เมคอัพรีมูฟเวอร์

(Makeup Remover)

หรือ

คลีนซิ่ง

(Cleansing)

คือ ผลิตภัณฑ์ล้างเครื่องสำอาง มีลักษณะเป็นของเหลว เช่น ออยล์ เจล น้ำ เป็นต้น วิธีใช้มีทั้งแบบหยดลงบนสำลีแล้วเช็ดทำความสะอาดผิวหน้า หรือนวดลงบนผิวหน้าแล้วค่อยใช้สำลีเช็ดออก เป็นการทำเพื่อล้างเครื่องสำอาง เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่แต่งหน้าแล้วลงรองพื้น (Foundation) บีบี (BB Cream) ไพรเมอร์ (Primer) รวมไปถึงครีมกันแดด เพราะเมคอัพรีมูฟเวอร์จะช่วยเช็ดเครื่องสำอางเหล่านี้ออกจนหมดก่อนจะเข้าสู่ขั้นตอนการล้างหน้าด้วยคลีนเซอร์ (Cleanser) คือ สบู่ หรือโฟม ทำให้เครื่องสำอาง สิ่งสกปรก คราบมัน ไม่อุดตันบนใบหน้า เมคอัพรีมูฟเวอร์มีหลายประเภทให้เลือก ยกตัวอย่างเช่น

1.1 คลีนซิ่งวอเตอร์ (Cleansing Water)

คลีนซิ่งวอเตอร์มีลักษณะเป็นน้ำใสๆ มีส่วนผสมของน้ำมันน้อยมากจึงเหมาะกับคนที่ไม่ชอบความเหนอะหนะ วิธีใช้คือหยดลงบนสำลีและค่อยๆ เช็ดเครื่องสำอางบนใบหน้า โดยใช้สำลีหลายแผ่นจนกว่าจะไม่มีคราบเครื่องสำอางติดบนสำลี แต่สำหรับเครื่องสำอางชนิดกันน้ำอาจทำความสะอาดได้ไม่หมด ควรใช้คลีนซิ่งชนิดอื่นทำความสะอาดก่อน

1.2 คลีนซิ่งมิลค์ (Cleansing Milk)

คลีนซิ่งมิลค์มีเนื้อคล้ายโลชั่น มีส่วนประกอบของน้ำมัน เหมาะสำหรับเช็ดทำความสะอาดในวันที่แต่งหน้าแบบไม่ได้ลงรองพื้น วิธีทำความสะอาดคือใช้คลีนซิ่งมิลค์นวดเบาๆ บนใบหน้าประมาณ 2-3 นาที จากนั้นใช้สำลีชุบน้ำเช็ดออกให้สะอาด

1.3 คลีนซิ่งออยล์ (Cleansing Oil)

คลีนซิ่งออยล์มีลักษณะภายนอกคล้ายคลีนซิ่งวอเตอร์ แต่มีส่วนผสมของน้ำมัน เหมาะกับการล้างเครื่องสำอางแบบกันน้ำ วิธีใช้คล้ายคลีนซิ่งมิลค์ คือนวดลงบนใบหน้าให้ทั่ว จนเครื่องสำอางหลุดออกหมด แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด

1.4 คลีนซิ่งเจล (Cleansing Gel)

คลีนซิ่งเจลมีลักษณะเป็นเจล ทั้งแบบเจลสีขุ่น หรือเจลใส เหมาะทำความสะอาดในวันที่แต่งหน้าแบบเบาๆ ไม่ลงรองพื้น วิธีใช้คือนวดลงบนใบหน้าให้ทั่วจนเนื้อเจลเริ่มเหลว จากนั้นจึงบีบคลีนซิ่งเจลมาใช้เพิ่มและนวดลงไปจนกว่าเครื่องสำอางจะหลุดออกแล้วล้างด้วยน้ำสะอาด


เช็ดหน้า


ล้างหน้า

คลีนเซอร์(Cleanser)คือ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าหลังจากที่ล้างเครื่องสำอางออกแล้ว คลีนเซอร์จะทำความสะอาดสิ่งสกปรกที่ยังตกค้างในรูขุมขน และควรใช้ในทุกเช้าหลังตื่นนอน ไม่ใช่เฉพาะหลังล้างเครื่องสำอาง คลีนเซอร์มีหลายประเภท ยกตัวอย่างเช่น

2.1 สบู่ก้อน (Soap)

สบู่ล้างหน้ามักล้างสิ่งสกปรกได้หมดจดเพราะมีค่า pH สูง แต่ขณะเดียวกันก็ทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้น ไม่เหมาะสำหรับคนที่มีผิวหน้าแห้ง

2.2 เจลล้างหน้า (Gel)

เจลล้างหน้ามีทั้งแบบมีฟองและไม่มีฟอง ใช้นวดทำความสะอาดทั่วใบหน้าแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด เหมาะกับคนที่มีผิวมัน

2.3 โฟมล้างหน้า (Foam)

โฟมล้างหน้าเป็นคลีนเซอร์ที่ได้รับความนิยมที่สุด มีลักษณะคล้ายเนื้อครีม มักตีให้เกิดฟองฟูๆ ก่อนนำมานวดบนผิวหน้าแล้วล้างออก แต่โฟมบางชนิดก็ไม่มีฟอง


บำรุงผิว

3. โทนเนอร์ (Toner)

หลังจากทำความสะอาดใบหน้าด้วยคลีนซิ่งและคลีนเซอร์แล้ว การใช้โทนเนอร์ (Toner)จะช่วยเก็บกวาดสิ่งสกปรกที่ตกค้างเป็นขั้นตอนสุดท้าย และเตรียมพร้อมผิวสำหรับการบำรุงด้วยสกินแคร์ในขั้นตอนต่อไป โทนเนอร์มีลักษณะเป็นโลชั่นเนื้อบาง และมักมีวิตามินและเกลือแร่บำรุงผิว วิธีใช้คือเทโทนเนอร์ลงบนสำลีแผ่นแล้วเช็ดทำความสะอาดเบาๆ ทั่วใบหน้าโดยเช็ดจากล่างครึ่งบนเพื่อเปิดรูขุมขน

