ว่าด้วยเรื่อง ' อาการตอนเป็นเมนส์ ' แบบไหนเรียกปกติ / ไม่ปกติ เช็กแล้วไปพบแพทย์ก็ดีนะ
เคยสังเกตมั้ยเวลาเป็นเมนส์ทีนึง มันปกติดีรึเปล่า เพราะอาการเป็นเมนส์มันมีหลายแบบนะ ทั้งสีของเมนส์ ก็มีหลายสี แล้วแบบไหนที่เรียกว่าปกติ หญิงงงจังค่ะคุณพี่! วันนี้เรามาไขข้อข้องใจกัน อย่ามองว่าเป็นเรื่องไกลตัว เพราะเมนส์ เป็นเรื่องใกล้ตัวของสาวๆ ที่สุด!
เผยแพร่: 17 พ.ย. 2565 19:00 น.
Views: 1,921
รหัสบทความ: 92724
เกิดเป็นผู้หญิง สิ่งที่ทำให้เราหนักใจและเจ็บปวดมากที่สุด นอกจากการคลอดลูกแล้ว ก็คือการเป็นเมนส์นี่แหละค่ะ วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ชาวซิสไปทำความรู้จักน้องเมนส์กันค่ะประจำเดือนแบบไหนที่เรียกว่ามาปกติและประจำเดือนแบบไหนที่เรียกว่ามาผิดปกติอาการของผู้หญิงเวลามีเมนส์เป็นยังไง แล้วสีของประจำเดือน สีแบบไหนที่เรียกได้ว่าอันตรายวันนี้จะไขข้อข้องใจให้เพื่อนๆ ได้เก็ทกันทุกเรื่องเลยค่ะ พร้อมยัง? ถ้าพร้อมแล้ว ไปทำความรู้จักน้องเมนส์กันเลย!
ว่าด้วยเรื่องอาการตอนเป็นเมนส์แบบไหนเรียกปกติ / ไม่ปกติ เช็คแล้วไปพบแพทย์ก็ดีนะ
เข้าใจอาการ PMS ของคนมีประจำเดือน และเช็กอาการประจเดือนที่อาจเกิดขึ้นได้
เรามักจะได้ยินหนุ่มๆ พูดกันบ่อยมากว่าอย่าไปถือสาภรรยา หรือแฟน หรือเพื่อนผู้หญิงเลย เพราะเวลาใกล้จะเป็นประจำเดือน พวกเธอมักจะมีอาการ PMS อารมณ์จะไม่ค่อยคงที่นี่ก็เอ๊ะ! PMS คืออะไร เชื่อว่ามีหลายๆ คนอาจจะยังไม่เก็ทเหมือนกัน ใช่มั้ยPMSหรือPremenstrual Syndromeเป็นอาการที่จะเกิดก่อนมีประจำเดือนของสาวๆ โดยเฉพาะช่วงอายุ 20 - 40 ปี ซึ่งอาการนี่ ไม่ได้หนักหนาอะไรค่ะเป็นอาการที่จะทำให้เรารู้สึกเหมือนว่าตัวเองป่วย ไม่สบายตัว มีอารมณ์หงุดหงิด เหวี่ยงวีนง่ายกว่าปกติโดยมักจะเป็นในช่วงก่อนมีประจำเดือนประมาณ 5 - 11 วัน และอาการจะเริ่มดีขึ้นเอง หลังหมดประจำเดือนมาได้ 4 - 7 วัน เพราะฉะนั้นใครที่มีอาการจิตตกช่วงก่อนมีเมนส์ ไม่ต้องกังวลนะ เดี๋ยวพอเมนส์หมด อะไรๆ ก็ดีขึ้นเองค่ะแต่ในขณะเดียวกันก็มีหลายอาการที่ต้องคอยดูว่านี่มันอาการเป็นเมนส์ที่ปกติจริงๆ หรือไม่ เช่นการปวดท้องที่มากเกินไป หรือการไม่เคยปวดท้องเลยนี่ก็ต้องระวังเหมือนกันเอาเป็นว่าเราลองมาเช็กกันดูหน่อยว่าอาการช่วงก่อนและระหว่างที่มีประจำเดือน จะมีอะไรบ้าง และมีเรื่องไหนบ้างที่ควรเช็กว่ายังปกติมั้ย ลองไปดูค่ะซิส
1. ช่วงเวลาเป็นเมนส์ ปกติต้องมากี่วัน กี่ครั้ง
