ชาวซิสจ๋าา ตอนนี้มีใครกำลัง #หัวร้อน บ้างมั้ยเอ่ย ???
อ๊ะ! พอได้ยินคำถามนี้ไปก็อย่าเพิ่งโมโหหนักกว่าเดิมเพราะคิดว่าเราหาเรื่องนะคะ ที่ถามแบบนี้ก็เพราะว่าจะชวนมาพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องที่ใกล้ตัวมากๆ อย่าง“ ความโกรธ ”นั่นเองเราเชื่อว่าทุกคนบนโลกนี้ต่อให้จะเป็นคนใจเย็นหรือมองโลกในแง่บวกขนาดไหน ก็ต้องมีบางช่วงเวลาที่รู้สึกหงุดหงิด โมโห หรือฟิวส์ขาดกับบางสถานการณ์หรือบางคนเหมือนกันแน่นอนซึ่งอารมณ์โกรธไม่ใช่เรื่องผิดปกติอะไรหรอกนะ แต่ถ้าเพื่อนๆ ปล่อยให้อารมณ์โกรธครอบงำหรืออยู่เหนือเหตุผล ก็อาจทำให้ตัดสินใจพูดหรือทำบางสิ่งบางอย่างที่ตัวเราเองต้องมานั่งเสียใจทีหลัง และคิดว่าไม่ควรทำสิ่งนั้นๆ ก็เป็นได้
สำหรับใครที่รู้ตัวว่าเป็นคนหัวร้อนเก่งมากๆวันนี้เราก็ลิสต์7 วิธีจัดการ “ ความโกรธ ”มาให้ได้อ่านและลองนำไปทำตามกัน จะได้ช่วย Cool Down ให้ตัวเองรู้สึกใจเย็นลงและควบคุมอารมณ์ได้ดีขึ้นถ้าอยากรู้ว่าควรรับมือกับอารมณ์โกรธยังไงบ้าง ก็ตามไปดูคำตอบพร้อมกันได้เลยค่าา・・・・・・
☰ แชร์ 7 วิธีจัดการ “ ความโกรธ ” รู้สึกใจเย็นลงและควบคุมอารมณ์ได้ดีขึ้น ☰
➀ เริ่มต้นนับ 1 - 10 ในใจ

เมื่อไหร่ก็ตามที่เจอกับคนหรือสถานการณ์ที่ทำให้รู้สึกโกรธ โมโห หรือไม่พอใจ ก็อย่าเพิ่งพุ่งตัวไป #หยุมหัว ฝ่ายตรงข้ามเด็ดขาดเลยนะคะ เราแนะนำให้ลองทำตามวิธีจัดการความโกรธด้วยการนับเลข 1 - 10 ในใจหรือถ้ามันเป็นเรื่องที่ทำให้โกรธมากๆ จนอยากปรี๊ดแตกก็ให้นับถึง 1 - 100 วนไปเรื่อยๆ เลยก็ได้ค่ะเพราะการนับเลขในใจมันจะช่วยให้เราหันมาจดจ่อและใช้สมาธิไปกับการนับตัวเลข มากกว่าที่จะสนใจสิ่งที่กระตุ้นให้รู้สึกโกรธ แถมการนับเลขในใจมันยังช่วยให้อัตราการเต้นของหัวใจช้าลงกว่าตอนที่โกรธจัดจนหัวใจเต้นรัวๆจนระดับความโกรธค่อยๆ เบาบางลงไปในที่สุดค่ะ
➁ ปลีกตัวออกมาเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ

ถ้าเพื่อนๆ รู้สึกโกรธหรือกำลังทะเลาะกับใครอยู่ ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว เพื่อน หรือคนรัก การเผชิญหน้าหรือเถียงกันไปมาอาจไม่ใช่ทางออกที่ดีสักเท่าไหร่นะคะ เพราะมันจะทำให้สถานการณ์ลุกลามบานปลาย แถมไม่ต่างอะไรจากการราดน้ำมันบนกองไฟ ที่ยิ่งเถียงก็ยิ่งทำให้อารมณ์โกรธของทั้งสองฝ่ายเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยนะ ทางที่ดีถ้าอยากจัดการกับความโกรธและทำให้ตัวเองใจเย็นลงก็ควรปลีกตัวออกมาจากสถานการณ์หรือคนที่ทำให้เรารู้สึกโกรธเพื่อเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศ ลดความตึงเครียด และตัวเราเองก็ได้มีช่วงเวลาผ่อนคลายร่างกายและจิตใจให้สงบขึ้น โดยอาจบอกกับอีกฝ่ายว่าขอเวลาไปทำใจให้เย็นลงกว่านี้ก่อนแล้วค่อยกลับมาคุยกับใหม่อีกครั้งก็จะช่วยทำให้สถานการณ์แย่ๆ ดีขึ้นค่ะ
➂ อย่าอยู่เฉยๆ พยายามขยับตัว

