หูสำคัญไฉน? 👂 ว่าด้วย 7 เรื่องของหู ' ดูแลหู ' ยังไงให้ 'ปลอดภัย' อยู่กับเราไปได้นาน ๆ
นอกจากดูแลสุขภาพร่างกาย อย่าลืมดูแลสุขภาพหูกันด้วยเน้อ หลาย ๆ คนมักจะละเลยไปเพราะคิดว่ามันไม่สำคัญ แต่จริง ๆ แล้วถ้าเราไม่ดูแลรักษา อาจจะทำให้เราใช้งานมันไม่ได้อีกเลยก็ได้นะ ถ้ารู้สึกอยากเริ่มดูแลมันแล้วละก็เข้ามาอ่านต่อในนี้ได้เล้ย ♥
เผยแพร่: 8 มิ.ย. 2565 18:00 น.
Views: 2,462
รหัสบทความ: 90325
ไหนใครชอบฟังเพลงเสียงดังทะลุหูฟังบ้าง ยกมือขึ้น!ทุกคนรู้ไหมคะว่าการฟังเพลงดังมากเกินไปจะทำให้ประสาทหูของเราเสื่อมและอาจจะหูหนวกได้หลายคนอาจรู้และหลายคนอาจจะยังไม่รู้ ต้องบอกว่าเรามักจะละเลยการดูแลสุขภาพหูกันอยู่บ่อย ๆเพราะด้วยความที่เราไม่เห็นเลยไม่ทันสังเกต หรือคิดว่ามันจะไม่เป็นไรหรอกทำแค่นี้เองทำให้หลาย ๆ ครั้งมันก็เผลอไปทำร้ายสุขภาพหูโดยไม่รู้ตัวนะเออ วันนี้เราก็เลยอยากจะชวนให้ทุกคนมาดูแลสุขภาพหูกันด้วย 7 วิธีง่าย ๆที่ค่อย ๆ ปรับไปใช้กันได้แน่นอนเอาล่ะ! ถ้าพร้อมดูแลสุขภาพหูก็เลื่อนลงมาอ่านกันด่วน ๆ จ้า ♥
❀ ❀ ❀ ❀ ❀ ❀ ❀ ❀ ❀ ❀ ❀ ❀ ❀
✩ ✩ ✩ ✩ ✩✩ ✩ ✩ ✩ ✩✩ ✩ ✩ ✩ ✩✩ ✩ ✩ ✩ ✩✩• ว่าด้วย7เรื่องของหูดูแลหูยังไงให้ปลอดภัยหายห่วง •✩ ✩ ✩ ✩ ✩✩ ✩ ✩ ✩ ✩✩ ✩ ✩ ✩ ✩✩ ✩ ✩ ✩ ✩✩
• อย่าฟังเพลงดังเกินไป •
อันดับแรกที่หลาย ๆ คนเป็นปัญหาก็คือการฟังเพลงเสียงดังคือถ้าใช้ลำโพงมันก็ยังไม่อันตรายหนัก แต่ส่วนใหญ่วัยรุ่นวัยเรียนต่าง ๆ ก็คือแอร์พอด หูฟังกันทั้งน้านนนน แล้วฟังเพลงดังจนทะลุหูฟัง คือมันเป็นอะไรที่ไม่ดีเลยนะคะ เพราะหูของเราหากได้ฟังเสียงที่ดังเป็นเวลานาน ๆ เข้าอาจจะส่งผลให้หูอื้อหรือหูดับได้ในที่สุด ระดับการฟังที่เหมาะสมก็คือฟังที่ความดังไม่เกิน 60%ของหลอดระดับเสียงในมือถือ แต่ถ้าพวกแอปฟังเพลงมันเบาก็อาจจะขยับไปได้สักนิดนะคะ แต่พยายามอย่าฟังดังจนทะลุออกนอกหูฟังเน้อ อันตรายมาก ๆ
• โรคบางชนิดก็ส่งผลต่อหูนะ •
โรคบางชนิด
โดยเฉพาะโรคเกี่ยวกับเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงหูเช่น โรคหวัด, โรคหัด, คางทูม, โรคเบาหวาน, โรคไต, โรคไขมันในเลือดสูง, โรคความดันโลหิตสูง, โรคกรดยูริกในเลือดสูง, โรคโลหิตจาง, โรคเลือด จะต้องใส่ใจดูแลเป็นพิเศษเลยล่ะค่ะ เพราะว่าถ้าไม่ได้ใส่ใจ อาจจะทำให้ประสาทหูเสื่อม จนหูเราหนวกหรือหูตึงได้เลยนะเออ แล้วไม่ใช่แค่โรคนะคะ พวกความเครียด วิตกกังวล การพักผ่อนไม่เพียงพอ การสูบบุหรี่ กินอาหารติดเค็ม ดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนเป็นประจำก็เสี่ยงได้เหมือนกันวิธีแก้ก็คือพยายามลดทุกอย่างลง ออกกำลังกายบ้าง แล้วก็อย่าลืมทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ด้วยน้า
• หมั่นทำความสะอาดหู •
หลาย ๆ คนมักจะไม่ค่อยใส่ใจที่จะทำความสะอาดหู แต่จริง ๆ เราควรจะเช็ดทำความสะอาดในทุก ๆ วันโดยเฉพาะส่วนที่คนมักจะมองข้ามก็คือหลังหูนั่นเองค่า คือพอเราไม่ต้องสระผม น้ำที่ใช้อาบมันก็เลยไม่ค่อยจะไปโดนบริเวณหูเท่าไหร่ หลายคนก็เลยละเลยการทำความสะอาดส่วนหลังใบหูจนมันเป็นคราบหรือมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ ต่อให้ไม่สระผมก็อย่าลืมล้างตรงช่วงหลังใบหูกันด้วยนะคะ ส่วนบริเวณใบหูไม่ต้องถึงกับเอาน้ำมาราดเพื่อล้างจริงจังก็ได้นะคะ เพราะมันเสี่ยงที่น้ำจะเข้าหูได้ วิธีทำความสะอาดง่ายมาก ๆแค่เอาผ้าชุบน้ำแล้วค่อย ๆ เช็ดทำความสะอาดแค่นี้ใบหูของเราก็จะสะอาด ไม่มีคราบสกปรกแล้วล่ะ!
• อย่าแคะหู •
ข้อนี้เป็นอะไรที่บอกเลยว่าคนไม่ค่อยรู้กันเยอะมาก ๆ ซึ่งข้อที่ว่าก็คือ' อย่าแคะหู 'นั่นเองค่ะ คือขี้หูเนี่ยเป็นสิ่งที่หูผลิตออกมาตลอดอยู่แล้ว และมันก็สามารถที่จะหลุดออกมาเองได้โดยที่ไม่ต้องไปแงะ ไปแคะมันเลย ยิ่งเราไปแงะ ไปแคะก็ยิ่งเสี่ยงให้เกิดอุบัติเหตุเกี่ยวกับหูได้เช่น ล้วงเข้าไปลึกเกินจนไปทำร้ายแก้วหู แล้วก็อีกหนึ่งปัญหาที่หลายคนอาจจะไม่ทราบก็คือยิ่งเราเอาคอตตอนบัดล้วงเข้าไปทำความสะอาดก็ยิ่งทำให้ขี้หูเข้าไปติดอยู่ด้านในหูมากขึ้นจนอาจจะทำให้มันไปรวมตัวกันด้านในแล้วส่งผลกระทบเรื่องการได้ยินต่าง ๆ ดังนั้นเนี่ยพยายามไม่แคะหูกันนะคะ เข้าใจว่ามันเคยชินไปแล้วแต่ว่าเพื่อสุขภาพหูที่ดีนะคะ
• ระมัดระวังไม่ให้เกิดอุบัติเหตุกับหู •
ถ้าหากต้องไปทำอะไรที่เสี่ยงจะมีอันตรายต่อหู ให้ระมัดระวังอย่าให้เกิดอุบัติเหตุเกี่ยวกับหูเป็นอันขาดนะคะ เช่น ไปคอนเสิร์ต แน่นอนว่าเสียงดังแต่ว่าเราสามารถหลบเสียงดัง ๆ ด้วยการไม่ไปยืนใกล้กับลำโพงเกินไป หรือถ้าไปทะเล เล่นน้ำสนุกสนาน ก็ต้องพยายามอย่าให้น้ำเข้าหู เพราะทะเลมันมีทั้งทราย ทั้งตะไคร่น้ำต่าง ๆ มากมายที่อาจจะเข้าไปในหูของเราได้ หรือถ้ารุนแรงกว่านั้นก็คืออาจจะแค่เล่น ๆ กันแต่มีคนมาตบเข้าตรงหู จนแก้วหูอาจจะอักเสบหรือมีปัญหาได้ ตรงนี้ต้องพยายามระมัดระวังไม่เล่นกันแรง ๆแล้วก็พยายามหลบหลีกสิ่งที่เสี่ยงทำให้เกิดอุบัติเหตุด้วยเน้อ
