สาวๆ ที่ไม่โสดหลายคนน่าจะเคยประสบปัญหา“เพื่อนแฟนหล่อม้ากกกก!”มิหนำซ้ำบางคนยังคอยเอาอกเอาใจ คอยดูแลเวลาแฟนหนุ่มของเธอไม่ว่าง ไม่เคยทะเลาะหรือผิดใจกันเหมือนอยู่กับแฟน รอยยิ้มละลายใจนั้นทำให้เธอเริ่มหวั่นไหวและเริ่มปันใจไปให้เขา ทั้งที่รู้ว่าเป็นเรื่องผิดแต่ก็อดไม่ได้ อยากเลิกรู้สึกแบบนี้ แต่ไม่รู้จะทำยังไง หากอ่านบทความนี้จบเธอจะพบคำตอบโดยไม่ต้องมี‘รักสามเรา’ให้เศร้าใจกันทั้งสามคนค่ะ
1. ชอบนะ แต่ก็สับสน!
การที่เธอปิ๊งเพื่อนชายของแฟน เป็นสัญญาณเตือนว่าเธอไม่มีความสุขในความสัมพันธ์ตอนนี้ อาจเพราะมันจืดชืดน่าเบื่อ ไม่ตื่นเต้น รักเรามันเก่าแล้ว หรือเธออาจรู้สึกว่าตัวเองถูกเมิน แต่บางครั้งเธอกับแฟนก็ไปกันได้ดี แต่ที่ไปปิ๊งคนอื่นเพราะเธอก็แค่มนุษย์คนหนึ่งที่มีความรู้สึกเท่านั้นเอง การแอบชอบใครสักคนทำให้เธอรู้สึกทั้งลุ่มหลง ตื่นเต้น รู้สึกผิดและอับอายในคราวเดียวกัน ก็แน่ล่ะ เธอคิดถึงเรื่องชู้สาวอยู่นี่นา!
2. วิเคราะห์ซิ เธอชอบเขาตรงไหน?
ลองนึกทบทวนดูว่าทำไมเธอจึงปิ๊งหนุ่มคนนี้ เพราะเขามีตาสีเขียวมรกตที่จ้องแล้วแทบจะลืมหายใจหรือเปล่า หรือมีอะไรที่มองแล้วมัน “สะกด” มากกว่านั้น เช่น เธออาจชอบผู้ชายคนนี้เพราะความสัมพันธ์ของเธอกับแฟนมันจืดชืดน่าเบื่อ เมื่อเธอคิดออกแล้วว่าทำไมถึงชอบเขา เธอจะรู้ว่าควรทำยังไงต่อไป
3. เติมความกระปรี้กระเปร่าให้ชีวิตคู่
ถ้าเธอรู้สึกว่าชอบใครสักคนเพราะชีวิตเธอกับแฟนไม่มีอะไรตื่นเต้นเลย ลองหาอะไรใหม่ๆ ที่เธอทำร่วมกับแฟนได้สิ ลองทำอะไรใหม่ๆ แม้จะเป็นเรื่องธรรมด๊าธรรมดา อย่างกินมื้อเย็นในร้านอาหารที่ไม่เคยกินมาก่อน หรือไปเที่ยวต่างจังหวัดในวันหยุดสุดสัปดาห์ แค่นั้นก็คืนความสดใสซาบซ่าให้ชีวิตคู่ได้อย่างเต็มเปี่ยม หรือเธอกับแฟนจะแบ่งปันประสบการณ์ให้กันและกัน ถ้าเธอสนใจแต่เรื่องของเธอกับแฟนและประคับประคองชีวิตคู่ได้ล่ะก็ คนที่เธอปิ๊งก็จะถอยฉากไปเองแหละ
4. รู้สึกโดนเมินเฉย
เหตุผลอีกอย่างที่เธอไปปิ๊งใครเพราะเธออยากเป็นที่สนใจไงล่ะ ถ้าเธอรู้สึกว่าเธอถูกแฟนเมิน ทอดทิ้ง ลองทำให้แฟนรับรู้สิว่าเธอยังมีความรู้สึก เธอทั้งคู่ต้องการความสัมพันธ์ที่มีการดูแลเอาใจใส่และให้ความสำคัญ ไม่อย่างนั้นความรักก็ไปไม่รอดหรอก ใช้เวลาทำอะไรทำสนุกๆ ด้วยกัน เธอทั้งคู่จะยังจำได้ว่าความรักของเธอยังไม่หายไปไหน แต่คนของหัวใจยังอยู่ข้างๆ กัน ><
