3 วัด สุดตระการตาในเชียงราย ไปแล้วได้ทั้งบุญ ได้ทั้งรูปลงโซเชียล

สวัสดีครับทุกคนอย่างที่เรารู้กันดีว่าสถานการณ์COVID-19 ในประเทศไทยตอนนี้ไม่มีทีท่าจะลดลงเลยแม้แต่น้อย มิหนำซ้ำมันกลับรุนแรงขึ้นยิ่งกว่าเก่า เรียกได้ว่าเป็นการซ้ำเติมความหวังของแต่ละคนที่อยากจะกลับไปใช้ชีวิตแบบช่วงก่อนจะเกิดโรคระบาดให้พังทลายลงในพริบตา และแน่นอนครับว่าตัวผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้น เพราะตัวผมเองชอบท่องเที่ยวกับครอบครัวมาก มันทำให้รู้สึกดีทุกครั้งที่ได้ไปเที่ยวกับครอบครัว แต่เมื่อเกิดโรคระบาดนี้ขึ้นมา สำหรับตัวผมแล้วมันคือการดับฝันกันดีดีนี่เอง มาถึงจุดนี้ผมเชื่อว่าหลายคนที่ได้เข้ามาอ่านบทความนี้ก็คงจะรู้สึกเหมือนกัน ที่อยากจะไปเที่ยวที่ไหนสักที่หลังเหตุโรคระบาดนี้หมดไปหรือทุเลาลง ไม่ว่าจะเป็นที่ใกล้หรือไกล ขอแค่ได้ไปเที่ยวที่ไหนสักที่

ดังนั้นในครั้งนี้ผมจะมาแบ่งปันสถานที่ท่องเที่ยวที่ผมเคยไปแล้วรู้สึกประทับใจ และอยากให้ทุกคนได้เอามาเป็นตัวเลือกในการท่องเที่ยว หากว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของCOVID-19 ทุเลาลงแล้วนั่นเองครับ หลายคนที่เข้ามาอ่านก็คงจะเห็นแล้วว่าที่เที่ยวที่ผมมาแนะนำในวันนี้นอกจากจะเป็นการเอาใจคนชอบเที่ยวสายเข้าวัดทำบุญแล้วยังเอาใจสายอัพรูปลงโซเชียลอีกด้วย

อย่างที่ผมบอกไปข้างต้นว่าตัวผมนั้นเป็นคนชอบท่องเที่ยวไปกับครอบครัว โดยส่วนใหญ่แล้วก็จะได้ไปเที่ยววัดครับ เพราะครอบครัวชอบเข้าไปทำบุญในวัด ไม่ว่าจะไปจังหวัดไหนก็จะต้องไปวัดด้วยทุกครั้ง จนผมมักจะให้ฉายาครอบครัวของผมว่า“พุทธคุณทัวร์”หรือการท่องเที่ยวสายเข้าวัดทำบุญนั่นเอง ด้วยเหตุนี้ผมจึงได้เห็นวัดหลายรูปแบบ ส่วนมากวัดแต่ละที่ก็จะมีลักษณะที่คล้ายคลึงกัน อย่างมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ โบสถ์ที่สร้างด้วยกระเบื้องลวดลายสวยงาม หรือจะเป็นเจดีย์สูงๆ และอีกหลายอย่างที่ไปทุกวัดก็จะเจอเกือบทุกวัด แบบนี้หลายคนก็คงจะคิดว่าไปที่ไหนก็คงจะเหมือนกัน แต่ผมอยากจะบอกว่าคุณคิดผิดครับ เพราะวัดบางวัดที่ที่ผมได้ไปนั้นมีเอกลักษณ์อันน่าจดจำ และตัวผมเองก็อยากจะแบ่งปันวัดที่น่าจดจำนี้กับทุกคนครับ

ในครั้งนี้ผมจะขอนำวัดที่ผมเคยไปเที่ยวและรู้สึกระทับใจในจังหวัดทางตอนเหนือของประเทศไทยอย่าง“เชียงราย”เนื่องด้วยความที่ผมเป็นคนใต้ การได้ขึ้นไปท่องเที่ยวทางภาคเหนือจึงถือว่าเป็นอะไรที่รู้สึกตื้นตันใจสุดๆ ตัวผมและครอบครัวได้มีโอกาสไปเที่ยววัดในจัดหวัดเชียงราย 4-5 วัด แต่จะขอยกมา 3 ที่รู้สึกว่าเป้นที่สุดของเชียงราย จะมีวัดอะไรบ้าง ไปดูกันเลย

***ป.ล. ไม่มีวัดร่องขุ่นนะครับผม แต่วัดที่แนะนำก็น่าไปไม่แพ้กันเลยครับ***


1.วัดแสงแก้วโพธิญาณ

รูปภาพ:

เรามาเริ่มกันที่วัดแรกอย่าง"วัดแสงแก้วโพธิญาณ"ผมเชื่อว่าหลายคนน่าจะคุ้นชื่อวัดนี้ในฐานะ“หนึ่งในวัดที่สวยงามของจังหวัดเชียงราย”จากการจัดอันดับของหลากหลายบทความ และตัวผมเองก็จะขอตอกย้ำว่าคำชื่นชมเหล่านั้นไม่ได้ยกยอแต่อย่างใด สำหรับวัดนี้ตอนที่ผมเดินทางไปนั้นไม่เคยได้ยินชื่อวัดแห่งนี้มาก่อน เพราะตอนที่ขึ้นไปเที่ยวเชียงรายตอนนั้น ผมกับครอบครัวกำหนดวัดที่จะไปเพียงวัดเดียวคือวัดชื่อดังอย่าง“วัดร่องขุ่น”เท่านั้น แต่ในตอนที่เดินทางไปถึงเชียงรายก็ได้ไปพบญาติที่อยู่เชียงราย เขาก็แนะนำให้ไปเที่ยววัดแสงแก้วโพธิญาณ ด้วยความที่อยากเที่ยววัดอื่นๆ นอกจากวัดร่องขุ่นก็เลยไปเที่ยวตามคำแนะนำของญาติ สิ่งที่ได้พบก็คือวัดอันวิจิตรตระการตา หลายคนอาจจะบอกว่าถึงกับต้องใช้คำว่าวิจิตรตระการตาเลยเหรอ ก็ขอบอกเลยนะครับว่าคำนี้เหมาะสมที่สุดแล้วครับ

โดยที่ตั้งของวัดนั้นจะตั้งอยู่ที่ ตำบลเจดีย์หลวง อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย ซึ่งวัดจะตั้งอยู่บนดอยสามารถขับรถขึ้นไปไปได้เลย บริเวณของวัดนั้นกว้างมาก อาจจะใช้เวลาสักระยะในการเดินรอบบริเวณวัดแต่รับรองได้เลยว่าใครเป็นสายถ่ายรูปจะได้รูปกลับไปมากมายเลยทีเดียว ในส่วนของสถาปัตยกรรมและจิตรกรรมในวัดจะเป็นแบบล้านนาที่มีความสวยงามน่าถ่ายรูปเก็บไว้ และสำหรับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของที่นี่คือครูบาศรีวิชัยองค์ใหญ่ท่านคือพระที่ผู้คนทางภาคเหนือเคารพนับถือ นอกจากนี้ก็มีพระพุทธรูปแบบล้านนาที่ประดิษฐานในโบสถ์อันงดงาม สำหรับใครศรัทธาหรือนับถือองค์เทพของศาสนาพราหมณ์-ฮินดูอย่างพระพิฆเนศและพระพรหมที่นี่ก็มีรูปปั้นขนาดใหญ่ของแต่ละองค์ให้ได้สักการะด้วยนะครับผม

สำหรับเวลาที่ผมมองว่าเหมาะสมแก่การไปสักการะและเดินชมภายในบริเวณวัดนั้น ควรจะไปช่วง7 โมงถึง 9 โมงเช้า เพราะอากาศกำลังดีไม่ร้อนมากจนเกินไป อีกทั้งแสงแดดยามเช้าก็เหมาะแก่การถ่ายรูปอีกด้วย สำหรับวัดนี้ก็ต้องบอกเลยว่าใครที่เป็นสายถ่ายรูปแล้วอยากไปทำบุญแต่ก็อยากได้รูปสวยๆ ด้วย วัดนี้ตอบโจทย์คุณแน่นอนครับ ผมจะขอทิ้งท้ายวัดแรกไปด้วยรูปภายในวัดที่ผมได้เก็บภาพมา อยากจะบอกว่านี่แค่ส่วนหนึ่งของวัดเท่านั้นนะครับ ในวัดยังมีอีกมากมายหลายจุดที่รอให้ทุนคนไปเก็บภาพ

รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:

2.วัดร่องเสือเต้น

รูปภาพ:

ถัดจากวัดแรกที่แหม่…ผมว่าหลายคนรู้สึกอยากจะไปทำบุญหรือบางคนก็อยากจะไปเก็บภาพสวยๆ แล้วใช่ไหมล่ะครับ อยากจะบอกว่ารอฟังวัดที่สองสามก่อนนะครับ รับรองว่าน่าไปไม่แพ้กันเลย สำหรับวัดที่สองตัวนี้ก็เป็นวัดที่ญาติแนะนำมาอีกเช่นกันว่าให้ลองไปเที่ยว ผมและครอบครัวรู้สึกว่าอยากไปวัดนี้ไม่แพ้วัดแรกเพราะญาติบอกมาว่า วัดที่สองนี้คือวัดที่ถูกสร้างขึ้นโดยลูกศิษย์ของหนึ่งในจิตรกรชื่อดังของเมืองไทยที่มีนามว่า“อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์”

วัดร่องเสือเต้น เป็นวัดเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ที่ตำบลริมกก อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย ซึ่งมีเอกลักษณ์อันโดดเด่น ด้วยโทนสีของสถาปัตยกรรมในวัดที่ใช้สีฟ้าชวนให้เราเหลียวมอง สำหรับผู้สร้างวัดนี้คือคุณพุทธา กาบแก้วซึ่งเราจะเห็นว่ารูปแบบของสถาปัตยกรรมต่างๆ ที่อยู่ในวัดนั้นมีรูปแบบที่แลดูคล้ายคลึงกันกับรูปแบบสถาปัตยกรรมของวัดร่องขุ่น เพียงใช้สีคนละสี นั่นก็เป็นเพราะว่าคุณพุทธาเป็นลูกศิษย์ของอาจารย์เฉลิมชัยผู้สร้างวัดร่องขุ่นนั่นเองครับ สำหรับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้คนต่างเข้ามากราบไหว้ของที่นี่คือพระพุทธรูปสีขาวมุกองค์ใหญ่ที่ประดิษฐานอยู่ในโบสถ์และพระพุทธรูปปางห้ามญาติสีขาวมุกองค์ใหญ่ที่ประดิษฐานอยู่บริเวณหลังโบสถ์ นอกจากภายในและด้านหลังของโบสถ์แล้วด้านหน้าตรงทางเข้าวัดก็มีรูปปั้นเทวดาสององค์ให้คนที่เลื่อมใสและศรัทธาได้มากราบไหว้และถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกอีกด้วย

สำหรับวัดนี้ผมก็ขอแนะนำว่าให้ไปช่วงเช้าเหมือนกันครับเพราะเรื่องอากาศที่เรียกได้ว่าแทบจะเป็นปัจจัยหลักในการเลือกที่เที่ยวในไทยไปแล้ว ดังนั้นอากาศช่วงเช้าสำหรับผมคือช่วงที่ดีที่สุดในการเที่ยวนั่นเอง สำหรับวัดนี้บริเวณวัดไม่ได้ใหญ่มากเท่ากับวัดแรก ดังนั้น ที่จอดรถอาจจะหายากในช่วงท่องเที่ยว แต่หากเป็นวันปกติก็น่าจะไม่มีปัญหาในจุดนี้นะครับ บริเวณวัดก็มีของกินขายมากมายครับ เผื่อบางคนอยากหาอะไรกินในบริเวณนั้น ใครที่อยากไปทำบุญก็แนะนำเป็นอย่างยิ่งเลยครับผม สำหรับสายถ่ายรูปที่นี่อาจจะไม่อลังการเท่าวัดแรกและจุดถ่ายรูปก็น้อยกว่ามาก แต่จุดถ่ายรูปที่มีในวัดแต่ละจุดก็คุ้มค่ากับการไปเก็บภาพอย่างแน่นอนครับผม และทิ้งท้ายวัดที่สองด้วยภาพประกอบจากในวัดร่องเสือเต้นครับผม

รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:

3.วัดห้วยปลากั้ง

รูปภาพ:

เอาละครับทุกคนเรามาถึงวัดที่3 กันแล้ว สองวัดก่อนหน้านี้ผมว่าหลายคนก็น่าจะได้รูปสวยๆ ไปลงโซเชียล กันไปมากแล้วใช่ไหมละครับ มาถึงวัดนี้ก็ขอบอกได้เลยครับว่า เตรียมตัวลงรูปเพิ่มไปอีกสัก 1 อัลบั้มเลยนะครับ ในเมื่อผมเปิดมาขนาดนี้หลายคนก็คงจะบอกว่าถ้าไม่คุ้มคงนี่ขอด่าสักที ใจเย็นก่อนนะครับ สำหรับวัดนี้คุ้มค่ากับการไปทำบุญและถ่ายรูปอย่างแน่นอนครับผม วัดที่สามนี้คุณพ่อของผมได้รับคำแนะนำจากเพื่อนที่ทำงาน ว่าเป็นวัดที่ควรเข้าไปทำบุญสักครั้งหากมีโอกาสเยือนเชียงราย บอกตามตรงเลยครับว่าความรู้สึกที่ได้ไปวัดนี้นั้นคล้ายกับตอนที่ได้ไปวัดแสงแก้วโพธิญาณ (วัดแรกที่ผมได้แนะนำ)เพราะเขาบอกมาแค่ว่า“วัดสวยนะลองไปดู”ผมและครอบครัวจึงลองไปตามคำแนะนำอย่างแต่ละที่ก่อนหน้า และผลลัพธ์ที่พบตอนไปถึงวัดก็เป็นไปตามที่ทุกคนคาดไว้เลยครับ นั่นคือ วัดอันแสนวิจิตรตระการตา

สำหรับวัดห้วยปลากั้งนี้ตั้งอยู่ในตำบลเดียวกันกับวัดร่องเสือเต้นคือตำบลริมกก อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย ซึ่งระยะห่างของทั้ง2 วัดนี้ประมาณ 7 กิโลเมตร โดยวัดห้วยปลากั้งจะอยู่ในบริเวณบ้านห้วยปลากั้งที่อยู่บนเนินเขาเล็กๆ ไม่ได้สูงมาก สำหรับบริเวณของวัดก็ใหญ่เลยละครับ ถ้าเดินรอบๆ วัดก็ต้องใช้เวลาสักหน่อย รูปแบบของสถาปัตยกรรมในวัดนี้จะได้รับอิทธิพลจากพุทธศาสนานิกายมหายานหรือที่เรารู้จักว่า“พุทธแบบจีน”มาผสมผสานกับสถาปัตยกรรมแบบล้านนาอย่างลงตัว และด้วยความที่วัดนี้เป็นพุทธแบบมหายาน จุดเด่นของวัดนี้ก็ต้องมีความเป็นนิกายมหายาน ซึ่งนั่นก็คือเจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่ ความสูง 69 เมตรที่ประดิษฐานบนเนินที่สูงที่สุดในวัด (ถามว่าเนินชันไหม ก็ชันพอสมควรครับ หากจะขึ้นไปทางวัดก็มีรถบริการรับส่ง) สำหรับใครที่เลื่อมใสและนับถือในองค์เจ้าแม่กวนอิม ก็ขอแนะนำให้มาสักการะที่นี่เลย เพราะนอกจากคุณจะได้มาสักการะเจ้าแม่กวนอิมแล้ว คุณจะได้รับโอกาสในการเข้าเข้าไปชมภายในองค์เจ้าแม่กวนอิม และชมวิวผ่าน“ตามังกร” (หน้าต่างที่ติดตั้งกระจกใสบริเวณอุณาโลมของเจ้าแม่กวนอิม)เรียกได้ว่าเป็นโอกาสที่หาได้ยากหรืออาจจะมีที่นี่เพียงที่เดียวเท่านั้น นอกจากคุณจะได้พบเจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่แล้ว ถัดมาทางขวาขององค์เจ้าแม่กวนอิมก็จะมีโบสถ์คล้ายกับวัดร่องขุ่นให้เราได้เข้าไปกราบพระพุทธรูปถัดมาจากโบสถ์ไปทางขวา คุณก็จะได้พบกับเจดีย์ 9 ชั้นที่มีชื่อว่า“พบโชคธรรมเจดีย์”ที่ด้านในจะประดิษฐาน พระพุทธรูปต่างๆ และที่สำคัญคือเจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่ที่แกะสลักจากไม้จันทน์หอมจากที่กล่าวมานี้ สำหรับใครที่ศรัทธาในเจ้าแม่กวนอิม ขอบอกไว้เลยว่า ไม่ควรพลาดนะครับ

