ฮัลโหล ๆ ขอเสียงสาย Y2K กันหน่อยจ้าาาาา ♥ที่วันนี้ต้องขอเสียงสาย Y2K ก็เพราะเรามีไอเทมน่าจะสนใจมาบอกต่อกัน นั่นก็คือ" หูฟังแบบเฮดโฟน "นั่นเองค่า คือหูฟังเฮดโฟนนอกจากที่จะซื้อมาใส่แบบเก๋ ๆ ให้ลุค Y2K แล้วมันก็ยังเอามาใช้ฟังเพลงได้ด้วยซึ่งหูฟังแต่ละตัวที่เราคัดมาคือมีความ Y2K สุด ๆ ทั้งสีและดีไซน์ แต่คุณภาพทันสมัยนะเออจะมีตัวไหนน่าสอยมาใช้มาลองกันบ้างก็ต้องมาส่องดูกันด้านล่างนี้เล้ยFYI : Y2K ย่อมาจาก Year 2000 ซึ่งหมายถึงแฟชันยุคปลายปี 1990s ไปจนถึงต้นปี 2000s นั่นเอง
♫♫♫♫♫♫♫♫♫♫♫♫♫♫
เก๋ได้ใช้งานด้วย! 7 หูฟัง "Headphone" สไตล์วัยรุ่น Y2K
Apple - AirPods Max
เริ่มกันที่แบรนด์ผลไม้กันเลยค่า สำหรับAppleส่วนรุ่นที่จะมาแนะนำก็คือ
AirPods Max
นั่นเอง เจ้าตัวนี้คือดีไซน์สวยมากกกกกออกแบบมารองรับกับสรีระและมีความทนทานเวลาเชื่อมต่อก็ง่ายมาก ๆ นะคะโดยเฉพาะกับคนที่ใช้ไอโฟนหรือไอแพดอยู่แล้ว แค่ตั้งใกล้ ๆ กันกดเชื่อมต่อก็คือเชื่อมให้เลย และความพิเศษของเขาคือสลับอุปกรณ์ให้อัตโนมัติเลยเช่น เราฟังในไอโฟนอยู่ แต่อยากย้ายมาฟังไอแพดมันก็ย้ายมาในไอแพดให้เลยแบบทันทีไม่ต้องกดเชื่อมใหม่ นอกจากนี้ยังมีเคสที่ช่วยประหยัดพลังงาน ทำให้สามารถใช้งานได้นานขึ้นไมค์มีถึง 9 ตัวโดยใช้ 8 ตัวในการตัดเสียงรบกวน และ 3 ตัวในการรับเสียงพูด ใครสาวกแอปเปิ้ลก็ไปตำมาใช้กันได้นะคะ ราคาอยู่ที่ 19,xxx บาท
Sony - WH-1000XM5
มีแอปเปิ้ลก็ต้องมีSonyด้วยสิค้า รุ่นนี้คือมาร์ค 5 นะคะ ถ้าใครงบน้อยจะไปซื้อรุ่นมาร์คก่อน ๆ ก็ได้ เพราะรุ่นนี้จะอยู่ที่14,xxxxเลยทีเดียวค่ะ สำหรับเรื่องหูฟังก็คือเขาเป็นหูฟังบลูทูธ 5.2 แบตเตอร์รีใช้ได้นาน 30 ชั่วโมงตัดเสียงรบกวนได้แบบดีม้ากกกกไมค์ก็ดีมากนะคะ รุ่นนี้พัฒนาไมค์มาเยี่ยมสุด ๆ ค่ะเพราะมีไมค์ถึง 4 ตัวเลยทีเดียว นอกจากนี้เขายังสามารถอัปสเกลเสียงในไฟล์เพลงที่รายละเอียดขาดหายไปได้ด้วย ยังไม่พอค่ะ เขามีระบบหยุดเพลงอัตโนมัติเมื่อผู้ฟังเริ่มพูดคุยกับคนรอบข้างและยังปรับแต่งฟังก์ชันอื่น ๆ ได้ในแอปอีกด้วย มันเลิศจนไม่รู้จะเลิศยังไงแล้วจริง ๆ ค่ะชาวซิส ใครงบถึงสอยโลดดดดดด
NOKIA - Essential Wireless Headphones E1200
เป็นแบรนด์ที่เรารู้จักกันมาอย่างช้านานนะคะสำหรับNOKIAอย่าเพิ่งตกใจว่าเอ๊ะ มันยังอยู่อีกเหรอ มันยังอยู่จริง ๆ ค่ะไม่ได้หายไปไหน มือถือต่าง ๆ ก็ยังมีนะคะ รวมถึงหูฟังแบบ On-Ear ก็มีขายด้วย โดยรุ่นนี้ของเขามี 3 สีคือน้ำเงิน ขาว ดำเป็นแบบบลูทูธแต่ก็มีสายแจ็ก 3.5 มาให้ด้วยวัสดุภายนอกกันรอยขีดข่วนได้ดีนะคะ ทนทาน ใช้งานสะดวกมีไมค์ให้ด้วย ใช้งานได้นานถึง 40 ชั่วโมงและราคาของเขาก็ย่อมเยาว์สุด ๆ มาในช่วง 1,xxx - 2,xxx เท่านั้นค่ะ
Urbanears - Plattan II Wireless Headphone
