1. SistaCafe
  2. ตะลุยเที่ยว จังหวัดคาโกชิม่า ใต้สุดแดนอาทิตย์อุทัยสไตล์สาวหวาน!

บทนำ: จังหวัดคาโกชิม่า ดินแดนธรรมชาติที่แสนยิ่งใหญ่

ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F85441%2Ffe44a791-cfa4-45f0-aa3b-c28680b93f8f.jpeg?v=20240313174020&ratio=0.562

ถ้าถามถึงสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่นกับคนไทย เชื่อว่าทุกคนคงจะได้ยินชื่อที่เที่ยวแถบคันไซอย่างโอซาก้า เฮียวโกะ เกียวโต หรือไม่ก็ซัปโปโรของฮอกไกโดกันอย่างคุ้นชินเลยทีเดียว แต่สำหรับ จังหวัดคาโกชิม่า ซึ่งเป็นจังหวัดที่อยู่ใต้สุดของภูมิภาคคิวชูที่ตั้งอยู่ใต้สุดของเกาะ ( ในกรณีที่นับเฉพาะพื้นที่ที่เป็นส่วนเดียวกันกับเกาะคิวชู จังหวัดคาโกชิม่าก็ถือว่าเป็นจังหวัดที่อยู่ใต้สุดของญี่ปุ่นค่ะ ) ก็คงไม่ค่อยเป็นที่รู้จักสำหรับชาวไทยสักเท่าไหร่เลยใช่ไหมคะแต่ถ้าทุกคนได้มาลองทำความรู้จักกับ จังหวัดคาโกชิม่า ที่ได้ฉายาว่า เนเปิลแห่งบูรพา ( Naples of Orient ) แล้วละก็ ทุกคนจะต้องตกหลุมรักที่นี่อย่างแน่นอนค่ะ เพราะไม่ว่าจะเป็นธรรมชาติแสนงามอย่างเกาะซากุระจิมะหรือของกินแสนอร่อยอย่างคุโรบุตะ ทั้งหมดก็ล้วนเป็นความพิเศษของจังหวัดคาโกชิม่าค่ะเอาล่ะ! เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เรามาดูกันเลยดีกว่าว่ามีสถานที่ใดที่น่าสนใจบ้าง ตามมายลกันเลยค่ะซิส!

1. เกาะซากุระจิมะ

ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F85441%2F7dad61c3-9249-4911-89bb-45c1eb34be2d.jpeg?v=20240313174020&ratio=0.667

เกาะซากุระจิมะ ( Sakurajima Island ) เป็นเกาะที่ตั้งอยู่บริเวณใจกลางของอ่าวคาโกชิม่า ( Kagashima Bay ) อีกทั้งยังเป็นสถานที่ที่เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ประจำของจังหวัดคาโกชิม่า เพราะบนเกาะแห่งนี้เป็นที่ตั้งของภูเขาไฟที่มีพลังอีกแห่งหนึ่งของโลกค่ะ ซึ่งเจ้าภูเขาไฟนี้เคยปะทุครั้งใหญ่มาแล้วถึง 2 ครั้งในปี 1914 และปี 1960 โดยการปะทุครั้งแรกส่งผลให้ลักษณะภูมิประเทศของเกาะซากุระจิมะเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย กล่าวคือ มันทำให้ผืนดินส่วนหนึ่งของเกาะเชื่อมติดกับแผ่นดินหลักฝั่งคาบสมุทรโอสึมิ ( Osumi Peninsula ) และทำให้เกิดแนวหินพัมมิชขึ้นตามแนวชายฝั่งเมื่อกล่าวถึงสถานะปัจจุบันของเจ้าภูเขาไฟที่ว่านี่ มันก็ยังคงปะทุแบบเบาๆอยู่ทุกวันค่ะ ถ้าวันไหนปะทุเยอะหน่อย เราก็อาจจะเห็นแมกมาไหลลงมาจากปากปล่องภูเขาไฟด้วย ถือว่าเป็นความมหัศจรรย์ของธรรมชาติไปอีกแบบค่ะเกริ่นกันพอหอมปากหอมคอแล้ว ก็อย่ารอช้าค่ะ ไปเที่ยวกัน!

ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F85441%2F146b9e56-17a5-4f6e-9c85-2af4f67daeb6.jpeg?v=20240313174020&ratio=0.667ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F85441%2F62419155-c573-4581-80d7-a781fd3875a5.jpeg?v=20240313174021&ratio=0.667

จุดเริ่มต้นการเดินทางไปเกาะซากุระจิมะนั้น เริ่มจากการนั่งเรือข้ามฟากค่ะ โดยปกติแล้วจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาที แต่ถ้าใครเป็นสายชิลล์ตัวแม่ อยากนั่งเหม่อบนเรือที่ขับวนรอบเกาะสักหนึ่งรอบ ก็ไม่มีใครขัดศรัทธาซิสได้ค่ะ เพราะเขามีตั๋วเรือแบบชมวิว หรือ Yorimichi cruise ด้วย โดยจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 50 นาที เราจึงสามารถนั่งกินลมชมวิว เหม่อมองบนฟ้าไกลและผืนน้ำทะเลได้อย่างจุใจเลยค่ะ



ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F85441%2Fa1e42e21-ca7f-4bfc-b128-d414932eea73.jpeg?v=20240313174021&ratio=0.750

และทันทีที่มาถึงเกาะซากุระจิมะ ความหิวโหยก็มาเยือนกระเพาะของพวกเราเช่นกันค่ะ โดยพวกเราเลือกที่จะฝากท้องน้อยๆ ไว้กับ ร้าน MINATO CAFE ซึ่งเป็นร้านที่ตั้งอยู่ใกล้กับบริเวณทางเข้าเกาะพอดีค่ะ



ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F85441%2Fa4fb8674-b836-4475-8812-2d09a992129a.jpeg?v=20240313174021&ratio=0.667ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F85441%2F380c4c13-08b4-48f6-b3cc-969e7f78066b.jpeg?v=20240313174021&ratio=1.500

และเราก็สั่งข้าวแกงกะหรี่กับเครื่องดื่มบลูโซดาค่ะ ก่อนจะปิดท้ายด้วยของหวานอย่างมันม่วงที่ทานคู่กับไอศกรีมค่ะ ถือเป็นมื้อแรกสุดชิลล์บนเกาะซากุระจิมะเลยก็ว่าได้ค่ะ



ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F85441%2F2524487a-062d-4aec-bf09-e527742f87a8.jpeg?v=20240313174022&ratio=0.664ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F85441%2Fda76b412-1c90-4436-9b8b-ed9d6257e677.jpeg?v=20240313174022&ratio=0.667

อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องทำเมื่อมาถึงที่นี่ ก็คือการเรียนรู้วิธีรับมือกับภูเขาไฟค่ะ เพราะสำหรับพวกเราชาวไทยที่ไม่เคยได้สัมผัสกับภูเขาไฟเลยสักครั้ง ก็คงจะรู้สึกวิตกกังวลและหวาดกลัวกับเหตุการณ์ภูเขาไฟระเบิดกันใช่ไหมคะ เราจึงต้องมาที่ Sakurajima Visitor Center เพื่อเรียนรู้ประวัติความเป็นมาของเกาะซากุระจิมะกันเสียก่อนค่ะ ซึ่งการมาที่นี่นั้นทำให้เรารู้ว่าเขามีหน่วยงานที่รับผิดชอบเรื่องการคาดคะเนเหตุการณ์ภูเขาไฟระเบิดอยู่ค่ะ โดยสามารถคาดคะเนล่วงหน้าได้ถึง 14 วันเลยทีเดียวค่ะ



ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F85441%2F64466ee0-13f2-4db8-80e0-7254d5cfcabd.jpeg?v=20240313174022&ratio=1.498