5. เคารพมิตรภาพของแฟนกับเพื่อน
เธอควรเรียนรู้ว่า ผู้ชายน่ะอ่อนในแข็งนอก คือทำเป็นเข้มแข็งแต่ที่จริงน่ะอ่อนไหวสุดๆ ถ้าเธอนอกใจอย่างออกหน้าออกตาจะเป็นการทำร้ายเขาอย่างรุนแรง เธอทำลายชีวิตคู่ไปแล้ว ถ้าแฟนรู้ว่าเธอชอบเพื่อนของเขาด้วย เธอจะมีข้อหาทำมิตรภาพของแฟนพังพินาศย่อยยับอีกหนึ่งกระทง ดังนั้นจงเคารพความสัมพันธ์นี้และอย่าข้ามเส้นจะดีที่สุดนะคะ
6. อะไรที่ดีที่สุดสำหรับเธอกันแน่
ในทางกลับกัน (จากข้อ 5) ถ้าเธอไม่โอเคกับความสัมพันธ์ตอนนี้จริงๆ และเธอไม่รักแฟนแล้ว ก็เดินออกมาเถอะ การปิ๊งใครน่ะไม่เป็นไรหรอกแต่ถ้าเป็นการ “ตกหลุมรัก” จะเริ่มอันตราย เพราะหนุ่มคนใหม่ทำให้เธอมีความสุขมากขึ้น เธอรู้สึกว่าเขาเหมาะกับเธอมากกว่า หรือเธออาจเจอสิ่งที่แฟนไม่มีในตัวเขา ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ถึงเวลาที่ต้องบอกเลิกแฟนเสีย มันไม่ยุติธรรมกับเขาเลย ถ้าเธอคิดไปมาหลายตลบแล้วและได้คำตอบว่า “ฉันอยากมีแฟนใหม่ ฉันไม่ไหวแล้ว” ก็ทำตามเสียงเรียกร้องของหัวใจแล้วกัน
7. หลังการเลิกรา
ถ้าเธอจบความสัมพันธ์ไปแล้ว ให้เวลาตัวเองทำใจสักหน่อย ถ้าเธอรู้สึกดีขึ้นและใช้ชีวิตได้ตามปกติแล้ว ลองประเมินความรู้สึกปิ๊งหนุ่มคนนั้นอีกสักครั้ง ถ้าเธอยังรู้สึกว่าเธอกับเขาน่าจะไปด้วยกันได้ คุยกันว่าจะลองคบกันดูไหม ถ้าเขาสนใจเธอก็ลองคุยกันว่า การมาออกเดทกันเองจะทำให้แฟนเก่ารู้สึกยังไง ถ้าเธอรู้ว่าการออกเดทกับเขาจะทำให้มิตรภาพของผู้ชายสั่นคลอน ถอยออกมาและหารักครั้งใหม่ หากเธอทั้งคู่ไม่พร้อมรับผลกระทบที่ตามมาค่ะ
การแอบชอบเพื่อนของแฟนเป็นสถานการณ์ที่ไม่น่าไว้ใจและไม่ซื่อสัตย์ แต่เราหวังว่าคำแนะนำเหล่านี้จะช่วยทำให้เรื่องต่างๆ ง่ายขึ้น ถ้าเธอเกิดไป “ปิ๊ง” เจ้าหนุ่มหน้าใสคารมดีแล้วล่ะก็ ลองคิดดูให้ดีนะว่าได้ไม่คุ้มเสียหรือเปล่า หากถึงจุดสิ้นสุดจริงๆ ก็จงเดินออกมาและอย่าโทษตัวเอง เพราะความสุขของเราสำคัญที่สุดตราบเท่าที่ไม่ทำร้ายผู้อื่น โชคดีกับชีวิตคู่นะคะสาวๆ^_^
Credit : 7 Tips for when you are crushing on your boyfriend’s friend
http://love.allwomenstalk.com/tips-for-when-you-are-crushing-on-your-boyfriends-friend/7/