หน้าฝนทั้งมลภาวะ ทั้งฝุ่นควัน ทั้งเฉอะแฉะบอกเลยว่าอยากจิร้องไห้ ~ T o Tช่วงนี้ฝนตกกระหน่ำเหมือนมีงานซัมเมอร์เซลล์เลยนะคะ เทลงมาไม่หยุดหย่อนการจราจรก็ติดขัดน้ำก็ขังไม่ก็ท่วมลมก็แรงแถมพัดเอาพวกน้ำฝนที่มีทั้งฝุ่นทั้งมลภาวะมาติดผิวเราอีก ซึ่งถ้าเราทำความสะอาดไม่ดีก็จะทำให้เรามีสิวมีผดผื่นเกิดขึ้นได้ ดังนั้นเราก็มาส่องวิธีในการคลีนผิวให้กลับมาสวยใสในหน้าฝนกันเลยดีกว่า มีทั้งหมด 7 ขั้นตอนง่าย ๆถ้าพร้อมจะทำตามแล้วก็มาส่องวิธีกันเลยจ้า ♥
❤ ❤ ❤ ❤ ❤ ❤ ❤ ❤ ❤
ผิวใสในหน้าฝน 7 ลำดับการ "คลีนผิวหน้า" ให้สะอาดใส ไร้มลภาวะ
ขั้นตอนที่ 1 : ใช้คลีนซิ่งทำความสะอาดผิว

คนที่ไม่แต่งหน้าเห็นขั้นตอนนี้อาจจะกำลังเลื่อนผ่านแต่!ขอให้แวะอ่านก่อนนิดนึงน้า คือผิวหน้าของเราโดนฝน โดนฝุ่นควันต่าง ๆ ถาโถมเข้ามา แถมยังมีครีมกันแดดบนผิวอีก ถ้าไม่ใช้" คลีนซิ่ง "ในการคลีนผิวอันดับแรกก็อาจจะทำให้ผิวอุดตันจนเกิดสิวได้ เพราะครีมกันแดดไม่สามารถล้างด้วยสบู่หรือโฟมล้างหน้าได้อย่างหมดจดเราจึงอยากให้ทุกคนใช้คลีนซิ่งกันนะคะ ซึ่งคลีนซิ่งก็มีหลายแบบเลยให้เลือกใช้จะแบบน้ำ แบบบาล์ม แบบออยล์ใช้ได้หมดเลยนะคะ แต่ถ้าใครขี้เกียจซื้อหลายสิ่งจะใช้แผ่นเช็ดเครื่องสำอางก็ได้เช่นกันค่ะ แผ่นเดียวจบเอาอยู่สะดวกมาก ๆ
ขั้นตอนที่ 2 : ใช้สครับผิวหน้าบ้าง แต่อย่าบ่อย!

หน้าฝนหอบมลภาวะมาเยอะแยะเกินไป ก็ต้องมีการสครับผิวเพื่อกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไปให้หมดกันบ้างผิวเราจะได้สะอาดแบบหมดจดจริง ๆ ซึ่งการใช้สครับเนี่ยอย่างน้อยแค่ 1 - 2 ครั้งต่อสัปดาห์ก็พอแล้วก็ควรเลือกสครับที่เม็ดเล็ก เนื้อค่อนข้างละเอียดในการใช้ไม่งั้นเม็ดสครับอาจจะบาดผิวหรือไปรบกวนผิวมากเกินไปจนทำให้ผิวเกิดการอักเสบ สิวอาจจะขึ้นหนักกว่าเดิมด้วย ต้องใช้อย่างระมัดระวังมาก ๆ นะคะ นอกจากผิวหน้าแล้วผิวกายก็ควรสครับบ้างเหมือนกัน อย่าปล่อยให้ผิวกายของเราดูไม่เนียนละเอียดน้า
ขั้นตอนที่ 3 : ใช้คลีนเซอร์/โฟมล้างหน้าทำความสะอาดผิว