4. เอสเซนส์ (Essence)

เอสเซนส์ (Essence)หรือที่สาวๆ เรียกกันติดปากว่าน้ำตบ คือ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าในขั้นแรก มีลักษณะเป็นน้ำเหลวใส เบาบาง ส่วนผสมไม่เข้มข้นเท่าเซรั่ม จึงซึมสู่ผิวได้เร็วกว่า และเหมาะกับทุกสภาพผิว วิธีใช้ก็สมกับชื่อน้ำตบ คือเทลงบนฝ่ามือแล้วตบเบาๆ บริเวณแก้ม หน้าผาก คาง เพื่อให้ซึมซาบเข้าสู่ผิ

5. เซรั่ม (Serum)

เซรั่ม(Serum)ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เนื้อเข้มข้นกว่าเอสเซนส์ จึงเห็นผลได้ไวกว่า เซรั่มมีส่วนผสมของน้ำมัน จึงไม่เหมาะกับคนที่มีผิวมัน เซรั่มสามารถแก้ปัญหาผิวได้อย่างเจาะจง เช่น แก้ปัญหาสิว ริ้วรอย จุดหมองคล้ำ วิธีใช้คือเทเซรั่มลงบนฝ่ามือแล้วทาให้ทั่วใบหน้า

แอมพูล แอมพูลคือสกินแคร์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยแก้ไขแต่ละปัญหาผิวแบบตรงจุด เป็นทรีทเม้นท์สำหรับผิวที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับเซรั่มแต่

มีส่วนผสมของสารออกฤทธิ์และเนื้อสัมผัสที่เข้มข้นกว่า

ส่วนใหญ่จะมาในรูปแบบลิควิดที่บรรจุในขวดแก้วดรอปเปอร์หรือเป็นเม็ดแคปซูลที่ไว้ใช้แบบเดี่ยวๆ หรือผสมลงในมอยส์เจอไรเซอร์ เป็นไอเท็มสกินแคร์ S.O.S ที่ตอบโจทย์ต่อการฟื้นฟูผิวแบบเร่งด่วน โดยมีคุณสมบัติช่วยบูสต์ผิวให้กลับมาดูสดใสมีชีวิตชีวา ซึ่งในปัจจุบันได้มีการสร้างสรรค์แอมพูลออกมาหลากหลายสูตรสำหรับการฟื้นฟูแต่ละปัญหาผิว เช่น ฟื้นฟูผิวหมองคล้ำ ผิวเป็นสิว ผิวเหนื่อยล้า ผิวหย่อนคล้อย หรือผิวขาดน้ำ

แอมพูลเป็นทรีทเมนต์สำหรับผิวที่มีทั้งในรูปแบบของขวดแก้วดรอปเปอร์หรือเป็นเม็ดแคปซูลสำหรับการใช้เพียงครั้งเดียว โดยคิดค้นขึ้นเพื่อให้สะดวกต่อการใช้งาน นอกจากนี้ยังมีในรูปแบบที่บรรจุในขวดเซรั่มด้วย โดยในขั้นตอนของสกินแคร์รูทีน แอมพูลจะนิยมใช้หลังการทำความสะอาดผิวและการใช้โทนเนอร์ จากนั้นตามด้วยการลงมอยส์เจอรไรเซอร์เพื่อช่วยล็อคความชุ่มชื้น

รูปภาพ:https://media.giphy.com/media/fmXgCpO3IhesE/giphy.gif

ต้องหยิบอันไหน? เลือกไม่ถูก!!

ซิสเคยเป็นกันมั้ยคะ

จะเลือกสกินแคร์บำรุงผิวสักอย่างนึงแต่มึนงงหนักมาก

ก็แต่ละอย่างมีหลายแบบ หลายสูตร ให้เลือกมากมายเหลือเกิน

ยิ่งเป็นมือใหม่เพิ่งเข้าสู่วงการสกินแคร์ ลองหยิบสกินแคร์มาอ่านข้างกล่องก็เจอศัพท์ยากชวนมึนไปเหมือนกัน

แต่ไม่ต้องหนักใจไปค่ะ เพราะบทความนี้เราขน

" ศัพท์สกินแคร์ " ฉบับ Advance


ตั้งแต่ศัพท์ผลิตภัณฑ์ คุณสมบัติ ไปจนถึงส่วนผสมของสกินแคร์

มาฝากเพื่อน ๆ กันด้วย เข้าใจความหมายแล้วคราวนี้หยิบถูกไม่มั่วแน่นอน

รวมสกินแคร์ทั้งหมด


รวมศัพท์ " ผลิตภัณฑ์สกินแคร์ "

เช็ดล้างทำความสะอาดผิว

เมคอัพรีมูฟเวอร์ (Makeup Remover)

คลีนซิ่งวอเตอร์ (Cleansing Water)

คลีนซิ่งมิลค์ (Cleansing Milk)

คลีนซิ่งออยล์ (Cleansing Oil)

คลีนซิ่งเจล (Cleansing Gel)

ล้างทำความสะอาดผิว

คลีนเซอร์

(Cleanser)


สบู่ก้อน (Soap)

เจลล้างหน้า (Gel)

โฟมล้างหน้า (Foam)

✩ สกินแคร์ทำความสะอาดผิว ✩

คลีนเซอร์ ( Cleanser ) ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า ช่วยทำความสะอาดสิ่งสกปรกตกค้างในรูขุมขน ใช้หลังจากเช็ดด้วยคลีนซิ่งแล้ว มีทั้งแบบโฟมและแบบเจล แบบเจลจะเหมาะกับคนผิวหน้ามัน ส่วนแบบโฟม มีเนื้อคล้ายเนื้อครีม ถูเนื้อครีมผสมกันแล้วจะได้ฟองฟู


