Chapter 06 ll แชร์เฮ้าส์

รูปภาพ:

(ต่อ)


“อะไร มองฉันแบบนั้นหมายความว่ายังไง”

เจ้าไก่ตัวสีขาว หรือนามว่า ‘อาโป’ เอ่ยถาม

รชตมองด้วยสายตาขุ่นเคือง “นายอยากเป็นยาบำรุงให้ฉันหรือไง”

“นายต้องขอบคุณฉันสิ ! ฉันเป็นเทพนะ เทพเจ้าน่ะ” อาโปขยับปีกดิ้นอยู่ในกรงจนเกือบตกจากที่นั่ง มองชายหนุ่มที่ส่งสายตาประมาณว่า ‘อ้อ งั้นเหรอ’ พอเห็นแล้วก็ยิ่งหงุดหงิด ทั้งที่เขาเป็นเทพรูปหล่อที่ต้องมาซวยอยู่ในร่างไก่สีขาวที่หมดอายุขัยแล้ว ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหนก็กลับไปร่างเดิมไม่ได้สักที

“ถ้านายไม่ได้ช่วย ฉันคงไม่รู้หรอกว่าผู้หญิงคนเมื่อกี้คือคนที่นายกำลังตามหาอยู่”

“หมายความว่ายังไง” สีหน้าของรชตดูเปลี่ยนไป

อาโปขยับปีกวางท่า “ฉันสัมผัสได้ว่าดวงวิญญาณของเธอเหมือนกับของผู้หญิงคนนั้น...อาจจะเป็นสิ่งที่ฉันรอคอยคือการกลับไปเป็นเทพเจ้ารูปงามอีกครั้งหนึ่ง !”

“ถ้านายพูดผิดอาจจะได้อยู่ร่างนี้ไปกับฉันอีกสักร้อยปี”

“ไม่มีทางหรอกน่า!” อาโปขยับปีกหมายบินเข้าหาชายหนุ่ม เป็นเพราะพิธีกรรมโบราณนั่น ทำให้เขาต้องเผลอซวยมาเป็นผู้พิทักษ์จำเป็นเพื่อช่วยชายผู้นี้จนกว่าจะแก้คำสาปได้

“ฉันไม่อยากอยู่ร่างนี้ไปถึงหนึ่งพันปีหรอกนะ ให้ตายสิ !”

ชายหนุ่มมองด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง เขาไม่รู้สึกถึงตัวตนหรือวิญญาณของหญิงสาวเลยแม้แต่นิดเดียว หลายร้อยปีมานี้เดินทางไปทั่ว ย้ายถิ่นไปเรื่อย และตามหาเธอ ทุกครั้งที่เข้าใกล้หรือรู้สึกว่าต้องเป็นคนเดียวกันกลับมาเกิดใหม่ แต่สุดท้ายก็ไม่ใช่

“ถ้าใช่ก็จะแก้คำสาปนี้ได้ใช่ไหม”

“อืม” อาโปทำท่าทางนึกคิด “ตอนที่ทำพิธีนี้ ผู้หญิงคนนี้เต็มใจมอบด้วยความรัก ฉันคิดว่าถ้านายทำให้เธอรักได้ ก็อาจจะ”

มันยากลำบากเหลือเกินที่จะทำใจแสร้งเล่นละครอีกครั้งหนึ่งเพื่อหลอกล่อให้เธอช่วยแก้คำสาป ทว่าการมีชีวิตอายุยืนนั้นไม่ได้ทำให้เขามีความสุขแม้แต่น้อย

รูปภาพ:

“แค่นายทำให้เธอรักนายก่อน ส่วนที่เหลือฉันจะลองหาวิธีดู” อาโปพูดด้วยสีหน้าคิดหนัก แม้จะเป็นเทพก็ไม่ได้รู้อะไรมากขนาดนั้น ซ้ำพิธีนี้สร้างขึ้นจากความเชื่อของมนุษย์จนเกิดเป็นความศักดิ์สิทธิ์ที่เทพองค์หนึ่งประทานพรให้ ในอดีตกาลหลายพันปีที่ถูกสืบทอดมา แต่ไม่มีใครได้ใช้มันแม้สักครั้งเดียว จวบจนเวลาก็ผ่านมานานจนความเชื่อเหล่านี้ถูกลบเลือนไปเกือบสิ้น

รชตส่งสายตานิ่ง ๆ ก่อนหันหน้าออกไปทางหน้าต่างรถ มองวิวกลางคืนพลางคิดเพียงลำพัง ถ้าหากง่ายขนาดนั้นคงจะดีไม่น้อย เขาจะได้หยุดความอมตะที่ทรมานนี้สักที

“แล้วนายอยากให้ฉันช่วยไหมล่ะ”

ชายหนุ่มพยักหน้า “มีแผนเหรอ”

เจ้าไก่สีขาวส่งสายตามีเลศนัย ยิ้มหัวเราะอย่างมีชัย

“ระดับท่านเทพซะอย่าง”


