เคยมีปัญหาเรื่อง " ฝ้า " หรือเปล่า?

รูปภาพ:https://www.iskycenter.com/wp-content/uploads/2020/02/%E0%B8%9D%E0%B9%89%E0%B8%B22-scaled.jpg

อ่าา สำหรับคำถามนี้ หลายคนน่าจะตอบว่า " ฝ้าหรอ ก็เป็นอยู่นะรักษายากมาก " , " ฝ้านี่ทำให้จางยากมาก " เรื่องฝ้าๆ แค่พูดถึงก็ปวดหัวแล้ว เพราะปัจจัยการเกิดฝ้ามีหลายปัจจัยมากๆ หลักๆ คือ เกิดจากการตากแดดเป็นเวลานานและสะสมเรื่อยๆ ทำให้ผิวหน้าเป็นรอยจุดจางๆ สีน้ำตาล จากนั้นค่อยๆ เข้มขึ้น!! มันคงเป็นฝันร้ายของใครหลายๆ คนแน่นอน แต่งหน้าก็ยาก , หน้าสดก็ไม่มั่นใจ

ถ้าแบบนี้มีวิธีรักษาในราคาย่อมเยามั้ยล่ะ?

มุกได้ไปเจอครีมรักษาฝ้ายี่ห้อนึง ที่โด่งดังมานานมากๆ ในแง่ของตัวแบรนด์ ' ยันฮี ' สาวๆ คนไหน หรือเพื่อนๆ เราไม่รู้จักก็ไม่ได้น้า ถ้าพูดถึงความสวยต้องยันฮีเท่านั้น!!

ซึ่งเขาออกผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์สาวๆ ตั้งแต่วัยทำงานไปจนถึง 30++ เลยที่มีความกังวลในเรื่องของรอยดำจากฝ้านั่นเอง จริงๆ เขามีวางขายมาสักพักแล้ว แต่ยังไม่เคยได้ทดลองใช้กับตัว รอบนี้เลยจะมารีวิวแบบเน้นๆ ให้อ่านกันเลยค่ะ

ยันฮี เมล่าครีม

รูปภาพ:

ดูจากแพ็กเกจเขามีทั้งแบบหลอดและแบบซอง ซึ่งแบบซองเพิ่งออกใหม่ล่าสุดเลย สำหรับใครที่อยากทดลองใช้ก่อน สามารถซื้อแบบซองไปลองใช้ได้เลย แถมพกพาสะดวกอีกด้วย มีฝาปิดสนิทไม่ต้องกังวลว่าจะเลอะเวลาพกเดินทางไปไหนด้วยนะคะ

ส่วนประกอบสำคัญของ " ยันฮี เมล่าครีม " ที่ขาดไม่ได้ คือ?

รูปภาพ:

1) ทราเนซามิคแอซิด

: เป็นสาร Whitening ซึ่งแน่นอนเป็นสารที่โด่งดังในวงการแพทย์เพื่อรักษา ' ฝ้า ' ช่วยให้ฝ้า , กระ , จุดด่างดำจางลงได้ เป็นส่วนสำคัญเลยน้า ขาดไปไม่ได้เลย!

2) ชะเอมเทศ

: ลดการเกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ และลดความหมองคล้ำได้ ช่วยต้านการอักเสบของผิว ปกป้องผิวจากรังสีและมลภาวะต่างๆ จีงเป็นกุญแจสำคัญของการช่วยชะลอการเกิดฝ้าได้อีกด้วย

3) ไกลโคลิก แอซิด

: กรดผลไม้ชนิดหนึ่ง ช่วยให้ผิวเรียบเนียนมากยิ่งขึ้น ผิวดูกระจ่างใส และช่วยลดรอยเหี่ยวย่นของผิวหน้าได้เป็นอย่างดี

ทำไมต้องเลือก " ยันฮี เมล่าครีม " ?

ข้อดีมีแน่นอน มาดูกัน!