✩ สกินแคร์เช็ดล้างทำความสะอาด ✩

เมคอัพรีมูฟเวอร์ ( Makeup Remover ) หรือคลีนซิ่ง ( Cleansing )

สกินแคร์

ล้างเครื่องสำอางและสิ่งสกปรก มักจะใช้เป็นอันดับแรกในขั้นตอนทำความสะอาดผิวหน้า

มีสูตรให้เลือกหลายแบบ อย่างเช่น

คลีนซิ่งวอเตอร์ ( Cleansing Water )


คลีนซิ่งเนื้อน้ำใส ๆ มีส่วนผสมของน้ำมันน้อยมาก อาจจะทำความสะอาดเครื่องสำอางไม่มากเท่าตัวอื่น

อย่างเครื่องสำอางกันน้ำอาจจะล้างไม่หมด เหมาะสำหรับคนที่แต่งหน้าน้อย ๆ และคนที่ไม่ชอบสัมผัสเหนอะหนะ

คลีนซิ่งมิลค์ ( Cleansing Milk )


คลีนซิ่งเนื้อโลชั่น มีส่วนประกอบของน้ำมัน เหมาะสำหรับวันแต่งหน้าเบา ๆ ไม่ลงรองพื้น

วิธีใช้ให้นวดคลีนซิ่งมิลค์เบา ๆ ประมาณ 2 - 3 นาที ให้คลีนซิ่งกลายเป็นน้ำนม แล้วใช้สำลีเช็ดออก

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/e8/41/8b/e8418b78dfb064f16d6c6a8039baee91.jpg

บำรุงผิว

โทนเนอร์ (Toner)

เอสเซนส์ (Essence)

เซรั่ม (Serum)

https://aquaplus.co.th/%E0%B9%81%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%9E%E0%B8%B9%E0%B8%A5-ampoule/

มอยส์เจอไรเซอร์ (Moisturizer)

อีมัลชั่น (Emulsion)

โลชั่น (Lotion)

ครีม (Cream)

ผลิตภัณฑ์กันแดด (Sunscreen)

คลีนซิ่งออยล์ ( Cleansing Oil )

คลีนซิ่งที่คล้ายกับ

คลีนซิ่งวอเตอร์ แต่มีส่วนผสมของน้ำมัน เหมาะสำหรับล้างเครื่องสำอางแบบกันน้ำ

วิธีใช้คล้ายกับคลีนซิ่งมิลค์ ใช้นวดเบา ๆ ลงบนผิวแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด

คลีนซิ่งเจล ( Cleansing Gel )


คลีนซิ่งเนื้อเจล เหมาะกับ Makeup เบา ๆ ไม่มีรองพื้น

วิธีใช้นวดคลีนซิ่งเบา ๆ จนเนื้อเจลเหลว แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด

คลีนเซอร์ ( Cleanser )

สกินแคร์ทำความสะอาดผิวหน้า

ช่วยทำความสะอาดสิ่งสกปรกตกค้างในรูขุมขน ใช้หลังจากเช็ดด้วยคลีนซิ่งแล้ว

มีทั้งแบบโฟมและแบบเจล แบบ

เจล ( gel cleanser )

จะเหมาะกับคนผิวหน้ามัน ส่วนแบบโฟม

( foam cleanser )

มีเนื้อคล้ายเนื้อครีม ถูเนื้อครีมผสมกันแล้วจะได้ฟองฟู บางตัวอาจจะมีสารขจัดน้ำมัน ทำให้ผิวหน้ารู้สึกแห้งตึงได้

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/736x/4e/61/3d/4e613dc85d9551315d9803ba5e9e2a6f.jpg

Anti-Aging คืออะไร Anti-Aging หรือ เวชศาสตร์ชะลอวัย คือการดูแลสุขภาพจากภายในไม่ให้ความเสื่อมหรือความชราเกิดขึ้นหรือเกิดขึ้นให้ช้าที่สุด โดยเน้นการรักษาสุขภาพจากภายในโดยองค์รวม เพื่อให้ร่างกายอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์แข็งแรงนานที่สุดและป้องกันไม่ให้ร่างกายเกิดอาการเจ็บป่วยและความเสื่อมสภาพในอนาคตอีกด้วย สุขภาพในแต่ละช่วงอายุ

สาร Anti-Acne รักษาสิว หรือป้องกันการเกิดสิว ออกฤทธิ์แตกต่างตามชนิดของสาร เช่น ละลายหัวสิว ละลายสิวอุดตัน ลดความมันบนใบหน้า เร่งการผลัดเซลล์ผิว (exfoliation) และการลอกผิว (chemical peel)

ที่ช่วยในการผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้ออกไปจะมีส่วนช่วยในการสลายโปรตีน ลดการเกิดสิวอุดตัน และสลายสิวอุดตันนั่นเองนอกจากนั้นยังช่วยให้ผิวเรียบเนียน ไม่ทำให้เกิดรอยแดง อ่อนโยน

✩ สกินแคร์บำรุงผิว ✩

WHITENING – เปลี่ยนผิวให้ขาวราวก้อนเมฆ

มาเริ่มกันที่ “Whitening” กันก่อนเลย สำหรับสกินแคร์ที่ระบุคุณสมบัตินี้จะมาพร้อมส่วมผสมหลักอย่าง“ไวท์เทนนิ่ง”ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยปรับผิวให้ขาวขึ้นโดยเฉพาะ แต่ไม่ใช่ว่ามีคุณสมบัตินี้จะมีประสิทธิภาพที่เท่าเทียมกัน เพราะแต่ละแบรนด์เขาจะมีส่วนผสมอื่นๆ ที่ช่วยให้ขาวขึ้นแตกต่างกันนั่นเอง แต่ต้องระมัดระวังสารที่ทำให้ขาวบางชนิดด้วยอย่าง Hydroquinone ถ้าเจอบนสกินแคร์ขวดไหนขอให้เลี่ยงเลย เพราะสิ่งนี้จะทำให้ใบหน้าของคุณสูญเสียคอลลาเจน อีกทั้งยังทำให้ผิวบางและอ่อนแอ เกิดริ้วรอยก่อนวัยได้ง่ายขึ้นอีกด้วย

