เป็นสิวแค่ไม่กี่วัน แต่รอยสิวนั้นฝากไว้ตลอดไป ฮัลโหลทุกคน! เราเชื่อว่าทุกคนที่อ่านคงไม่มีใครที่ไม่เคยเป็นสิวมาก่อนแน่ๆ

ซึ่งเวลาเป็นสิวอาจจะแค่ 2 วันหรือ 2 สัปดาห์ แต่รอยสิวนั้นบางทีปีนึงก็ยังไม่จางหายไป

มันเจ็บกระดองใจจริงๆ ซึ่งจริงๆ

80% ของคนวัย 11 ถึง 30 นั้นมีแค่ 1 ใน 5 คนเท่านั้นที่จะเป็นรอยแผลเป็นเท่านั้น

โดยรอยแผลเป็นจริงๆ แล้วเกิดจากการที่ร่างกายต้องการฟื้นฟูตำแหน่งที่เคยเป็นสิวโดยการสร้างคอลลาเจนขึ้นมา

ซึ่งถ้าร่างกายสร้างคอลลาเจนเยอะ รอยแผลเป็นก็จะยิ่งเข้ม

แต่นอกจากเรื่องการสร้างคอลลาเจนก็ยังมีอีกถึง 6 สาเหตุที่ทำให้สิวทิ้งรอยได้ ยังไงเราก็อย่ารีรอแล้วไปดูที่ข้อแรกกันเล้ยย

รวม 6 สาเหตุที่ทำให้สิวทิ้งรอยไม่ยอมหาย

1. การเป็นสิวอักเสบ

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/d5/74/d2/d574d2e1a02c02d12139488b006ed973.jpg

เพื่อนๆ หลายๆ คนที่เคยเป็นสิวก็คงจะมีสิวที่อะๆ เป็นไปเถอะ หรือแบบอย่ามานะขอร้อง ซึ่งหนึ่งในสิวที่เราเองก็เกลียดและขอร้องว่าอย่าเป็นเลยนั่นก็คือ

การเป็นสิวอักเสบ

นี่แหละค่ะ โดยการเป็นสิวอักเสบ

ไม่ใช่แค่ทำให้เรารู้สึกเจ็บและรำคาญอย่างเดียว แต่การเป็นสิวอักเสบยังเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่ทำให้สิวทิ้งรอยแผลเป็นได้ดีที่สุดด้วย

นั่นก็เพราะสิวอักเสบเป็นสิวที่อยู่ใต้ชั้นผิวหนังลึก และต้องใช้เวลานานกว่าจะโผล่ขึ้นมา ดังนั้นเวลาสิวหลุด

พื้นที่ที่เคยมีสิวอยู่แบบลึกๆ ก็จะกลวงทำให้ร่างกายต้องสร้างคอลลาเจนเยอะมากมาอุด ทำให้เราเห็นพื้นที่นั้นมีสีเข้มเด่นชัดสุดๆ ไปเลย

2. การเป็นสิวนาน

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/93/08/e2/9308e25070d1d8f101572e68eb80f11f.jpg

ปกติการเป็นสิวนั้นเกิดจากการที่ไขมันและเซลล์ผิวที่ตายแล้วเข้าไปอุดตันอยู่ในรูขุมขนใช่ไหมคะ

ซึ่งถ้าเราเป็นสิวหัวขาวที่เป็นตื้นๆ เราก็สามารถผลัดเซลล์ผิวหนังให้หัวสิวหลุดออกมาได้เร็ว ชั้นผิวหนังของเราก็ยังไม่ได้เป็นโพรงที่ใหญ่มาก แต่

การเป็นสิวนาน

ก็จะยิ่งเป็นการ

ทำให้ผิวหนังของเราเป็นโพรงและขยายตามสิ่งที่อุดตัน และทำให้หลังจากเราเอาสิวออก ร่างกายจะต้องผลิตคอลลาเจนจำนวนมากเพื่อมาเติมรูผิว

ทำให้เห็นเป็นรอยสิวสีเข้มๆ นั่นเอง

3. การแกะบีบสิว

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/2b/17/3c/2b173c1a84427902d6f399deabc710fe.jpg

