เอาจริงๆ ปัญหาผิวกวนใจอันดับต้นๆ ที่พบเจอได้ในคนแทบทุกเพศทุกวัย ก็หนีไม่พ้น “ สิว ” ที่ไม่จิ๋วเหมือนขนาดนี่แหละค่ะ แล้วพอสิวโผล่ขึ้นมาแต่ละครั้งก็ทำให้รู้สึกเจ็บๆ จี๊ดๆ บนผิว กว่าจะยุบก็ใช้เวลานาน แถมบางครั้งถ้าเป็นสิวอักเสบก็มักจะทิ้งรอยแผลเป็นเอาไว้หลังสิวหายแล้วด้วยนะ แล้วเราต้องบอกเลยนะว่าปัญหาสิวไม่ได้เกิดขึ้นแค่กับผิวหน้าอย่างเดียวเท่านั้น แต่หลายๆ คนอาจพบเจอกับปัญหา สิวที่หลัง ที่แก้ยากพอๆ กับสิวบนใบหน้า แล้วยังทำให้ผิวดูไม่เนียนใสสม่ำเสมอกันอีกด้วย

โดยตัวการที่ทำให้เกิดสิวที่หลังก็เกิดได้จากหลายปัจจัยเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นระดับฮอร์โมนแปรปรวน ต่อมไขมันผลิตน้ำมันส่วนเกินออกมามากเกินไป หรือแม้แต่การที่มีเซลล์ผิวที่ตายแล้วอุดตันในรูขมขน ก็ล้วนเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวที่หลังได้ทั้งนั้นเลยนะ วันนี้เราจึงหยิบ 7 วิธีป้องกันการเกิด “ สิวที่หลัง ” มาแชร์ให้ได้ลองทำตามกัน ถ้าไม่อยากให้หลังเนียนๆ โดนกองทัพสิวบุก ก็รีบตามไปดูพร้อมกันได้เลยค่าา~

  

หากสาวๆ เริ่มสังเกตเห็นสิวโผล่ขึ้นบนผิวบริเวณหลังแล้ว ก็เป็นสัญญาณเตือนว่าถึงเวลาเปลี่ยนครีมอาบน้ำขวดใหม่แล้วค่ะ เรามั่นใจว่าหลายคนเวลาเลือกซื้อครีมอาบน้ำมาใช้ ก็มักจะเลือกจากขวดที่มีกลิ่นหอมโดนใจมากที่สุดแน่ๆ แต่ถ้าไม่อยากให้ปัญหาสิวที่หลังมักลุกลามมากไปกว่านี้ ทางที่ดีควร เลือกครีมอาบน้ำที่มีส่วนผสมที่ช่วยรักษาสิว เช่น “ กรดซาลิไซลิก ” ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไป ไม่ให้อุดตันรูขุมขน / “ กรดไกลโคลิก ” ที่มีคุณสมบัติช่วยผลัดเซลล์ผิว และป้องกันการเกิดจุดด่างดำหรือรอยแผลเป็นหลังสิวหาย / “ กรดแล็กทิก ” ที่ช่วยฟื้นบำรุงให้ผิวเนียนนุ่ม ลดเลือนรอยสิวให้แลดูจางลง เป็นต้น พอใช้อาบน้ำเป็นประจำทุกวันก็จะช่วยป้องกันไม่ให้รูขุมขนอุดตัน และขจัดเซลล์ผิวเก่าออกไปได้ด้วยนะ

ถ้าลองสังเกตดีๆ ส่วนใหญ่แล้วคนที่มีปัญหาสิวที่หลังก็มักจะเป็นคนที่เหงื่อออกเยอะ หรือชอบทำกิจกรรมเรียกเหงื่ออย่างการออกกำลังกาย เพราะแบคทีเรียที่เป็นตัวการก่อให้เกิดสิวมักจะเจริญเติบโตได้ดีเวลาเหงื่อออกมากๆ ในเมื่อสาวซิสไม่สามารถสั่งให้เหงื่อหลุดไหลได้ วิธีที่ดีที่สุดที่จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาสิวที่หลังก็คือ การอาบน้ำหลังออกกำลังกายทุกครั้ง เพื่อชำระล้างคราบเหงื่อและสิ่งสกปรกออกจากผิวนั่นเองค่ะ หรืออย่างน้อยๆ ถ้าไม่สะดวกอาบน้ำหลังออกกำลังกายทันที ควรเตรียมเสื้อผ้าชุดใหม่ที่สะอาด สำหรับหยิบไปใส่แทนชุดออกกำลังกายที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อก็ยังดีนะคะ