BRIGHTENING – แก้ปัญหาผิว ให้กลับมากระจ่างใส

สำหรับสกินแคร์ใดๆ ก็ตามที่ระบุว่าเป็น “BRIGHTENING” จะเน้นไปในทางซ่อมแซม แก้ไข หรือฟื้นฟูผิวที่ถูกทำร้ายให้กลับมากระจ่างใส อาทิ รอยดำ รอยแดง สิว ฝ้า จุดด่างดำและอื่นๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะทำจากส่วนผสมที่มีความอ่อนโยนสูง

โดยส่วนผสมยอดนิยมนั้นจะเป็น Active Ingredient อย่าง AHA (Alpha Hydroxy Acid) หรือกรดผลไม้ ซึ่งมาจากการสกัดผลไม้นั่นเอง เช่น กรดซีติกจาก มะนาว ส้ม แอปเปิ้ล กรดแลกติก จากนมเปรี้ยว ซึ่งช่วยชะลอวัย ช่วยกระตุ้นผิวให้เกิดการผลัดเซลล์ใหม่ ที่ทำให้ผิวกระจ่างใสขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยลดสิวอีกด้วย

ในผลไม้ยังมีวิตามินซีที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ แก้ไขปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอ ลดความหมองคล้ำ จุดด่างดำได้อย่างยอดเยี่ยม แต่อย่างไรก็ตาม “วิตามินซี” สำหรับบางคนอาจจะเกิดการระคายเคืองได้ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล

LIGHTENING – ลดการเกิดเมลานิน คงเดิมความสวย

สำหรับ LIGHTENING เรียกได้ว่าเป็นสกินแคร์ที่จะมาช่วยป้องกันไม่ให้คุณไปสู่ขั้นตอนการใช้สกินแคร์สูตร BRIGHTENING เพราะคุณสมบัติหลักของ LIGHTENING คือการโฟกัสไปที่การยับยั้งเมลานินซึ่งเป็นต้นเหตุของการเกิดผิวคล้ำ เพื่อคิืนผิวใสให้กลับมาดังเดิม

WHITENING

นั้นจะเน้นไปในเรื่องของ

ความขาว กระจ่างใส

โดยเฉพาะ ใครที่ผิวคล้ำหรืออยากขาวขึ้น อาจจะต้องมองหาสูตรนี้เป็นหลัก แต่จะไม่ได้ช่วยในเรื่องของปัญหาผิวมากนัก ดังนั้น จึงต้องมีสูตร

BRIGHTENING

เข้ามาช่วย เพราะสกินแคร์ชนิดนี้ได้รับการรังสรรค์ออกมาเพื่อ

แก้ไขปัญหาผิ

วต่างๆ อาทิ ผิวหมองคล้ำ จุดด่างดำ ฝ้า กระ และอื่นๆ อีกมากมาย และเมื่อพอใจกับสภาพหน้าในตอนนี้แล้ว ทีนี้ก็ถึงคิวของสูตร

LIGHTENING

ที่จะมาช่วยยับยั้งการเกิดเมลานินซึ่งเป็นต้นเหตุของการเกิด

ผิวหมองคล้ำ

เพื่อคงความสวยไว้ดังเดิมและไม่ต้องวนลูปสกินแคร์ดังที่กล่าวมาแล้วอีก 1 รอบ

โทนเนอร์ ( Toner )

สกินแคร์เนื้อโลชั่นบางเบา

ช่วยเก็บกวาดสิ่งสกปรกในขั้นตอนสุดท้ายของการล้างหน้า และยังช่วยบำรุงปรับสมดุลให้ผิว

เติมชุ่มชื่นหลังจากล้างคลีนเซอร์ได้ด้วย

เอสเซนส์ ( Essence )

หรือที่ได้ยินกันบ่อย ๆ ว่า

" น้ำตบ "

สกินแคร์บำรุงผิวขั้นแรก

ส่วนผสมไม่เข้มข้นเท่าเซรั่ม เนื้อน้ำเหลวใสเบาบาง ซึมเข้าผิวได้เร็ว เหมาะกับทุกสภาพผิว


เซรั่ม ( Serum )

สกินแคร์มีเนื้อเข้มข้นกว่าเอสเซนส์

มีส่วนผสมของน้ำมัน ไม่ค่อยเหมาะกับคนผิวมัน ช่วยแก้ปัญหาผิวแบบเจาะจง

ทั้งสิว ริ้วรอย ความหมองคล้ำ

แอมพูล ( Ampoule )


สกินแคร์ที่ช่วยแก้ปัญหาผิวแบบเจาะจง เป็นทรีทเม้นท์บำรุงผิวที่คล้ายกับเซรั่ม แต่มีเนื้อที่เข้มข้นกว่า

เหมาะสำหรับงานรีบงานเร่ง เพราะอีกหนึ่งคุณสมบัติของแอมพูลคือ

ทำหน้าที่เหมือนบูสท์เตอร์ฟื้นฟู ช่วยกู้ผิวในเวลาเร่งด่วน

บางคนก็มักจะใช้แอมพูลผสมกับมอยเจอร์ไรเซอร์ด้วยค่ะ

มอยเจอร์ไรเซอร์ ( Moisturizer )

