หน้าฝนทีไรน้ำตาจะไหลทุกทีนะคะ ไม่ใช่เพราะว่าจะต้องเปียกฝนแต่ปัญหาก็คือซักผ้าทีไรแห้งช้าตลอดยิ่งบางวันก็คือตกไม่หยุดตกเหมือนชิงแชมป์โลก เสื้อผ้าของเราก็เลยยังเปียกชื้นอยู่ตลอดเมื่อมันเปียกชื้นแบบนี้ไปนาน ๆ นอกจากจะกลัวเรื่องเชื้อราแล้วสิ่งที่น่ากลัวอีกอย่างก็คือ" ผ้าเหม็นอับ "นั่นเองค่ะ พูดแล้วน้ำตาจะไหลคือให้ฉีดน้ำหอมกลบบางทีก็เอาไม่อยู่ จะตากกับพัดลมก็ไม่มีพัดลมใช้อีกงั้นลองมาทำตาม 7 วิธีที่เราเตรียมมาดีกว่า รับรองว่าเวิร์ก ไม่เชื่อก็ลองมาอ่านไปทำตามกันเล้ย!

รูปภาพ:https://c.tenor.com/Whr_ycrNF7EAAAAC/sagiri-anime.gif

✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿


7 ทริคดูแลเสื้อผ้าช่วง " หน้าฝน " ให้ " ไร้กลิ่นอับ "

เลือกผลิตภัณฑ์ซักผ้า

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/67/47/99/67479960652b6180fa3e6fff94071b0a.jpg

ผลิตภัณฑ์ซักผ้า

ไม่ว่าจะน้ำยาซักผ้า/ผงซักฟอก น้ำยาปรับผ้านุ่ม เม็ดหอมต่าง ๆ

ก็คืออยากให้เปลี่ยนไปใช้สำหรับสูตรแอนตี้แบคทีเรียหรือสูตรป้องกันผ้าอับชื้นอะไรประมาณนั้นนะคะ พวกนี้จะทำให้กลิ่นอับลดน้อยลง เสื้อผ้ามีกลิ่นหอมมากขึ้น ตากในที่ร่มหรือฝนตกก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าตากไว้นานเกิน 3 - 4 วันแล้วก็แนะนำว่าให้เอามาตากพัดลมในห้องดีกว่านะคะ ถึงผลิตภัณฑ์พวกนี้จะหอมมาก ๆ ช่วยระงับกลิ่นอับ แต่ความชื้นก็อาจจะทำให้เสื้อผ้าขึ้นราได้เหมือนกัน ระมัดระวังด้วยเน้อ


ทำความสะอาดเครื่องซักผ้า

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/be/45/e1/be45e15a0bf646419e06da9f0562556f.jpg

เครื่องซักผ้าใช้ไปนาน ๆ ก็มีสกปรกได้เหมือนกันนะคะ ก็แหม~ ขนาดเวลาเราเอากะละมังมาซักผ้าเรายังต้องล้างน้ำเปล่าให้สะอาด นับประสาอะไรกับเครื่องซักผ้า เขาก็ต้องล้างบ้างเหมือนกัน วิธีล้างก็แตกต่างกันออกไปแล้วแต่ความสะดวกนะคะบางคนก็ใช้น้ำส้มสายชู บางคนก็ซื้อน้ำยาโดยเฉพาะในการล้างเครื่องซักผ้าเลยแต่ล้างแค่นี้ไม่พอหรอกค่ะต้องมีฟองน้ำ มีแปรงไว้ขัดบางส่วนที่เป็นซอกเล็กซอกน้อยด้วย ทำความสะอาดเสร็จก็อย่าลืมหาผ้าแห้ง ๆ มาเช็ดด้วยนะคะ จะได้ไม่มีเชื้อรา โดนเฉพาะตรงซิลิโคนขอบ ๆ ฝาเครื่องซักผ้าที่จะมีปัญหานี้บ่อย ๆ