นอกจากนี้เมื่อลองดูข้อมูลสถิติการปะทุของภูเขาไฟ เราก็เห็นว่ามันมีการปะทุน้อยลงด้วยค่ะ และสำหรับถุงสีเหลืองที่เราเห็นกันอยู่ตอนนี้ก็คือ ถุงสำหรับใส่เถ้าภูเขาไฟค่ะ เนื่องจากว่าการปะทุของภูเขาไฟนั้นเป็นเรื่องปกติของที่นี่ ดังนั้นการเก็บเศษเถ้าภูเขาไฟจึงกลายเป็นกิจวัตรประจำวันของชาวเกาะซากุระจิมะไปโดยปริยายค่ะ



ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F85441%2F6bd3b5d0-2a7f-4d78-a0a6-fbd7b5570468.jpeg?v=20240313174022&ratio=0.664ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F85441%2F252c7993-ce97-4e98-a88a-ff1b58fbf5dc.jpeg?v=20240313174022&ratio=0.667

เมื่อได้รับความรู้กันอย่างเต็มอิ่มแล้ว เรามาผ่อนคลายด้วยออนเซ็นเท้าที่ Sakurajima Yogan Nagisa Park กันเถอะค่ะ โดยสวนสาธารณะแห่งนี้อยู่ห่างจากท่าเรือซากุระจิมะเพียง 7 นาทีเท่านั้น เราสามารถแช่ออนเซ็นเท้าฟรีไปพร้อมๆกับชมทิวทัศน์ที่แสนงดงามของภูเขาไฟซากุระจิมะโดยมีฉากหลังเป็นท้องฟ้าอันแสนสดใสได้ด้วยค่ะ



ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F85441%2Fea0624f9-301f-4d9a-aeec-21ce83f07269.jpeg?v=20240313174023&ratio=0.664

ส่วนตรงนี้เป็นจุดชมวิวเมืองที่สูงที่สุดของเกาะซากุระจิมะ ซึ่งมีชื่อว่า Yunohira Tenbosho ค่ะ นอกจากเราจะสามารถชมวิวเมืองและความงามของภูเขาไฟจากจุดชมวิวนี้ได้แล้ว ยังมีเสียงเล่าลือกันว่าหากหารูปหัวใจ 7 แห่งที่ซ่อนอยู่ที่นี่ได้จนครบทั้งหมด ก็จะได้ประสบพบเจอกับเรื่องราวดีๆ ด้วยค่ะ



2. เท็นมงคัง ( Tenmonkan )

ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F85441%2Fdfe8e171-06bb-4ce0-a20d-373d645aa23e.jpeg?v=20240313174023&ratio=0.667

เมื่อเที่ยวบนเกาะซากุระจิมะกันจนเพลินใจแล้ว เราจะพาทุกคนนั่งเรือกลับมายังเมืองหลักของคาโกชิม่ากันค่ะ โดยเราจะเริ่มต้นจากย่านเท็นมงคัง ( Tenmonkan ) ซึ่งเป็นย่านการค้าที่ใหญ่ที่สุดในเมืองคาโกชิมะ! เรียกได้ว่าสายชอปห้ามพลาดเด็ดขาดเลยค่ะ เพราะไม่ว่าจะเป็นร้านเสื้อผ้า ร้านขายของใช้ ร้านขายของจุกจิก ร้านอาหาร หรือคาเฟ่ ก็ล้วนน่าเดินเข้าไปเสียหมดทุกร้านเลย



ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F85441%2F95f78c30-d8db-47a8-ac99-5d3c90633a76.jpeg?v=20240313174023&ratio=0.667ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F85441%2Ffc499979-7342-4885-9438-02e751b86156.jpeg?v=20240313174023&ratio=0.667

และอีกสิ่งที่ดีต่อใจเหล่าสายหวาน ก็คือการได้รับประทานของหวานขึ้นชื่อของคาโกชิม่าอย่าง น้ำแข็งไสชิโระคุมะ ค่ะ! ซึ่งเราสามารถรับประทานกันได้ที่ร้าน Tenmonkan Mujaki Shirokuma Cafe



ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F85441%2F36e7a36d-0626-4967-836a-4ff12ba72271.jpeg?v=20240313174023&ratio=0.667ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F85441%2Ffecac731-cf91-437a-b667-e228752f1749.jpeg?v=20240313174023&ratio=0.750

แต่ถ้าใครเป็นสายพาเฟต์ผลไม้ เราขอแนะนำที่ร้าน TENMONKAN FRUITS PARLOUR ( Tenmonkanji Kajitsudon ) ซึ่งเป็นร้านขายพาเฟต์ผลไม้และขนมที่มีผลไม้เป็นส่วนประกอบค่ะ โดยความพิเศษของร้านนี้ก็คือรสชาติของขนมที่หวานน้อยทุกเมนู รวมถึงความสดใหม่และรสชาติที่โดดเด่นของผลไม้ด้วยค่ะ



3. KuRoBE

ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F85441%2F9523a5b5-9cf3-4cc8-9bdc-88b88aa809a1.jpeg?v=20240313174024&ratio=0.667

เมื่อสาวๆทุกคนต่างรู้กันดีว่าพวกเรานั้นมีกระเพาะแยกระหว่างของหวานกับของคาว! ดังนั้นไม่ว่าจะกินหนักแค่ไหนก็บ่หยั่นกันใช่ไหมคะทุกคน!



ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F85441%2Fcea5cabf-32f6-42bd-95a1-eac1f1ea72be.jpeg?v=20240313174024&ratio=0.667ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F85441%2Fe1b91bf6-2c62-4ed8-b624-2983c07f6bd2.jpeg?v=20240313174024&ratio=0.667

และอีกสิ่งหนึ่งที่ต้องทำเมื่อมาคาโกชิม่าก็คือ การรับประทานคุโรบุตะ โดยคุโรบุตะ หรือ หมูดำของจังหวัดคาโกชิม่านั้นเป็นวัตถุดิบเลื่องชื่อที่โด่งดังระดับประเทศ ถ้าชาวญี่ปุ่นได้กล่าวถึงคาโกชิม่าเมื่อไหร่ก็จะมีภาพเจ้าหมูคุโรบุตะลอยเข้ามาในหัวทันทีค่ะ! โดยครั้งนี้ทีมงานจะพาทุกคนไปลิ้มลองความอร่อยของคุโรบุตะกันที่ ร้านคุโรเบะ ซึ่งเป็นร้านทงคัตสึคุโรบุตะโดยเฉพาะเลยค่ะ ว่าแต่จะหน้าตาน่าอร่อยแค่ไหนก็ให้ภาพเล่าเรื่องแล้วกันนะคะ ( หากสาวๆ ท่านไหนกำลังอ่านบทความนี้กันตอนดึกๆ เราก็ขออภัยด้วยนะคะ 555 )



4. Kagoshima Chou

ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F85441%2F021c2a9f-ecc0-4d2e-95a0-7000c39038eb.jpeg?v=20240313174024&ratio=0.750ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F85441%2Fac550e4c-234b-4801-add3-cf73a95439a4.jpeg?v=20240313174025&ratio=0.667

สถานี Kagoshima Chou เป็นหนึ่งในสถานีรถไฟ JR Kyushu Railway ที่เราสามารถนั่งรถไฟชิงคันเซ็นมาลงที่สถานีนี้ได้ โดยสามารถนั่งมาจากจังหวัดฟุกุโอกะโดยใช้เวลา 2 ชั่วโมง นอกจากนี้ สถานีคาโกชิม่าโชว ยังเป็นย่านชอปปิ้งที่ประกอบไปด้วยห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ โรงหนัง ร้านอาหาร และร้านค้าต่างๆ อีกมากมาย



ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F85441%2F8e65d3bc-b191-4fd5-9f72-c0f8a7649c6b.jpeg?v=20240313174025&ratio=0.750ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F85441%2F870089a3-94ae-4b09-a9b1-41894b6dc65e.jpeg?v=20240313174025&ratio=0.667

แต่ที่เราอยากให้ทุกคนไปลองทำกันนั่นก็คือ การขึ้นชิงช้าสวรรค์ชมวิวเมืองที่ AMU Terrace ค่ะ เพราะนอกจากจะได้เพลิดเพลินกับวิวเมืองที่สวยงามโรแมนติกแล้วนั้น ก็ยังสามารถมองเห็นภูเขาไฟซากุระจิมะจากตรงนี้ได้ด้วย~



5. Senganen Garden

ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F85441%2Fa4b1b1ac-c653-4d99-be2e-0e186318c852.jpeg?v=20240313174025&ratio=0.667ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F85441%2Fa26cf0df-bce5-4f7b-a9a0-4b684e06e530.jpeg?v=20240313174025&ratio=0.667

สวนเซนกาเนน ( Senganen Garden ) เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่สามารถชมความงามของทะเลและภูเขาไฟซากุระจิมะ ท่ามกลางแมกไม้และมวลผกานานาพันธุ์!



ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F85441%2F87e73d42-f679-401c-a9b5-e1e629085081.jpeg?v=20240313174026&ratio=0.667ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F85441%2F6fd9434e-dd4f-446b-be97-288ba97c8c52.jpeg?v=20240313174026&ratio=0.667

เดิมที สวนเซนกาเนนนั้นเป็นที่ตั้งของคฤหาสน์ตระกูลชิมัตสึซึ่งเป็นผู้มีอิทธิพลต่อพื้นที่บริเวณนี้ และปัจจุบันเขาก็รักษา บูรณะ และอนุรักษ์อาคารหลังนี้ไว้เพื่อให้คนรุ่นหลังได้เข้ามาเยี่ยมชมกัน เรียกได้ว่านอกจากจะมีสวนสวยๆแล้ว ก็ยังอาคารที่เต็มไปด้วยเรื่องราวและประวัติศาสตร์อีกด้วย



ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F85441%2Faef8a2eb-c51c-49d5-8446-d37c41f55241.jpeg?v=20240313174026&ratio=0.667ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F85441%2F33d5324c-cb21-43da-9011-b5337836be8e.jpeg?v=20240313174026&ratio=0.667

พอเข้ามาชมภายในคฤหาสน์ก็จะสามารถสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของสถาปัตยกรรมแบบยุโรปที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวกับศิลปะแบบญี่ปุ่น ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ในช่วงเวลานั้นของญี่ปุ่นเริ่มมีการรับรูปแบบวัฒนธรรมของชาวตะวันตกเข้ามาบ้างแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น สวนที่อยู่ภายในอาคารแห่งนี้ก็จัดตามหลักฮวงจุ้ยด้วย



6. Satsuma Glass Kogei

ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F85441%2F4f79644b-682d-4695-852d-b081905276bf.jpeg?v=20240313174027&ratio=0.667ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F85441%2F9f363d05-3729-4bae-9a70-593833b0e182.jpeg?v=20240313174027&ratio=0.667

ซัตสึมะคิริโกะ ( SATSUMA KIRIKO ) หรือเครื่องแก้วเจียระไน เป็นหนึ่งในสินค้าที่ได้รับการพัฒนาเพื่อการค้าระหว่างประเทศในศตวรรษที่ 19 ซึ่งเวลาในตอนนั้นก็ตรงกับช่วงล่าอาณานิคมของประเทศมหาอำนาจพอดี จึงทำให้ญี่ปุ่นต้องเปิดประเทศและทำการค้ากับชาวตะวันตกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้



ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F85441%2F6b0508e8-ae52-4607-b592-87834355a67f.jpeg?v=20240313174027&ratio=0.667ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F85441%2Fa32ba1d5-d1bf-4a69-a043-4a67934b3a8d.jpeg?v=20240313174027&ratio=0.667

