ชีวิตห่อเหี่ยวมากแม่! แชร์ 7 วิธีจัดการ ‘ ความเครียด ’ ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย สบายใจ และมีความสุขมากขึ้น
เราเข้าใจดีนะคะว่าสถานการณ์ปัจจุบันมันอาจทำให้สาวซิสรู้สึกห่อเหี่ยวใจหนักมากกก! เราเลยจะชวนมาลองทำตาม 7 วิธีจัดการ ‘ ความเครียด ’ รับรองได้เลยว่าวิธีเหล่านี้จะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย สบายใจ และมีความสุขมากขึ้นหลายเท่าแน่นอน
เผยแพร่: 2 พ.ค. 2564 20:00 น.
Views: 4,475
รหัสบทความ: 84146
หันซ้าย หันขวา หันมอง 360 องศา ก็มีแต่เรื่องเครียดๆ ทั้งนั้นเลยค่ะ (❁≧⌒≦)
เมื่อก่อนเคยคิดนะว่าพอปีเก่าผ่านไปแล้วปีใหม่เข้ามา เรื่องแย่ๆ หรือปัญหาต่างๆ มันจะจากไปพร้อมกับปีเก่าด้วยเหมือนกันแต่ไหง… ปีใหม่ 2564 กลับมีแต่#เรื่องพีครายวันไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์ COVID-19 ที่ระบาดไปทั่วโลก เรื่องเศรษฐกิจ เรื่องงาน เรื่องเรียน หรือแม้แต่เรื่องส่วนตัว ก็ดูเหมือนจะมีปัญหาเข้ามาทำให้ต้องคิดจนปวดหัว แล้วรู้สึกท้อแท้หมดกำลังใจและไม่มีเรี่ยวแรงจะคิดหรือทำอะไรเลยละ
แต่ขอเตือนไว้ก่อนนะว่าอย่าปล่อยให้เรื่องเครียดเล็กๆ น้อยๆ มันรวมตัวกันจนกลายเป็น‘ ความเครียดสะสม ’เด็ดขาดเลยนะ ไม่อย่างนั้นมันอาจทำลายสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจของสาวๆ จนพังยับแบบไม่เหลือได้วันนี้เราเลยแอบไปลิสต์มาให้ได้ลองทำตามกัน เผื่อว่าวิธีเหล่านี้มันจะช่วยให้สาวซิสรู้สึกผ่อนคลาย สบายใจ และมีความสุขในชีวิตเพิ่มขึ้นอีกสักนิดก็ยังดีนะ
༶ ༶ ༶ ༶ ༶ ༶ ༶ ༶ ༶ ༶ ༶ ༶ ༶ ༶ ༶ ༶ ༶ ༶ ༶ ༶ ༶ ༶ ༶ ༶ ༶ ༶ ༶ ༶ ༶ ༶ ༶ ༶
① ขยับตัวออกกำลังกายขับไล่ความเครียด
โยกซ้าย… โยกขวา… ขยับตัวไปมากันเถอะค่ะสาวซิส!!! ขอให้รู้ไว้เลยนะว่า‘ การออกกำลังกาย ’มันไม่ได้เป็นเคล็ดลับที่ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ของร่างกาย หรือเพิ่มความฟิตให้หุ่นเฟิร์มกระชับสำหรับคนที่อยากไอเดทอย่างเดียวเท่านั้นหรอกนะแต่การออกกำลังกายยังเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยคลายเครียดได้ด้วยเหมือนกัน เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่ความเครียดมันทะลุพิกัด กล้ามเนื้อของสาวๆ ก็จะเกิดอาการหดเกร็งได้โดยที่เธอไม่ทันรู้ตัวแบบนี้เลยต้องขยับร่างกายเพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อกันซะหน่อยที่สำคัญการออกกำลังกายยังช่วยลดระดับ‘ คอร์ติซอล ’หรือ‘ ฮอร์โมนแห่งความเครียด ’และกระตุ้นการผลิต‘ เอ็นโดรฟิน ’หรือ‘ ฮอร์โมนแห่งความสุข ’เข้ามาช่วยทำให้รู้สึกสดชื่นแจ่มใสขึ้นด้วยนะ
② ใช้เวลาผ่อนคลายไปกับครอบครัว / เพื่อน
