1. SistaCafe
  2. 3 เหตุผล! ที่ต้องโดน To All the Boys I've Loved Before ภาพยนตร์รักจาก Netflix

สำหรับวันนี้เรามารีวิวภาพยนตร์เรื่องTo All the Boys I've Loved Beforeซึ่งมีทั้งหมด 3 ภาค แต่วันนี้เรามารีวิวแค่เฉพาะภาคแรกก่อน เพราะว่าไม่ได้มารีวิวแบบผิวเผิน แต่รีวิวแบบละเอียดยิบที่เรียกว่าทุกซอกทุกมุมก็ว่าได้นะเอออออ ซึ่ง3 เหตุผลหลักที่ไม่ควรพลาดเลย ก็คือเป็นหนังฟีลกู๊ดที่สามารถหยิบมาดูได้ตลอดไม่มีเบื่อให้ประเด็นข้อคิดที่หลากหลาย และที่สำคัญเนื้อเรื่องชวนให้น่าติดตามไม่ว่าต่อให้ใครจะรีวิวว่าดียังไง หากเนื้อเรื่องขาดความน่าหลงใหลในการตามก็จะทำให้หนังเรื่องนั้นดรอปลงไปเลย สำหรับบางคนอาจจะปิดทิ้งไม่ดูต่อก็มี แต่เรื่องนี้ไม่มีคำว่าผิดหวังแน่นอน! การันเตอทูการันตีโดยเราเอง55555 ( หากว่าไม่ถูกใจใครก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ก็คนเรามีเทสไม่เหมือนกันนี่เนอะ ) โดยเนื้อเรื่องเป็นหนังรักวัยทีนที่สะท้อนเรื่องราวความรักที่หลากหลายแง่มุม ความสัมพันธ์ในครอบครัว การใช้ชีวิตในรั้วโรงเรียนโดยจะดำเนินเรื่องความรักระหว่างลาร่า จีนกับปีเตอร์ คาวินสกี ที่ทำให้เราก้าวข้ามผ่านช่วงวัยไปพร้อมกับตัวละครกันเลยยยยย


เรื่องย่อ

ภาพยนตร์To All the Boys I've Loved Before - แด่ผู้ชายทุกคนที่ฉันเคยรักเป็นเรื่องราวของลาร่า จีน ซอง คัฟวีย์ (แสดงโดย Lana Condor)เธอเป็นคนชอบอ่านหนังสือนิยายเป็นชีวิตจิตใจ ปล่อยเวลาว่างไปกับการท่องโลกในหนังสือตามจินตนาการมากกว่าที่จะออกไปเทียวเล่นเหมือนวัยรุ่นทั่วไป เหนือสิ่งอื่นใดเธอเขียนจดหมายรักให้คนที่แอบปลื้มในแต่ละช่วงวัยถึง5 ฉบับ!แต่สุดท้ายเธอไม่มีความกล้าพอที่จะส่ง จึงเก็บซ่อนจดหมายไว้อ่านคนเดียว แต่แล้ววันหนึ่งคิตตี้ (แสดงโดย Anna Cathcart)แอบนำจดหมายทั้งหมดส่งไปยังปลายทาง และความวุ่นวายก็บังเกิดเมื่อมีจดหมายหนึ่งในนั้นเป็นของแฟนพี่สาว แต่ช่วงเวลาเดียวกันก็มีเพื่อนสมัยเด็กอย่างปีเตอร์ คาวินสกี (แสดงโดย Noah Centineo)ต้องการมาเคลียร์เกี่ยวกับเรื่องราวในจดหมาย แต่ด้วยเหตุการณ์ไม่คาดคิดทำให้ทั้งคู่ต้องตกลงสร้างพันธะแกล้งเป็นแฟนหลอก ๆ ระหว่างกันสามารถลุ้นเรื่องราวความรักต่อได้ที่ Netflix