ทั้งนี้เราจะพาทุกคนมาชมความสวยงามของซัตสึมะคิริโกะและขั้นตอนการทำเครื่องแก้วกันที่ Satsuma Glass Kogei สำหรับใครที่ประทับใจกับความสวยงามของเครื่องแก้วเหล่านี้ ก็สามารถซื้อกลับบ้านได้ค่ะ



ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F85441%2Febde2084-b527-48b7-82cd-0848baf5d048.jpeg?v=20240313174027&ratio=0.750

ถ้าลองเดินออกมาที่บริเวณข้างๆร้านคิริโกะก็จะเห็นร้านสตาร์บัคส์ในรูปแบบอาคารไม้ทรงโบราณสีขาวสะอาดตาค่ะ โดยดีไซน์นี้เป็นแบบพิเศษเฉพาะสาขาเซนกาเนนเท่านั้นค่ะ



7. Bizan Chin Kura

ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F85441%2F935bc5eb-fee0-443e-b818-a22c6841eca8.jpeg?v=20240313174028&ratio=0.667ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F85441%2F55c52378-ec7d-4ce0-801b-2628d872de3a.jpeg?v=20240313174028&ratio=0.750

ท่องเที่ยวกันจนเพลินตาแล้ว เราควรจะหยุดทานอะไรสักอย่างให้เพลินพุงกันสักหน่อย ซึ่งเราเลือกมากันที่ร้าน Bizan Chin Kura ค่ะ โดยความพิเศษของร้านอาหารนี้อยู่ตรงที่เขาจะไม่ใช้วัตถุดิบค้างคืนเลยค่ะ หรือสามารถกล่าวได้อีกแบบหนึ่งก็คือ เขาจะใช้เฉพาะวัตถุดิบที่เก็บเกี่ยวได้ในวันนั้น เราจึงมั่นใจได้เลยว่าจะได้ทานผักผลไม้ที่สดใหม่มากๆ แถมเมนูของร้านก็จะเปลี่ยนไปตามวัตถุดิบที่เขาได้มาในแต่ละวันด้วยค่ะ



ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F85441%2F95b0c8f4-3a76-48a8-991b-227f92ccfae0.jpeg?v=20240313174028&ratio=0.667ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F85441%2Fb30c1a9c-9ca1-4075-923f-0253e66397b9.jpeg?v=20240313174028&ratio=0.667

8. โรงงานกีตาร์ของคุณทานากะ

ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F85441%2F055ddb25-26f0-4a39-aa5b-6cbdcad3ef00.jpeg?v=20240313174029&ratio=0.667ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F85441%2Fda8fa734-569c-490b-9fa6-ecf33c012348.jpeg?v=20240313174029&ratio=0.667

อีกหนึ่งที่เที่ยวที่เราอยากนำเสนอสาวหวานสไตล์วินเทจและสาวเท่ ก็คือร้านกีตาร์ของคุณทานากะ! โดยคุณทานากะนั้นเป็นช่างทำกีตาร์ชาวคาโกชิม่าที่มีประสบการณ์ถึง 40 ปี~ ส่วนเสียงกีตาร์ของคุณทานากะก็ไพเราะเพราะพริ้งมว้าก ชวนให้คนฟังอย่างเราๆเคลิบเคลิ้มและล่องลอยได้เลยทีเดียว แน่นอนว่าเราสามารถสั่งทำกีตาร์โปร่งได้ด้วย



9. Miyamatouyukan

ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F85441%2F3d9ae987-134c-49e9-83dd-3522e7cabc3f.jpeg?v=20240313174029&ratio=0.667

