บทที่ 30

รูปภาพ:

เช้าวันรุ่งขึ้น หลังจากรับประทานอาหารมื้อเช้าเสร็จแล้ว อวิ่นเยว่ก็ขับรถเข้าไปในตัวเมืองของจังหวัด R เธอเองก็ไม่เคยมาด้วย เคยเห็นแต่ภาพที่ลงในสื่อออนไลน์เท่านั้น พอได้มาสัมผัสจริง ๆ รู้สึกว่ามันดีมาก

เอ๊ะ แต่ว่าเธอไม่ได้มาเที่ยวสักหน่อย มาทำงานต่างหากล่ะ

ลฎาภาก้มหน้านิ่งนั่งเงียบไม่ปริปากพูดระหว่างที่อยู่บนรถ แม้จะแอบเหลือบสายตามองเป็นระยะ ๆ ก็ตาม จนกระทั่งรถหยุดจอดลงที่ลานจอดของสวนสัตว์ในเมือง

เจ้าตัวกลมรีบเปิดประตูลงจากรถ หัวเราะด้วยความสนุกสนาน

“ป๊ะป๋า”

เสียงร่าเริงของเด็กชายที่เรียกอวิ่นเยว่ขณะวิ่งเข้าไปหาด้วยความดีใจ รอยยิ้มบนใบหน้านี้เธอเองก็ไม่เคยเห็นมาก่อนตั้งแต่มาทำงาน

“อาหยูอยากเห็นคูณหมีกับคูณลิง~” อาหยูทำท่าทางยกมือขณะพูดขึ้นเสียงดังด้วยน้ำเสียงสดใส

อวิ่นเยว่เองก็รู้สึกได้ เมื่อก่อนอาหยูไม่เคยขออะไรแบบนี้ หรือคงไม่กล้าขอมากกว่า ชายหนุ่มโน้มตัวลงที่หน้าลูกชายแล้วยิ้มออกมา ก่อนจะยื่นมือไปหา “ถ้างั้นก็ไปกันเถอะ”

เจ้าตัวกลมพยักหน้าก่อนจะเอื้อมมือจับแล้วหันไปจับมือของหญิงสาวพร้อมส่งยิ้มให้

ลฎาภาทำตัวไม่ค่อยถูกกับการถูกจับมือแบบนี้ แต่ก็ไม่ปฏิเสธความสุขของเจ้าตัวกลม

อวิ่นเยว่หันมามองแล้วส่งยิ้มให้ ลฎาภาจึงรีบเบี่ยงใบหน้าไปอีกฝั่งทันที ความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับเสียงหัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะ คืออะไรกันแน่ ?

ท้ายสุดแล้วก็ปล่อยให้อาหยูเดินจับมือทั้งเธอและเขามาพร้อมกันจนถึงด้านใน อาหยูดูมีความสุขมากต่างจากครั้งแรกที่เคยเจอกันหลังจากที่เดินดูมาได้สักพักแล้ว อวิ่นเยว่ก็พาอาหยูมานั่งที่จุดพัก

“หิวน้ำไหม”อาหยูพยักหน้าตอบ“งั้นนั่งรอตรงนี้ก่อนนะ” ชายหนุ่มพูดขึ้นก่อนหันไปหาหญิงสาว “ผมฝากอาหยูด้วยนะ”“ค่ะ” ลฎาภาขานรับขณะที่เขาเดินไป“เป็นครั้งแรกที่ออกมาเที่ยวเพราะป๊ะป๋าทำงานทุกวันเลย” อาหยูพูดขึ้นเมื่อเห็นว่าป๊ะป๋าเดินห่างออกไป “ป๊ะป๋าน่ะมีความสุขมากกว่าเมื่อก่อน และอาหยูก็ด้วย...”ลฎาภามองเด็กชายพูดออกมา แม้อายุกับความคิดจะต่างจากเด็กทั่วไป แต่ความรู้สึกที่รับรู้ได้คงเป็นความเหงาหรือความเศร้าภายในใจ ไม่แปลกเลยเพราะช่วงแรกที่เธอมาทำงานก็รู้ว่าเขาต้องทำงานหนักมาก แม้วันหยุดก็ไม่ออกไปไหน ไม่พัก บางครั้งก็รู้สึกได้ว่ากินข้าวไม่เป็นเวลาด้วยซ้ำ

