นิยายเรื่องนี้เขียนขึ้นจากจินตนาการของนักเขียนเท่านั้น เนื้อเรื่อง สถานที่ วัฒนธรรม ความเชื่อ ศาสนา เเละตัวละครไม่มีอยู่จริง ผู้อ่านที่น่ารักโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยจ้า ทั้งหมดคือการสมมติเพื่อเขียนขึ้นมาใหม่ทั้งหมดค่ะ


Chapter 03 ll ขาย

รูปภาพ:

ร่างของหญิงสาวนอนอยู่บนฟูกในห้อง เธอขยับตัวพลางปรือตาขึ้นมาด้วยความงุนงง เรี่ยวแรงยังกลับมาไม่หมดแต่ก็พยายามฝืนขยับตัวลุกขึ้นมองสถานที่และห้องที่ไม่คุ้นเคย ซ้ำกลิ่นอับชื้นและสกปรกจนน่าตกใจ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่

มิราวดีทบทวนเหตุการณ์เท่าที่จำได้ ตอนนั้นเธออยู่กับแฟนหนุ่มและเขาบอกว่าให้ใช้ผ้าปิดตา มันผิดแปลกวิสัยที่ทำแบบนี้ และหลังจากนั้นก็จำอะไรไม่ได้อีกเลย  หญิงสาวลุกขึ้นจากฟูกนอนเก่าเดินสำรวจห้องที่ไม่มีแม้แต่ช่องระบายอากาศหรือหน้าต่างสักนิด สองเท้าเดินเข้าไปหวังจะเปิดประตูออก แต่ก็ได้ยินเสียงจากทางด้านนอกที่ทำให้ต้องเงี่ยหูฟัง

“อย่าคิดจะหนีอีก !”

มิราวดีสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงร้องของผู้หญิง จึงพยายามที่จะเอียงหูฟังความต่อไป

“จับมันไว้ดี ๆ อย่าทำให้สินค้าต้องเสียหาย”

สินค้าเหรอ

มิราวดีพลางนึกคิดด้วยความหวั่นใจ ทันทีที่ประตูห้องถูกเปิดออกจึงรีบหมายจะเดินออกไปทว่ากลับมีหญิงสาวใบหน้าฟกช้ำถูกส่งตัวโยนเข้ามา เธอจึงรีบเดินออกไปแต่กลับถูกห้ามไว้

“ออกไปนะ ฉันจะกลับบ้าน !” หญิงสาวขึ้นเสียงเข้มข่ม

“จะกลับบ้าน” เสียงหนึ่งที่ดังขึ้นจากทางด้านหลังของชายตัวใหญ่ ก่อนเดินเข้ามาหามิราวดี

“กลับไปไหน”

“ถอยไป” มิราวดีเดินเข้าไปหาหวังจะออกไปจากห้องแต่กลับถูกผลักลงที่พื้นอย่างแรง ดวงตากลมมองด้วยความหวาดกลัวเมื่อเห็นสีหน้าของเจ้าของเสียงเป็นชายร่างท้วมใบหน้าหื่นกามดูไม่น่าไว้ใจ

“พวกคุณเป็นใคร ปล่อยฉันไปเดี๋ยวนี้นะ ไม่งั้นฉันจะแจ้งความ”

“แจ้งความ” เสียงหัวเราะสมเพชของชายร่างท้วมดังลั่นขึ้น “เอาเซ่ ถ้าลื้อหนีออกไปได้ แต่ทางที่ดีอยู่เฉย ๆ เตรียมเป็นสินค้าของอั๊วจะดีกว่า”

“หมายความว่ายังไง”

“จะบอกให้เอาบุญนะ แฟนของลื้อน่ะมันขายลื้อให้อั๊วแล้ว” โชคชัยหัวเราะยิ้มมองสินค้าอย่างพึงใจ เพราะงานนี้ได้เงินก้อนใหญ่แน่ ๆ

“ลื้อก็ทำตัวดี ๆ อยู่เฉย ๆ แล้วจะไม่เจ็บตัว”

เธอมองตามสายตาเมื่อเห็นหญิงสาวอีกคนที่นั่งโทรมอยู่ หน้าตาและตัวฟกช้ำจนปางตาย มิราวดีอยู่ในสภาวะตกตะลึงจนทำอะไรไม่ถูก ครั้นตั้งสติได้ก็หันไปมองประตูแต่ก็ไม่รู้ว่าปิดไปตอนไหน