เมื่อเราเที่ยวๆ ชมๆ กันมามากพอสมควรแล้ว เรามาลองทำเครื่องปั้นสักชิ้นด้วยฝีมือเรากันบ้างดีกว่าค่ะ ซึ่งสถานที่ workshop ที่เราเลือกไปก็คือ Miyamatouyukan ค่ะ หากเราไม่มีประสบการณ์ในงานปั้นมาก่อน ก็สามารถแจ้งกับเจ้าหน้าที่ก่อนได้เลยค่ะ เพราะพวกเขาใจดี เฟรนด์ลี และถ่ายทอดความรู้ให้เราอย่างเป็นกันเองมากๆเลยค่ะ ตั้งแต่การกด การหมุนแท่น การใช้น้ำหนักนิ้ว ตลอดจนเราปั้นเสร็จ



ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F85441%2F969680f3-73a3-4fcd-be02-886f7d4f1343.jpeg?v=20240313174029&ratio=0.667

พอเห็นผลงานจากก้อนดินเหนียวเละๆ กลายเป็นถ้วยสวยงามที่เราเป็นคนปั้นเอง ก็รู้สึกภูมิใจอย่างบอกไม่ถูกเลยละค่ะ



10. wonder forest cafe & zakka momocha

ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F85441%2F80cd35f8-ff47-4b84-9202-e9622a12e46c.jpeg?v=20240313174030&ratio=0.750ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F85441%2Fa34febc7-65ef-42da-8a50-0c5ade83fe0b.jpeg?v=20240313174030&ratio=0.667ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F85441%2Fe6850aaa-94d4-4ebb-ace4-fe8963d9684c.jpeg?v=20240313174030&ratio=0.667

ขอเอาใจสายคาเฟ่กันอีกหนึ่งที่กับ wonder forest cafe & zakka momocha ค่ะ โดยความพิเศษของที่นี่คือของตกแต่งภายในและภายนอกคาเฟ่ที่ต่างก็เป็นของแฮนด์เมดที่ครอบครัวเจ้าของร้านทำเองทั้งหมดเลยค่ะ!



ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F85441%2Fe352882e-7d7d-4064-ba97-c17ab3c73f25.jpeg?v=20240313174030&ratio=0.667ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F85441%2F61083e01-2ebf-48de-9bcf-8ca408682a77.jpeg?v=20240313174031&ratio=1.500ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F85441%2Fd2e62373-1a98-4c3a-bc8d-3f84472db1ec.jpeg?v=20240313174031&ratio=0.667ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F85441%2F7b0cfdee-1e5a-461c-aee7-52b7c70ccc04.jpeg?v=20240313174031&ratio=0.667

แน่นอนว่านอกจากหน้าตาของร้านจะน่ารักแล้ว หน้าตาของกินของที่นี่ก็น่ารักมากอีกด้วยค่ะ



11. Fukiagecho Nakahara

ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F85441%2Fdb6867fe-1207-4c45-ae89-273eafdc6fd8.jpeg?v=20240313174031&ratio=0.750ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F85441%2Fd339b3fa-5285-49b5-abf6-e9918dcf56cf.jpeg?v=20240313174032&ratio=0.667

Fukiagecho Nakahara เป็นสวนการบูรพันต้นที่มีต้นการบูรเก่าแก่อายุราว 800 ปีอยู่ด้วยค่ะ ถึงแม้จะได้ชื่อว่าสวนการบูรพันต้น แต่แท้จริงแล้วมีการบูรอยู่เพียง 20 ต้นเท่านั้นค่ะ ส่วนความยิ่งใหญ่ของมันก็อยู่ตรงที่การบูรทุกต้นของที่นี่มีความสูงเกิน 18 เมตรค่ะ บวกกับกิ่งก้านสาขาที่แผ่ขยายไปสุดขอบฟ้า เราจึงไม่แปลกใจเลยกว่าทำไมเขาจึงเรียกสถานที่แห่งนี้ว่าเป็น สวนการบูรพันต้น



12. ราเมนโคคินตะ

ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F85441%2Fdd6be17f-d2c3-4054-8040-f14db8f34fe3.jpeg?v=20240313174032&ratio=0.667ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F85441%2F86f5b328-9367-4547-97d1-b80a83f0aa95.jpeg?v=20240313174032&ratio=0.667