สครับแล้วก็ต้องล้างหน้าด้วยคลีนเซอร์ด้วยนะจ๊ะชาวซิส คือคลีนซิ่งมันล้างไปในส่วนที่ฝั่งในผิวแล้ว แต่คลีนเซอร์ต้องเอาส่วนที่ยังติดอยู่นิด ๆ หน่อย ๆ ออกไปให้ได้มากที่สุดโดยไม่จำเป็นต้องใช้โฟมล้างหน้าสูตรแรง ๆ ก็ได้นะคะ เพียงแค่เรารู้วิธีการล้างหน้าให้ถูกต้อง อย่างการทำความสะอาดรูขุมขนตรงจมูกก็ให้ใช้นิ้วโป้งทั้งสองข้างรีดขึ้นตั้งแต่ช่วงฐานข้างรูจมูกไปถึงสันทำไปเรื่อย ๆ พวกสิวเสี้ยนจะน้อยลงด้วยนะคะส่วนอื่น ๆ ก็แค่ค่อย ๆ ลูบแบบปัดออกปัดออกคือปัดจากหน้าแก้มออกไปถึงไรผมหรือกกหูนั่นเอง แค่นี้ก็เป็นอันเสร็จการคลีนผิวด้วยคลีนเซอร์แล้ว~
ขั้นตอนที่ 4 : ใช้โทนเนอร์ซ้ำอีกรอบให้ผิวสะอาดหมดจด

บางคนอาจจะแบบ... คลีนมา 2 รอบแล้วยังต้องคลีนอีกเหรอเนี่ย? ตอบให้เลยนะคะว่าทำก็ได้ไม่ทำก็ได้ แต่ถ้าทำได้ก็จะดีกว่าเพราะการใช้โทนเนอร์ไม่ใช่แค่การคลีนผิวนะคะ แต่เป็นการขจัดเซลล์ผิวที่ตายให้ออกไปอย่างอ่อนโยน แล้วก็ยังช่วยให้ผิวของเราพร้อมสำหรับการลงบำรุงต่าง ๆ ด้วยบางตัวช่วยให้งานบำรุงผิวทำงานดีขึ้นไปอีกนะคะ นอกจากนี้โทนเนอร์ยังเอามาใช้เป็นน้ำตบหรือเอามามาสก์ผิวได้ด้วยหรือแม้กระทั่งพกไปฉีดระหว่างวัน ฉีดตอนแต่งหน้าเสร็จเพื่อล็อกเครื่องสำอางก็ทำได้เช่นกัน แต่โทนเนอร์ต้องไม่มีแอลกอฮอล์นะจ๊ะ ไม่งั้นเสี่ยงระคายเคืองผิวน้า
ขั้นตอนที่ 5 : ลงครีมบำรุงผิว และที่ห้ามขาดคือ " มอยส์เจอไรเซอร์ "

ลงบำรุงใดเอยมากมาย ไม่ว่าจะให้ช่วยเรื่องสิว ผิวหมองคล้ำ ลดริ้วรอย แต่ดั๊นลืมการใช้มอยส์เจอไรเซอร์ไปซะได้ คือการบำรุงผิวให้มีประสิทธิภาพมันต้องเติมความชุ่มชื้นเข้าไปด้วยนะคะทุกคน ไม่อย่างนั้นผิวเราจะไม่มีความชุ่มชื้นไปหล่อเลี้ยงเลย แล้วมันก็อาจจะทำให้ผิวเริ่มมีริ้วรอยมากขึ้น รูขุมขนกว้างขึ้นนั่นเองค่ะรู้แบบนี้แล้วก็หามอยส์เจอไรเซอร์สักตัวมาใช้กันด้วยนะคะจะแบบเซรั่ม แอมพูล สลีปปิ้งมาสก์ น้ำตบ อีมัลชัน หรือแบบครีมก็ได้ทั้งหมดเลยนะคะ แค่เลือกให้ตรงกับสภาพผิวเราก็พอค่ะ ♥
ขั้นตอนที่ 6 : มาสก์หน้าบ่อย ๆ ผิวจะได้แข็งแรง