สกินแคร์ที่เหมาะสำหรับคนผิวแห้ง ช่วยลดหรือป้องกันการเกิดผิวแห้ง ลอก คัน หรือระคายเคือง ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่น

ให้ผิว ทำให้ผิวดูอิ่มน้ำมากยิ่งขึ้น

อีมัลชั่น ( Emulsion )

มอยเจอร์ไรเซอร์เนื้อบางเบา

มีส่วนผสมของโลชั่นและครีม ช่วยคงความชุ่มชื่นให้กับผิว คนผิวมันสามารถใช้ได้

เพราะการเพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิวด้วยอิมัลชั่น สามารถช่วยลดความมันบนใบหน้าไปด้วย

โลชั่น ( Lotion )

มีทั้งสกินแครที่บำรุงผิวกายและผิวหน้า

มีเนื้อเข้มข้นกว่าอิมัลชั่น เพราะมีน้ำมันมากกว่า แต่เนื้อจะเหลวกว่าเนื้อครีม ตัวช่วยเคลือบผิวชั้นนอกเพื่อลดการสูญเสียน้ำ

เหมาะกับทั้งผิวธรรมดาและผิวผสม

ครีม ( Cream )

สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของน้ำมันเยอะที่สุด เลยมีเนื้อเข้มข้นที่สุด สามารถเก็บกักความชุ่มชื่นได้ดีที่สุดด้วยเหมือนกัน

เหมาะสำหรับคนที่มีผิวแห้ง หรือใช้ช่วงที่มีอากาศหนาว เพราะน้ำมันจากครีมจะช่วยป้องกันผิวสูญเสียน้ำได้ดี

กันแดด ( Sunscreen )

สกินแคร์ที่ช่วยปกป้องรังสี UV

ตัวทำลายคอลลาเจน ทำให้ผิวเหี่ยวย่น มีให้เลือกหลายสูตรทั้งแบบครีม เจล โลชั่น ขี้ผึ้ง และสเปรย์

AHA : ซ่อมผิวโทรม ให้ดูโกลว์ใส

คืออะไร :Alpha Hydroxy Acid (AHA) กรดที่สกัดจากผลไม้ธรรมชาติ ฉายา “ตัวช่วยชะลอริ้วรอย”

ประโยชน์ล่ะ :เด่นมากเรื่องการผลัดเซลล์ผิว เสริมความแข็งแรง สร้างความยืดหยุ่นให้ผิว และแก้ปัญหาจุดด่างดำ สีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ ให้เรียบเนียนดูกระจ่างใสขึ้น พบบ่อยในผลิตภัณฑ์ Peeling อย่างโฟมล้างหน้า สครับ มาส์ก และ เซรั่ม

ระวังด้วยนะ :หากใช้ AHA ที่เข้มข้นสูง(เกินไป) อาจจะทำให้ผิวระคายเคือง และไวต่อแสง ควรทาครีมกันแดดควบคู่ด้วย

BHA : ผิวมัน ผิวเป็นสิว ต้องเลิฟ

คืออะไร :Beta Hydroxy Acid (BHA) กรด Salicylic Acid ตัวช่วยของสาวผิวมัน ผิวเป็นสิวประโยชน์ล่ะ :ทำหน้าที่ผลัดเซลล์ผิวคล้ายกับ AHA แต่ความพิเศษที่เหนือชั้น คือ การจัดการรูขุมขนได้ดี บำรุงลึก งัดทุกความสกปรก ฆ่าทุกแบคทีเรีย และช่วยนำสารบำรุงอื่นๆ ให้ซึมลงผิวได้ดี เจอสารตัวนี้ได้ที่ข้างกล่องโฟมล้างหน้า โทนเนอร์ เซรั่ม และมอยเจอร์ไรเซอร์ระวังด้วยนะ :BHA ที่เข้มข้นเกินไป ส่งผลต่อผิวไม่ต่างกับ AHA ระคายเคือง ลอก แสบ แดง แนะนำให้ใช้ตอนกลางคืน หรือเลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่เข้มข้นมากเกิน

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/67/01/ef/6701efbbe8b904cd1d9f26ddd06482e6.jpg

Hyaluronic Acid : ฉ่ำเด้ง อิ่มน้ำ ผิวสุขภาพดี

คืออะไร :กรดไฮยาลูรอนิค หรือ HA เป็นสารธรรมชาติที่มีในร่างกายประโยชน์ล่ะ :หน้าที่หลักๆ จะช่วยตรึงคอลลาเจน อิลาสติน และเก็บกักน้ำคล้ายเขื่อนใต้ผิว ให้ผิวเนียนนุ่ม มีความยืดหยุ่น ริ้วรอยไม่มากวน ที่สำคัญผิวแบบดิวอี้สกิน กลาสสกิน โกลว์สกิน ที่ฮิตกันตอนนี้ ก็เริ่มจากการบำรุงด้วย HA ตัวจี๊ดนี่แหละระวังด้วยนะ :ไม่ควรอัด HA และวิตามินซีคู่กัน จากผิวปังอาจพังได้ โดยเฉพาะสาวผิวบอบบางแพ้ง่าย

Niacinamide : เคลียร์ทุกปัญหาผิว

คืออะไร :อนุพันธ์ Vitamin B3 กระตุ้นการสร้างเอนไซม์ เพิ่มความแข็งแรงให้ผิว และเพิ่มเลเวลของ Ceramide

ประโยชน์ล่ะ :ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ปรับสมดุลการสร้างน้ำมันในผิว ให้ผิวกระชับ รูขุมขนเล็กลง ทั้งยังลดสิว แก้ปัญหารอยแดง รอยดำ รอยแผลเป็น และ ริ้วรอย เปรียบเสมือนฮีโร่อินกรีเดี้ยนเลยล่ะ

ระวังด้วยนะ :ไม่ควรใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของวิตามินซี อาจส่งผลต่อประสิทธิภาพที่ลดลง