เราเข้าใจนะคะว่าสำหรับสาวๆ บางคน เวลาที่มีเรื่องให้คิดหรือรู้สึกเครียดขึ้นมา เธอก็คงอยากอยู่เงียบๆ คนเดียว แต่การขังตัวเองไว้ในห้องแล้วเอาแต่นั่งจ้องเพดานในห้องสี่เหลี่ยมแคบๆ มันอาจยิ่งทำให้เธอคิดวกวนซ้ำไปซ้ำมากับเรื่องเครียดๆ หนักกว่าเดิมได้ทางที่ดีเราเลยอยากแนะนำให้ออกไปใช้เวลากับครอบครัวหรือเพื่อนให้มากขึ้น เผื่อว่าเธอได้รับพลังบวกจากคนที่เธอรักและเขาก็รักเธอเหมือนกัน แล้วเขาเหล่านี้จะช่วยทำให้เธอผ่อนคลายสบายใจขึ้นได้เผลอๆ เธออาจได้ใช้โอกาสนี้ในการระบายปัญหาและขอคำปรึกษาจากพวกเขา หรืออย่างน้อยๆ แค่ได้บอกเล่าเรื่องราวที่มันอัดอั้นตันใจให้ใครสักคนฟัง มันก็ช่วยแบ่งเบาความเครียดที่มีอยู่ให้มันเจือจางลงไปได้นะ
③ ลองเขียนระบายความในใจ ตามด้วยการเขียนถึงเรื่องราวดีๆ
สำหรับคนที่อยู่ห่างไกลจากครอบครัวหรือเป็นคนเพื่อนน้อย ก็อย่าได้คิดว่าชีวิตนี้เธอไม่เหลือใครสักคนเด็ดขาดเลยนะ ขอให้เดินไปที่หน้ากระจกแล้วบอกกับตัวเองเลยว่า‘ ไม่มีใครก็ยังมีตัวเราเองอยู่! ’หากวันไหนที่สาวๆ รู้สึกเครียดมากๆ จนมันบั่นทอนกำลังใจให้หมดลงไปแทบไม่เหลือ ก็ลองใช้วิธีเขียนระบายความในใจลงในสมุดโน๊ตส่วนตัวโดยหลังจากที่เขียนเกี่ยวกับเรื่องเครียดๆ หรือเรื่องแย่ๆ ไปจนครบหมดทุกอย่างแล้ว ก็ให้เปลี่ยนมาเขียนถึงสิ่งดีๆ ที่เคยเกิดขึ้นหรือสิ่งที่เธอรู้สึกขอบคุณลงไปด้วยวิธีนี้ก็จะช่วยให้เธอนึกย้อนไปถึงเรื่องราวดีๆ ในชีวิตและช่วยเพิ่มพลังบวกให้กับตัวเองด้วยไงล่ะ
④ ถ้ารู้สึกเครียดหนักก็ต้องหัวเราะออกมาดังๆ
ช่วงเวลาไหนที่สาวๆ รู้สึกเครียดก็ขอให้ลองใช้วิธีหัวเราะออกมาดังๆ ให้สุดเสียงไปเลยค่ะเอ้าาา อย่าเพิ่งมองค้อนแล้วย้อนถามว่า‘ คนเครียดอยู่จะให้ยิ้มออกได้ยังไง?! ’ที่เราแนะนำให้สาวซิส#ยิ้มสู้เครียดก็เพราะว่าการหัวเราะเฮฮาไปกับเรื่องสนุกต่างๆ มันช่วยคลายกล้ามเนื้อและกระตุ้นให้สมองหลั่ง‘ เอ็นโดรฟิน ’หรือสารแห่งความสุขออกมา ช่วยปรับโหมดจิตใจหม่นหมองให้กลายเป็นคนอารมณ์แจ่มใสขึ้นได้แถมการหัวเราะบ่อยๆ เป็นประจำยังมีประโยชน์ในระยะยาวเพราะช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยต้านเชื้อโรคและลดการอักเสบในร่างกายได้ด้วยนะรู้แบบนี้แล้วช่วงที่เครียดหนักจนคิ้วขมวดแทบจะพันกัน ก็ลองเปิดดูคลิป / รายการวาไรตี้ตลกๆ หรืออ่านแคปชั่นฮาๆ เพื่อเรียกเสียงหัวเราะให้ตัวเองดูสิคะ
⑤ รู้จัก ‘ Say No ’ ปฏิเสธคนอื่นให้เป็นบ้าง
