แต่งตัวสวยพร้อมแล้วแต่ปัญหา " กลิ่นตัวแรง " ดันแก้ยังไงก็แก้ไม่หาย ระหว่างวันก็อดไม่ได้ที่จะขาดความมั่นใจ แถมยังไม่กล้าเข้าใกล้ใครเพราะกลัวว่ากลิ่นตัวจะไปรบกวนคนอื่นเค้า ใครกำลังประสบปัญหานี้เหมือนกันต้องมาอ่านบทความนี้ด่วน เพราะซิสรวบรวมมาให้แล้วถึง 5 วิธี กำจัดกลิ่นตัวแรง แล้วยิ่งหน้าร้อนแบบนี้บอกเลยว่าเหงื่อยิ่งไหลยิ่งกว่าน้ำตก เพราะฉะนั้นอย่าปล่อยให้กลิ่นไม่พึงประสงค์มาทำให้เรามั่นใจไม่สุด มาดูกันดีกว่าว่ามีวิธีไหนที่พอจะช่วยเราได้บ้าง อะ เริ่ม!
- - - - - - - - - - - - - - -
ก่อนจะไปดูว่ามีวิธีช่วยลดกลิ่นยังไงบ้างซิสจะพามาทำความรู้จักกับข้อที่เราควรรู้ก่อนว่าจริงๆ แล้วกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ กลิ่นตัวแรงที่คอยกวนใจมันเกิดจากอะไร ซึ่งก็จะมี 2 ข้อหลักๆ ด้วยกันตามนี้เลยค่ะ
สาเหตุหลักในการเกิดปัญหากลิ่นตัวแรง
- แบคทีเรียบริเวณรักแร้ จะมีจำนวนเพิ่มขึ้นจากความร้อนและความชื้นของอากาศ
- การสร้างเหงื่อจากต่อมเหงื่อชนิดอะโพครายน์ คนที่มีกลิ่นตัวจะมีต่อมเหงื่อใต้ผิวหนังขนาดใหญ่และมีจำนวนมาก และต่อมเหงื่อนี้ยังถูกกระตุ้นด้วยฮอร์โมนเพศชาย Androgen ได้เช่นกัน
กำจัดกลิ่นตัวแรง ด้วย 5 วิธีเคลียร์กลิ่นไม่พึงประสงค์
กำจัดกลิ่นตัวแรง วิธีที่ 1. อาบน้ำด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดร่างกาย
มาเริ่มต้นด้วยวิธีที่เบสิคที่สุดกันก่อน กับการรักษาสุขภาพอนามัยด้วยกันอาบน้ำอย่างน้อยวันละ 2 ครั้งด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดร่างกาย เพื่อล้างเหงื่อและกำจัดแบคทีเรียบนผิว เพราะแบคทีเรียที่อาศัยอยู่บนผิวเมื่อเค้าหมักหมมผสมกับเหงื่อก็จะทำให้เกิดกลิ่นเหม็น กลิ่นไม่พึงประสงค์ หรือเรียกสั้นๆ ว่ากลิ่นตัวแรงนั่นเอง การอาบน้ำให้สะอาดด้วยสบู่ ไม่ว่าจะสบู่ก้อนหรือสบู่เหลวก็ตาม เค้าก็จะมี Surfactant (สารชะล้างและลดแรงตึงผิว) ต่างๆ ที่มีคุณสมบัติช่วยในการต้านเชื้อแบคทีเรียอยู่แล้ว เลยช่วยกำจัดแบคทีเรียอันเป็นสาเหตุของกลิ่นตัวแรงได้ เหมือนจะเป็นเรื่องจิ๋วๆ แต่บอกเลยว่าถ้ามองข้ามวิธีนี้ไป ต่อให้เราจะแก้ด้วยวิธีไหนๆ ยังไงกลิ่นตัวแรงที่เราเป็นก็จะไม่มีทางหายไปถ้าไม่ชำระล้างร่างกายให้สะอาดนะคะซิส
วิธีระงับกลิ่นกาย 2. ใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกลุ่ม Deodorant
ไหนใครเคยเห็นผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นที่แปะป้ายข้างหน้าว่า Deodorant กันบ้างหรือเปล่า? พูดไปอาจจะดูไม่ค่อยคุ้นหู แต่ถ้าบอกว่าก็คือพวกโรลออนหรือสเปรย์ระงับกลิ่น ที่เราใช้กันอยู่ หลายคนก็คงจะอ๋อมากขึ้น แต่ทุกคนเคยสงสัยกันไหมว่าโรลออนที่เราใช้ๆ กันอยู่ ทำไมเค้าถึงช่วยลดกลิ่นตัวได้? นั่นก็เป็นเพราะหน้าที่หลักของเค้าก็คือการไปลดการทำงานของแบคทีเรียในเหงื่อ ซึ่งเป็นสาเหตุของกลิ่น โดยเค้าจะช่วยลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ด้วยการทำให้ผิวใต้วงแขนของเรามีสภาวะเป็นกรดอ่อนๆ ซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมที่แบคทีเรียไม่ชอบ พอแบคทีเรียลดน้อยลง กลิ่นเหม็นก็จะลดลงตามไปด้วย