ต่อมาที่แบรนด์Urbanearsกันเลยค่า ตัวนี้มี 3 สีให้เลือกคือ ดำ เทาเข้ม และสีอินดิโก้ (ฟ้าอมเขียว) นั่นเอง สวยทุกสีเลยแล้วแต่ชอบนะคะ ส่วนราคามาในช่วง 3,xxx บาท สำหรับเจ้ารุ่นPlattan IIเขาจะมีความเจ๋งอยู่ตรงที่สาย AUX/3.5 เลยค่ะ คือเขาสามารถเสียบสายนี้ได้ทั้ง 2 ข้างในเวลาเดียวกันพูดง่าย ๆ ว่าหูซ้ายฟังเพลง A หูขวาฟังเพลง B นั่นเองนะคะ เลิศไหมล่า~ แต่ไม่ใช่แค่นี้นะคะ แบตเขาก็อึดพอตัวเลยค่ะ อยู่ได้ 30 ชั่วโมง สามารถบิดงอได้ มีความยืดหยุ่นทนทานแต่!!! เขาไม่มีไมค์มาให้นะคะ ใครหวังว่ามันจะเมาท์มอยได้อาจจะต้องหันไปซบตัวอื่นแทนแล้วล่ะ
JBL - 400BT Wireless Headphone
เชื่อว่าทุกคนน่าจะรู้จักแบรนด์นี้กันบ้างแหละเนอะ นั่นก็คือแบรนด์JBLนั่นเอง สำหรับรุ่นนี้มีให้เลือกถึง 5 สีทั้งสีขาว เขียว แดง น้ำเงิน ดำ เป็นหูฟัง On-Ear บลูทูธใส่สบาย และความเจ๋งของเขาก็คือสามารถเชื่อมต่อกับบลูทูธ 2 ตัวได้พร้อม ๆ กันใช้ได้ยาวถึง 24 ชั่วโมง มีถุงผ้า มีสายแจ็กหูฟัง มีไมโครโฟน จุดเด่นของหูฟังตัวนี้เลยก็คือให้เสียงเบสที่สนุกและมันมาก ๆนะคะ แยกรายละเอียดเสียงดนตรีได้ดี ขนาดก็พกพาสะดวก ไม่ใหญ่หรือเล็กไป ส่วนราคาอยู่ที่ประมาณ 3,xxx นะคะ
Final Audio - WHP01K
ตัวนี้มี 2 สีให้เลือกนะคะ คือสีครีมและสีเทาเข้ม รูปทรงขนาดมินิมอลมาก ๆ ราคาอยู่ในช่วง 3,xxxเป็นหูฟัง On-Ear ครอบหูแบบบลูทูธไร้สายที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีตัดเสียงรบกวนแบบ Hybrid ANCตัวผิวสัมผัสของเขาจะเป็นแบบด้านทำให้ไม่มีรอยนิ้วมือมากวนใจมีปุ่มในการกดใช้งานตรง Earcup ทั้งสองข้าง มีสายชาร์จ USB-C และสายแจ็กต่อหูฟัง นอกจากนี้เขายังมีถุงผ้าในการที่เราจะเอาไว้ใส่หูฟังเพื่อพกพาไปในที่ต่าง ๆ ได้ด้วย เลิศสุด ๆ ค่า
Marshall - Major IV Wireless Headphone
แค่เห็นชื่อแบรนด์ก็เรียกได้ว่ารับรองคุณภาพเสียงไปแล้วนะคะสำหรับแบรนด์Marshallนั่นเอง ราคาประมาณ 5,xxx รุ่นนี้คือรุ่นที่ 4 เป็นหูฟังแบบ On-Ear ครอบหูมีให้เลือกสองสีคือดำล้วน กับ ดำ-น้ำตาล ชอบแบบไหนก็ลองไปดูรีวิวกันได้นะคะ ในส่วนของฟังก์ชันก็คือเป็นหูฟังแบบบลูทูธ มีไมค์ใช้พูดคุยแต่ตัดเสียงรบกวนได้ไม่ดีมากเท่าไหร่แต่ถือว่าโอเคประมาณนึงเลยน้าชาร์จเต็มใช้ได้นานถึง 80 ชั่วโมงแบตเตอร์รีถ้าชาร์จ 15 นาทีก็สามารถใช้ต่อได้ประมาณ 15 ชั่วโมง คือชาร์จไวใช้ได้นาน นอกจากนี้ถ้าใครกลัวว่ามันจะไม่ Y2K จะหยิบสาย AUX/3.5 มาเสียบกับมือถือก็ได้เหมือนกันนะจ๊ะ แถมประหยัดแบตหูฟังด้วย
♫♫♫♫♫♫♫♫♫♫♫♫♫♫
เป็นยังไงกันบ้างคะสำหรับ7 หูฟังที่เรานำมาแนะนำในวันนี้มีตั้งแต่ราคาถูกใจวัยรุ่นไปจนถึงราคากระเป๋าตังค์สั่นกันเลยทีเดียว แต่ว่าไปก็คุ้มนะคะ เพราะคงไม่มีใครซื้อหูฟังหลักพัน หลักหมื่นมาเพื่อใช้แค่แต่งตัวหรอก อย่างน้อย ๆ ก็ต้องหยิบมาใช้กันบ้างนอกจากดีไซน์หูฟังมีความ Y2K แล้ว เราจะตกแต่งด้วยการติดสติกเกอร์ลงไปก็ได้นะคะเพราะแฟชันสมัยนั้นก็ฮิต ๆ การติดสติกเกอร์เหมือนกัน คิดว่าถ้าหูฟังของทุกคนได้ทำการตกแต่งคงดูยูนีคในแบบของตัวเองกันสุด ๆ กว่าเดิมไปอีก ตอนนี้ก็หมดเวลาของเราแล้วค่าไว้พบกันใหม่ในบทความหน้านะคะ สวัสดีค่า > 3 <