• อย่าสั่งน้ำมูกแรงเกินไป •
เชื่อเลยว่าหลายคนอ่านหัวข้อนี้จบอาจจะมีคำถามว่าแบบเกี่ยวกับยังไงหว่า คือหูกับจมูกมันจะมีส่วนที่เชื่อมต่อกันอยู่ค่ะ ใครที่เป็นภูมิแพ้หรือเป็นหวัดบ่อย ๆ น่าจะทราบดีเลยว่าเวลาสั่งน้ำมูกแรง ๆ บางครั้งก็ทำให้หูอื้อได้ หรือบางครั้งหวัดก็ลงหูได้ด้วยเหมือนกันฟังดูแปลกแต่มีจริงเน้อ ดังนั้นเนี่ยอยากให้ระมัดระวังนะคะ ถ้าสั่งน้ำมูกก็พยายามอะไรทำรุนแรงเกินไปถ้าหายใจไม่ออกแนะนำให้ทานของอุ่น ๆ หรือหายารับประทาน มันจะได้ช่วยละลายน้ำมูกที่ข้นหนืดให้ไหลออกมาง่ายขึ้นนะคะ ลองไปทำตามกันดูน้าจะได้ไม่ทำร้ายหู
• ถ้ามีอาการต้องไปพบแพทย์ •
ข้อสุดท้ายนี้เรียกได้ว่าสำคัญที่สุดเลยค่ะ หลายคนติดเสิร์ช Google ถามอาการจากคุณหมอกูเกิ้ลซึ่งผลก็จะออกมาเป็นด้านลบซะมากกว่า หรือพออ่านจบแล้วก็รู้สึกว่าอาการมันร้ายแรงขนาดนั้นเลยเหรอ คือในกูเกิ้ลที่เราหาเจอมันก็มาจากเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่มีคำค้นหาตรงกับสิ่งที่เราเสิร์ช แต่ปัญหาก็คือในหนึ่งเว็บไซต์ที่เขียนอธิบายเรื่องโรค เขามักจะไล่ระดับอาการจากรุนแรงน้อยที่สุดไปถึงมากที่สุดพอเราได้อ่านมันก็เลยทำให้เราตื่นตระหนกได้ง่าย ซึ่งความเป็นจริงเวลาตรวจกับคุณหมอ มันอาจจะมีปัจจัยอื่น ๆ ที่บอกว่าเราไม่ได้เป็นอะไรมากก็ได้ ดังนั้นเนี่ยไปพบคุณหมอเวลามีปัญหาเกี่ยวกับหูดีกว่าน้าอย่าอ่านเองเลยค่ะ เพราะเราไม่ได้เรียนตรงนี้มาโดยตรง ยังไงเราก็ตอบแน่ชัดไม่ได้เน้อ
❀ ❀ ❀ ❀ ❀ ❀ ❀ ❀ ❀ ❀ ❀ ❀ ❀
รู้แบบนี้แล้ว... ทุกคนก็ต้องหันมาใส่ใจสุขภาพหูกันด้วยเน้อ เชื่อเลยว่าหลาย ๆ คนอาจจะหลงลืมไปว่าต้องดูแลมันบ้าง ไม่ใช่แค่พฤติกรรมที่ต้องปรับน้า แต่การทำความสะอาดก็ถือเป็นการดูแลหูเหมือนกัน แค่เพียงเอาผ้าชุบน้ำเช็ดใบหูและหลังหูอยู่เสมอแค่นี้ก็ทำให้หูของเราสะอาดแล้วล่ะค่ะ แล้วอย่าเผลอแคะหูแบบที่บอกไปด้านบนด้วยนะคะไม่งั้นเราอาจจะต้องไปหาคุณหมอเพราะขี้หูไปอุดหูเน้อ แล้วใครที่ชอบฟังเพลงเสียงดังบ่อย ๆก็ลองลดเสียงหรือไปหาที่ ๆ เงียบสงบมากขึ้นเพื่อฟังเพลงก็จะช่วยได้นะคะตอนนี้ต้องขอตัวลาไปก่อน บ๊ายบายค่า :-D
