได้ไม่ซับซ้อนเท่าผู้หญิงอยู่แล้วโดยธรรมชาติ การใช้คำพูดนิ่งๆ เรียบๆ แต่ไม่สื่อความหมายชัดเจน อ้อมไปอ้อมมาเพราะไม่อยากทะเลาะ แฟนจะงงว่าเธอต้องการอะไรกันแน่

สาวๆ บางคนไม่อยากแสดงความรู้สึกจริงออกมาเพราะอยากคีพคูล กลัวเสียฟอร์ม แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าอยากจบปัญหานี้ให้ได้ แค่คำพูดเฉยๆ หรือตัวอักษรในแช็ตมันไม่พอค่ะ ต้องมีการแสดงออกด้วย!

การกระทำสำคัญกว่าคำพูดเสมอ ถ้าเธอบอกว่า' ทำแบบนี้เราไม่ชอบอะ 'แล้วเขายังทำเหมือนเดิมอยู่ เธอก็ลองแกล้งลืมวันเกิดเขาบ้าง เขาโทรมาเธอก็ตัดสายทิ้ง แกล้งทำเป็นไม่รับบ้าง เข้าตำราหนามยอกเอาหนามบ่ง


เพื่อให้เขารู้สึกว่าที่ทำกับเธอนั้นมันรู้สึกเจ็บขนาดไหน ให้ความจริงกระแทกหน้าดูบ้าง ว่าการรู้สึกว่าตัวเองไม่สำคัญมันเป็นยังไง อาจจะดูโหดร้าย แต่มันก็ทำให้เห็นอะไรๆ ชัดขึ้นได้ง่ายที่สุดแล้วค่ะ ถ้าเขายังแคร์ เขาจะเข้าใจและปรับตัวทันที แต่ถ้าเขากลับมาโกรธและด่าเธอแทนโดยไม่ดูตัวเอง ก็... มูฟออนจากคนนี้เถอะค่ะ อย่าเสียเวลาต่อเลย

5. อย่าอ่อนข้อ ยอมเขาทุกอย่าง ให้เขาทำตาม ' กฎของเธอ ' ด้วย

รูปภาพ:https://www.i-pic.info/i/cCwB38501.jpg

เชื่อว่าสาวๆ หลายคนเติบโตมาในครอบครัวชายเป็นใหญ่ โดยเฉพาะบ้านคนจีนที่พ่อกับพี่ชายคนโตมีอำนาจที่สุด พูดอะไรต้องทำตามนั้น ผู้หญิงในบ้านมีหน้าที่แค่ทำตาม ห้ามหือห้ามอือใดๆ พ่อสั่งแม่ พี่ชายสั่งน้องสาว ซึ่งพอที่บ้านเป็นแบบนั้น เวลาเจอสังคมภายนอกก็คิดว่าเป็นเรื่องธรรมดา ผู้หญิงทั่วโลกก็คงโดนกดทับแบบนี้เหมือนกัน


พอตัวเองมีแฟนแล้วโดนเมิน โดนทิ้ง ใจลึกๆ ก็ไม่ชอบหรอกแต่มันฝังหัวไปแล้วว่าต้องยอม ต้องอยู่ในกฎของเขา ไม่อยากมีปัญหา พอแฟนเห็นว่าทำได ้เขาก็จะหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ เรียกว่าถ้าไม่เลิกไปซะก่อน เธอก็จะอึดอัดจนแทบหายใจไม่ออก มีความทุกข์ไปทั้งชีวิตเลยล่ะ

ความรักคือเรื่องของคนสองคนที่มีสิทธิเท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะชายหญิง ชายชาย หญิงหญิง หรือ LGBTQ+ แบบไหนก็ตาม อย่าไปยอมอยู่ใต้กฎและความต้องการของเขาอย่างเดียว เขาเองก็ต้องเคารพพื้นที่ส่วนตัวและความต้องการของเธอเช่นกัน


เช่น ถ้าเริ่มคบตกลงกันไว้ว่าไม่พูดหยาบคายใส่กัน ก็ต้องทำทั้งคู่ ไม่ใช่ว่าพออารมณ์เสียเขาหลุดด่าเธอได้ แต่เธอห้ามโต้ตอบ แบบนี้ทางใครทางมันจะดีกว่า แต่งงานกันไปมีเรื่องให้อารมณ์เสียมากกว่านี้แน่นอน

6. ทำให้เห็นว่า ' ถึงไม่มีเขา เธอก็อยู่ได้ อยู่ได้ดีมากด้วย '

รูปภาพ:https://www.i-pic.info/i/Lp4b38500.jpg

ผู้หญิงมากมายอยู่ในสภาพที่' รู้สึกว่าต้องพึ่งพาผู้ชายอยู่ตลอดเวลา 'ซึ่งก็แตกย่อยออกไปอีกว่า จำเป็นต้องพึ่งด้วยฐานะและการศึกษาที่ยืนด้วยลำแข้งตัวเองได้ยาก หรือคนที่สถานะจริงๆ เหนือกว่าผู้ชายด้วยซ้ำ แต่มีความเชื่อฝังหัวว่าเป็นแฟนกันแล้วก็จะประคับประคองกันไปให้ได้

แม้รักจะแย่แค่ไหนก็ทนจนกว่าจะตายกันไปข้างหนึ่ง คิดว่าไม่มีแฟน ตัวเองจะมีชีวิตอยู่ไม่ได้ เอาความหวังความฝันไปลงที่เขาหมด แบบนี้ไม่ได้ต่างอะไรกับ Toxic Relationship เลยนะคะซิส ( และรักแบบนี้ส่วนใหญ่จะจบไม่สวยด้วยน่ะสิ )