โดยส่วนใหญ่แล้วผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นในกลุ่ม Deodorant จะมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ และประโคมน้ำหอมค่อนข้างแรง เพื่อช่วยในการกลบกลิ่นไม่พึงประสงค์อีกที ดูไปดูมาก็คล้ายๆ แก้ปัญหาที่ปลายเหตุเลยใช่ไหมล่ะคะ ข้อควรระวังก็คือสารเหล่านี้อาจจะทำให้เกิดปัญหาใหม่ตามมาสำหรับคนที่มีผิวแพ้ง่ายได้ เช่น ผิวคล้ำขึ้น คันหรือผื่นขึ้น เพราะฉะนั้นซิสแนะนำให้ระมัดระวังหรือทดสอบก่อนใช้จะดีที่สุดนะคะ
วิธีลดกลิ่นตัวเหม็น 3. ใช้ผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อกลุ่ม Antiperspirant
นอกจากโรลออนหรือสเปรย์ระงับกลิ่นจะมี Deodorant แล้ว เค้าก็ยังมีอีกตัวที่เราอาจจะเคยเห็นและได้ยินชื่อบ่อยๆ ได้เหมือนกันก็คือ Antiperspirant ถ้าถามว่าต่างกับเจ้า Deodorant ตัวก่อนหน้านี้ยังไง คำตอบก็คือส่วนผสมที่ใช้ในผลิตภัณฑ์ต่างกันนั่นเองค่ะ โดยใน Antiperspirants เค้าจะมีสารที่มีฤทธิ์ในการอุดรูขุมขนคือเกลือ Aluminium เช่น Aluminium Chloride, Aluminium Chlorohydrate, Aluminium Zirconium จะทำงานโดยการปิดหรืออุด กลั้นรูขุมขน เลยช่วยระงับเหงื่อให้ไหลน้อยลงได้ ทีนี้พอเหงื่อไม่ไหล ก็ไม่มีการหมักหมมของเหงื่อและแบคทีเรียเกิดขึ้น ทำให้ไม่เกิดกลิ่นเหม็น
Q. แล้วจริงหรือเปล่าที่ว่ากันว่าสารประกอบอลูมิเนียมในโรลออนระงับเหงื่อเป็นอันตรายต่อร่างกาย อาจก่อให้เกิดมะเร็งเต้านม?
Answer : ไม่จริงค่ะ ทุกวันนี้ยังไม่มีหลักฐานเลยว่า Aluminium ในสกินแคร์ก่อให้เกิดมะเร็ง และร่างกายดูดซับสารประกอบอลูมิเนียมเพียง 0.0012% ผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการรับรองให้จำหน่ายจะใช้สารประกอบอลูมิเนียมในปริมาณที่ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายตามที่หน่วยงานกำหนดไว้อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นถ้าเห็นผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นที่มีคำว่า Antiperspirants ก็ไม่ต้องตกใจ อย่าไปหลงกลเทรนด์ Clean Beauty สามารถซื้อมาใช้ได้ตามปกติเลยค่ะ
- - - - - - - - - - - - - - -
💌
แอบมาสรุปเพิ่มสั้นๆ ให้ตรงนี้เผื่อใครยังงง จะได้แยกกันได้ง่ายขึ้น
💙 Deodorant เน้นลดกลิ่นด้วยการยับยั้งแบคทีเรียและส่วนใหญ่ใช้น้ำหอมกลบกลิ่น
💜 Antiperspirant เน้นยับยั้งเหงื่อไม่ให้ไหล ไม่ให้ไปเป็นอาหารแบคทีเรียและหมักหมมเป็นกลิ่นอีกที
ps. ในปัจจุบันก็มีผลิตภัณฑ์หลายตัวในท้องตลาดที่รวมคุณสมบัติทั้ง 2 ข้อนี้เข้าไว้ด้วยกันด้วยน้า
- - - - - - - - - - - - - - -
ในคนบางคนที่เหงื่อออกเยอะมาก โรลออนระงับเหงื่ออาจจะยังเอาไม่อยู่ ไม่ว่าจะใช้อะไรกลิ่นตัวแรงก็ไม่หายไป อาจจะต้องพึ่งหัตถการเข้ามาช่วยแทน วันนี้ซิสเอา 2 หัตถการที่คิดว่าชาวซิสน่าจะพอสามารถเข้าถึงได้ง่ายและไม่ใช่การผ่าตัดใหญ่มาแนะนำ ซึ่งก็คือ การเลเซอร์ขน และการฉีดสาร Botulinum toxin เพื่อระงับเหงื่อ มาดูไปพร้อมๆ กันเลย
หัตถการลดกลิ่นตัว 4. เลเซอร์กำจัดขนรักแร้