หลังจากที่ได้ชมบอกได้คำเดียวเลยว่าต้องซ้ำ!สถานเดียวค่ะ ส่วนตัวเราถูกจริตกับเรื่องนี้มาก(ก.ล้านตัว) ชนิดที่ว่าขอยกขึ้นหิ้งหนังในดวงใจเลยก็ว่าได้ ซึ่งเป็นอีกเหตุผลว่าทำไมต้องควรดูเนื้อเรื่องหนังมีความโรแมนซ์มากกกก ฟีลกู๊ด และอบอุ่นหัวใจสุดๆโดยตัวลาร่า จีนเนี่ยเป็นคนที่ขี้มโนเหมือนชาวเราไง เลยทำให้อินไปกับตัวละคร และที่ชอบยิ่งกว่าคือหนุ่มหล่อปีเตอร์ ดีกรีนักกีฬาของโรงเรียน ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกคิดว่าจะมีนิสัยเป็นหนุ่มเจ้าชู้ เหล่ไปทั่ว แต่ที่ไหนได้! หนุ่มปีเตอร์ของเราดูรักแฟน ห่วงแฟน และเอ็นดูแฟนสุด!

เรื่องราวสนุกกำลังเริ่มขึ้นเมื่อ

จดหมายที่ถูกบรรจงด้วยความรู้สึกแอบชอบ 5 ฉบับ ถูกส่งให้แก่ชายหนุ่ม 5 คนพร้อมกัน!

ด้วยความอับอายที่ต้องเผชิญหน้ากับชายหนุ่มเจ้าของจดหมายอย่างไม่คาดคิด ทำให้เธอตกใจมากว่าจดหมายเหล่านั้นถูกส่งไปได้ยังไง แต่นั่นไม่สำคัญเท่ากับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น เมื่อหนึ่งในนั้นเป็นแฟนของพี่สาว ความรู้สึกผิดที่มีต่อพี่สาวถาโถมราวกับพายุ แต่สุดท้าย

เหตุการณ์ฉุกละหุกนั้นทำให้เธอตกลงทำสัญญาแฟนหลอกๆ กับหนุ่มปีเตอร์

ซึ่งเป็นอีกคนที่ได้รับจดหมายรัก แม้ว่าเรื่องราวของทั้งสองจะเริ่มจากการแกล้งเป็นแฟน แต่ความรู้สึกที่มีต่อกันก็

เริ่มแปลผัน เมื่อทั้งคู่เริ่มใกล้ชิดกันมากขึ้น

อย่างฉากที่ปีเตอร์ส่งจดหมายด้วยข้อความสั้นๆ ทุกวัน การที่ทั้งคู่ได้ใช้เวลาร่วมกันโดยที่ครอบครัวทั้งสองฝ่ายรับรู้ถึงความสัมพันธ์ การที่ทั้งคู่สามารถพูดคุยกันได้อย่างเปิดใจ แม้จะเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน การที่คอยดูแล และเป็นห่วงความรู้สึกของกันและกัน เอาจริง คือแค่พวกเขาอยู่ด้วยกันเฉยๆ ก็น่ารักมากแล้วอ่ะ เอาเป็นว่าความรักของทั้งสองเกินคำบรรยายนั่นเอง (ไม่ได้อวยเล๊ย ไม่มี๊ ไม่มีทั้งนั้น) 5555


นอกจากความรักของทั้งคู่แล้ว ก็ยังมีความรักในครอบครัวของสามพี่น้องคัฟวี่ที่คอยดูแล และเป็นห่วงกันอยู่เสมอเมื่อมีเรื่องไม่สบายใจก็คอยรับฟังเมื่อไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรต่อไปก็คอยให้คำปรึกษา เสนอแนะ ช่วยกันแก้ไขนั่นทำให้รู้ว่าเธอไม่ได้กำลังเผชิญปัญหาอยู่คนเดียว ยังคงมีคนรอบข้างที่คอยให้กำลังใจอยู่ ซึ่งพ่อของเธอก็มีบทบาทสำคัญไม่แพ้กัน ถึงแม้ว่าอาจจะไม่ได้คุยกันทุกเรื่องแต่ก็คอยเอาใจใส่ พร้อมที่จะเข้าใจ และรับฟังเธอเสมอ