Ceramide : เก็บความชุ่มชื่น พร้อมปกป้องผิว

คืออะไร :สารจำพวกไขมัน ชื่อ Sphingolipid มีอยู่ในผิวหนังชั้นนอกโดยธรรมชาติ แต่อายุมากจะลดลง

ประโยชน์ล่ะ :ช่วยเติมเต็มความชุ่มชื่น และกักเก็บน้ำใต้ผิว พร้อมปกป้องผิวไม่ให้สูญเสียน้ำ จินตนาการง่ายๆ คล้ายกาวที่ยึดเซลล์ผิวทั้งหมดไว้ด้วยกัน เพื่อให้ผิวมีความแข็งแรง และสุขภาพดี หาซื้อได้ในสกินแคร์กลุ่ม Hydrating นั่นเอง

ระวังด้วยนะ :ไม่ควรปล่อยให้ผิวขาดเซราไมด์ โดยเฉพาะสาวผิวแห้ง จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื่น และป้องกันการเกิดริ้วรอยได้


Peptide : กู้ผิวป้าให้กลับมาหน้าเด้ง

คืออะไร :เปปไทด์เป็นกรดอะมิโนที่ช่วยผิวในการผลิตคอลลาเจนประโยชน์ล่ะ :เจอชื่อนี้ได้บ่อยในผลิตภัณฑ์อย่างคอลลาเจน ทำหน้าที่หลักในการลดอายุผิว ช่วยเคลียร์เรื่องริ้วรอยที่เกิดขึ้นจากอายุ ความเครียด และสภาวะแวดล้อมได้ดี ทั้งยังมีงานวิจัยรองรับว่า เปปไทด์สามารถลดอาการอักเสบของผิว โรคสะเก็ดเงิน และโรคผิวหนังได้ ตัวนี้แหละเหมาะมากสำหรับสาววัยเลข 3ระวังด้วยนะ :ในกรณีอาหารเสริมที่มีคอลลาเจน เปปไทด์ คุณแม่ตั้งครรภ์ หรือ กำลังให้นมควรเลี่ยง

Shea Butter : ผิวหน้านุ่มเหมือนผิวเด็ก

คืออะไร :มอยเจอร์ไรเซอร์ธรรมชาติที่ปลอดภัย สกัดจากเชียนัท หรือเมล็ดของต้นเชียประโยชน์ล่ะ :จัดเป็นอาหารผิวชั้นเลิศ และเพื่อนสนิทของสาวผิวแห้ง ให้ความชุ่มชื่นกับผิวในระดับสูง มีวิตามินหลายชนิดในShea Butter คอยช่วยซ่อมผิวจากรอยแผล ลดริ้วรอยจากความแห้ง บำรุงผิวชั้นในให้แข็งแรง และเสริมสร้างคอลลาเจน ไปพร้อมกับปกป้องผิวจากแสงแดดระวังด้วยนะ :เนย ออยล์ ครีม รูปแบบต่างๆ ของ Shea Butter ไม่ได้สร้างมาให้ใช้แทนกันได้ เลือกให้ถูกจุดที่ต้องการดูแล

Argan Oil : ชุ่มชื่นทุกตารางนิ้ว

คืออะไร :น้ำมันสกัดมาจากเมล็ดถั่วของต้น Argania ในโมร็อกโค ใช้ได้ทุกส่วนของร่างกายประโยชน์ล่ะ :ในช่วงนึงเราจะเห็นไม่ว่าจะแชมพู เซรั่ม แฮนครีม บอดี้โลชั่น ไปถึงลิปสติก ทุกอย่างล้วนมีส่วนผสมของ Argan Oil นั่นก็เพราะว่า น้องเค้าทำหน้าที่บำรุงได้ครบทั่วร่าง ตั้งแต่ให้ความชุ่มชื่น ลดอาการอักเสบของผิว แก้ปัญหาสิว ตลอดจนจัดการกับริ้วรอยได้ดีมากระวังด้วยนะ :ถ้าใช้ในปริมาณที่มากเกินไป และทำความสะอาดไม่ดีพอ อาจะเกิดการอุดตันได้

รวมศัพท์ " คุณสมบัติสกินแคร์ "

Alpha Lipoic Acid : ผิวสว่างใสดุจไฟนีออน

คืออะไร :AHA หรือ กรดไลโปอิก เป็นสารอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพครอบจักรวาลประโยชน์ล่ะ :ละลายทั้งในน้ำและน้ำมัน จึงซึมลงผิวได้ดี ช่วยลดริ้วรอย ความแห้งกร้าน และลดขนาดรูขุมขน สำคัญตรงทำหน้าที่ดึงกลูต้าไธโอนที่เสื่อมสภาพไปแล้ว ให้กลับมาใช้งานได้ดี ผิวจึงกระจ่างใสขึ้นระวังด้วยนะ :ผลข้างเคียงน้อยมากเรื่องของการบำรุงผิว แต่สำหรับการรับประทานเพื่อสุขภาพ ไม่ควรเกิน 600 mg ต่อวัน

Retinol : ชะลอแก่ แก้หน้าสิว

คืออะไร :อนุพันธ์วิตามินเอ หรือ วิตามินเอรูปแบบหนึ่ง พบบ่อยในผลิตภัณฑ์ Anti-Agingประโยชน์ล่ะ :เป็นอีกหนึ่งสารที่มีความสามารถรอบด้าน ทั้งเป็นสารแอนติออกซิแอนต์ต้านอนุมูลอิสระ ควบคุมการสร้างเซลล์ผิว ต่อต้านริ้วรอย และที่ต้องไฮไลท์ คือ ความสามารถพิเศษในการจัดการกับสิว เนียนกริบเหมือนมีหมอผิวมาดูแลระวังด้วยนะ :แพ็คเกจจิ้งต้องทึบและไม่ควรวางในที่แดดส่อง เพราะ เค้ามีความเซนซิทีฟ และเสื่อมสภาพง่ายมาก