แม้ใจลึกๆ จะรู้สึกอ่อนแอแค่ไหน ถ้าอยากทวงศักดิ์ศรีของตัวเองกลับคืนมา จงแสดงให้เขาเห็นว่าเธอเข้มแข็ง สตรอง! ไม่ต้องมีเขาเธอก็อยู่ได้ และทำได้ดีมากด้วย! ไปหากิจกรรมที่เธอทำได้เองคนเดียว

ไม่ว่าจะดูหนังที่บ้าน กินข้าว เข้าคอร์สเรียนออนไลน์ ทำงานอดิเรก เล่นเกม มีเป็นหลายล้านสิ่งบนโลกที่เธอทำได้โดยไม่ต้องรอคำอนุมัติจากเขา เผลอๆ ทำไปทำมาเธอเองจะเป็นฝ่ายอยากถอยจากความสัมพันธ์นี้เองด้วยซ้ำ เพราะติดใจความโสดเข้าเสียแล้ว

7. หากสุดท้ายไปไม่รอด ก็ถือเป็นบทเรียน กลับมาหาเพื่อนและครอบครัว

รูปภาพ:https://www.i-pic.info/i/CKpy38499.jpg

ในกรณีที่เลวร้ายที่สุด คือรักครั้งนี้จะไม่มีวันกลับมาหวานอีกแล้ว แม้แต่ตัวเธอเองข้างในลึกๆ ก็รู้ว่าแค่คบกันรอวันเลิกเท่านั้น ก็ขอให้เตรียมตัวหากวันนั้นจะมาถึง ถ้าระหว่างทางเธอได้เปิดใจคุย เคลียร์สิ่งต่างๆ ปรับกันทั้งสองฝ่ายเท่าที่จะทำได้ไปหมดแล้ว แต่สุดท้ายเขาไม่กลับมาเหมือนเดิม เธอก็เริ่มจะหมดใจ

ก็แค่แยกทาง ต่างคนต่างไป มันไม่ใช่จุดจบของโลกใบนี้สักหน่อย คู่รักหลายคู่ก็เลิกกันในทุกๆ วัน เธอก็แค่กลับมาโสด ซึ่งจะสนุกกับชีวิตต่อหรือหารักครั้งใหม่ก็เป็นประตูบานใหม่ที่รอให้เธอก้าวออกไปค้นหาค่ะ

ถ้าคิดในแง่ดีก็คือการที่เธอกลับมาเป็นอิสระ ไม่ต้องมีพันธะความสัมพันธ์กับใคร ทำให้เธอไม่ต้องเอาเวลาไปเทคแคร์ เป็นห่วงคนที่ก็ไม่ได้สนใจเรา กลับมาใช้เวลากับแก๊งเพื่อนสนิท สัตว์เลี้ยง เทคแคร์ดูแลคนในครอบครัวให้มากขึ้น


รักที่ไม่สมหวังครั้งนั้นก็ให้ถือว่าเป็นบทเรียน อยู่กับตัวเองไปจนกว่าหัวใจจะแข็งแรง กระปรี้กระเปร่าอีกครั้ง อาจจะใช้เวลาเป็นเดือน เป็นปี หรือหลายปี แต่สุดท้ายเธอจะกลับมามีรอยยิ้มที่สดใสได้อีกอย่างแน่นอน : )

--------------------------------------------

ปี 2021 แล้ว ความรักเป็นเรื่องของการยินยอมอยู่ในความสัมพันธ์ของทั้งสองฝ่าย ผู้หญิงอย่างเราไม่จำเป็นต้องตกอยู่ในฐานะเบี้ยล่าง หรือของตายรอให้เขามาหา มารัก ไม่กล้าเรียกร้องเพราะกลัวจะดูไม่งาม หรือกลัวคนรอบข้างมองว่ารักล้มเหลว เพราะสุดท้ายแล้วมันคือชีวิตของเรา ความรักของเรา ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะเจอคู่ชีวิตที่ดี มีรักที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจ มีความสุข พึ่งพาและช่วยเหลือกันได้ในยามยาก ไม่อย่างนั้นจะมีไปเพื่ออะไร? ถ้ามีแล้วรู้สึกแย่ บั่นทอน ต้องช่วยเหลือตัวเองทุกอย่าง แถมเผลอๆ เขายังกลายมาเป็นภาระของเธออีกคนนึง สู้เป็นโสดเสียยังจะดีกว่า!!!

ขอให้สาวๆ ทุกคนยืนหยัดเพื่อความต้องการของตัวเอง กล้าพูด กล้าสื่อสารกับคู่รัก อย่าหลบหน้า อย่าหนีความจริงไม่ว่าจะทางดีหรือทางร้าย ชี้ให้เห็นปัญหาแล้วจับมือแก้ไขไปด้วยกัน ดีกว่าซุกความอึดอัดและหงุดหงิดไว้ใต้พรม พอถึงเวลาก็ระเบิดตู้ม! ถึงตอนนั้นก็สายเกินแก้แล้ว ดังนั้นคุยกันตั้งแต่วันนี้จะดีที่สุด จะไปกันรอดหรือไม่รอให้พระเจ้าตัดสินเนอะ ^^ เป็นกำลังใจให้ซิสที่กำลังเจอปัญหากันทุกคนนะคะ เจอกันใหม่คราวหน้า บ๊ายบายยย

♡ ~('▽^人)