บทที่ 6

ถลัชนันท์รู้สึกถึงน้ำหนักแขนที่ทับอยู่บนตัว เธอลืมตาขึ้นมองกะพริบตาหลายต่อหลายครั้งเพื่อมองชายหนุ่ม จึงรับลุกขึ้นจากที่นอนและมองไปรอบ ๆ อย่างทันที มือทั้งสองข้างยกขึ้นกุมศีรษะราวกับว่ากำลังนึกเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น เมื่อยกผ้านวมออกก็เห็นว่าตัวนั้นเปล่าเปลือยอยู่ ดวงตากลมของเธอจึงหันไปมองชายหนุ่มที่ไม่แม้แต่รู้จักชื่อนอนอยู่ข้าง ๆ

ศรันภัทรรับรู้ถึงน้ำหนักของคนที่ขยับบนเตียงจึงลืมตาขึ้นมองแต่ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นหญิงสาวนั่งอยู่ด้วยกายเปล่า มีเพียงผ้านวมที่ปกปิดกายของเธอเอาไว้

“ว้ากกกก...”

เดี๋ยวนะ...นั่นเธอต้องเป็นคนกรี๊ดไม่ใช่หรือไง แล้วทำไมเขาถึงร้องอุทานออกมาแบบนั้นกันละ !

ถลัชนันท์หันมองชายหนุ่มที่ร้องเสียงหลงจนน่าตกใจ หญิงสาวอึ้งจนร้องไม่ออกได้แต่หัวเราะสมเพชตัวเอง ขณะที่ชายหนุ่มพยายามควานหาผ้าปิดบังร่างกายและขยับตัวลงจากเตียงทันที

“คุณ...ทำไมถึง มาอยู่ที่นี่ได้” ศรันภัทรถามด้วยน้ำเสียงตะกุตะกัก

เธอยกมือขึ้นกุมขมับแล้วถอนหายใจออกมา “ฉะ...ฉันต่างหากที่ต้องถามคุณ....ทำไมฉันมาอยู่ที่นี่ได้”

ความทรงจำเมื่อคืนช่างเลื่อนลางนักแม้จะอยู่คุยด้วยกันเพราะรู้สึกถูกชะตาด้วยแต่ทำไมถึงมาลงเอ่ยกันบนเตียงแบบนี้ล่ะ จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าออกจากผับมาตอนไหน

...นี่มันบ้าชัดๆ เธอเสียครั้งแรกให้กับผู้ชายคนนี้ที่อย่างนั้นน่ะเหรอ? !“ตาพี หลายวันแล้วไม่ยอมกลับบ้าน...” เสียงของหญิงวัยกลางคนดังขึ้นขณะที่ประตูห้องเปิดออก หนุ่มสาวทั้งสองคนที่อยู่ในห้องก็หันมามองเป็นทางเดียวด้วยความตกใจ“ว้าย! ตายแล้ว คุณพระคุณเจ้า”“คุณแม่...” ศรันภัทรทำอะไรไม่ถูกเมื่อถูกผู้เป็นแม่เปิดประตูเข้ามาเห็นอะไรที่ไม่ควร ชายหนุ่มก้มหน้าหลบหันไปทางอื่น เช่นเดียวกับที่ถลัชนันท์ยกผ้านวมคลุมศีรษะด้วยความอายซวยโคตร ! นี่เธอเมาจนเสียตัวเลยหรือเนี่ย!

รูปภาพ:

“มันเป็นเรื่องเข้าใจผิด...” ชายหนุ่มพยายามพูดด้วยน้ำเสียงแผ่ว เขาเหลือบมองใบหน้าของผู้เป็นแม่แล้วก็รีบก้มตาหลบลงทันที

“แต่งตัวให้เรียบร้อยแล้วออกมาหาแม่ที่ห้องรับแขก”

เมื่อพูดจบประตูก็ปิดลงทันที ศรันภัทรก็หันมองหญิงสาวที่นั่งอยู่บนเตียงก่อนจะทำหน้าไม่พอใจและเก็บเสื้อผ้าเดินเข้าห้องน้ำไปในทันที ส่วนถลัชนันท์นั้นขยับตัวลุกขึ้นหยิบเสื้อผ้าของเธอที่กระจายตามพื้นขึ้นสามใส่ จัดแต่งทรงผมให้เรียบร้อยและหยิบกระเป๋าเดินไปแง้มประตูเปิดออกเบาๆ

ดวงตากลมมองไปยังโซฟาที่อยู่ห่างไม่ไกลนักเห็นหญิงสาววัยกลางคนนั่งหันหลังอยู่ ถลัชนันท์จึงค่อย ๆ ย่องเดินด้วยเสียงฝีเท้าเบาที่สุดเพื่อตรงไปยังประตู ทว่า...

“เธอน่ะ...ก็ยังกลับไม่ได้” เสียงของลภัสรดาเอ่ยขึ้นเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าย่องเบาของหญิงสาว

ถลัชนันท์สะดุ้ง ยิ้มแห้งเมื่อเห็นหญิงวัยกลางคนหันมาเหล่มองด้วยสายตายากจะคาดเดา จึงได้แต่ก้มหน้าเดินมานั่งยังโซฟาตัวที่ห่างกันมากที่สุด

“เธอชื่ออะไร?” ลภัสรดาถามพลางส่งสายตาพินิจหญิงสาว

“จงรักค่ะ เรียกว่ารักก็ได้ค่ะ” ถลัชนันท์ตอบไม่เต็มเสียงพลางก้มหน้าหลบสายตาที่จ้องมองอยู่ “คือว่า...หนูไม่ได้ตั้งใจนะคะ เราเมากันทั้งคู่ มันผิดพลาดจริง ๆ นะคะ!”