1) ลดปัญหาฝ้า ทำให้ผิวหน้ากระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ

2) ส่วนผสมที่เข้มข้นจาก Tranexamic acid เป็นสาร Whitening ดังในวงการแพทย์เรื่องการรักษา ' ฝ้า '

3) ช่วยให้จุดด่างดำจางลงอย่างเห็นได้ชัด

4) ช่วยผลัดเซลล์ผิว ทำให้จุดด่างดำ , ฝ้า , กระ แลดูจางลง

รูปภาพ:รูปภาพ:

มาดูเนื้อครีมกันบ้าง เขาเคลมเลยนะคะว่าซึมเร็ว ไม่เหนียวหน้าอีกด้วย ซึ่งเป็นข้อดีของครีมที่ต้องมี เพราะเวลาเราทาก่อนนอน เราก็คงไม่อยากให้หน้าเยิ้มหรือมันตลอดทั้งคืน เพราะอาจจะทำให้เกิดสิวได้ แต่สำหรับ " ยันฮี เมล่าครีม " ซึมเร็วไม่เหนียวเหนอะหนะ ไม่เป็นคราบแน่นอนค่ะ

วิธีการใช้งาน ง่ายแสนง่ายมากๆ

1) บีบเนื้อครีมปริมาณไม่ต้องเยอะมาก เท่าเม็ดถั่วเขียว

2) แต้มลงบนใบหน้าเฉพาะจุดที่มีปัญหาเรื่องฝ้า หรือ จุดด่างดำ

3) เกลี่ยเนื้อครีมให้ทั่วใบหน้าและลำคอ ( ในกรณีสำหรับใครที่ทาทั่วทั้งหน้านะคะ )

ผลลัพธ์ที่ได้ หลังผ่านไป 1 เดือน

ดูจากรอยจุดด่างดำบนผิวข้างแก้มของมุกคือค่อนข้างหนามากๆ ตอนแรกก็คิดว่าเป็นกระแดด สวยดีเหมือนฝรั่ง 555+ ตอนหลังต้องใช้รองพื้นกลบ ปวดหัวไปอีกกก มุกเลยขอทดลองใช้สินค้า 1 เดือนเพื่อให้เห็นประสิทธิภาพชัดเจนนะคะ

รูปภาพ:

ค่อนข้างตกใจกับผลลัพธ์มากๆ รอยบริเวณข้างแก้มค่อยๆ จางลงไปอย่างเห็นได้ชัดมากๆ ซึ่งปัจจุบันคุณแม่มุกจิ๊กไปทาเรียบร้อยแล้ว สำหรับตัวยันฮีเมล่าครีม ใช้ได้ทุกช่วงอายุเลยก็ว่าได้ ใครที่มีปัญหาเรื่องฝ้าจุดด่างดำสามารถทาได้เลยนะคะ

รูปภาพ:

สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่อยากสวยครบจบในครั้งเดียวแนะนำ

" ยันฮี เมล่าครีม ครีมทาฝ้า "

เท่านั้นนะจ๊ะ

ใครสนใจอยากซื้อ หาซื้อไม่ยากเลย " แบบซอง " ราคาเพียง 49 บาทเท่านั้น!! ถูกมากก

วางขายที่ 7-11 ทั่วประเทศ , CJ Supermarket , NINE BEAUTY หรือสามารถแอดไลน์สั่งมาได้ที่ @yanheeonline

ได้เลยค่ะ

ครั้งนี้ต้องขอลาไปก่อนนะคะ อย่าลืมดูแลผิวหน้าและสุขภาพเป็นประจำนะคะ รักษาความสะอาดด้วยถ้าไม่อยากให้ผิวหน้าของเราเป็นสิว และแน่นอนใครไม่อยากกลับไปเป็นฝ้าอีก อย่าลืมทากันแดดก่อนออกจากบ้านเสมอ " UV มีทุกที่ " อย่าลืมนะคะ บ๊ายบาย