ช่วงกลางวัน #ง่วงได้ง่วงดี อยากนอนตลอดเวลา แต่พอตกกลางคืนกลับตาค้างซะงั้น !!!หากพูดถึงปัญหาสุขภาพยอดฮิตที่พบเจอได้ในคนทุกเพศทุกวัยก็หนีไม่พ้นปัญหาเกี่ยวกับการนอนหลับนี่แหละค่ะหลายคนอาจคิดว่าแค่นอนไม่หลับมันก็อาจทำให้รู้สึกง่วงๆ เพลียๆ ระหว่างวันเท่านั้น แต่ความจริงแล้วหากร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว หรือเกิดโรคภัยไข้เจ็บที่ร้ายแรงกว่าที่คิดเช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ ฯลฯแล้วมีใครเจอปัญหาแบบเดียวกันบ้างรึเปล่า ทั้งๆ ที่รู้สึกง่วงและเหนื่อยมากๆ จนแทบลืมตาไม่ขึ้น แต่พอล้มตัวนอนหัวถึงหมอนทีไรกลับนอนไม่หลับ กระสับกระส่าย ต้องพลิกตัวไปมาตลอดคืน…วันนี้เราจึงลิสต์7 สาเหตุที่ทำให้ “ เหนื่อยแต่นอนไม่หลับ ”มาให้ได้ลองเช็กกับตัวเองดูว่าอาการนอนไม่หลับของคุณสาวๆ มันเกิดจากสาเหตุเหล่านี้รึเปล่า???

★ ★ ★ ★ ★ ★ ★ ★ ★ ★ ★ ★ ★ ★ ★ ★ ★ ★ ★ ★


➊ งีบหลับผิดเวลา

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/originals/e8/af/63/e8af6383f80bbc6c6ddf1f2242054f62.jpg

ไม่ว่าจะเป็นคนวัยเรียนหรือวัยทำงาน หลังกินมื้อกลางวันจนอิ่มแปล้ก็มักจะเข้าตำรา#หนังท้องตึง หนังตาหย่อนแทบทุกราย จนแอบงีบหลับระหว่างวันเพื่อชาร์ตแบตให้ตัวเองอยู่บ่อยๆ ใช่มั้ยละ?จริงๆ แล้วการงีบหลับระหว่างวันไม่ใช่เรื่องแย่หรือเลวร้ายอะไรเลยนะคะ เพราะมันจะช่วยเพิ่มพลังให้มีเรี่ยวแรงอีกครั้ง แล้วยังปลุกสมองให้ตื่นตัวขึ้นกว่าเดิมด้วยแต่หากคุณสาวๆงีบหลับระหว่างวันนานหลายชั่วโมง หรืองีบหลับผิดเวลาช่วงบ่ายแก่ๆ จนเกือบเย็นเป็นประจำนี่ก็อาจเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการตาค้างจนนอนไม่หลับในช่วงกลางคืน หรือสะดุ้งตื่นกลางดึกก็เป็นได้ทางที่ดีแนะนำให้งีบหลับระหว่างวันไม่เกิน 20 นาที ก็จะช่วยให้รู้สึกสดชื่นและไม่งัวเงียหลังตื่นด้วยค่ะ


➋ เกิดภาวะเครียด / ซึมเศร้า

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/originals/6c/29/94/6c2994e60866cb0b038b1174013de10d.jpg

สาวซิสรู้รึเปล่าว่าปัจจัยทางจิตใจ ถือเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดอาการนอนไม่หลับได้เหมือนกันนะอย่างคนที่เกิดภาวะเครียดสะสมหรือมีอาการซึมเศร้าก็มีแนวโน้มที่จะมีปัญหาเกี่ยวกับการนอนหลับสูงด้วยเหตุผลก็เป็นเพราะช่วงไหนก็ตามที่มีความเครียดหรือวิตกกังวล จะส่งผลให้ร่างกายตื่นตัวและนอนหลับยากขึ้นส่วนคนที่มีอาการซึมเศร้าก็มักมีอาการนอนไม่หลับ นอนหลับไม่เต็มอิ่ม ตื่นขึ้นมาแล้วรู้สึกอ่อนเพลียหรือง่วงนอนระหว่างวันซึ่งหากปัญหานอนไม่หลับเกิดขึ้นจากภาวะเครียดหรืออาการซึมเศร้า ก็แนะนำว่าควรแวะไปปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับปัญหานี้จะดีที่สุดค่ะ