เอ๊ หลายคนอาจจะงง เลเซอร์ขนจะมาช่วยเรื่องกลิ่นตัวแรงได้ไง มาค่ะ จะเล่าให้ฟัง เรื่องของเรื่องคือการเลเซอร์อาจจะไม่ได้เป็นการแก้ปัญหาที่สาเหตุโดยตรง แต่ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยลดกลิ่นเหงื่อ กลิ่นตัวแรงได้เหมือนกันค่ะ โดยวิธีนี้เนี่ยเราจะเน้นไปที่การกำจัดขน เพราะเส้นขนของเราก็ถือได้ว่าเป็นแหล่งสะสม หมักหมมกันของเหงื่อและสิ่งสกปรก เป็นอีกต้นเหตุของกลิ่นตัวแรง โดยคุณหมอจะทำการยิงคลื่นพลังงานเลเซอร์ให้เข้าไปชะลอการเจริญของรากขน พอขนน้อยลงและรูขุมขนที่กระชับมากขึ้น ก็จะช่วยให้กลิ่นอับชื้นใต้วงแขนลดลงไปด้วยนั่นเอง เรียกว่าเป็นอีกวิธีกำจัดขนที่ตอบโจทย์มากกว่าการโกนหรือแว็กซ์ขนรักแร้ เพราะไม่รู้สึกเจ็บและสามารถกำจัดขนรักแร้ไปได้อย่างถาวร ไม่กลับมาขึ้นใหม่แล้วพากลิ่นกลับมาอีก
หัตถการลดเหงื่อ 5. ฉีดโบท็อกซ์ลดเหงื่อ
อีกหนึ่งตัวช่วยด้านหัตถการก็คือการฉีดโบท็อกซ์รักแร้ วิธีนี้จะเป็นการฉีดสารโบทูลินัมท็อกซิน (Botulinum toxin) ซึ่งเป็นสารตัวเดียวกับที่เราใช้ฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอยบนหน้านั่นเอง โดยจะฉีดบริเวณรักแร้ประมาณ 20-30 จุด เพื่อระงับการทำงานของสารสื่อประสาทอะซีทิลคอลีน (Acetylcholine) ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมการผลิตเหงื่อ ทำให้ปริมาณเหงื่อที่ออกหลังจากฉีดโบท็อกซ์ลดลงหรือแทบไม่มีเหงื่อ ก็ช่วยให้กลิ่นตัวลดลงด้วย
หลังฉีดโบท็อกซ์ที่รักแร้จะอยู่ได้ประมาณ 3-4 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อโบท็อกซ์ที่เราเลือกใช้ รวมถึงเทคนิคการฉีดของแพทย์รวมถึงขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองของเราด้วย และปริมาณโบท็อกซ์ที่ใช้ก็จะขึ้นอยู่กับแต่ละคนไป ในคนที่มีเหงื่ออกมากอาจจะต้องใช้โบท็อกซ์ปริมาณที่มากกว่าคนที่เหงื่อออกน้อย อันนี้ต้องปรึกษาแพทย์อย่างละเอียดอีกทีน้า
- - - - - - - - - - - - - - -
เป็นยังไงกันบ้างกับ 5 วิธี กำจัดกลิ่นตัวแรง ที่ SistaCafe เอามาแนะนำในวันนี้ มีหลากหลายวิธีให้ทุกคนเอาไปเลือกสรรกันได้ตามสะดวกเลย ถ้าเรางบน้อยอาจจะเน้นไปที่ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นไปก่อน แต่ถ้าพวก Deodorant กับ Antiperspirant ยังไม่ตอบโจทย์ สารส้ม แบบภูมิปัญญาไทยก็น่าสนใจไม่แพ้กันค่ะ ตัวนี้เค้าจะช่วยให้รูขุมขนหด ลดปริมาณเหงื่อที่ไหลให้น้อยลงได้เหมือนกัน แถมราคาก็ถูกด้วย ลองไปหาซื้อกันดูได้ แต่ถ้าใครที่อาการหนัก เหงื่อเยอะมากใช้อะไรก็ไม่ช่วยและมีงบไหว หัตถการก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีเหมือนกันค่ะ ลองไปสอบถามกับแพทย์เพิ่มเติมได้เลย
- - - - - - - - - - - - - - -
Designer : tt.
Writer : BabyPeachy
SistaCafe
Beat Body Odor: 11 Life Hacks
https://www.healthline.com/health/beat-b-o-and-smell-fresh-hacks
Attention Required! | Cloudflare
https://my.clevelandclinic.org/health/symptoms/17865-body-odor
Botox for sweating: How it works, target areas, and effectiveness
https://www.medicalnewstoday.com/articles/botox-for-sweating#:~:text=The%20United%20States%20Food%20and,sweating%20by%2082%E2%80%9387%25.
Attention Required! | Cloudflare
https://www.webmd.com/skin-problems-and-treatments/difference-between-deodorant-and-antiperspirant