เราว่าข้อนี้ทุกคนไม่ต้องเดาก็น่าจะรู้อยู่แก่ใจ แต่คงมีน้อยคนมากๆ ที่ทำได้คือ

การแกะบีบสิว

นั้นเป็นการ

ทำให้ผิวอักเสบและสามารถสร้างรอยแผลเป็นที่เก่งมาก

โดยเฉพาะสำหรับใครที่เป็นสิวตื้นๆ แต่พอไปแกะไปบีบก็ทำให้ผิวรอบๆ เป็นแผลและทำให้เลือดออกตามกันไปกันใหญ่

ซึ่งถ้าเพื่อนๆ ค่อยๆ ผลัดเซลล์ผิวออก นอกจากจะเป็นการกำจัดสิวอย่างอ่อนโยนแล้ว ยังช่วยทำให้เราไม่เป็นแผลหรือเกิดรอยเท่าการแกะบีบสิวเลย

4. เลือดออก

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/ea/bf/e2/eabfe2f4b7959804f6c0d329730daf26.jpg

เพื่อนๆ สังเกตไหมคะว่าบางทีเวลาเราเป็นสิวก็มีแผลบ้าง บางทีก็ไม่มี

ซึ่งการที่เราเป็นสิวและเกิดรอยตามมามันก็เกิดจากการที่หัวสิวหลุดและมี

เลือดออก

มาด้วยนั่นเอง

ซึ่งเวลาเลือดออกผิวเราก็จะเป็นแผล แล้วจังหวะที่เราเป็นแผลคือเป็นช่วงเวลาที่เราต้องอดทนไม่ไปแกะไปเกามากๆ เลย

เพราะถ้าเราเผลอเมื่อไหร่ รอยแผลเป็นคือมาเคาะประตูรอเจอแล้วนะ ซึ่งแผลเป็นแบบนี้จะอยู่นานและน่ารำคาญมากก

5. รูขุมขนอุตัน

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/8b/08/3e/8b083e459e0985cb2dd6c2e8714dfd19.jpg

สำหรับการเป็นสิวแล้ว

รูขุมขนอุตัน

กับการเป็นขนคุดแล้วรูขุมขนอุตัน ถือเป็นกรณีที่คล้ายกันและ

ทำให้เกิดรอยแผลเป็นได้เหมือนๆ กันด้วย

ซึ่งไม่ว่าจะเป็นอะไรก็แล้วแต่ แต่ถ้าเกิดมีการสะสมของเซลล์ผิวหนังที่ตายหรือสิ่งสกปรกใต้ผิวหนังขึ้นมาเมื่อไหร่หล่ะก็ เราขอให้เพื่อนๆ รู้เลยนะคะว่าเวลาที่เรารีบแกะมันออกมาแบบใจเร็วๆ อย่างนี้จะด้องได้เลือดแน่นอน

แล้วเวลาเลือดออกเป็นไงคะซิส แผลเป็นมาา คือแบบเป็นสเต็ปไม่ไหวว

6. แพ้สกินแคร์ แพ้เครื่องสำอาง

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/7a/97/c2/7a97c2ab170c46ae58351b2e719209a9.jpg

สำหรับเพื่อนๆ ที่คิดว่าใช้สกินแคร์อะไรก็ได้ เครื่องสำอางแบบไหนก็โอเคเพราะไม่เคยแพ้เลย คืออย่าประมาทนะคะซิส เพราะถ้าเกิดวันไหนเพื่อนๆ

แพ้สกินแคร์ แพ้เครื่องสำอาง

ขึ้นมานี่เรื่องใหญ่เลย เพราะนอกจาก

ผิวดีๆ ของเพื่อนๆ จะเห่อสิวขึ้นมากแล้ว ยังอาจทำให้ผิวเราบางและแพ้ง่ายขึ้นอีกด้วย

โดยสิวที่เห่อจากการแพ้เครื่องสำอางก็มักจะเป็นสิวที่ขึ้นมาเป็นกลุ่มและใหญ่เล็กไม่เท่ากัน ซึ่งก็แน่นอนว่าเพื่อนๆ จะต้อง

รำคาญ อยากให้สิวหายไวๆ และเผลอไปแกะมัน ซึ่งก็เช่นเคยคือน้องรอยแผลเป็นนั้นได้มาต่อคิวรออยู่แล้ว 5555 แย่มากๆ เลย

หลังจากที่เพื่อนๆ รู้สาเหตุที่ทำให้เกิดแผลเป็นจากสิวแล้ว เราก็มาดูกันดีกว่าว่าแผลเป็นจากสิวมีกี่แบบและเป็นยังไง ซึ่งอันที่จริงแล้วแผลเป็นจากสิวจะมีหลักๆ ทั้งหมด 3 แบบนั่นเอง

รูปแบบรอยแผลจากสิวมีอะไรบ้าง ? แต่ละประเภทมีลักษณะเป็นอย่างไร ?