เวลาที่มีเรื่องรบกวนจิตใจจนหงุดหงิด หรือมีใครมาสะกิดต่อโกรธให้สั่นแรงมาก บางครั้งการนั่งนิ่งๆ อยู่กับที่ อาจทำให้เรายิ่งคิดวนเวียนเกี่ยวกับสิ่งที่ทำให้รู้สึกโกรธซ้ำไปซ้ำมาจนความโกรธมันรุนแรงขึ้น แล้วหนึ่งในวิธีจัดการกับความโกรธที่ได้ผลดีสุดๆ ก็คือการขยับตัวหรือออกกำลังกายค่ะ โดยการออกกำลังกายไม่ได้มีดีแค่ช่วยทำให้ร่างกายแข็งแรงหรือส่งผลดีต่อสุขภาพเท่านั้นแต่ยังช่วยกระตุ้นการหลั่ง “ เอ็นโดรฟิน ” หรือสารแห่งความสุขออกมามากขึ้น ส่งผลให้อารมณ์ดี จิตใจแจ่มใส มีความคิดในทางบวก และช่วยลดอารมณ์โกรธได้ด้วยค่ะรู้แบบนี้แล้วเพื่อนๆ ที่กำลังเจอวันแย่ๆ ก็รีบลุกขึ้นมาออกกำลังกายด่วนๆ เลย
➃ ระวังคำพูดเวลาโกรธจัด

ขอเดาว่าต้องมีชาวซิสหลายคนที่เวลาโกรธจัดแล้วชอบพูดไม่คิด จนต้องมานั่งเสียใจทีหลังว่าไม่น่าพูดแบบนั้นออกไปเหมือนกันแน่ๆเราจึงอยากแนะนำว่าถ้ารู้ตัวว่าตัวเองกำลังโกรธมากๆ ก็ต้องระมัดระวังคำพูดให้ดีๆ เพราะคำพูดบางอย่างที่หลุดปากออกไปด้วยความโกรธ มันอาจยิ่งทำให้สถานการณ์บานปลายจนทะเลาะกันใหญ่โต หรือทำร้ายความรู้สึกของอีกฝ่ายจนทำลายความสัมพันธ์ระหว่างกันได้ง่ายๆดังนั้น ถ้ารู้ว่าตัวเองชอบด่าหรือพูดจาแรงๆ ใส่คนอื่นเวลาโกรธเป็นประจำก็ต้องรูดซิปปากให้สนิท รอให้ทั้งเราและเขาใจเย็นลงก่อน แล้วค่อยหันหน้ามาพูดคุยอีกครั้งจะดีกว่านะคะ
➄ จัดการความคิดติดลบ

ลองนึกดูสิว่าถ้าเพื่อนๆ กำลังอยู่ในโหมดโกรธจนตัวสั่น แล้วยิ่งคิดแต่เรื่องแย่ๆ ในหัวก็มีแต่จะยิ่งทำให้โกรธหนักขึ้นกว่าเดิมเท่านั้นแหละค่ะ เพราะฉะนั้นวิธีจัดการกับความโกรธที่จะช่วยทำให้รู้สึกใจเย็นลงก็คือการหยุดความคิดติดลบทั้งหลายไม่ให้รบกวนจิตใจของตัวเองเช่น ถ้ารู้สึกโมโหกับปัญหารถติด แทนที่จะหัวฟัดหัวเหวี่ยงอยู่หลังพวงมาลัย หรือสบถคำด่าออกมาดังๆ ก็ให้ทำความเข้าใจว่าช่วงเวลาเร่งด่วนอาจเจอปัญหารถติดเป็นเรื่องปกติ เป็นต้น ซึ่งการมองสิ่งต่างๆ ตามความเป็นจริงและใช้เหตุผล โดยไม่ใส่อารมณ์หรือความคิดแง่ลบของตัวเองลงไป ก็จะช่วยทำให้เราใจเย็นขึ้นเยอะเลยค่ะ
➅ ฝึกหายใจช้าๆ ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายขึ้น