มิราวดีไม่มีเวลาให้ทำใจหรือเสียใจกับความรักที่มอบให้แฟนหนุ่มมาหลายปีมากนัก เพราะต้องตั้งสติเอาชีวิตรอดจากนรกบนดินนี้เสียก่อน หญิงสาวรีบจัดเก็บของลงกระเป๋าเท่าที่ทำได้ โชคดีที่ไม่มีของเยอะ หลังจากเก็บของใช้เวลาร่วมหลายชั่วโมงจนข้ามวันใหม่ เธอจึงใช้โทรศัพท์สำรองรีบโทร.บอกเจ้าของห้องไม่ต่อสัญญาและย้ายออกทันที

เมื่อจัดการเรื่องนี้เสร็จแล้วจึงรีบโทร.แจ้งธนาคารอายัดธุรกรรมทางการเงินทั้งหมดไว้ ถึงแม้ใจอยากจะแจ้งความมาก แต่หากแจ้งไปต่อให้ตำรวจเข้าไปตรวจค้นคงไม่เจอเพราะพวกนั้นคงไหวตัวทัน

ในเวลานี้มิราวดีไม่ไว้ใจเพื่อนสนิทหรือใครที่รู้จักเลย เพราะอาจจะบอกที่อยู่ให้แฟนหนุ่มรู้ได้ จึงทำได้เพียงเก็บและขนของทั้งหมดที่ใส่ได้ลงรถ และขับออกจากคอนโดฯ ไปอย่างรวดเร็ว

หญิงสาวขับรถออกจากสถานที่เดิมมาหาห้องพักเพื่ออยู่ชั่วคราวไปก่อน แต่ก็ไม่มีที่ไหนที่จะทำให้รู้สึกปลอดภัยกระทั่งรถขับผ่านบ้านหลังหนึ่งที่อยู่ไกลออกจากใจกลางเมือง ซ้ำยังประกาศติดว่า “แชร์เฮ้าส์”

ดวงตากลมมองด้วยความลังเลเพราะไม่ชินกับการอยู่ร่วมคนแปลกหน้า แต่นี่อาจจะเป็นความปลอดภัยแบบหนึ่งก็ได้ มิราวดีตัดสินใจจอดรถไว้ข้างทาง และกำลังจะกดกริ่ง แต่ประตูบ้านและเสียงพูดอัตโนมัติก็ดังขึ้น

‘เชิญครับคุณผู้หญิง หากต้องการติดต่อแชร์เฮ้าส์ กรุณาติดต่อด้านในได้เลยครับ’

มิราวดีเดินเข้าไปในบ้านประตูด้านนอกก็ปิดลง โดยไม่คิดจะหันหลัง

ไปมองแผ่นป้ายที่ติดอยู่ได้หายไปแล้ว สองเท้าก้าวเดินตรงไปพลางกวาดสายตามองคฤหาสน์ขนาดใหญ่ทรงยุโรปร่วมสมัย ทั้งสองข้างเป็นสวนที่ประดับด้วยรูปปั้นเทพนิยายโบราณ ส่วนทางด้านหน้ามีน้ำพุขนาดใหญ่ประดับด้วยรูปปั้นอย่างสวยงาม

“มาแล้วเรอะ ๆ กำลังรออยู่”

มิราวดีหันหลังมองที่ต้นเสียง แต่กลับไม่เห็นเจ้าของเสียง

“ระบบเสียงอัตโนมัติอีกเหรอ”

“ใช่ที่ไหนละ”

มิราวดีฟังอีกครั้ง และรับรู้ว่าเสียงที่ได้ยินนั้นอยู่ต่ำกว่าระดับสายตาจึงก้มลงมอง

ไก่สีขาวที่เธอเจอเมื่อคืนวาน!

หญิงสาวมองราวกับเป็นเรื่องประหลาด และอยากที่จะหาความจริง จึงโน้มตัวลงไปหมายจะสัมผัสไก่ที่อยู่ตรงหน้า แต่...

“เข้ามาคุยกันข้างในก่อนสิ” เสียงของชายหนุ่มดังขึ้นทำให้เธอลุกหันไปมอง

“คุณ !” มิราวดีร้องอุทานด้วยความตกใจ...โลกนี้ช่างเล็กมากนัก ไม่คิดว่าเจ้าของบ้านแชร์เฮ้าส์จะเป็นคนเดียวกับที่เมื่อวานเธอกระโดดขึ้นรถ “เอ่อ...คุณคือเจ้าของบ้านแชร์เฮ้าส์เหรอคะ”

รชตมองด้วยสายตาเรียบนิ่งก่อนจะหมุนตัวเดินนำเข้าไปข้างในโดยไม่พูดอะไร

มิราวดีมองไก่สีขาวที่เดินตามเจ้าของไปจึงได้แต่ยืนงงและเดินตามเข้าไปข้างใน

เขียน Mamaya Writer