Glycerin : เพิ่มและกักเก็บความชุ่มชื่น

คืออะไร :ของเหลวไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ให้ความชุ่มชื่นตามธรรมชาติ

ประโยชน์ล่ะ :ป้องกันผิวจากการระคายเคืองของมลภาวะ ทำงานร่วมกับสารที่เพิ่มความชุ่มชื่น หรือ น้ำมัน ช่วยให้ผิวที่แห้ง เนียนนุ่ม และมีความยืดหยุ่นขึ้น เจอสารตัวนี้ได้ในโฟมล้างหน้า เซรั่ม โลชั่น มอยเจอร์ไรเซอร์ และมาส์กบำรุงผิว

ระวังด้วยนะ :แทบไม่ต้องระวังอะไร ปลอดภัยแม้กระทั่งคนเป็นสิวง่ายก็ใช้ได้

Sodium PCA : สยบปัญหาผิวแห้งกร้าน

คืออะไร :เป็นอนุพันธ์ของกรดอะมิโน ที่ทำหน้าที่ให้ความชุ่มชื่นตามธรรรมชาติประโยชน์ล่ะ :เจ๋งตรงความสามารถในการดูดซับน้ำ และความชุ่มชื่นจากอากาศภายนอกเข้าสู่ผิวได้ดีมากๆ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่น ป้องกันไม่ให้ผิวแห้ง และทำให้ผิวเรามีน้ำหล่อเลี้ยงตลอดเวลา โดยไม่อุดตัน ไม่เกิดสิว ผิวแพ้ง่ายใช้สารนี้ได้ระวังด้วยนะ :เก็บในอุณหภูมิห้อง ปิดฝาให้สนิท และให้ไกลจากแสงแดดด้วยนะ

Anti-Acne

คุณสมบัติช่วยป้องกันและรักษาสิว

ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว มีส่วนช่วยสลายโปรตีน ลดการเกิดสิวอุดตัน และสลายสิวอุดตัน และยังช่วยทำให้ผิวเรียบเนียน ไม่เกิดรอยแดง

Anti-Aging


คุณสมบัติที่ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและความชุ่มชื่นให้กับผิว เข้าไปเติมร่องลึกให้ผิวดูตื้นขึ้น มีส่วนผสมของสาร Antioxidant ช่วยชะลอริ้วรอย

ที่จะเกิดขึ้นกับผิว บางสกินแคร์จะมีส่วนผสมของคอลลาเจนด้วย

Whitening


คุณสมบัติที่ช่วยปรับผิวให้ขาวขึ้น ประสิทธิภาพของการปรับผิวขาวก็จะขึ้นอยู่กับส่วนผสมอื่น ๆ ที่ใช้ด้วย


ส่วนสิ่งที่ควรระวังในสกินแคร์ที่มีคุณสมบัติ Whitening ก็คือสาร Hydroquinone สารตัวนี้จะทำให้ผิวสูญเสียคอลลาเจน ทำให้ผิวบางอ่อนแอ


เกิดริ้วรอยก่อนวัยได้ง่ายขึ้นด้วย ถ้าเจอสารนี้ในสกินแคร์เลี่ยงได้เลี่ยงให้ไวเลยจ้า

Brightening

คุณสมบัติที่เน้นการซ่อมแซม แก้ไข และฟื้นฟูผิวที่ถูกทำร้ายให้กลับมากระจ่างใส

อย่างเช่นแก้ปัญหารอยแดง จุดด่างดำ สิว ฝ้าต่าง ๆ ส่วนใหญ่ที่เป็นสูตร Brightening

มักจะทำมาจากส่วนผสมที่มีความอ่อนโยนสูง เช่น AHA กรดที่มาจากสารสกัดจากผ

ลไม้

Lightening


คุณสมบัติช่วยป้องกันยับยั้งไม่ให้เกิดเมลานิน ต้นเหตุของผิวหมองคล้ำ ช่วยให้ผิวคืนความสดใสเหมือนเดิม

เรียกง่าย ๆ ว่า สกินแคร์สูตร



Lightening คือตัวป้องกันปัญหาผิวก่อนเข้าสู่ขั้นตอนใช้สกินแคร์ Brightening

นั่นเอง

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/1a/ee/57/1aee5763b4e819fe54ae184c7b29a5d4.jpg

รวมศัพท์ " ส่วนผสมในสกินแคร์ "

Alpha Hydroxy Acid ( AHA )


กรดที่สกัดมาจากผลไม้ ตัวช่วยชะลอริ้วรอย คุณสมบัติผลัดเซลล์ผิว เสริมความแข็งแรง สร้างความยืดหยุ่นให้แก่ผิว และแก้ปัญหาจุดต่างดำ ผิวไม่สม่ำเสมอ

ให้เรียบเนียนกระจ่างใส มักจะอยู่ในสกินแคร์อย่าง โฟมล้างหน้า สครับ มาส์ก และเซรั่ม

Beta Hydroxy Acid ( BHA ) กรด Salicylic Acid

คุณสมบัติคล้าย ๆ AHA แต่ BHA

ช่วยบำรุงจัดการกับรูขุมชนได้ดี ทั้งงัดสิ่งสกปรก ฆ่าแบคทีเรีย และยังช่วยให้สารบำรุงอื่น ๆ ซึมลงผิวได้ดี

มักจะอยู่ในสกินแคร์อย่าง โฟมล้างหน้า โทนเนอร์ เซรั่ม และมอยเจอร์ไรเซอร์

Niacinamide

อนุพันธ์วิตามิน B3 กระตุ้นการสร้างเอนไซม์

เพิ่มความแข็งแรงให้ผิว ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ปรับสมดุลสร้างน้ำมันในผิว ทำให้ผิวกระชับ รูขุมขนเล็กลง ลดสิว รอยแดง รอยดำ ริ้วรอย รอยแผลเป็นก็ได้ด้วย