หญิงสาวเงยหน้าขึ้นเพื่ออธิบายความผิดพลาดที่เกิดขึ้น เธอเกรงว่าฝ่ายผู้ใหญ่อาจจะมองในแง่ลบ

“เธออายุเท่าไหร่?” ลภัสรดายังคงถามต่อไปด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง

“คะ? ...สามสิบสองค่ะ” ถลัชนันท์ตอบด้วยความงุนงงและแปลกใจ จนกระทั่งชายหนุ่มเดินเข้ามาหาและนั่งลงที่โซฟาฝั่งตรงข้าม

“แม่ครับ คือมันเป็นเรื่องเข้าใจผิด...” ทันทีที่นั่งลงศรันภัทรก็รีบอธิบายอย่างรวดเร็ว

ลภัสรดาหันมองลูกชายก่อนจะเอื้อมมือไปตีที่ต้นแขนอย่างแรง “ผิดพลาดเหรอ? !”

“เธอชื่อรักใช่ไหม?”

ถลัชนันท์พยักหน้าแทนคำตอบ

“แต่งงานกับลูกชายฉันซะ”

“คะ? !”

“แม่พูดอะไรนะ...ทำไมผมต้องแต่งงานกับเธอด้วย!”

ศรันภัทรลุกขึ้นทันที ส่งสายตามองไปที่หญิงสาวด้วยความไม่พอใจ ตรงข้ามกับถลัชนันท์ที่อึ้งจนพูดอะไรไม่ออก แต่ต้องดึงสติกลับมาและหันมองมารดาของชายหนุ่ม

“ไม่ต้องทำขนาดนั้นมั้งคะ คือหนูไม่ได้คิดมากเรื่องนี้ อีกอย่าง...”

“แต่ฉันคิด...การที่ผู้หญิงอยู่กับผู้ชายในสภาพแบบนี้ คนอื่นเขาจะนินทายังไงกัน”

ก็ยังไม่มีคนเห็นซะหน่อย ปล่อยเธอไปไม่ได้หรือไงกัน !

“คุณแม่ ผม...”

ลภัสรดาลุกขึ้นพร้อมกับมองลูกชายที่ทำหน้าไม่พอใจ “แกจะไม่แต่งก็ได้ แต่อย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีก”

เป็นคำขาดที่ทำให้ศรันภัทรถึงกับอึ้งทำอะไรไม่ถูก ชายหนุ่มรู้ดีว่าหากมารดายื่นคำขาดแล้ว คงจะมีแผนการอะไรบางอย่างในใจแล้วแน่นอน และถ้าหากเขาหลีกหนีมันอาจจะไม่เป็นผลดี

“ส่วนเธอ ตามฉันออกมา”

ลภัสรดาพูดเสียงเข้มขณะที่หันหลังหมุนตัวออกไปแล้วเปรยยิ้มออกมาอย่างมีความสุข ทีแรกคิดว่าจะพาลูกชายไปดูตัวอีกครั้งแต่คงไม่จำเป็นแล้ว...ตลอดที่ผ่านมาหล่อนคิดว่าชาตินี้ลูกชายจะไม่ได้แต่งงานเสียแล้ว เพราะรู้ดีว่าลูกชายหัวแก้วหัวแหวนนั้นนิสัย ชายไม่เชิง หญิงไม่ใช่ ไม่สนใจผู้หญิงคนไหน ไม่มีแม้กระทั่งการเดตกันจะมีก็เพียงแค่เพื่อนสนิทที่คุยด้วย ซึ่งหล่อนไม่ต้องการแบบนั้น ! กลัวที่ผู้สืบทอดเพียงคนเดียวจะใจเปลี่ยนไปเป็นหญิงหรือชอบเพศเดียวกันซะก่อน

นี่เป็นโอกาสที่ดี...อีกทั้งหญิงสาวคนนี้ดูดีอีกทั้งกริยาวาจานั้นทำให้รู้สึกต้องชะตาด้วย แม้หน้าตาจะบ้าน ๆ ไม่ได้โดดเด่นอะไรก็ตาม แต่เชื่อว่าสายตาหล่อนมองคนไม่ผิด คนที่จะมาเป็นสะใภ้ของ ‘ธนาชโยชา’

ทางด้านถลัชนันท์ได้แต่ลุกและเดินตามลภัสรดาออกไป เธอยกมือขึ้นกุมศีรษะราวกับว่าสมองจะระเบิดออกมา แม้ว่าการแต่งงานจะเป็นสิ่งที่เธอหวังมาตลอด ทว่าจะต้องแต่งกับผู้ชายที่ไม่รู้จักแม้กระทั่งชื่อเนี่ยนะ

มันไม่ตลกเลยสักนิด!

ติดตามผลงานได้ตามช่องทางที่ลงไว้ในโปรไฟล์ได้เลยนะคะ