เรื่องราวความรักของทั้งสองทำให้เห็นประเด็นมากมายในเรื่องเรามาเริ่มที่ประเด็นแรกเลยยย การที่ลาร่า จีนเป็นคนแสดงออกทางความรู้สึกไม่เป็นอย่างการเขียนจดหมายเป็นเหมือนเครื่องหมายแทนความรู้สึกที่เธอต้องการจะสื่อออกไป และที่แน่นอนว่าจะไม่มีใครสามารถเข้าใจเราได้เลย หากเรายังคงเก็บงำความรู้สึกไว้โดยไม่เปล่งออกไปอย่างตอนช่วงท้ายของภาพยนตร์ฉากที่ลาร่า จีนกับปีเตอร์มีปัญหาคาใจระหว่างกัน ในตอนแรกเธอมีท่าทีว่าไม่ต้องการที่จะยุ่งเกี่ยวกับเขาอีก เพราะกลัวความจริงที่ว่าเรื่องระหว่างเธอกับเขามันได้จบลงแล้วจริง ๆ  แต่เมื่อได้พูดคุยกับจอชเขาก็ได้เตือนว่า“อย่างน้อยเธอก็จะได้รู้” “เธอต้องบอกผู้คนว่าเธอรู้สึกยังไง เมื่อเธอรู้สึกถึงมัน”“เธอไม่ควรเอาแต่นั่งเขียนจดหมายรักในห้องที่เธอจะไม่มีวันส่ง”หากว่าจดหมายรักไม่ถูกส่งเรื่องราวระหว่างเธอกับปีเตอร์คงไม่เกิดขึ้น สุดท้ายเธอตัดสินใจบอกความรู้สึกทั้งหมดที่มีต่อปีเตอร์ แล้วทั้งคู่ก็ได้ปรับความเข้าใจกันในที่สุด

หลังจากที่ได้ชมบอกได้คำเดียวเลยว่าต้องซ้ำ!สถานเดียวค่ะ ส่วนตัวเราถูกจริตกับเรื่องนี้มาก(ก.ล้านตัว) ชนิดที่ว่าขอยกขึ้นหิ้งหนังในดวงใจเลยก็ว่าได้ ซึ่งเป็นอีกเหตุผลว่าทำไมต้องควรดูเนื้อเรื่องหนังมีความโรแมนซ์มากกกก ฟีลกู๊ด และอบอุ่นหัวใจสุดๆโดยตัวลาร่า จีนเนี่ยเป็นคนที่ขี้มโนเหมือนชาวเราไง เลยทำให้อินไปกับตัวละคร และที่ชอบยิ่งกว่าคือหนุ่มหล่อปีเตอร์ ดีกรีนักกีฬาของโรงเรียน ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกคิดว่าจะมีนิสัยเป็นหนุ่มเจ้าชู้ เหล่ไปทั่ว แต่ที่ไหนได้! หนุ่มปีเตอร์ของเราดูรักแฟน ห่วงแฟน และเอ็นดูแฟนสุด!