ลฎาภามองอาหยูยกมือขึ้นลูบศีรษะอย่างอ่อนโยน

“แต่ตอนนี้ก็มีความสุขใช่ไหมล่ะ ?” เธอยิ้ม “ถ้างั้นก็ลืมเรื่องเศร้าไปให้หมดแล้วสนุกกันเถอะ”

“อืม” อาหยูพยักหน้าตอบพลางยิ้มออกมาอย่างมีความสุข “ป๊ะป๋ากลับมาแล้ว !”

เด็กชายวิ่งเข้าไปหาอวิ่นเยว่ที่กำลังเดินมาหาด้วยท่าทางสนุกสนานราวกับเป็นคนละคนเมื่อครู่นี้ ลฎาภามองพลางยิ้มออกมาก่อนจะลุกขึ้นและเดินตามไป...

อาหยูใช้เวลาเดินดูในสวนสัตว์เกือบทั้งหมดเสร็จก็ราว ๆ เที่ยงกว่า ทว่ามีสีหน้าผิดหวังเล็กน้อยเพราะอยากจะเห็นคุณหมี แต่ทางสวนสัตว์ปิดเพื่อปรับปรุงงดการแสดง กว่าจะเปิดอีกทีก็สองเดือนหน้า ซึ่งแน่นอนว่าไม่มีทางได้มาอีก

“อาหยู” อวิ่นเยว่เอ่ยขึ้น ก่อนหยุดเดินและหันมามองลูกชายที่เอาแต่ก้มหน้าไม่ยอมพูดจา

“ไว้ค่อยมากันใหม่” น้ำเสียงเรียบนิ่งของอวิ่นเยว่ที่แฝงไปด้วยความอ่อนโยนนั้นทำให้อาหยูเงยหน้าขึ้นมองด้วยรอยยิ้มที่สดใสอีกครั้ง

“จริง ๆ นะ”

อวิ่นเยว่พยักหน้า “นี่ก็เที่ยงแล้วไปหาอะไรกินกันเถอะ”

ลฎาภามองพร้อมส่งยิ้มให้ ยังไงซะเธอก็เป็นคนนอกอยู่ดี เดินออกห่างหน่อยแล้วกัน

“ยังคิดว่าเป็นคนนอกอยู่อีกเหรอ ?” อวิ่นเยว่ส่งสายตามอง ทำให้หญิงสาวอ้ำอึ้งไม่กล้าตอบ

“ปะ...เปล่าค่ะ แต่...”

“ถ้างั้นก็ไปด้วยกันสิ” เขาพูดขณะที่เอื้อมมือมากุมมือของหญิงสาวไว้แล้วหลบหน้าหนีไปทางอื่น เช่นเดียวกันกับเธอที่ไม่กล้าจะสบตามองตรง ๆ แม้ตอนนี้จะเดินจับมือไปด้วยกันโดยที่ไม่มองหน้าก็เถอะ ทว่าเสียงหัวใจที่ดังออกมาจากข้างในมันชัดเจนมากขึ้น

เธอควรจะทำอย่างไรดี...กับเสียงหัวใจที่ดังอยู่ข้างในนี้โปรดติดตามตอนต่อไป....อัปเดตข่าวสารจ้า ติดตามเพจนักเขียนไว้เพื่อตามโปรโมชั่นจากคุณเผิงกันนะคะเฉพาะวันที่ 15 สิงหาคม นี้เท่านั้นจ้าขอบคุณทุกการติดตามเเละการสนับสนุนค่าMamaya Writer

รูปภาพ: