บทที่ 32

“มีเรื่องที่จะคุยเหรอคะ” มิราวดีถามในขณะที่พ่อบ้านมงคลเดินเข้ามาจัดเตรียมอาหารให้ เธอยิ้มขอบคุณก่อนที่เขาจะเดินออกไปจากห้องอาหารปล่อยให้เจ้านายสนทนากันเพียงลำพัง

“กินเถอะ คุณคงหิวแล้ว” ชายหนุ่มเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งมอง หญิงสาวที่พยักหน้ารับเเละเริ่มตักอาหารเข้าปาก

พอเวลาผ่านไปสักพักมิราวดีก็นึกขึ้นได้ว่าเขามาร่วมรับประทานอาหารมื้อนี้เพราะมีเรื่องสำคัญอยากจะคุยด้วย

“แล้วคุณมีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ สำคัญมากไหมคะ”

รชตมองนิ่ง ๆ พลางกระเเอมในลำคอ เรื่องที่จะคุยด้วยเหรอ ก็เเค่ข้ออ้างเท่านั้นเอง

“เรื่อง…” เขาเงียบเเละพูดต่อไปว่า “ข้อความที่ผมส่งไป คุณไม่ตอบกลับมา”

มิราวดีขมวดคิ้วมองก่อนอ้าปากอ้อเมื่อนึกออก ทำงานจนลืมตอบกลับเเละคิดว่าเขาไม่ได้สนใจเรื่องนี้ อันที่จริงการไปฮันนีมูนสำหรับคู่รักหลังแต่งงานก็ไม่จำเป็นด้วยซ้ำ การเเต่งงานแบบนี้จะไปฮันนีมูนเเบบมีความสุขได้อย่างไรกัน

“ฉันลืมตอบกลับเลยค่ะ วันนี้งานเยอะมาก” เธอบอกเหตุผล “แล้วคุณว่างไปเหรอคะ คือ ฉันคิดว่าคุณไม่จำเป็นต้องทำหน้าที่สามีในเรื่องนี้ให้ก็ได้นะคะ”

“หน้าที่สามี” รชตทวนคำพูดแล้วมองด้วยแววตาเรียบนิ่ง เขาไม่ได้ทำเพราะเเค่หน้าที่ของสามีที่ควรทำสักหน่อยเพียงเเต่ว่า

“ผมไม่ได้กำลังทำหน้าที่สามีเลย แค่อยากทำให้คุณมีความสุขที่ตัดสินใจแต่งงานกับผม”

นี่ไม่ใช่การหยอดคำหวานให้หญิงสาวรู้สึกดี ทว่าเป็นคำพูดที่เเม้เเต่สมองก็ยังไม่สั่งการมา เพียงใจนึกคิดปากก็พลั้งพูดไปซะแล้ว รชตอยากจะเย็บปากตัวเองเสียจริง ๆ

มิราวดีได้แต่ก้มหน้ายิ้มอย่างเคอะเขิน ถึงคำพูดของอีกฝ่ายดูเหมือนไม่ได้ใส่ใจแต่ก็ทำให้รู้สึกดีไม่น้อย แม้จะพยายามหลีกเลี่ยงสิ่งที่เป็นอันตรายต่อใจแล้วแต่ดูเหมือนจะไม่สำเร็จอย่างที่คิด

“แล้วเราจะไปฮันนีมูนกันวันไหนดี” เขาเอ่ยถามต่อ

หญิงสาวเงยหน้าขึ้นสบตา พลางขบคิดเรื่องสถานที่ฮันนีมูน และช่วงวันหยุดกับตารางงานที่ไม่สมดุลกัน

“เราเปลี่ยนเป็นจังหวัดใกล้ ๆ ดีไหมคะ มีทะเลหรืออยู่ในธรรมชาติอะไรแบบนั้นค่ะ”

รชตขมวดคิ้วมองด้วยความสงสัย หรือว่าเธอจะไม่ชอบสถานที่ที่เขาเสนอไป

“คือฉันกลัวคุณเหนื่อยเพราะต้องทำงานด้วย และฉันเองก็ไม่อยากลาหยุดหลายวัน ถ้าไปต่างประเทศไว้ตอนสิ้นปีถ้าคุณอยากไปเราค่อยไปด้วยกันอีกทีไหมคะ”

“ได้สิ ตามใจคุณเลย” ชายหนุ่มขานรับ “แล้วคุณอยากไปที่ไหนเป็นพิเศษไหม”

“ไม่มีค่ะ คือฉันไม่ค่อยได้เที่ยว นาน ๆ ไปทีมากกว่าก็เลยไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนดี คุณล่ะคะ อยากไปที่ไหนเป็นพิเศษไหมคะ”

รชตมองหน้าหญิงสาว เขารับรู้ถึงระยะห่างที่อีกฝ่ายพยายามสร้างขึ้น แต่จะทำอย่างไรให้เธอรักเขาและคำสาปนั้นจะได้ถูกแก้โดยที่เขาไม่ต้องหลงรักเธอหรือสับสนไปมากกว่านี้

“งั้นผมจะเป็นคนเลือกให้” ชายหนุ่มยิ้มตอบพลางขยับตัวลุกขึ้นเดินเข้ามาหาหญิงสาว เอื้อมมือจับมือของเธอขึ้นมาแล้วประทับจุมพิตที่หลังฝ่ามือ “ผมอยากให้คุณมีความสุข และไม่ได้คิดว่าสิ่งที่ผมทำมันเป็นแค่หน้าที่”

สัมผัสและไออุ่นที่อ่อนโยนของเขา ทำให้มิราวดีหลงไปชั่วขณะหนึ่ง ดวงตากลมส่งสายตามองด้วยใบหน้าที่ผ่าวร้อน ก่อนจะรีบดึงมือกลับแล้วเบือนหน้าหนี

“ขอบคุณนะคะ”

เธอพูดเสียงแผ่วพลางขยับตัวลุกและรีบเดินออกไปจากห้องอาหารในทันที รชตมองมิราวดีลับสายตาไปด้วยแววตาสับสนในใจว่าควรทำเช่นไรต่อไปดี เพราะว่า...กำลังหลงรักภรรยาเข้าให้เสียแล้ว

ไม่ใช่การแสดง ทว่าการกระทำทั้งหมด เกิดขึ้นก่อนที่สมองจะคิดเสียอีก

แม้ว่าในอดีตชาติเขาจะไม่ได้มีใจให้เธอเลย แต่วันนี้ต่างออกไป หากว่าเขาเริ่มใช้ชีวิตสามีภรรยากับเธอจริง ๆ เมื่อวันแก้คำสาปมาถึง เขายังจะได้อยู่ด้วยกันกับเธออีกหรือไม่ ดังนั้นหากสวรรค์ยังเมตตา เขาก็อยากใช้ชีวิตคู่กับเธอไปจนหมดอายุขัยดั่งเช่นมนุษย์ทั่วไปบนโลกใบนี้


อีกทางด้านหนึ่งในสวนของคฤหาสน์ แสงไฟอ่อนส่องภายในบ้านอิฐ ด้านนอกดูเหมือนคอกสำหรับเลี้ยงสัตว์เสียมากกว่า พ่อบ้านมงคลเดินเข้าไปและจัดอาหารวางไว้ตามที่นายท่านสั่ง ท่านเทพมีสีหน้าไม่พอใจเท่าไรเมื่อถูกอุ้มออกมาจากบ้านหลังใหญ่และต้องมารับประทานอาหารในเล้าไก่เล็ก ๆ

หมอนั่นมันบ้า กล้าทำกับท่านเทพอย่างนี้ได้ไงกัน !

อาโปจิกตามองพ่อบ้านที่จัดเตรียมอาหารเสร็จแล้วส่งสายตายิ้มให้ ทว่ายังโชคดีที่อาหารยังเหมือนเดิมไม่ใช่อาหารสำหรับไก่ธรรมดา เเน่นอนว่าร่างไก่นี้เดิมเป็นไก่ที่หมดอายุขัย เเละเขาที่พลังเทพน้อยเพราะการถูกมนุษย์ลืมเลือน รวมถึงบังเอิญไปอยู่ใกล้การทำพิธีของหญิงผู้นั้นด้วย จำต้องมาติดอยู่ที่ร่างนี้ ทว่าก็มีข้อดีคือการไม่สลายหายไปตามกาลเวลา

“นายท่านทำบ้านหลังนี้เพื่อท่านเลยนะครับ” พ่อบ้านมงคลพูดพลาง

ยิ้มให้ก่อนเดินออกไป ด้วยความที่เข้าใจว่าเจ้านายนั้นให้ความสำคัญกับท่านเทพที่มาสถิตมาก ทั้งก่อนหน้านี้บอกแค่ว่าดูเเลให้ดี แต่เมื่อไม่กี่วันก่อน ก็มีคำสั่งให้ทำบ้านสำหรับท่านเทพ

ความเข้าใจของพ่อบ้านนั้นหาใช่ความจริงไม่ อาโปได้เเต่มองมนุษย์วัยชราเดินออกไป หมอนั่นไม่ได้ทำเพราะเขาที่เป็นเทพ เเค่อยากไล่ออกมาอยู่นอกบ้านก็เท่านั้น ! แน่นอนว่าอาโปรู้สาเหตุดี คงเพราะเรื่องอาบน้ำแน่นอนจึงได้ทำเรื่องที่ไม่เคยทำเช่นนี้

“เจ้านั่นปากแข็งเกินไป ทั้งที่ดูก็รู้ว่ามีใจให้หล่อนแล้ว” ท่านเทพหนุ่มได้เเต่บ่นพึมพำพลางกินอาหารมื้อค่ำอย่างอร่อย


รูปภาพ:

รชตกำหนดวันมาฮันนีมูนอย่างเร็วทันทีที่เลือกสถานที่เข้าพักได้ โดยไม่ถามถึงตารางงานของเธอแม้แต่น้อย ทว่าพอไปดูตารางงาน ก็เป็นวันว่างที่ไม่ต้องนัดลูกค้า ซ้ำยังโชคดีที่ติดกับวันหยุดพิเศษอีกด้วย ถึงจะเป็นการตัดสินใจเพียงฝ่ายเดียว ทว่ามิราวดีก็ไม่ได้รู้สึกโกรธเลย เพราะไปหรือไม่ไปมันก็ไม่ได้สำคัญต่อการใช้ชีวิตคู่ แต่การที่เขาให้ความสำคัญกับ ‘ฮันนีมูน’ เธอก็รู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูก

บรรยากาศบ้านพักส่วนตัวท่ามกลางป่าไม้และธรรมชาติ ไม่ไกลจากชายหาดและใกล้เเหล่งท่องเที่ยวสำคัญหลายเเห่ง ชาวต่างชาติมักเข้ามาพักกันไม่ขาดสาย ทำให้บ้านพักเต็มเกือบทุกวันแม้ว่าจะมีราคาแพงก็ตาม     หญิงสาวคาดไม่ถึงว่าชายหนุ่มจะจองได้ในเวลาอันสั้น

“บ้านสวีตการ์เด้นท์ นี่คือการ์ดเข้า ส่วนกระเป๋าของคุณผู้หญิงและคุณผู้ชายจะไปส่งให้ที่บ้านนะครับ” พนักงานต้อนรับพูดพลางแนะนำเส้นทางของบ้านพักที่ต้องไป

ทันทีที่เดินเข้ามาในห้อง มิราวดีตรงมายังริมระเบียงเพื่อมองทิวทัศน์

“คุณชอบไหม” รชตเดินเข้ามายืนข้าง ๆ เขามั่นใจพอตัวว่าสถานที่นี้จะทำให้ภรรยาประทับใจ

รูปภาพ:

โปรดติดตามตอนต่อไป...

ขออภัยที่หายไปนานนะคะ ช่วงนี้กลับมาทำงานปกติเเล้ว ก่อนหน้าคือ WFH ค่า เลยพอมีเวลาบ้าง

ฝากติดตามต่อด้วยนะคะ หากใครชอบเค้าฝากสนับสนุนด้วยนะคะ

ขอบคุณมาก ๆ ค่า

Mamaya Writer