เรื่องราวสนุกกำลังเริ่มขึ้นเมื่อจดหมายที่ถูกบรรจงด้วยความรู้สึกแอบชอบ 5 ฉบับ ถูกส่งให้แก่ชายหนุ่ม 5 คนพร้อมกัน!ด้วยความอับอายที่ต้องเผชิญหน้ากับชายหนุ่มเจ้าของจดหมายอย่างไม่คาดคิด ทำให้เธอตกใจมากว่าจดหมายเหล่านั้นถูกส่งไปได้ยังไง แต่นั่นไม่สำคัญเท่ากับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น เมื่อหนึ่งในนั้นเป็นแฟนของพี่สาว ความรู้สึกผิดที่มีต่อพี่สาวถาโถมราวกับพายุ แต่สุดท้ายหตุการณ์ฉุกละหุกนั้นทำให้เธอตกลงทำสัญญาแฟนหลอกๆ กับหนุ่มปีเตอร์ซึ่งเป็นอีกคนที่ได้รับจดหมายรัก แม้ว่าเรื่องราวของทั้งสองจะเริ่มจากการแกล้งเป็นแฟน แต่ความรู้สึกที่มีต่อกันก็เริ่มแปลผัน เมื่อทั้งคู่เริ่มใกล้ชิดกันมากขึ้นอย่างฉากที่ปีเตอร์ส่งจดหมายด้วยข้อความสั้นๆ ทุกวัน การที่ทั้งคู่ได้ใช้เวลาร่วมกันโดยที่ครอบครัวทั้งสองฝ่ายรับรู้ถึงความสัมพันธ์ การที่ทั้งคู่สามารถพูดคุยกันได้อย่างเปิดใจ แม้จะเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน การที่คอยดูแล และเป็นห่วงความรู้สึกของกันและกัน เอาจริง คือแค่พวกเขาอยู่ด้วยกันเฉยๆ ก็น่ารักมากแล้วอ่ะ เอาเป็นว่าความรักของทั้งสองเกินคำบรรยายนั่นเอง (ไม่ได้อวยเล๊ย ไม่มี๊ ไม่มีทั้งนั้น) 5555

นอกจากความรักของทั้งคู่แล้ว ก็ยังมีความรักในครอบครัวของสามพี่น้องคัฟวีย์ที่คอยดูแล และเป็นห่วงกันอยู่เสมอเมื่อมีเรื่องไม่สบายใจก็คอยรับฟังเมื่อไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรต่อไปก็คอยให้คำปรึกษา เสนอแนะ ช่วยกันแก้ไขนั่นทำให้รู้ว่าเธอไม่ได้กำลังเผชิญปัญหาอยู่คนเดียว ยังคงมีคนรอบข้างที่คอยให้กำลังใจอยู่ ซึ่งพ่อของเธอก็มีบทบาทสำคัญไม่แพ้กัน ถึงแม้ว่าอาจจะไม่ได้คุยกันทุกเรื่องแต่ก็คอยเอาใจใส่ พร้อมที่จะเข้าใจ และรับฟังเธอเสมอ


เรื่องราวความรักของทั้งสองทำให้เห็นประเด็นมากมายในเรื่องเรามาเริ่มที่ประเด็นแรกเลยยย การที่ลาร่า จีนเป็นคนแสดงออกทางความรู้สึกไม่เป็นอย่างการเขียนจดหมายเป็นเหมือนเครื่องหมายแทนความรู้สึกที่เธอต้องการจะสื่อออกไป และที่แน่นอนว่าจะไม่มีใครสามารถเข้าใจเราได้เลย หากเรายังคงเก็บงำความรู้สึกไว้โดยไม่เปล่งออกไปอย่างตอนช่วงท้ายของภาพยนตร์ฉากที่ลาร่า จีนกับปีเตอร์มีปัญหาคาใจระหว่างกัน ในตอนแรกเธอมีท่าทีว่าไม่ต้องการที่จะยุ่งเกี่ยวกับเขาอีก เพราะกลัวความจริงที่ว่าเรื่องระหว่างเธอกับเขามันได้จบลงแล้วจริง ๆ  แต่เมื่อได้พูดคุยกับจอชเขาก็ได้เตือนว่า“อย่างน้อยเธอก็จะได้รู้”“เธอต้องบอกผู้คนว่าเธอรู้สึกยังไง เมื่อเธอรู้สึกถึงมัน”“เธอไม่ควรเอาแต่นั่งเขียนจดหมายรักในห้องที่เธอจะไม่มีวันส่ง”หากว่าจดหมายรักไม่ถูกส่งเรื่องราวระหว่างเธอกับปีเตอร์คงไม่เกิดขึ้น สุดท้ายเธอตัดสินใจบอกความรู้สึกทั้งหมดที่มีต่อปีเตอร์ แล้วทั้งคู่ก็ได้ปรับความเข้าใจกันในที่สุด