มาปิดท้ายกันด้วยความอร่อยของราเมนร้านโคคินตะกันค่ะ! โดยเอกลักษณ์ของคาโกชิม่าราเมนก็คือความเรียบง่ายแต่ไม่น่าเบื่อค่ะ ทั้งนี้เราก็ได้สั่งทงคตสึราเมนมาทานกันค่ะ เรียกได้ว่าเป็นทงคตสึที่มีความเข้มข้นแบบพอดีๆ ไม่ข้นจนเกินไป และทานง่ายมากค่ะ ก็คือเรื่อยๆ เรียบง่าย แต่ไม่น่าเบื่อตามคอนเซ็ปต์คุณเขาเลยค่ะซิส และที่พิเศษกว่านั้นก็คือ เขาจะเสิร์ฟผักดองไว้กินเป็นของแกล้มกับราเมนด้วยค่ะ



แนะนำวิธีการเดินทางในคาโกชิม่า และรีวิวที่พักตลอดทริป

ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F85441%2Fdac2636b-7785-45af-ba27-1abc0f1c50c2.jpeg?v=20240313174032&ratio=0.750ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F85441%2F7e91ebe9-36bd-4242-b159-6245ff87ee79.jpeg?v=20240313174032&ratio=1.333

เพื่อความคุ้มค่าในการเดินทางภายในตัวเมืองคาโกชิม่า เราขอแนะนำบัตร CUTE ที่สามารถซื้อกันได้ที่สถานี Kagashima Chou หรือสถานีอื่นๆ ค่ะ เพราะเราสามารถใช้บัตรนี้ขึ้นรถบัสได้อย่างไม่อั้นเลยทีเดียวค่ะ นอกจากนี้ยังใช้เป็นตั๋วสำหรับนั่งเรือไปยังเกาะซากุระจิมะได้ด้วยค่ะ



ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F85441%2Ff81675dc-5abd-441a-aa6a-d8ee2487baa5.jpeg?v=20240313174033&ratio=1.500

สำหรับโรงแรมที่พวกเราเลือกพักกันก็คือโรงแรม HOTEL GATE IN KAGOSHIMA ค่ะ โดยโรงแรมแห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้กับตัวเมือง Tenmonkan เราจึงเดินทางเข้าเมืองได้อย่างสะดวก



ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F85441%2Fa1516b6e-9615-4bab-a1b7-4609a4581823.jpeg?v=20240313174033&ratio=0.667ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F85441%2F5b7f30de-eb2d-4a49-914b-eec7f7ca0916.jpeg?v=20240313174033&ratio=0.750ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F85441%2F8ad30382-2c3b-4db3-ad8a-7516caf27edf.jpeg?v=20240313174033&ratio=0.667ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F85441%2F8d7a92ca-775a-43a7-90b2-83a64bbe2db0.jpeg?v=20240313174034&ratio=0.750

บทส่งท้าย

ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F85441%2F41451f7a-2ebb-43dc-bdda-608fa6686f58.jpeg?v=20240313174034&ratio=0.667

เป็นยังไงกันบ้างคะซิส! พวกเธอเริ่มจะตกหลุมรักคาโกชิม่ากันแล้วละสิ~ ถ้าใครมีแพลนว่าจะเที่ยวญี่ปุ่นแต่ไม่รู้จะไปที่ไหนของญี่ปุ่นดี เราว่าคาโกชิม่าก็เริ่ดอยู่นะแม่ การควงเพื่อนสาวไปเที่ยวกันแบบชิลล์ๆ ก็ถือว่าเป็นความทรงจำดีๆ อีกทริปหนึ่งเลยว่าไหมล่ะ!



เครดิต

ทีมงาน fromJapan


เว็ปไซต์นี้ใช้คุกกี้

SistaCafe ให้ความสำคัญต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้โดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ แสดงว่าท่านยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา และ นโยบายการใช้คุกกี้