แต่ไม่ควรใช้ร่วมกับสกินแคร์ที่มีส่วนผสมของวิตามินซี เพราะจะทำให้ประสิทธิภาพลดลงค่า

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/0d/1e/1f/0d1e1fab5b005c54ef8bb13efefb697f.jpg

Hyaluronic Acid หรือ HA


กรดไฮยาลูรอนิค คือสารธรรมชาติที่มีในร่างกาย มีหน้าที่ช่วยตรึงคอลลาเจน อิลาสติน และเก็บกักน้ำให้ผิวเนียนนุ่มยืดหยุ่น สำหรับสาย Dewy Skin ผิวฉ่ำโกลว์ เหมาะมาก ๆ

กับการบำรุงด้วยไฮยาลูรอนิค แต่ไม่ควรใช้คู่กับวิตามินซีนะคะ โดยเฉพาะผิวบอบบางแพ้ง่าย อาจจะทำให้ผิวพังได้ค่า

Ceramide

เซราไมด์คืออีกหนึ่งตัวเด็ด

ช่วยเรื่องความชุ่มชื่น เป็นสารจำพวกไขมันมีอยู่ในผิวหนังชั้นนอกโดยธรรมชาติ ตัวช่วยเติมเต็มความชุ่มชื่น เก็บกักน้ำในผิว ปกป้องไม่ให้ผิวสูญเสียน้ำ

ทำให้ผิวแข็งแรงสุขภาพดี

Glycerin

ส่วนผสมที่เป็นของเหลวไม่มีสี ไม่กลิ่น

ทำงานร่วมกับสารเพิ่มความชุ่มชื่นอื่น ๆ ช่วยปกป้องผิวที่ระคายจากมลภาวะ ช่วยให้ผิวแห้งเนียนนุ่ม มีความยืดหยุ่นขึ้น เป็นส่วนผสมที่มีความอ่อนโยนมาก ๆ

คนเป็นสิวง่ายก็สามารถใช้ได้

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/70/be/80/70be807191077db8da6a6d25765ca11e.jpg

Argan Oil

อีกหนึ่งตัวช่วยเสริมความชุ่มชื่น

เป็นน้ำมันสกัดจากเมล็ดถั่วของต้น Argania ในโมร็อกโค เป็นส่วนผสมที่สามารถใช้ได้กับทุกส่วนของร่างกาย อยู่ในสกินแคร์ไปทั่ว

ตั้งแต่แชมพู เซรั่ม แฮนด์ครีม บอดี้โลชั่น ลิปสติกก็ยังมี ตัวช่วย

เพิ่มความชุ่มชื่น ลดอาการผิวอักเสบ แป้ปัญหาสิว และจัดการกับริ้วรอยได้ดีมาด้วยจ้า

Peptide

เปปไทด์เป็นกรดอะมิโนที่ช่วยผิวผลิตคอลลาเจน ช่วยบำรุงเรื่องของริ้วรอย ลดอาการอัดเสบของผิว

สำหรับใครที่อยากกู้ผิวให้กลับมาเด้งกระชับ ลองดูสกินแคร์ที่มีส่วนผสมของเปปไทด์ดูค่า

Shea Butter

มอยส์เจอไรเซอร์ธรรมชาติที่มีความปลอดภัย

สกัดจากเมล็ดของต้นเชีย ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิวได้ดีแบบสุด แถมยังอุดมไปด้วยวิตามินหลายชนิด คอยช่วยซ่อมแซมผิวจารอบแผล ลดริ้วรอยจากความแห้ง

บำรุงผิวชั้นในให้แข็งแรง สร้างคอลลาเจน ปกป้องผิวจากแสงแดดได้ด้วย เป็นอีกหนึ่งส่วนผสมที่เหมาะกับผิวแห้งด้วยค่า

Sodium PCA

คืออนุพันธ์ของกรดอะมิโน

ทำหน้าที่ให้ความชุ่มชื่นตามธรรมชาติ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่น ป้องกันไม่ให้ผิวแห้ง ทำให้ผิวมีน้ำหล่อเลี้ยงตลอดเวลา โดยที่ไม่เกิดการอุดตัน ไม่เกิดสิว สำหรับผิวแพ้ง่ายก็สามารถใช้

ส่วนผสมตัวนี้ได้

Retinol

คือวิตามินเอรูปแบบหนึ่ง เป็น

สารต้านอนุมูลอิสระควบคุมการสร้างเซลล์ผิว ต่อต้านริ้วรอย สามารถจัดการปัญหาสิวได้อย่างดีเยี่ยม มักจะเจอในสกินแคร์คุณสมบัติ Anti-Aging

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/db/e5/3a/dbe53a5961fc3d3187b952576afb56cf.jpg

และนี่ก็คือ

" ศัพท์สกินแคร์ " ฉบับ Advance

แบบจุก ๆ ที่เรารวมมาฝากเพื่อน ๆ ในบทความนี้ค่า

จัดเต็มความหมายทั้งศัพท์ผลิตภัณฑ์ ศัพท์คุณสมบัติ หรือส่วนผสมต่าง ๆ ของสกินแคร์ก็ยังมี


แม้ว่าซิสจะเป็นมือใหม่ในวงการสกินแคร์ ก็สามารถหยิบสกินแคร์ไปแก้ปัญหาผิวได้อย่างตรงจุดเกิดเหตุแน่นอน

ส่วนวันนี้รู้สึกร้อนวิชาขอตัวไปส่องสกินแคร์มาแก้ปัญหาผิวบ้างแล้ว บายค่าซิสส


Designer :namoodong

Writer :chollychon


ลิ้งก์รูป

https://drive.google.com/drive/folders/1xbVKqdLSreNCER3WwERNXiQ8Eth8IbCL?usp=sharing