เรามาต่อประเด็นที่สองเรื่องครอบครัวกันเลยยย ตอนช่วงท้ายของภาพยนตร์ในเรื่องมีฉากที่เป็นภาพเคลื่อนไหวระหว่างลาร่า จีนกับปีเตอร์อยู่ในอ่างน้ำถูกเผยแพร่ออกไปอย่างกะทันหัน ซึ่งภาพเหล่านั้นทำให้เธอไม่สบายใจ และรู้สึกกระวนกระวายเป็นอย่างมากและด้วยช่วงวัยที่ยังขาดประสบการณ์ จึงทำให้บางครั้งก็เป็นเรื่องยากที่จะแก้ปัญหาต่าง ๆ ด้วยตัวเอง ดังนั้นการมีผู้รับฟัง และคอยชี้แนะถึงปัญหาสามารถช่วยให้พวกเขาตัดสินใจให้เดินไปตามแนวทางที่ตนเองคิดว่าควรได้อย่างถูกต้องและโชคดีที่เธอมีพี่สาวที่รักอย่างมาร์โกคอยช่วยรับฟังปัญหาและช่วยหาทางออกของปัญหาได้แต่แล้วอยู่ ๆ คิตตี้ที่แอบฟังบทสนทนาของทั้งคู่อยู่ก็ร่วมเข้าไปให้กำลังใจ และพูดสารภาพว่าตนเป็นคนแอบนำจดหมายไปส่งเอง ถึงแม้ว่าตอนแรกลาร่า จีน จะมีท่าทีที่โกรธ แต่เพราะมาร์โกที่สังเกตการณ์อยู่ก็เลยพูดประนีประนอมว่าเธอจะให้อภัยที่ลาร่า จีน แอบเขียนจดหมายถึงแฟนของเธอ ถ้าลาร่าจีนให้อภัยที่คิตตี้แอบนำจดหมายไปส่ง แล้วเรื่องราวระหว่างสามพี่น้องก็ได้คลี่คลายลง


ซึ่งเราก็ยังคงอยู่ในประเด็นของครอบครัวค่าาาาาา อย่างฉากหนึ่งในเรื่องที่ลาร่า จีนไปทานข้าวบ้านปีเตอร์ทั้งสองได้พูดคุยถึงแม่ของเธอที่เสียไปแล้วและพ่อของเขาที่เพิ่งหย่าล้างไปมีครอบครัวใหม่แต่เมื่อมีประเด็นการพูดคุยถึงแม่ของเธอที่จากไปแล้วมักทำให้บรรยากาศการพูดคุยดูเศร้าโดยทันที ซึ่งเธอได้บอกว่ารู้สึกดีที่ได้พูดคุยเรื่องแม่เหมือนเป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่เป็นเรื่องเศร้าบางครั้งการพูดถึงคนที่ไม่อยู่แล้ว ชวนให้คิดถึงความทรงจำครั้นเธอยังอยู่ในวัยที่ไม่ประสีประสานัก แต่บางครั้งในชั่วขณะหนึ่งก็เผลอลืมช่วงเวลาที่เคยใช้ร่วมกัน มันชวนให้รู้สึกผิด แต่คนเราต้องก้าวต่อไปข้างหน้า อาจจะมีลืมเลือนไปบ้าง ก็ไม่เป็นไร แค่ไม่ลืมว่าเขายังคงเป็นคนสำคัญของเราก็พอ เพียงแค่ปล่อยให้เรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นทั้งหมดกลายเป็นความทรงจำที่ยังคงตรึงอยู่ในใจของเรา นั่นคงเพียงพอต่อการก้าวข้ามผ่านไปได้