➌ ดื่มกาแฟเยอะเกินไป

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/736x/e8/68/25/e86825b797503b100a2861273d2a0ec9.jpg

อย่างที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าหนึ่งในตัวการที่ทำให้หลายคนตาค้างในตอนกลางคืนก็คือ“ คาเฟอีน ”ในเครื่องดื่มยอดฮิตอย่างกาแฟค่ะ เพราะคาเฟอีนมีฤทธิ์กระตุ้นให้สมองตื่นตัว รู้สึกกระปรี้กระเปร่า และอาจทำให้มีอาการนอนไม่หลับร่วมด้วยนอกจากนี้คาเฟอีนยังมีค่าครึ่งชีวิต ( Half-life ) นานถึง 5 ชั่วโมง หรือจะยกตัวอย่างให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ หากร่างกายได้รับคาเฟอีนเข้าไป 400 มิลลิกรัม หลังผ่านไปแล้ว 5 ชั่วโมงก็จะยังคงเหลือคาเฟอีนตกค้างในร่างกายอีกประมาณ 200 มิลลิกรัมนั่นเองแบบนี้หากดื่มกาแฟเยอะเกินไป หรือดื่มกาแฟช่วงบ่าย / ใกล้เวลาเข้านอนก็มีโอกาสที่จะเกิดอาการนอนไม่หลับได้ค่ะ


➍ ติดส่องโซเชียลก่อนนอน

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/474x/b1/72/b0/b172b0b0ebdd194d541762621e46cb83.jpg

ลองนึกย้อนดูสิว่าที่ผ่านมาเวลาล้มตัวนอนลงบนเตียงนุ่มๆ มีใครชอบหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาส่องโซเชียล หรือเปิดซีรีส์เรื่องโปรดดูก่อนนอนทุกคืนบ้างคะ?ขอบอกเลยว่าพฤติกรรมชอบใช้ชีวิตติดจอแบบนี้ ถือเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดปัญหานอนไม่หลับ ถึงแม้ว่าจะเหนื่อยหรือเพลียขนาดไหนก็ตาสว่างตลอดคืนนั่นก็เพราะแสงสีฟ้าที่ส่องมาจากหน้าจอสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต โน้ตบุ๊ค หรือทีวีจะกดการหลั่ง“ เมลาโทนิน ”ฮอร์โมนที่ช่วยเรื่องการนอนหลับยังไงล่ะคะดังนั้น ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเองใหม่ ด้วยการงดดูสมาร์ตโฟน โน้ตบุ๊ค หรือทีวี 2 ชั่วโมงก่อนนอน และวางอุปกรณ์เหล่านี้ให้ห่างตัวเวลานอนหลับด้วยนะคะ


➎ ออกกำลังกายใกล้เวลานอน

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/3e/44/99/3e4499cc2e586c7948f83f12f77f539d.jpg

คุณสาวๆ สายเฮลธ์ตี้ที่ชอบออกกำลังกายเพิ่มความเฟิร์มเป็นประจำ พวกเธอจะลุกขึ้นมาฟิตร่างกายเมื่อไหร่ก็ได้ แต่จะออกกำลังกายก่อนนอนไม่ได้เด็ดขาดเลยนะที่ต้องเอ่ยปากเตือนแบบนี้ก็เพราะว่า การออกกำลังกายใกล้กับเวลานอนมากๆ อาจทำให้นอนไม่หลับในช่วงเวลากลางคืนได้นั่นเองโดยเฉพาะคนที่เว้นระยะเวลาออกกำลังกายก่อนเข้านอนน้อยกว่า 3 ชั่วโมง ก็ยิ่งมีโอกาสนอนไม่หลับสูงขึ้นไปอีก เพราะการออกกำลังกายจะกระตุ้นระบบเผาผลาญและเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจจนทำให้รู้สึกตื่นตัว นอนไม่หลับ และอาจสะดุ้งตื่นกลางดึกบ่อยๆบอกเลยว่าตื่นขึ้นมาแล้วเพลียหนักเหมือนคนไม่ได้นอนเลยทีเดียว


