ความโป๊ะเป็นศูนย์กับเรื่องการแต่งหน้านี่มันเป็นอะไรที่ยากจริง ๆ เลยนะคะจะลงเยอะไปก็ดูหนา จะลงน้อยไปก็ปกปิดไม่พอ แล้วจะทำยังไงได้บ้างให้ผิวของเราแต่งออกมาดูเนียนกริ๊บประหนึ่งเกิดมาผิวไม่เคยมีริ้วรอยหรืออารยธรรมมาก่อนจริง ๆ วิธีการไม่ยากเลยนะคะ เราไปได้วิธีนี้มาจากคุณอายตา ซึ่งคุณอายตาก็ได้ทริคนี้มาจากคุณฉัตรหรือที่ทุกคนเรียกกันว่าน้องฉัตรอีกทีวิธีการไม่ได้ยาก แต่ความยากคือการใจเย็น การละเอียด การพยายามนะคะ ถ้าใครอยากลองไปแต่งหน้าแบบผิวเนียนแล้วละก็ลุยกันเลยค่าาาาาาาาาาาาาาาาาาา ♥


✷ ✷ ✷ ✷ ✷ ✷ ✷ ✷ ✷ ✷


7 วิธีแต่งหน้าให้ "ผิวเนียนใส" ไร้ความโป๊ะ ไม่ดูโบ๊ะจนดูหนาเตอะ

1. เริ่มต้นด้วยการบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/d6/21/bb/d621bbc7f4cfc326d12628beb869fbe5.jpg

ขั้นตอนแรกเบสิคสุด ๆ ค่ะชาวซิส นั่นก็คือการบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นนั่นเอง ถ้าใครผิวแห้งอาจจะใช้เป็นพวกครีมทาหน้าหรือมาสก์ผิวก็ได้นะคะ แต่ถ้าใครเป็นชาวผิวมันขอเน้นย้ำว่าเอาแค่ตัวที่เติมความชุ่มชื้นก็พอค่ะ จะเป็นเซรั่ม น้ำตบ อีมัลชัน หรือครีมทาผิวก็ขอแค่ 1 ตัวพอนะคะ หลังจากนั้นก็ทาลงบนผิวได้เลย หรือใครจะใช้โทนเนอร์เช็ดก่อนลงงานบำรุงอื่น ๆ ก็ได้นะคะ เพราะมันไม่ได้ทำให้ผิวหน้ามันเพิ่มขึ้น ลงเสร็จก็รอให้มันซึมลงผิวดีก่อน หลังจากนั้นก็ไปสู่ขั้นตอนต่อไปกันเลยจ้า > 0 <


2. งานบำรุงจบ ต้องตบด้วย " ครีมกันแดด "

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/6e/d9/2a/6ed92af1c32bd5c31c0671bbb50694d6.jpg

บำรุงผิวให้ชุ่มชื้นแล้วก็ใช้กันแดดด้วยนะคะทุกคนเป็นสิ่งที่ห้ามลืมเป็นอันขาด ไม่ว่าจะฝนตก ฟ้าร้อง แดดร้อน ลมพายุเข้า หิมะตกก็ต้องทานะคะ เพราะเราไม่รู้เลยว่ารังสียูวีมันมีมากน้อยแค่ไหน และเพื่อไม่ให้ผิวได้รับมันตรง ๆ เราควรทามันทุกวันเพื่อความปลอดภัยนั่นเองค่ะ จริง ๆ รังสียูวีไม่ได้มีแค่จากแสงอาทิตย์เท่านั้นนะคะ ยังมีจากแสงไฟนีออน แสงหน้าจอต่าง ๆ ที่คอยทำร้ายเราด้วย นอกจากนี้ก็ต้องรู้ไว้ด้วยนะคะว่าถ้าวันไหนไม่แต่งหน้าแต่ทากันแดด ต้องใช้คลีนซิ่งทำความสะอาดผิวเสมอไม่งั้นอุดตันจนสิวเห่อไม่รู้ด้วยนะจ๊ะ


3. ไม่อยากให้หน้าเยิ้ม ต้องเติม " ไพร์มเมอร์ "