โดยปกติแล้ว เราควรมีประจำเดือนไม่เกิน 7 วันต่อรอบ และมาเพียง 1 ครั้ง ต่อเดือนแต่บางครั้งหากเพื่อนๆ คนไหนที่มีรอบเดือนในช่วงต้นเดือน อาจมีรอบเดือนอีกครั้งในช่วงวันท้ายๆ ของเดือนได้ นอกจากนี้ เรามักจะเคยเห็นผู้หญิงบางคน นับวันมีประจำเดือนใช่มั้ย เพราะโดยเฉลี่ยแล้ว แต่ละรอบประจำเดือนจะห่างกัน 28 วันแต่สามารถเป็นได้ตั้งแต่ 21 ถึง 35 วัน โดยในแต่ละคนควรมีรอบเดือนที่สม่ำเสมอในทุกๆ เดือน แต่ว่าในกรณีนี้ อาจจะใช้ไม่ได้กับคนที่เพิ่งเริ่มมีเมนส์หรือกับคนที่วัยประจำเดือนใกล้จะหมดนะ เพราะคนทั้งสองประเภทนี้ มักจะมีประจำเดือนที่ค่อนข้างคลาดเคลื่อนนั่นเองค่ะทั้งนี้ปริมาณประจำเดือน ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่หลายๆ คนตั้งคำถาม ว่ามาขนาดไหนถึงจะเรียกว่าปกติโดยปกติแล้ว ประจำเดือนไม่ควรเกิน 80 ซีซี โดยค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 35 ซีซีต่อรอบถ้าเทียบง่ายๆ ก็คือเทียบได้กับผ้าอนามัยประมาณ 3-4 ผืนต่อวันนั่นเอง
2. ถ้าเลือดมามาก ผิดปกติ หรือควรจะไปพบแพทย์!
เราเชื่อว่า มีอยู่หลายคนเลยที่มีเมนส์มากกว่าปกติ มากซะจนน่ากลัว! ลองมาดูกันหน่อยว่าการมีประจำเดือนที่ออกมามากซะจนผิดปกติแบบไหนกันนะ ที่นิ่งนอนใจไม่ได้ และควรไปปรึกษาแพทย์ด่วน!บางคนเลือดมาปกติเลยนะ แต่พอมาทีกลับออกเยอะมาก! มากซะจนผิดปกติไปเลย เปลี่ยนผ้าอนามัยหลายแผ่นต่อวันทั้งยังมีลิ่มเลือดปน เริ่มมีอาการเวียนศีรษะ หน้ามืด เป็นลม รวมถึงตรวจพบว่ามีภาวะเลือดจางอีก แบบนี้ต้องรีบไปปรึษาคุณหมอนะ หรือเพื่อนๆ คนไหนที่มีเมนส์ยาวนานสุด! คนปกติต้องไม่เกิน 7 วัน แต่ซิสกลับมา 10 วันโอ้โห! ไม่ไหวนะ หรือใครที่เลือดออกน้อยเกินไป ก็ไม่ดีอีก มาครั้งนึงก็มีกะปริบกะปรอย แม้กระทั่งหมดวันประจำเดือนแล้ว เลือดก็ยังออกกะปริบกะปรอยอยู่นั่นแหละ ทั้งนี้ยังรวมไปถึงคนที่เลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ หรือบางคนหมดประจำเดือนไปแล้ว ก็ยังมีเลือดออกมาอีก รวมไปถึงคนที่ประจำเดือนไม่มาตามรอบ หรือประจำเดือนไม่มาติดต่อกันหลายเดือนใครที่มีปัญหาเหล่านี้ อย่านิ่งนอนใจ ต้องรีบไปปรึกษาแพทย์ เพื่อหาทาแก้ปัญหานะ อย่าปล่อยไว้ จนเรื้อรังนะจ๊ะ
3. อาการปวดท้อง ท้องเสีย ของคนเป็นเมนส์
ส่วนใหญ่แล้วการปวดท้องเมนส์ มักจะเกิดก่อนที่ประจำเดือนจะมาประมาณ 1 - 2 วันหรือจะปวดขณะที่มีประจำเดือนแค่ไม่กี่วันเท่านั้นซึ่งอาการปวดของแต่ละคนจะไม่เหมือนกันนะบางคนอาจจะปวดมาก บางคนก็ปวดน้อย บางคนอาจมีอาการปวดร้าวไปถึงหลัง และบริเวณต้นขานอกจากนี้ยังมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น คลื่นไส้ อาเจียน เวียนศีรษะ ถ่ายเหลว