จากนั้นพวกเขาก็พูดถึงเรื่องการหย่าล้างระหว่างพ่อกับแม่ของปีเตอร์ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เขารู้สึกสับสนกับอะไรหลาย ๆ อย่าง แม้ว่าเขาเลือกที่จะไม่แสดงออก แต่ลึกลงไปในจิตใจของเขาคงรู้สึกน้อยใจ และโกรธพ่อของเขาอยู่ไม่น้อยเมื่อเธอได้รับฟังเธอจึงพูดปลอบใจเขาว่า“เธอมีสิทธิ์ที่จะโกรธ และคิดถึงใครสักคนไปพร้อม ๆ กันได้”บรรยากาศภายในบ้านที่เคยให้ความรู้สึกถึงการมีอยู่ของพ่อทำให้เขารู้สึกเคว้งคว้างเมื่อต้องพบกับความจริงว่าพ่อของเขาได้เลือกเดินจากไปแล้ว ในช่วงแรก ๆ ความรู้สึกด้านลบต่างถาโถมใส่เขาราวกับโลกใบนี้ได้หันหลังจากเขาไปแล้ว แต่เมื่อเวลาผ่านไปความรู้สึกที่มีไม่ได้จางหายไปไหน เพียงแต่เขาเลือกที่จะปล่อยผ่านเพื่อเริ่มต้นใหม่เช่นกัน นั่นทำให้เขาเริ่มมองเห็นช่วงเวลาที่ครอบครัวของเขาเคยมีความสุขแม้จะกลายเป็นแค่ความทรงจำ แต่มันก็ทำให้รู้ว่าอย่างน้อยก็เคยได้ใช้เวลาร่วมกันและแม้ว่าจะไม่ได้อยู่ด้วยกันอีกแล้ว แต่เขาก็ยังมีมีชีวิตอยู่ เพียงแค่นั้นก็ทำให้รู้สึกโล่งใจ



ซึ่งเราก็ยังคงอยู่ในประเด็นของครอบครัวกันค่ะ อย่างฉากหนึ่งในเรื่องที่ลาร่า จีนไปทานข้าวบ้านปีเตอร์ทั้งสองได้พูดคุยถึงแม่ของเธอที่เสียไปแล้วและพ่อของเขาที่เพิ่งหย่าล้างไปมีครอบครัวใหม่แต่เมื่อมีประเด็นการพูดคุยถึงแม่ของเธอที่จากไปแล้วมักทำให้บรรยากาศการพูดคุยดูเศร้าโดยทันที ซึ่งเธอได้บอกว่ารู้สึกดีที่ได้พูดคุยเรื่องแม่เหมือนเป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่เป็นเรื่องเศร้าบางครั้งการพูดถึงคนที่ไม่อยู่แล้ว ชวนให้คิดถึงความทรงจำครั้นเธอยังอยู่ในวัยที่ไม่ประสีประสานัก แต่บางครั้งในชั่วขณะหนึ่งก็เผลอลืมช่วงเวลาที่เคยใช้ร่วมกัน มันชวนให้รู้สึกผิด แต่คนเราต้องก้าวต่อไปข้างหน้า อาจจะมีลืมเลือนไปบ้าง ก็ไม่เป็นไร แค่ไม่ลืมว่าเขายังคงเป็นคนสำคัญของเราก็พอ เพียงแค่ปล่อยให้เรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นทั้งหมดกลายเป็นความทรงจำที่ยังคงตรึงอยู่ในใจของเรา นั่นคงเพียงพอต่อการก้าวข้ามผ่านไปได้

จากนั้นพวกเขาก็พูดถึงเรื่อการหย่าล้างระหว่างพ่อกับแม่ของปีเตอร์ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เขารู้สึกสับสนกับอะไรหลาย ๆ อย่าง แม้ว่าเขาเลือกที่จะไม่แสดงออก แต่ลึกลงไปในจิตใจของเขาคงรู้สึกน้อยใจ และโกรธพ่อของเขาอยู่ไม่น้อยเมื่อเธอได้รับฟังเธอจึงพูดปลอบใจเขาว่า“เธอมีสิทธิ์ที่จะโกรธ และคิดถึงใครสักคนไปพร้อม ๆ กันได้”บรรยากาศภายในบ้านที่เคยให้ความรู้สึกถึงการมีอยู่ของพ่อทำให้เขารู้สึกเคว้งคว้างเมื่อต้องพบกับความจริงว่าพ่อของเขาได้เลือกเดินจากไปแล้ว ในช่วงแรก ๆ ความรู้สึกด้านลบต่างถาโถมใส่เขาราวกับโลกใบนี้ได้หันหลังจากเขาไปแล้ว แต่เมื่อเวลาผ่านไปความรู้สึกที่มีไม่ได้จางหายไปไหน เพียงแต่เขาเลือกที่จะปล่อยผ่านเพื่อเริ่มต้นใหม่เช่นกัน นั่นทำให้เขาเริ่มมองเห็นช่วงเวลาที่ครอบครัวของเขาเคยมีความสุขแม้จะกลายเป็นแค่ความทรงจำ แต่มันก็ทำให้รู้ว่าอย่างน้อยก็เคยได้ใช้เวลาร่วมกันและแม้ว่าจะไม่ได้อยู่ด้วยกันอีกแล้ว แต่เขาก็ยังมีมีชีวิตอยู่ เพียงแค่นั้นก็ทำให้รู้สึกโล่งใจ