เช็คสภาพอากาศก่อนซัก

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/14/e0/7d/14e07dbf633c182df122e2336900b79b.jpg

ถ้าเราจะซักผ้าให้เช็คสภาพอากาศให้ดีนะคะว่าวันนี้ฝนจะตกไหม ตกนานแค่ไหน หรือวันนี้ไม่ตก วันไหนไม่ตกบ้าง คือบางคนอาจจะรู้สึกว่าไม่ค่อยช่วยเพราะพยากรณ์อากาศก็มีโอกาสผิดพลาดได้แต่อย่างน้อยมันก็ช่วยคำนวณให้เราสามารถเลือกวันซักได้นะคะ เช่น วันนี้ฝนตกตอน 4 โมงเย็น เราซักผ้าตอนเที่ยงเสร็จประมาณบ่ายโมงครึ่ง ตากไปจนถึง 4 โมงก็น่าจะแห้งแล้ว เก็บผ้าเข้าตู้ได้ อะไรประมาณนี้นะคะ คือฝนอาจจะตกก่อนก็ได้ เราก็ต้องทำใจ แต่ถ้ามันไม่ตกแล้วเราเสียโอกาสซักไปมันก็น่าเสียดายนะคะ ยิ่งหน้าฝนแบบนี้หาช่วงฝนหยุดตกยากด้วย รอบคอบไว้นะคะ


ซักผ้าในช่วงเช้าดีที่สุด

รูปภาพ:https://s2.r29static.com/bin/entry/f69/960xbm,70/2237895/image.jpg

ยอมขุดตัวเองจากเตียงเพื่อมาซักผ้าตอนเช้ากันนะคะ คือถ้าช่วงเช้าฝนไม่ตกเลยก็ให้รีบซัก รีบตากเลยนะคะ แต่ถ้าฝนตกก็อาจจะซักไปก่อน ช่วงฝนซาค่อยตากก็ยังได้ ซึ่งถ้าฝนมันไม่ตกการวักผ้าตอนเช้าเนี่ยจะทำให้ผ้าแห้งได้เร็ว เก็บได้เร็วการตากในช่วงกลางคืนมันมีโอกาสเสี่ยงชื้นมากกว่าและอับมากกว่าด้วย เนื่องจากตอนกลางคืนไม่มีแดด มีแค่ลม เสื้อผ้ามันเลยไม่ได้ไอแดดมาช่วยทำให้หอมขึ้นนั่นเอง การซักผ้าตอนเช้าตอบโจทย์ที่สุดค่ะ คอนเฟิร์ม!


ใช้เครื่องอบผ้า

รูปภาพ:https://pbs.twimg.com/media/EtQA5bIWQAMwksP.jpg

หนึ่งในทางออกของโลกยุคนี้นะคะก็คือการใช้เครื่องอบผ้านั่นเอง ซึ่งถ้าบ้านใครมีก็ดีไป แต่ถ้าบ้านใครไม่มีก็ต้องไปหาตู้หยอดเพื่อทำการอบอีก ข้อดีของการอบผ้าคือผ้าแห้ง ผ้าหอม แต่ถ้าผบนานไปผ้าก็อาจจะเสียได้ หรือเสื้อผ้าบางชนิดก็เข้าตู้อบไม่ได้นะคะตรวจสอบให้ดีว่าผ้าแบบไหนห้ามเอาเข้าที่ต้องเตือนเพราะมันเคยมีเหตุการณ์ไฟลุกเสื้อในตู้อบมาแล้วนะคะ อันตรายมาก ๆ ต้องระมัดระวัง โดยเฉพาะกับเสื้อผ้าที่เป็นแบบผ้าลื่น ๆ เสื้อกีฬาอะไรแบบนี้ห้ามเอาเข้าเด็ดขาดนะคะ ไม่งั้นนอกจากจะเสียเสื้อ อาจจะต้องเสียเงินจ่ายค่าซ่อมแซมให้ทางร้านหรือซ่อมเครื่องที่บ้านด้วยเน้อ