ช่วงเวลาที่แนะนำให้ไปก็ตามเวลาเดิมเลยครับ คือ7 โมงถึง 10 โมงเช้า ไปสัมผัสอากาศช่วงเช้าๆ ที่นี่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาติ แต่ในช่วงโควิดแบบนี้ก็น่าจะเงียบเหงาเลยทีเดียว เรื่องที่จอดรถของที่นี่ก็สามารถรองรับรถจำนวนมากได้ ดังนั้นเรื่องที่จอดรถไม่เป็นปัญหาแน่นอนครับ สำหรับสายถ่ายรูปถ้ามาวัดนี้แล้วก็อย่าลืมขึ้นไปถ่ายวิวผ่านดวงตามังกรนะครับ จุดที่แนะนำที่สุดของวัดเลย  ในจุดอื่นๆ ก็มีมุมสวยๆ ให้ถ่ายภาพเช่นเดียวกันครับ สรุปได้ว่าใครที่มาวัดนี้คุณจะได้ทั้งการทำบุญและรูปสวยๆ ลงโซเชียลแน่นอนครับ สำหรับวัดที่ 3 ก็ขอทิ้งท้ายด้วยภาพประกอบที่ผมได้เก็บมานะครับ

รูปภาพ:รูปภาพ:รูปภาพ:

เป็นยังไงกันบ้างละครับสำหรับ3 วัดที่ผมนำมาแนะนำในครั้งนี้ หลายคนก็คงจะจดเอาไว้เป็นที่ที่จะไปหลังหมดโควิด หรือบางคนก็อาจจะเข้าไปหารูปหรือดูรายละเอียดทางอินเตอร์เน็ตเพิ่มเติมเลยใช่ไหมละครับ ตัวผมก็ขอยืนยันคำเดิมเลยนะครับว่าใครที่มีโอกาสได้ไป จะได้กลับมาทั้งความอิ่มเอมใจจากการทำบุญและได้รูปสวยๆกลับมาอย่างแน่นอนครับ ท้ายที่สุดนี้ก็ผมก็ขอให้ COVID-19 ซาลงและหายไปโดยเร็ว และขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนในการใช้ชีวิตผ่านพ้นช่วงวิกฤตนี้ไปนะครับ สำหรับสายเที่ยวและสายถ่ายรูปก็อดใจรอก่อนนะครับ วันไหนที่เราไปเที่ยวได้ก็อย่าลืมเก็บวัดที่ผมแนะนำไว้เป็นตัวเลือกด้วยนะครับ สำหรับวันนี้ผมก็ต้องขอขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านบทความของผมนะครับ และขอกล่าวคำว่า สวัสดีครับ