มันก็จริงเหมือนที่คนเขาชอบพูดกันอยู่หรอกนะว่า‘ ความเครียดไม่ใช่เรื่องที่จะห้ามกันได้ ’แต่สาวๆ ก็สามารถควบคุมไม่ให้ความเครียดมันบานปลายมากขึ้นได้นะอย่างใครที่มีนิสัยปฏิเสธคนไม่เป็น ไม่ว่าจะถูกไหว้วานให้ทำอะไรหรือโดนร้องขอเรื่องไหน ก็ตบปากรับคำคนอื่นไปทั่วทั้งๆ ที่ตัวเองไม่ได้รู้สึกอยากทำหรือลำบากใจเบอร์แรง แล้วตัวเธอเองก็ต้องมานั่งเครียดอยู่คนเดียวในตอนสุดท้ายทุกครั้งไปเพราะฉะนั้นถ้าไม่อยากเพิ่มเรื่องเครียดหรือปัญหาในชีวิต ก็ต้องใจแข็งแล้ว‘ Say No ’ปฏิเสธคนให้เป็นซะบ้าง ยิ่งถ้าเรื่องที่เขาเหล่านั้นร้องขอมันทำให้เธอลำบากทั้งกายและใจ ก็รีบปฏิเสธให้จบๆ ไปจะดีกว่า
⑥ ฝึกโยคะช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย + สมองปลอดโปร่ง
ถ้าสาวซิสเป็นคนไม่ชอบออกกำลังกายหนักๆ เพราะว่ามันเหนื่อยเกินไป เรียกง่ายๆ ว่าไม่ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ของตัวเอง ก็ลองเปลี่ยนมา‘ ฝึกโยคะ ’แทนได้นะเพราะเป้าหมายของการฝึกโยคะท่าทางต่างๆ คือการรวมกาย จิตใจ และจิตวิญญาณให้เป็นหนึ่งเดียว แถมยังช่วยผ่อนคลายความเครียดให้สมองโปร่งโล่งสบายขึ้นด้วยนะก็เวลาที่สาวๆ ฝึกโยคะจะต้องมีการฝึกกำหนดลมหายใจเข้า - ออก เลยช่วยเพิ่มความผ่อนคลาย พอจิตใจไปจดจ่ออยู่ที่จังหวะลมหายใจก็จะช่วยให้หยุดคิดถึงเรื่องไม่สบายใจต่างๆ ระดับความเครียดและความกังวลใจเลยลดลงแล้วยังส่งผลให้นอนหลับง่ายและหลับสนิทกว่าเดิมด้วยนะ
⑦ ปล่อยวางจากโลกโซเชียลแล้วออกไปเจอโลกกว้าง
ถึงแม้ว่าเทคโนโลยีมันจะเป็นตัวกลางที่ทำให้คนที่ตัวอยู่ไกลได้ใกล้ชิดกันมากขึ้นก็จริง แต่มันก็เป็นเหมือนดาบสองคมที่ให้ทั้งประโยชน์และโทษเลยนะคะสาวๆ เคยสังเกตตัวเองดูรึเปล่าว่าช่วงไหนก็ตามที่เธอจ้องหน้าจอสมาร์ตโฟน เพื่อไถดูไอจี, เฟซบุ๊ก, ทวิตเตอร์ หรือสื่อโซเชียลต่างๆ เพื่อเสพข่าวหรือส่องดราม่า ยิ่งใช้เวลานานเท่าไหร่ก็ยิ่งรู้สึกเครียดกับเรื่องราวที่อ่าน แถมยังรู้สึกปวดตาและปวดหัวหนักกว่าเดิมอีกต่างหากนะดังนั้น เราอยากแนะนำให้เธอละสายตาและปล่อยวางจากโลกโซเชียล แล้วออกไปเจอโลกกว้างมองธรรมชาติและบรรยากาศรอบตัว ก็ช่วยผ่อนคลายกายและใจจากความเครียดได้แล้ว
༶ ༶ ༶ ༶ ༶ ༶ ༶ ༶ ༶ ༶ ༶ ༶ ༶ ༶ ༶ ༶ ༶ ༶ ༶ ༶ ༶ ༶ ༶ ༶ ༶ ༶ ༶ ༶ ༶ ༶ ༶ ༶
เป็นยังไงบ้างคะ??? หลังจากที่ได้อ่านไปจนครบทั้ง 7 ข้อแล้ว สาวๆ คงคิดเหมือนกันแน่ๆ เลยล่ะสิว่ามันเป็นวิธีที่ทำตามได้ง่ายๆแค่เธอลองปรับเปลี่ยนมุมมองของตัวเองใหม่ ลดพฤติกรรมที่ยิ่งทำแล้วยิ่งเครียด พร้อมกับปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์และหาช่วงเวลาสำหรับรีแลกซ์ตัวเอง เพียงเท่านี้ก็ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย สบายใจ และแฮปปี้กว่าเดิมได้แล้วละแล้วต้องขอย้ำแรงๆ ตรงนี้อีกทีเลยนะว่า‘ ความเครียด ’ไม่ใช่เรื่องที่จะปล่อยเบลอหรือมองข้ามไปได้ เพราะสักวันหนึ่งที่ความเครียดมันสะสมจนเกินขีดจำกัด มันอาจส่งผลร้ายต่อทั้งร่างกายและจิตใจอย่างร้ายแรงได้เลยนะ