ซึ่งเราก็ยังคงอยู่ในประเด็นของครอบครัวค่าาาาาา อย่างฉากหนึ่งในเรื่องที่ลาร่า จีนไปทานข้าวบ้านปีเตอร์ทั้งสองได้พูดคุยถึงแม่ของเธอที่เสียไปแล้วและพ่อของเขาที่เพิ่งหย่าล้างไปมีครอบครัวใหม่แต่เมื่อมีประเด็นการพูดคุยถึงแม่ของเธอที่จากไปแล้วมักทำให้บรรยากาศการพูดคุยดูเศร้าโดยทันที ซึ่งเธอได้บอกว่ารู้สึกดีที่ได้พูดคุยเรื่องแม่เหมือนเป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่เป็นเรื่องเศร้าบางครั้งการพูดถึงคนที่ไม่อยู่แล้ว ชวนให้คิดถึงความทรงจำครั้นเธอยังอยู่ในวัยที่ไม่ประสีประสานัก แต่บางครั้งในชั่วขณะหนึ่งก็เผลอลืมช่วงเวลาที่เคยใช้ร่วมกัน มันชวนให้รู้สึกผิด แต่คนเราต้องก้าวต่อไปข้างหน้า อาจจะมีลืมเลือนไปบ้าง ก็ไม่เป็นไร แค่ไม่ลืมว่าเขายังคงเป็นคนสำคัญของเราก็พอ เพียงแค่ปล่อยให้เรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นทั้งหมดกลายเป็นความทรงจำที่ยังคงตรึงอยู่ในใจของเรา นั่นคงเพียงพอต่อการก้าวข้ามผ่านไปได้

จากนั้นพวกเขาก็พูดถึงเรื่องการหย่าล้างระหว่างพ่อกับแม่ของปีเตอร์ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เขารู้สึกสับสนกับอะไรหลาย ๆ อย่าง แม้ว่าเขาเลือกที่จะไม่แสดงออก แต่ลึกลงไปในจิตใจของเขาคงรู้สึกน้อยใจ และโกรธพ่อของเขาอยู่ไม่น้อยเมื่อเธอได้รับฟังเธอจึงพูดปลอบใจเขาว่า“เธอมีสิทธิ์ที่จะโกรธ และคิดถึงใครสักคนไปพร้อม ๆ กันได้”บรรยากาศภายในบ้านที่เคยให้ความรู้สึกถึงการมีอยู่ของพ่อทำให้เขารู้สึกเคว้งคว้างเมื่อต้องพบกับความจริงว่าพ่อของเขาได้เลือกเดินจากไปแล้ว ในช่วงแรก ๆ ความรู้สึกด้านลบต่างถาโถมใส่เขาราวกับโลกใบนี้ได้หันหลังจากเขาไปแล้ว แต่เมื่อเวลาผ่านไปความรู้สึกที่มีไม่ได้จางหายไปไหน เพียงแต่เขาเลือกที่จะปล่อยผ่านเพื่อเริ่มต้นใหม่เช่นกัน นั่นทำให้เขาเริ่มมองเห็นช่วงเวลาที่ครอบครัวของเขาเคยมีความสุขแม้จะกลายเป็นแค่ความทรงจำ แต่มันก็ทำให้รู้ว่าอย่างน้อยก็เคยได้ใช้เวลาร่วมกันและแม้ว่าจะไม่ได้อยู่ด้วยกันอีกแล้ว แต่เขาก็ยังมีมีชีวิตอยู่ เพียงแค่นั้นก็ทำให้รู้สึกโล่งใจ