ตากในที่อากาศถ่ายเทสะดวก

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/9f/fd/7d/9ffd7d5fd9da3ba14c33e53b8d98b4c6.jpg

ถ้าบ้านใครมีพื้นที่ในการตากกว้าง ๆ ก็ขอแนะนำให้ไปตากตรงที่กว้าง ๆนั้นนะคะ หรืออาจจะไม่ต้องเป็นที่กว้างก็ได้ ขอแค่มีอากาศถ่ายเทสะดวกมีลมพัดผ่าน ไม่ได้อบอ้าว แออัด ไม่งั้นผ้าเราก็จะเหม็นอับ คือไม่โดนแดดก็ขอให้โดนลมก็ยังดีนะคะ อย่างน้อยลมก็ทำให้ผ้าแห้ง คือถ้าผ้าแห้งไวกลิ่นอับมันจะไม่มาแต่ข้อเสียก็คือมันก็คืออาจจะไม่ได้ผ้าที่หอมเท่าตอนที่ตากแดดแค่นั้นเองค่ะ อ้อ!ถ้าเสื้อผ้าในตระกร้าเยอะก็แบ่งซักเอานะคะผ้าที่ซักตากจะได้มีพื้นที่ให้อากาศถ่ายเทสะดวก ถ้าผ้าเยอะ มาอัด ๆ กันตากในราวเดียวต่อให้เป็นพื้นที่ที่อากาศถ่ายเท แต่เราไปปิดช่องมัน มันก็อับอยู่ดีเน้อ


ซักใหม่

รูปภาพ:https://image.sistacafe.com/images/uploads/summary/image/88423/original.jpg

ถ้าทำทุกวิธีทางแล้วยังไงก็ไม่หอมมันอับ มันเหม็น ฉีดน้ำหอมก็ยิ่งฉุน ตากแดดก็ยังอับ เอาผ้าไปแช่ตามในเน็ตว่าก็ยังอับ แนะนำง่าย ๆ เลยนะคะซักใหม่โลดค่าเพราะถ้าผ้ามันเหม็นอับไปแล้ว แกยังไงกลิ่นมันก็ยังอยู่ยิ่งแก้ด้วยการฉีดน้ำหอมบอกเลยว่ากลิ่นตีกันยิ่งเวียนหัวนะคะ อย่าหาทำ แก้ปัญหาด้วยการซักก็คือง่ายสุดค่ะ ถ้าใครอยากให้หอมแบบฟุ้ง ๆ ก็ซักมือเลยค่ะ แช่น้ำยาปรับผ้านุ่มสัก 20 นาที เอาให้ซึมเข้าเนื้อผ้าไปเลย ที่นี้ผ้าของเราก็จะกลับมาหอมเหมือนใหม่แล้วจ้า


✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿


เป็นยังไงกันบ้างคะกับ7 วิธีทำให้ผ้าหอมสดชื่นในช่วงหน้าฝนบางอันอาจจะทำได้ยากหน่อยเพราะไม่มีอุปกรณ์ ไม่ก็ฟ้าฝนไม่เป็นใจแต่ยังไงก็พยายามใช้วิธีอื่น ๆ ในบทความเพื่อไปปรับการตากผ้าและซักผ้าดูน้าอย่างน้อยไปปรับสักหน่อย ผ้าอาจจะกลิ่นไม่อับเท่าตอนไม่ทำเลยก็ได้แต่ถ้าช่วงไหนแดดเริ่มมาก็เอาผ้าในตู้มาตากแดดอีกทีได้นะคะ เอาแค่สัก 1 - 2 ชั่วโมงก็พอถ้าครบแล้วก็เก็บเข้าตู้ได้เลย อย่าเผลอตั้งทิ้งไว้จนฝนเทลงมาอีกรอบนะคะ ไม่งั้นเกม > _ <ตอนนี้เราก็บอกทริคไปจนหมดไส้หมดพุงแล้ว ไว้เจอกันใหม่ในบทความหน้าบ๊ายบายนะคะ ♥