บำรุงผิวด้วยเซรั่ม มอยส์เจอไรเซอร์ น้ำตบใด ๆ ไปหมดแล้ว ก็ปิดจบด้วยการมาสก์หน้าไปเลยค่า ที่ให้มาสก์ปิดท้ายก็เพราะว่าเนื้อมันค่อนข้างจะหนักกว่าทุก ๆ ขั้นตอนการบำรุงนะคะแต่ ๆ ถ้าใครมีพวกครีมก็เว้นไว้ทาหลังการมาสก์อีกทีเน้อมันจะได้ไล่ลำดับการบำรุงได้ถูกต้อง ซึ่งมาสก์ที่ควรใช้บ่อย ๆ คือมาสก์ที่เพิ่มความชุ่มชื้น อาจจะมีบางครั้งที่เราไปใช้สูตรกระจ่างใส ลดสิว ฯลฯ บ้าง แต่ถ้าเน้นมาสก์ทุกวันสูตรเติมความชุ่มชื้นคือดีสุดเลยค่ะ มันจะช่วยให้ผิวแข็งแรง เจอมลภาวะก็พอสู้ไหวอยู่นั่นเอง
ขั้นตอนที่ 7 : สวยจากภายในด้วยการดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว

คลีนผิวและบำรุงภายนอกไปแล้ว ก็ต้องบำรุงจากภายในอย่างการดื่มน้ำวันละ 8 แก้วด้วยนะค้า ที่บอกว่าให้ดื่มน้ำเยอะ ๆ เพราะนอกจากจะช่วยให้ผิวพรรณของเราดูอิ่มน้ำแล้ว ก็ยังทำให้ผิวของเรามีน้ำหล่อเลี้ยง มีความแข็งแรงมากขึ้น เนื่องจากผิวของเราชุ่มชื้นมากพอนั่นเองค่ะ ถ้าใครกลัวดื่มน้ำไม่ครบ 8 แก้วก็กะปริมาณง่าย ๆ คือกินน้ำขวดใหญ่ 1.5 ลิตรกับน้ำขวดกลาง ๆ 600 มล.แค่นี้ก็ครบ 8 แก้วแบบไม่งงกับขนาดและปริมาณแล้ว หรือใครจะหาซื้อกระติกน้ำขนาด 2 ลิตรก็ได้นะคะ ปริมาณพอดีกับ 8 แก้วเลย อ้อ! กินน้ำเปล่านะคะทุกคน อย่ากินน้ำหวาน น้ำอัดลมเด้อ
❤ ❤ ❤ ❤ ❤ ❤ ❤ ❤ ❤
เป็นยังไงคะกับ7 ขั้นตอนในการคลีนผิวที่เรานำมาฝาก จริง ๆ อาจจะไม่ต่างจากที่ทุกคนทำกันอยู่บ่อย ๆ อยู่แล้วนะคะ แต่ถ้าใครยังไม่เคยทำบางขั้นตอนก็ขอแนะนำว่าให้ลองทำดูนะคะ จะรู้เลยว่ารู้งี้ทำมานานแล้ว ผิวเราจะได้สะอาด ๆ คลีน ๆ ไม่มีสิวสักทีแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นสภาพผิวของคนเราต่างกันนะคะ บางคนอาจจะทำแล้วไม่เห็นผลก็ได้ถ้าใครแพ้น้ำฝนจนหน้าเป็นผื่นแนะนำว่าไปพบคุณหมอเพื่อแก้ปัญหาจะดีและชัวร์กว่าส่วนตอนนี้เราขอตัวลาทุกคนไปก่อน ยังไงก็รักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ บ๊ายบาย ♥