และแล้วก็มาถึงสำหรับประเด็นสุดท้ายเราจะพูดกันในเรื่องไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตในรั้วโรงเรียนแน่นอนว่านอกจากเรื่องเรียนที่เราสนใจแล้ว ยังมีเรื่องแฟชั่นสไตล์การแต่งตัวที่มีเอกลักษณ์ในตัวเองของแต่ละคน อย่างฉากหนึ่งในเรื่องที่ลาร่า จีนสวมรองเท้าบูทวินเทจคู่ใหม่อย่างมั่นใจ เพื่อต้อนรับสำหรับภาคเรียนใหม่ของเธอ แต่เมื่อเจ็นอดีตเพื่อนสนิทมาเห็นเข้ากลับใช้ถ้อยคำที่แซะว่า“ขอบคุณมากที่รับใช้ชาติ”นั่นทำให้ลาร่า จีนเริ่มรู้สึกเสียความมั่นใจแต่คริสเพื่อนสนิทของเธอกลับบอกว่า“มันเจ๋งมาก ไม่ใช่ทุกคนที่ใช่แล้วดูดีนะ เธอใส่แล้วดูดีมาก”การเชียร์อัพในเรื่องแฟชั่นการแต่งตัวที่สวมใส่ก็เป็นเรื่องที่คนส่วนใหญ่ควรให้ความสำคัญเพราะสำหรับบางคนนั่นอาจต้องใช้ความกล้าในการเริ่มต้นที่จะลองอะไรใหม่ ๆ การที่เราคอยพูด คอยชมอะไรดี ๆ ให้กันในแต่ละวัน คนฟังก็รู้สึกดีมีแรงใจเราอยากให้ทุกคนคอยตระหนักเสมอว่าถ้าคนฟังคนนั้นเป็นเราจะรู้สึกยังไงเพียงแค่นั้นเลย เราคงไม่ชอบใจหากมีคนมาพูดไม่ดี หรือแซะเรา ดังนั้นถ้าเราไม่ชอบยังไง คนอื่นก็ไม่ชอบเช่นกัน


สำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ได้สร้างความประทับใจ แรงบันดาลใจ และข้อคิดในหลาย ๆ แง่มุมให้แก่ผู้ชมเนื้อเรื่องสนุก ชวนให้น่าติดตามมีให้คาดเดาความคิดของตัวละครมีประเด็นมากมายให้เราได้เห็นไม่ว่าจะเป็นประเด็นความรักในรูปแบบครอบครัว แฟน และเพื่อน การใช้ชีวิตในสังคมโรงเรียน การรู้จักปรับเปลี่ยน และพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น เพื่อเรียนรู้สิ่งที่เคยผิดพลาดให้เป็นประสบการณ์ นำไปสู่การเติบโตไปอีกช่วงวัยหนึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่ได้ไกลตัวเราเลย และในบากฉากบางตอนก็เปรียบเสมือนเป็นภาพสะท้อนตัวเราเอง นั่นถือเป็นการเตือนสติให้เราหันมองเห็นการกระทำของตนเอง ซึ่งทำให้รู้ว่าเราควรเดินหน้าต่อไปได้ยังไงนั่นเอง เราหวังว่าทุกคนจะเอนจอยกับการอ่านน้าาาา


เว็ปไซต์นี้ใช้คุกกี้

SistaCafe ให้ความสำคัญต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้โดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ แสดงว่าท่านยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา และ นโยบายการใช้คุกกี้

🔮 ดูดวงกับ SistaCafe ผ่าน Line Official !
รูปภาพสำหรับป๊อปอัพลอย:1