➏ กินอาหารโปรตีนสูง

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/736x/55/37/3c/55373c36b22e43585e6d605c3bfee603.jpg

นอกจากอาหารที่ตักเข้าปากในแต่ละมื้อ มันจะช่วยเพิ่มรสชาติความอร่อยและทำให้รู้สึกอิ่มท้องได้แล้ว ยังส่งผลต่อทั้งสุขภาพ ผิวพรรณ หุ่น และคุณภาพการนอนหลับด้วยนะแล้วหนึ่งในเมนูอาหารที่อาจรบกวนการนอนหลับ ทำให้หลับยากหรือหลับไม่สนิทก็คือ“ อาหารโปรตีนสูง ”นี่แหละค่ะหากคุณสาวๆกินอาหารโปรตีนสูงใกล้เวลาเข้านอนมากๆก็อาจทำให้ระบบย่อยอาหารปั่นป่วน เพราะต้องใช้พลังงานสูงในการย่อยโปรตีนที่ได้รับเข้าสู่ร่างกายจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้นอนไม่หลับแม้ว่าจะรู้สึกง่วงมากๆ ก็ตามค่ะ


➐ บรรยากาศในห้องนอนไม่ผ่อนคลาย

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/originals/9b/27/c6/9b27c6fdf183a2acc37775cdf012fc98.jpg

และแล้วก็มาถึงสาเหตุที่ทำให้นอนไม่หลับข้อสุดท้าย ที่ต่อให้ทำงานหนักมาตลอดทั้งวัน หรือเหนื่อยจนหนักร่างแทบพัง แต่ก็ข่มตานอนหลับไม่ลงสักที นั่นก็คือบรรยากาศในห้องนอนไม่เหมาะแก่การนอนหลับพักผ่อนค่ะอย่างใครที่ชอบเปิดไฟในห้องนอนให้แสงสว่างจ้าพอดวงตาเจอแสงก็อาจทำให้สมองถูกหลอกว่าถึงเวลาตื่นแล้วและยังลดการผลิต“ เมลาโทนิน ”ฮอร์โมนที่ทำให้ร่างกายรู้สึกง่วงนอนนอกจากนี้หากอากาศในห้องนอนร้อนอบอ้าวก็อาจอึดอัดไม่สบายตัวและรู้สึกร้อนจนนอนไม่หลับได้เหมือนกันค่ะ


★ ★ ★ ★ ★ ★ ★ ★ ★ ★ ★ ★ ★ ★ ★ ★ ★ ★ ★ ★

หลังจากที่ได้ลองเช็กไปจนครบทั้ง 7 ข้อแล้ว คราวนี้คุณสาวๆ ก็คงรู้แล้วนะว่ามีปัจจัยที่เป็นตัวกระตุ้นให้นอนไม่หลับสารพัดอย่างเชียวละ ไม่ว่าจะเป็นการงีบหลับระหว่างวันที่ไม่ถูกต้อง, เกิดภาวะเครียด / ซึมเศร้า, ดื่มกาแฟเยอะเกินไป, เล่นสมาร์ทโฟนก่อนนอน, ออกกำลังกายใกล้เวลานอน ฯลฯ ซึ่งในบางครั้งสาเหตุที่ทำให้การนอนหลับเป็นเรื่องยาก หรือตาสว่างยิงยาวถึงเช้าอยู่บ่อยๆ มันอาจเกิดจากพฤติกรรมที่เผลอทำจนชินด้วยเช่นกัน แบบนี้หากอยากจะเปลี่ยนมาเป็นคนที่นอนหลับง่ายขึ้น ก็ต้องหยุดพฤติกรรมแย่ๆ เหล่านั้นโดยไว แล้วหันมาใส่ใจดูแลตัวเองให้มากขึ้นกว่าเดิมด้วยนะคะ