พอกลับมานั่งทบทวนแล้วก็พอจะเข้าใจได้ว่าทำไมแฟนหนุ่มถึงนัดเธอออกมาดินเนอร์และย้ำหลายครั้งว่าให้แต่งตัวสวย ๆ ซ้ำยังมอบดอกไม้ให้และพูดขอโทษในสิ่งที่ไม่เคยทำผิดสักครั้ง และเป็นเธอที่หลงคารมจนพูดรับปากออกไป

“ไอ้คนชั่ว !”

หญิงสาวตะโกนลั่นด้วยความโกรธและโมโหไม่คิดว่าแฟนที่คบกันมาเกือบสิบปี แถมกำลังจะแต่งงานกันกลับหลอกเธอมาขายให้กับใครก็ไม่รู้

“ไอ้บ้า ! ไอ้หน้าตัวเมีย %$#*#@!*&!!!....ไปตายซะ !”

ถึงจะก่นด่าไปมากสักเท่าไหร่ก็ไม่หายโมโห ตอนนี้แม้แต่เวลาเสียใจตัดพ้อต่อความรักที่มีต่อแฟนหนุ่มยังไม่มีด้วยซ้ำ มีแค่ความโกรธและหาหนทางหนีออกไปจากที่แห่งนี้ก่อน มิราวดีหันมองหญิงสาวที่นอนอยู่บนฟูกก่อนจะเริ่มเอ่ยถาม แต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จเมื่ออีกฝ่ายเอาแต่ร้องไห้และพูดว่า ‘อยากตาย’ เธอรู้ดีว่ามันไม่ใช่สิ่งที่ดี มันก็เป็นสิ่งที่น่ากลัวมากที่สุดเมื่อผู้หญิงถูกหลอกมาขายตัว และหมดหนทางที่จะหนี

นานเกือบสองชั่วโมง กว่าที่หญิงสาวคนนี้จะยอมเล่าว่าตนเองนั้นก็ถูกขายใช้หนี้พนันเหมือนกัน และก็พยายามหาทางหนีหลายรอบแต่ไม่เคยสำเร็จ ทั้งยังบอกอีกว่ามีทางเดียวที่จะหนีได้คือช่วงหลังงานประมูล ช่วงนั้นคนคุมมีน้อย ซ้ำเฮียโชคหรือพ่อค้ามนุษย์ก็สนใจแต่ลูกค้าและเงินที่กำลังได้มา

“เราหนีไปด้วยกันไหม”

อีกฝ่ายส่ายหน้า เพราะรู้ว่าหมดหนทางแล้ว

“ไม่ได้ เพราะพวกมันเข้มงวดกับฉันมากขึ้น หากมันเจอว่าฉันหนีไปอีก ฉันต้องถูกฆ่าตายแน่ ๆ ถ้าเธอหนีไปได้ก็รีบย้ายที่อยู่ ย้ายไปให้ไกล ๆ ไม่ให้มันตามเจอ”

มิราวดีพยักหน้ารับโดยไม่พูดอะไรอีก เพราะนอกจากจะต้องหนีแล้วคงทำอะไรมากกว่านี้ไม่ได้ ตอนนี้ได้เพียงแค่เฝ้ารอเวลาที่จะถูกขายประมูลออกไป

หญิงสาวรู้สึกเจ็บใจมากกว่าเจ็บปวด เพราะไว้ใจแฟนหนุ่มราวกับคนในครอบครัวแต่ท้ายที่สุดกลับถูกแทงข้างหลัง ความรักที่มีไม่ได้สลายหายไปเพียงไม่กี่ชั่วโมงแต่มันกลับดูว่างเปล่าและย้ำเตือนว่าที่ผ่านมาแค่คำหลอกลวง ไม่ใช่ความจริงใจ ไม่ใช่ความรัก แค่คำตอแหลของผู้ชายเห็นแก่ตัวคนหนึ่งเท่านั้น

ถ้าเขารักเธอจริง คงไม่ทำร้ายชีวิตเธอแบบนี้ !


ติดตามผลงานนักเขียนได้ที่ facebook : Mamaya Writer