No Foundation Makeup แต่งหน้าไม่ใช้รองพื้น แต่ได้ความหวาน ๆ เป็นธรรมชาติ

สวัสดีสาว ๆSistaCafeทุกคนค่า

การแต่งหน้าแบบ Natural Look ถือเป็นเรื่องคลาสสิก ที่ไม่ว่าจะผ่านมากี่ยุคก็ยังได้รับความนิยมเสมอมา ในครั้งนี้มิ้วก็เลยอยากจะมาอัปเดตเมคอัพแนวหวาน ๆ ใส ๆ ให้ได้ชมกันค่ะ ที่สำคัญนี่คือการแต่งหน้าไม่ใช้รองพื้นเพราะมิ้วตั้งใจว่าอยากให้ลุคที่ได้นั้นดูเผยผิวเป็นธรรมชาติที่สุด ว่าแล้วก็ขอพาไปชมกันเลยค่ะว่ามิ้วใช้ไอเทมอะไรกันบ้าง รอบนี้มีของใหม่มาอวดกันด้วย

ก่อนจะเข้าสู่ขั้นตอนการเมคอัพ ขออวด 2 ไอเทมใหม่ที่นำมาใช้ในลุคนี้กันหน่อย จากแบรนด์ที่ชื่อน่ารักอย่าง Oilo E Osso ซึ่งมีทั้งบาล์มและลิปสติกซึ่งเน้นความเป็นออร์แกนิกสุด ๆ นอกจากจะมอบสีสันบนใบหน้าให้เราได้อย่างสวยงามเป็นธรรมชาติแล้ว ยังมีสารที่ช่วยบำรุงผิวอีกด้วย

มาเริ่มกันที่ตัวแรก สำหรับOlio E Osso Balmคือบาล์มเปลี่ยนสีที่สามารถนำมาทาได้ทั้งแก้มและริมฝีปาก ให้เนื้่อสัมผัสที่บางเบา เกลี่ยง่ายและดูเป็นธรรมชาติ

ส่วนผสมหลัก ๆ ในบาล์มตัวนี้ คือ Oilve Oil, Shea Oil, Beeswax ธรรมชาติ และ Grapefruit Oil เข้มข้นค่ะ ซึ่งเขาจะช่วยบำรุงผิวได้ดี โดยรักษาความชุ่มชื้น ทำให้ผิวไม่แห้งกร้าน และยังสามารถเพิ่มเลเยอร์โดยการทาทับเพื่อให้ได้สีที่เข้มขึ้นได้

และเรียกว่าสี Poppy ที่ได้มานั้นไม่ทำให้ผิดหวังเลย คือเขาออกแดงระเรื่อ เป็นธรรมชาติ ทาแล้วแล้วฟิลของผิวที่สุขภาพดี มีเลือดฝาด สำหรับมิ้วคือน้องคนนี้เหมาะมากในการแต่งหน้าแบบ Makeup No Makeup วันไหนที่อยากได้ลุคเปลือยผิวขั้นสุด ต้องมีเขาเป็นนางเอกเลยค่ะ

มาต่อกันเลย กับOlio E Osso Lip Lucente Sheenลิปสติกสีหวาน ที่ให้เนื้อสัมผัสแบบกลอสเป็นประกาย เจ้าตัวนี้มีส่วนผสมของ Olive Oil ซึ่งให้ความชุ่มชื้น, Shea Nut ช่วยรักษาความชุ่มชื้นได้อย่างยาวนาน และยังมี Citrus Mint ซึ่งมอบกลิ่นหอมสดชื่น และความเย็นสบายในขณะที่ทา ตอนที่ลองสวอชลงบนมือ ได้กลิ่นมิ้นต์ชัดเจน ที่สำคัญคือสีลิปเป็นสีชมพูกุหลาบ Rosa Rosa ดูสวยหวานมากจริง ๆ ค่ะ

ทีนี้เราก็ไปเมคอัพกันต่อเลยค่า

ไอเทมทั้งหมดที่มิ้วเลือกใช้มีดังนี้ค่ะ

ถือว่าใช้ของน้อยกว่าหลาย ๆ ลุคที่เคยแต่งมา เพราะเป็นการแต่งหน้าแบบไม่ใช้รองพื้นจริง ๆ แต่...ยังต้องมีการเตรียมและซ่อมแซมผิวกันนิดหน่อยค่ะ ด้วยเบสและคอนซีลเลอร์ สังเกตดี ๆ จะเห็นว่าไม่มีบลัชออนเนื้อฝุ่นอยู่ในนี้เลย เพราะมิ้วอยากเน้นสีแก้มระเรื่อพอดี แล้วค่อยลงแป้งตามในภายหลังค่ะ