เป็นต้นซึ่งสาเหตุที่เราต้องปวดท้องเวลามีเมนส์นั้นเกิดมาจากการบีบตัวของกล้ามเนื้อมดลูก เพื่อให้ร่างกายขับเนื้อเยื่อภายในมดลูกออกมาเป็นประจำเดือนนั่นเอง แต่ว่า! การปวดประจำเดือนที่รุนแรงมากๆ ไม่ใช่เรื่องที่ดีนะคะ เพราะการปวดท้องประจำเดือน ไม่ได้บ่งบอกแค่ว่าเรากำลังเป็นเมนส์เพียงอย่างเดียว แต่อาจจะเป็นสัญญาณของโรคอื่นๆ ด้วยก็ได้ ใครที่มีประจำเดือนมามากกว่าปกติ คือเกิน 7 วันขึ้นไป ควรรีบไปปรึษาคุณหมอนะ หรือถ้าเพื่อนๆ มีอาการปวดท้องที่รุนแรงมากๆ แล้วแรงขึ้นทุกเดือนๆอย่างนิ่งนอนใจเด็ดขาด เพราะนี่เป็นอาการเบื้องต้น สัญญาณอันตรายของโรคช็อกโกแลตซีสต์และอาจเกิดขึ้นจากปัญหาเกี่ยวกับอวัยวะสืบพันธุ์อื่นๆ ได้เพราะฉะนั้นใครที่รู้ตัวแล้วว่า อาการปวดเมนส์ไม่ปกติ ควรรีบไปปรึกษาแพทย์และตรวจที่โรงพยาบาลนะคะ
แล้วถ้าเป็นเมนส์แต่ดันท้องเสีย มันคืออะไร ผิดปกติรึเปล่า??ไม่ผิดปกติค่ะ เพราะช่วงก่อนและช่วงที่กำลังมีประจำเดือน เป็นช่วงที่ร่างกายของเรามีความเปลี่ยนแปลง ซึ่งเกิดจากฮอร์โมนล้วนๆ ซึ่งอาการที่พบส่วนใหญ่ก็จะมีทั้งอาการคัดตึงหน้าอก อารมณ์หงุดหงิด มีสิวขึ้นบริเวณใบหน้า นอกจากนี้บางรายอาจมีอาการท้องเสียร่วมด้วยสาเหตุที่ทำให้เราท้องเสียตอนเป็นประำจเดือน เกิดจากในร่างกายมีการหลั่งสารที่ชื่อว่า“โพรสตาแกลนดิน” ( Prostaglandins )มากขึ้น ซึ่งส่งผลให้มดลูกและลำไส้หดตัว เลยทำให้รู้สึกปวดท้องประจำเดือนและมีอาการท้องเสียขึ้นได้แต่ไม่ต้องกังวลค่ะ ไม่มีอะไรน่ากลัวนะวิธีป้องกันและลดอาการท้องเสียช่วงมีประจำเดือนง่ายมากๆ เลย เพียงแต่ทานอาหารที่มีไฟเบอร์มากขึ้น หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอีน นม และอาหารรสจัด ควรดื่มน้ำสะอาดให้มากๆ หน่อย เพื่อทดแทนน้ำที่สูญเสียไปตอนขับถ่าย เท่านี้ก็ช่วยได้แล้ว
4. ประจำเดือนมาเป็นก้อน
สำหรับเพื่อนๆ ที่เมนส์มาเป็นก้อนลิ่มเลือดอาจจะรู้สึกตกใจ จิตตกบ้าง ซึ่งการที่ประจำเดือนเป็นลิ่มเลือด เกิดจากร่างกายไม่สามารถขับเลือดประจำเดือนออกมาได้ทัน ทำให้เลือดประจำเดือนค้างสะสมอยู่ในช่องคลอดปกติแล้วจะพบไม่บ่อยนะ ยกเว้นช่วงที่ประจำเดือนมากมากกว่าปกติ อาจจะทำให้เกิดลิ่มเลือดได้ ในกรณีนี้ถือว่าไม่ผิดปกติ และสามารถเกิดขึ้นได้กับสาวๆ ทุกคน แต่ว่าก็ยังมีสาเหตุอื่นๆ ที่อาจทำให้เกิดประจำเดือนเป็นลิ่มได้อีกเช่นเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ อาการของโรค PCOS สัญญาณของอาการเนื้องอกในมดลูก และอื่นๆคราวนี้ก็จะดูร้ายแรงขึ้นแล้วค่ะ แม้เรื่องนี้จะเป็นเรื่องที่ดูเหมือนปกติ แต่ถ้าหากลิ่มเลือดนั้นมีขนาดใหญ่ และเป็นติดต่อกันทุกเดือนจนผิดสังเกต หรือมีสีและกลิ่นที่ผิดแปลกไปจากเดิมความปกติ อาจจะไม่ปกติก็เป็นได้ ฉะนั้นควรสังเกตตัวเองให้ดี หากพบความผิดปกติใดๆ ควรรีบไปพบแพทย์นะคะ