สาวซิสที่เคยเผชิญหน้ากับปัญหาสิวก็คงจะพอรู้อยู่แล้วว่า หนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวก็คือการที่รูขุมขนมีสิ่งสกปรกหรือเซลล์ผิวที่ตายแล้วเข้าไปอุดตัน จนเกิดการอักเสบและกลายเป็นปัญหาสิวตามมาในที่สุด แล้วเคล็ดลับที่จะช่วยขจัดสิ่งสกปรกออกจากรูขุมขนแบบง่ายๆ ก็คือการสครับผิวค่ะ โดยแนะนำให้ สครับผิวก่อนอาบน้ำเป็นประจำ 1 - 2 ครั้ง / สัปดาห์ แล้วต้องไม่ลืมสครับผิวเบาๆ อย่างอ่อนโยน ห้ามขัดผิวแรงๆ หรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมรุนแรงเด็ดขาด เพราะนอกจากจะไม่ช่วยแก้ปัญหาสิวที่หลังให้ดีขึ้นแล้ว ยังอาจยิ่งกระตุ้นให้ผิวเกิดการระคายเคืองจนสิวเห่อหนักกว่าเดิมด้วยก็เป็นได้

ขอให้ท่องจำไว้เลยนะคะว่าผิวกายของเราก็ต้องการการบำรุงไม่แพ้ผิวหน้าเลยนะ ที่ต้องเอ่ยปากเตือนไว้ก่อนก็เพราะว่า สาวๆ หลายคนอาจคิดว่ามอยส์เจอไรเซอร์เป็นสกินแคร์สำหรับบำรุงผิวหน้าอย่างเดียวเท่านั้น ทั้งที่จริงๆ แล้วการเติมความชุ่มชื้นให้ผิวกายอย่างสม่ำเสมอก็เป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ โดยเฉพาะคนที่มีปัญหาสิวที่หลัง มอยส์เจอไรเซอร์ถือเป็นไอเทมคู่ใจที่ขาดไม่ได้ เลยนะ เพราะมอยส์เจอไรเซอร์จะซึมซาบเข้าไปช่วยปลอบประโลมผิว เติมความชุ่มชื้น และซ่อมแซมเกราะป้องกันผิว เพียงแค่เลือกใช้มอยส์เจอไรเซอร์สูตร Non-Comedogenic ที่ไม่อุดตันรูขุมขน เท่านี้ก็ทาบำรุงผิวได้อย่างสบายใจแล้ว

ไม่ว่าจะเป็นปัญหาสิวบนใบหน้าหรือปัญหาสิวที่หลัง สิ่งที่สาวๆ ห้ามทำเด็ดขาดถ้าไม่อยากให้ผิวพังหนักจนรักษายากก็คือ ห้ามแคะ / แกะ / บีบสิวด้วยตัวเอง ค่ะ ถึงแม้ว่าเรื่องนี้จะเป็นสิ่งที่ห้ามใจได้ยาก เพราะเห็นหัวสิวโผล่มาทีไรก็อดใจไม่ไหวแล้วต้องใช้เล็บจิกสิวทุกที… แต่พฤติกรรมแบบนี้มันจะยิ่งทำให้สิ่งสกปรกที่ติดอยู่ตามซอกเล็บ เข้าไปกระตุ้นให้เกิดการระคายเคืองและสิวเห่อได้ง่ายๆ แถมเวลาสิวยุบแล้วก็มักจะทิ้งรอยแผลเป็นจากสิวไว้ด้วยนะ แทนที่จะบีบสิวด้วยความเมามันส์ ก็แนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์รักษาสิวที่หลัง ที่มีส่วนผสมของ “ Benzoyl Peroxide ” หรือ “ กรดซาลิไซลิก ” จัดการกับสิวแทนดีกว่า

ประโยคยอดฮิตที่หลายคนชอบพูดกันว่า “ เรื่องกิน เรื่องใหญ่ ” เราขอบอกว่ามันจริงตามนั้นเลยนะ เพราะอาหารนานาชนิดที่หยิบเข้าปาก เคี้ยวเพลินๆ แล้วกลืนลงท้อง มันส่งผลต่อทั้งสุขภาพร่างกาย หุ่น ไปจนถึงผิวพรรณได้เลย หากสาวซิสอยากจะป้องกันการเกิดสิวที่หลัง หรือใช้วิธีการ ( เลือก ) กินแก้ปัญหาผิวเรื่องนี้ ก็ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินของตัวเองใหม่ หันมาเน้นกิน อาหารต้านการอักเสบ มากขึ้น เช่น ผักใบเขียว ปลา มะเขือเทศ ฯลฯ รวมทั้ง อาหารที่มีโอเมก้า 3 สูง เช่น แซลมอน อาโวคาโด วอลนัท ฯลฯ เพราะเมนูเหล่านี้จะช่วยลดการอักเสบและการเกิดสิวได้นั่นเอง