ขอ List ของที่ใช้สำหรับการเมคอัพในครั้งนี้ให้ดูกันนิดนึงนะคะ

Base Makeup

- JUNG SAEM MOOL Skin Setting Smoothing Base ( ปรับสภาพผิวก่อนแต่งหน้า )

- Nars Radiant Creamy Concealer #Vanilla ( ปกปิดแพนด้าใต้ตา รอยสิว จุดด่างดำ และมิ้วยังใช้แทน Eye Primer ไปเลยค่ะ )

- Olio E Osso Balm ( เอามาทาแก้ม เกลี่ยเบา ๆ และเพิ่มเลเยอร์สีให้เข้มขึ้นได้จนกว่าจะพอใจ )

- Nars Light Reflecting Setting Powder ( ใช้หลังลงบาล์มเสร็จแล้วนะจ๊ะ )

Point Makeup

- JSM Artist Contour Palette ( เอามาเขียนคิ้ว + คอนทัวร์หน้า )

- MAC Eye Brows Big Boost Fiber Gel ( ปัดคิ้วให้เรียงเส้นสวย และใช้ปรับสีคิ้วให้ดูละมุนขึ้น )

- JSM Refining Eyeshadow Double #Blossom Flake ( เอาไว้แต่งแต้มเปลือกตา เพื่อความละมุนเข้าไปอีก )

- Nars High-Pigment Longwear Eyeliner ( เขียนบริเวณโคนขนตาเบาๆ ไม่เน้นให้เห็นเส้นไลเนอร์ แต่เน้นให้รูปตาและขนตาดูชัดขึ้นมาหน่อย )

- Lancome Hypnose Doll Eye Mascara ( ไว้ปัดขนตาเบา ๆ แต่ช่วยให้ตาดูหวานขึ้น )

- Olio E Osso Lip Lucente Sheen #Rosa Rosa (ปิดท้ายด้วยสีชมพูกุหลาบบริมฝีปาก ที่ช่วยให้ลุคนี้ดูหวานขึ้นโดยปริยาย)

แต่งตาง่าย ๆ ใช้อายแชโดว์เพียงแค่ 2 สีค่ะ เริ่มจากใช้สีที่เป็นแมตต์หรือชิมเมอร์ลงให้ทั่วเปลือกตา จากนั้นก็ใช้สีที่มีกลิตเตอร์ลงทับบริเวณกลางเปลือกตา เขียนขอบตาด้านในตรงเส้นโคนขนตา ดัดขนตาและปัดมาสคาร่า เพียงเท่านี้ก็ได้ดวงตาคู่หวานเป็นที่เรียบร้อย

สำหรับงานคิ้ว เมื่อเขียนคิ้วจนได้ทรงที่ต้องการแล้ว ก็ใช้มาสคาร่าคิ้วปัดแต่งโลด ส่วนตัวมิ้วชอบคิ้วอุย ๆ หัวคิ้วตั้งขึ้นเล็กน้อยค่ะ

จากนั้นเราก็ปิดท้ายด้วย Olio E Osso Lip Lucente Sheen #Rosa Rosa เป็นอันเสร็จค่า!

ถ้าอยากให้ริมฝีปากดูฉ่ำวาว ควรทาลิปประมาณ 2 ครั้งนะคะ และเพิ่มเลเยอร์การทาเข้าไปก็ช่วยให้สีลิปเข้มขึ้นด้วยค่ะ ตอนทาลิปตัวนี้เสร็จรู้สึกได้ทันทีว่ามีกลิ่มมิ้นต์และมันได้ฟีลเย็น ๆ บนปากด้วย ฟินไปอี๊ก!

และการเมคอัพของเราก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย

ขอพาไปเปรียบเทียบกับภาพหน้าสดกันเลยค่ะ

Before & After

ต้องยกความดีความชอบให้ 2 ไอเทมจาก Olio E Osso เขาจริง ๆ ค่ะ เพราะนอกจากส่วนผสมที่มาจากธรรมชาติแล้ว ก็ให้สีสันที่ดูเป็นธรรมชาติด้วย ยิ่งไปกว่านั้นยังช่วยถนอมผิวของเราให้มีสุขภาพดีไปได้อีกนาน

ถือเป็นลุคที่แต่งตามกันได้ง่าย ๆ ไม่ยุ่งยาก เพราะเป็นการแต่งหน้าไม่ใช้รองพื้น ได้ความบางเบา แถมยังใช้ได้ในหลายโอกาสอีกด้วย สุดท้ายนี้ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาชมการเมคอัพของมิ้วกันนะคะ ไว้พบกันใหม่คราวหน้า บ๊ายบายค่า