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/82/64/e8/8264e8c7b7ba6088e782800f4b4d0b40.jpg

คนผิวแห้งไปก็แต่งหน้าไม่ติด คนผิวมันแต่งหน้าไปก็ไหลเยิ้ม งั้นก็ต้องใช้ไพร์มเมอร์ช่วยล็อกแล้วล่ะ! คือไพร์มเมอร์นอกจากมันจะช่วยทำให้เครื่องสำอางติดแน่นทนนานมากขึ้นแล้ว มันยังทำให้ผิวของเราดูเนียนมากขึ้น เพราะเนื้อไพร์มเมอร์มันจะไปปิดพวกรูขุมขนต่าง ๆ บนใบหน้าให้ดูเล็กลงหรือเบลอให้ดูจางลงนั่นเองค่ะ งานผิวของเราก็เลยเรียบเนียนมากขึ้น น้ำมันในผิวก็ไม่ออกมารบกวนด้วย ถามว่าไม่ใช้ได้ไหม? ก็ได้นะคะถ้าเราไม่ได้ผิวมันเกินไปหรือมีปัญหาแต่งหน้าไม่ติด แต่ถ้าอยากให้มันเนียนกริ๊บก็แนะนำว่าควรใช้ค่ะ ♥


4. เก็บงานผิวและริ้วรอยด้วย " คอนซีลเลอร์ "

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/a8/d3/30/a8d330e3308b7f0825696facf3f86955.jpg

รอยดำรอยแดงจากสิว รอยคล้ำใต้ตา ถ้าใช้แค่รองพื้นบางตัวเอาอยู่นะคะ แต่บางตัวเอาไม่อยู่ ดังนั้นเราจะต้องมาใช้คอนซีลเลอร์เก็บร่องรอยอารยธรรมต่าง ๆ ก่อนเลยค่ะ ที่ให้ใช้ก่อนเพราะว่าคอนซีลเลอร์ใต้ตามักจะเป็นโทนสีสว่างหรือพอดีผิว แต่คอนซีลเลอร์ปิดรอยสิวมักจะมีโทนที่เข้มหรือพอดีผิว เพื่อไม่ให้มันดูกระดำกระด่างก็เลยให้ลงก่อนนั่นเอง โดยทริคการลงให้เนี้ยบ อันนี้ได้มาจากคุณเมลเพื่อนคุณบริ๊งนะคะ เขาบอกว่าให้ทาไปทีละชั้น ทา 1 ชั้นปุ๊บรอให้แห้งแล้วค่อยลงต่อ ลงจนกว่าจะพอใจว่ามันเนี้ยบแล้วเป็นอันว่าเสร็จแต่ต้องใจเย็นมาก ๆ นะคะเพราะต้องรอให้มันแห้งจริง ๆ ถึงจะลงต่อได้


5. อยากสร้างผิวใหม่ทั้งหน้าก็ต้องคว้า " รองพื้น " มาใช้

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/98/c6/49/98c649e780fe2ea1fc4cdcc3a9873fa7.jpg

คอนซีลเลอร์ลงไปแบบหนำใจ คราวนี้ถึงตาของรองพื้นกันแล้วจ้าถ้าไม่อยากให้มันดูโป๊ะแต่ยังดูนวลเนียนอยู่ก็ให้ใช้รองพื้นไม่ต้องเยอะ กดออกมาทีละนิดวอร์มบนหลังมือหลังจากนั้นแต้มไปในจุดที่ยังไม่ลงคอนซีลเลอร์ แล้วก็ให้ใช้ฟองน้ำไข่หรือพัฟเพื่อเกลี่ยรองพื้น ขั้นตอนนี้ขอแนะนำว่าอย่าใช้แปรงนะคะ เพราะไม่งั้นงานผิวที่เราไปโบกคอนซีลเลอร์มาโอกาสโดนลากไปกับแปรงมีสูงมากให้ใช้พวกฟองน้ำไข่หรือพัฟจะเวิร์คกว่าตบ ๆ เข้าไปให้แรงนิดนึงนะคะ มันจะได้เกาะผิวไปแน่น ๆ


6. เซ็ตให้ไม่เคลื่อน ก็ต้องเลื่อน " แป้งฝุ่น " มาใช้ก่อน

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/e9/0c/7a/e90c7a0f51fc8ad3ea9847a24b3e22fe.jpg

* ถ้าใครมีงานบลัชออนและคอนทัวร์แบบครีมแนะนำว่าให้ลงให้เสร็จก่อนทำขั้นตอนนี้นะคะ *บางคนติดใช้แป้งผสมรองพื้นหรือแป้งพัฟในการเซ็ตผิวหลังจากลงรองพื้น ทางเราขอแนะนำว่าให้ใช้แป้งฝุ่นโปร่งแสงเซ็ตเบา ๆ ก่อนจะดีกว่าเพราะแป้งฝุ่นจะช่วยในเรื่องของการล็อกงานรองพื้นให้ติดแน่นทนนานมากยิ่งขึ้นแล้วก็ไม่ทำให้รองพื้นเปลี่ยนสีด้วย อีกทั้งยังคุมมันและเบลอรูขุมขนเพิ่มไปอี๊กถ้าใครไม่อยากหนักผิวใช้แปรงลงได้ค่ะ แต่พยายามเน้นเป็นการกด ๆ ลงไปจะดีกว่าถ้าปัดกลัวว่ารองพื้นจะหลุดออกมา หรือถ้าอยากให้คุมมันดี ๆ หน่อยเลยก็ใช้พัฟได้ค่ะ


7. ยังกริบไม่พอ ขอเพิ่มด้วย " แป้งผสมรองพื้น "

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/42/a3/71/42a371eee5cde1fc593c8426348a8078.jpg

งานผิวขั้นสุดท้ายนั่นก็คือการเพิ่มความนวลปกปิดแบบตาแตกด้วยแป้งผสมรองพื้นนั่นเองค่ะ บางคนอาจจะแบบไหนว่าไม่หนาไง คือเราใช้แปรงในการลงแทนพัฟนะคะทุกคน มันเลยจะไม่ได้ให้ความหนักผิวขนาดนั้น อีกอย่างแป้งผสมรองพื้นในปัจจุบันก็เบาสบายผิวมากขึ้นเยอะแล้วด้วย ไม่ต้องกังวลเลยว่ามันจะหนักหน้า โดยวิธีการคือเอาแปรงค่อย ๆ กด ๆ วนไปคล้ายกับวิธีการใช้แป้งฝุ่นเลยค่ะ แต่ถ้าใครอยากให้เนียนกริ๊บแบบสุด ๆ จริง ๆ จะลงด้วยพัฟก็ไม่ว่ากันนะคะ แล้วอย่าลืมเอาแปรงมาปัด ๆ แป้งที่เกิน ๆด้วยล่ะ ผิวจะได้ดูมีความนุ่มละมุนเป็นธรรมชาติมากขึ้น ♥


✷ ✷ ✷ ✷ ✷ ✷ ✷ ✷ ✷ ✷


เป็นยังไงกันบ้างคะแค่สร้างผิวหน้าใหม่ให้ดูนวลเนียนก็ฟาดเข้าไป 7 ขั้นตอนแล้วบอกแล้วว่าต้องใจเย็นมากจริง ๆ นะคะ ถ้าใครได้ลองจะเข้าใจเลยว่าเราควรใจเย็นจริง ๆค่อย ๆ ทำไปทีละส่วน ๆ มันจะโอเคกว่าการรีบ ๆ หรือรวบรัดขั้นตอนนอกจากเราจะได้งานผิวที่นวลเนียนแล้ว ยังทำให้เครื่องสำอางติดทนมากขึ้น แล้วก็ยังทำให้เราได้ฝึกการรอคอยเพิ่มขึ้นด้วย เอาล่ะ! ตอนนี้ก็หมดเวลาของเราแล้ว บทความหน้าจะมีทริคอะไรดี ๆมาฝากก็ติดตามกันด้วยนะค้า บ๊ายบายค่า ♥