เคยสังเกตตัวเองหรือคนรอบข้างบ้างรึเปล่าว่า เวลาที่รู้สึกโกรธเราจะหายใจเร็วขึ้นและหัวใจเต้นเร็วขึ้นกว่าตอนปกติหลายเท่าเลยล่ะ แบบนี้วิธีที่จะช่วยจัดการกับความโกรธอีกหนึ่งข้อที่เราอยากชวนเพื่อนๆ ทำตามกันก็คือการฝึกหายใจเข้า - ออกช้าๆ เพื่อช่วยทำให้รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นค่ะซึ่งประโยชน์ของการฝึกหายใจช้าๆ นอกจากจะช่วยทำให้เราจดจ่อกับลมหายใจเข้า - ออกของตัวเอง และสนใจสิ่งที่กระตุ้นให้รู้สึกโกรธน้อยลงแล้ว การหายใจช้าๆ ลึกๆ ยังช่วยเพิ่มออกซิเจนและทำให้อัตราการเต้นของหัวใจช้าลงด้วยโดยอาจลองใช้เทคนิคฝึกหายใจแบบ 4 - 7- 8 ด้วยการหายใจเข้าทางจมูกแล้วนับ 1 - 4 จากนั้นก็เก็บลมหายใจแล้วนับ 1 - 7 เสร็จแล้วก็หายใจออกทางปากแล้วนับ 1 - 8 เทคนิคนี้จะช่วยคลายเครียดให้รู้สึกผ่อนคลาย แถมยังช่วยให้นอนหลับง่ายขึ้นอีกด้วยค่ะ
➆ ลองนึกถึงใจเขาใจเรา

สำหรับบางคนเวลาโกรธหรือโมโหเรื่องไหนก็ตาม ก็มักจะนึกถึงความคิดหรือความรู้สึกของตัวเองอยู่ฝ่ายเดียว โดยไม่สนใจเหตุผลหรือความรู้สึกของคนอื่นๆ จนทำให้สถานการณ์มันยิ่งแย่เข้าไปใหญ่ แล้วถ้าไม่อยากปล่อยให้อารมณ์โกรธทำร้ายตัวเองและคนรอบข้าง เพื่อนๆ ก็ไม่ควรปล่อยให้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผล หยุดเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางของจักรวาล และลองนึกถึงใจเขาใจเราดูบ้างไม่แน่ว่าการเปิดใจรับฟังความคิดของอีกฝ่ายอย่างใจเย็น อาจช่วยทำให้เราเข้าใจเขามากขึ้น รวมทั้งรู้ว่าสาเหตุของปัญหามันเกิดจากตรงไหน และหาทางปรับความเข้าใจระหว่างกันได้ง่ายขึ้นด้วยค่ะ
・・・・・・
และนี่ก็คือวิธีจัดการความโกรธที่เราหยิบมาแชร์กับชาวซิสในวันนี้ค่ะ อย่างที่เราบอกไปแล้วว่าความโกรธเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน เพราะมนุษย์เรามีอารมณ์และความรู้สึกที่หลากหลาย แตกต่างกันไปตามแต่ละสถานการณ์ที่พบเจอขอเพียงแค่เพื่อนๆ รู้จักจัดการกับความโกรธของตัวเองให้เป็น อย่าปล่อยให้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผลและความถูกต้อง พร้อมหาวิธีที่ช่วยทำให้ใจเย็นลง เช่น ฝึกหายใจช้าๆ นับเลขในใจ ออกกำลังกาย ฯลฯ เท่านี้ก็ช่วยหยุดอาการหัวร้อนให้รู้สึกคูลเหมือนอากาศช่วงหน้าหนาว และทำให้สถานการณ์แย่ๆ ที่ตึงเครียดพลิกกลับมาดีขึ้นได้แน่นอนค่าา ♥
Cr. How to Control Anger: 25 Tips to Help You Stay Calm
https://www.healthline.com/health/mental-health/how-to-control-anger#1
Cr. 11 Anger Management Strategies to Help You Calm Down
https://www.verywellmind.com/anger-management-strategies-4178870