5. สีของประจำเดือน
นี่ก็เพิ่งเคยรู้เหมือนกันนะว่า ประจำเดือนมีหลายสีด้วย เข้าใจมาตลอดว่า มีแค่สีเดียวคือ สีแดง แต่รู้มั้ยว่าสีของประจำเดือนแต่ละสี บ่งบอกบางอย่างให้กับสาวๆ อย่างเราได้ด้วยจะมีสีอะไรบ้าง เราไปดูพร้อมๆ กันเลย!●สีแดงสด สีแดงคล้ำเป็นสีปกติ เพราะส่วนใหญ่แล้ว เลือดประจำเดือนสีแดงสดและสีแดงคล้ำจะเป็นในช่วง 1 - 3 วันแรกของการเป็นประจำเดือน หรือ ที่เรียกกันว่าวันมามากนั่นเองค่ะ แต่ว่าจะต้องเป็นสีของประจำเดือนจริงๆ นะ ใดๆ ก็ควรเช็กด้วยว่า นี่คือวันที่เรามีเมนส์จริงๆ ถ้าเลือดออกนอกเหนือจากวันเป็นเมนส์ อันนี้ไม่ปกติแล้วค่ะ ต้องไปพบแพทย์!●สีน้ำตาลอ่อน น้ำตาลเข้มนี่ก็เป็นสีปกติของประจำเดือนเช่นเดียวกันค่ะ ซึ่งสีแบบนี้ เราจะพบกันบ่อยๆ ช่วงวันใกล้หมดประจำเดือนเพราะเลือดมีการค้างอยู่ในมดลูกนานจึงทำให้เลือดที่ถูกขับออกมามีสีคล้ำขึ้นตามกลไกปกติของร่างกายเท่านั้นเอง●สีชมพูแดงสีนี้นับว่าเป็นสีที่ผิดปกติ โดยส่วนใหญ่แล้วจะเกิดจากการที่เรามีบาดแผลในช่องคลอด หรือการที่ฮอร์โมนเพศหญิงบางชนิดมีความปั่นป่วน เนื่องจากความเครียด ใช้วิธีคุมกำเนิดแบบฮอร์โมน รวมไปถึงสัญาณของวัยหมดประจำเดือนด้วย●สีเทา ผสมเขียวเข้มสีนี้ก็ผิดปกติเช่นเดียวกัน ซึ่งถือว่าค่อนข้างร้ายแรง เพราะสีนี้จะบ่งบอกถึงการติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน หรือภาวะช่องคลอดอักเสบจากแบคทีเรียที่มีมากไป โดยจะต้องสังเกตร่วมกับอาการผิดปกติอื่นๆ ด้วย เช่น มีไข้ ปวดท้องน้อย ใครที่มีประจำเดือนสีนี้ ควรรีบไปพบแพทย์นะ●สีส้มนี่ก็เป็นอีกหนึ่งสัญญาณเตือนของร่างกาย หากใครที่ประจำเดือนเปลี่ยนเป็นสีส้ม ควรรีบถึงที่สุดที่จะไปตรวจทันที เพราะนี่อาจจะเป็นการติดเชื้อภายในช่องคลอด ซึ่งเกิดจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ หรือเชื้อกลุ่ม STD / STI โดยเฉพาะถ้ามีอาหารปวดท้องหรือเลือดมีกลิ่นแปลกไป ยิ่งต้องรีบไปตวรจแบบด่วนที่สุด!
เป็นยังไงกันบ้าง วันนี้ได้รู้เรื่องของเมนส์ หรือประจำเดือนกันไปเยอะแยะเลยว่ามั้ย จริงๆ แล้วแม้เรื่องนี้จะเป็นเรื่องปกติมากๆ สำหรับผู้หญิงอย่างเรา แต่บางครั้ง อาการปกติก็มักจะแฝงไปด้วยอาการที่ไม่ปกติได้เช่นกัน ฉะนั้นเพื่อนๆ ควรสังเกตตัวเองทุกครั้งนะ หากพบความผิดปกติไม่ว่ามากน้อยแค่ไหน ก็ควรรีบไปปรึกษาคุณหมอนะคะสำหรับวันนี้ต้องลาไปก่อนแล้ว บ๊ายบายจ้ะ