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/7e/d6/93/7ed693b6fdff95de92ec0417d351ecdf.jpg

1). Ice Pick Scars

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/a2/8e/7f/a28e7f9203ac47beb3af15b92bc0c813.jpg

รอยแบบแรกเรียกว่า

ice pick scar

ซึ่งเป็นรอยแผลเป็น

เล็กๆ แต่ลึก

ซึ่งเกิดจากการที่ผิวหนังของเราเป็น

แผลลึกและสูญเสียคอลลาเจนในตำแหน่งที่เป็นสิว จนผิวบริเวณนั้นยุบตัวลงไป

ซึ่งสิวที่จะทำให้เกิด ice pick scar ได้ก็เช่น สิวอักเสบ หรือ สิวฮอร์โมน ที่บริเวณแก้มและแนวสันกรามของเรานั่นเองค่า

2). Rolling Scars

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/4f/f3/e9/4ff3e960acf4cd3c293b559ffa8f64b4.jpg

สำหรับใครที่เป็นสิวอักเสบนานๆ ก็อาจจะมีแผลแบบนี้ได้ นั่นก็คือ

rolling scars

ซึ่งสำหรับแผลเป็นแบบนี้จะ

ไม่ลึกเท่ากับ ice pick scars แต่จะมีความไม่เรียบเนียนและเว้าบนผิวหนัง

และส่วนใหญ่แผลเป็นแบบนี้จะ

เห็นได้ชัดมากๆ ถ้าเรามีผิวที่เหี่ยวในอายุมากขึ้น

3). Boxcar Scars

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/10/52/88/10528837e04ad81624ecb9eb0ba6e096.jpg

มาถึงแผลเป็นแบบสุดท้ายกันแล้วกับ

boxcar scars

นั่นเอง โดยแผลเป็นแบบนี้นั้นสามารถพบได้บ่อยมาก ซึ่งมันก็กวนใจเรามากๆ เช่นกัน โดยสิวแบบ boxcar scars จะ

ตื้นคล้ายๆ กับ rolling scars และจะเกิดมาจากสิวอักเสบซะส่วนใหญ่

แต่มันจะมีความต่างจาก rolling scars ตรงที่

ความลึกของ rolling scars จะโค้งๆ ต่างกับ boxcar scars ที่จะเหลี่ยม มีมุมเหมือนโดนเล็บจิก

ยังไงอย่างนั้น

หลังจากที่เพื่อนๆ ลองอ่าน

รอยสิวไม่ยอมหาย! รวม 6 สาเหตุที่ทำให้สิวทิ้งรอย และรูปแบบรอยแผลจากสิวว่ามีกี่แบบบ้าง

แล้วมีสาเหตุไหนที่เราเห็นว่าตัวเองได้แผลจากมันบ่อยๆ ไหมคะ ซึ่งจริงๆ แล้วรอยแผลจากสิวนั้นไม่ได้เป็นกันบ่อยในทุกคนก็จริง

แต่เราก็สามารถที่จะเป็นเมื่อไหร่ก็ได้

ดังนั้น

การรู้สาเหตุที่ทำให้เราเกิดแผลจากสิวและป้องกันไม่ให้เกิดขึ้น ถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่จะไม่ทำให้เราเป็นแผลเป็นนั่นเอง

สำหรับใครที่รู้สาเหตุที่เป็นแผลเป็นบ่อยแล้วก็ลองเอาเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ นี้ไปปรับใช้กับตัวเองดูนะคะ

ยังไงไว้เรากลับมาเจอกันใหม่ในบทความหน้านะคะ บ๊ายบายค่าา~