เชื่อว่าเพื่อน ๆ ร้อยทั้งร้อยที่ผ่านเข้ามาอ่านบทความนี้ต้องเจอกับปัญหา “ผิวเเห้ง” กันอย่างหนัก เกินจะเยียวยา หนักชนิดที่ว่าเเค่การทาครีมหรือบำรุงภายนอกเพียงอย่างเดียวนั้นไม่เพียงพอเเล้ว การเข้ามาอ่านบทความนี้คือสิ่งที่ถูกต้องเเล้วค่ะ เพราะวันนี้เราจะมาเเนะนำ “ วิตามินบำรุงผิว ” ตัวช่วยเเก้ปัญหาผิวเเห้งที่ถูกจุด คือการเเก้จากภายในด้วยการเติมสารอาหารที่ผิวที่ต้องการด้วยวิตามินมีคุณสมบัติในการเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว เพื่อเเก้ปัญหาผิวเเห้ง ก่อนจะลุกลามไปเป็นโรคทางผิวหนังได้นั่นเอง
ครั้งนี้จะมีวิตามินตัวไหนที่เราจะมาป้ายยากันบ้าง ถ้าพร้อมเเล้วมาดูกันเลย!
✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿
6 วิตามินบำรุงผิว เเก้ปัญหา “ผิวเเห้ง เเตกเป็นขุย” จากภายใน
❶ น้ำมันดอกอีฟนิ่งพริมโรส (evening primrose)

น้ำมันดอกอีฟนิ่งพริมโรส อีกหนึ่งวิตามินที่สายความงามน่าจะรู้จักกันดี ซึ่งอุดมไปด้วยกรดไขมันจำเป็นชนิดไม่อิ่มตัว กลุ่มโอเมก้า 6 อยู่ด้วยกัน 2 ชนิด คือ กรดไลโนเลอิค (LA) และกรดแกมมาไลโนเลนิค (GLA) ซึ่งเป็นกรดไขมันที่ร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้ มีคุณสมบัติช่วยในการบำรุงผิว ชะลอความเสื่อมของผิว อีกทั้งยังช่วยรักษาความชุ่มชื้นของผิวและช่วยลดอาการอักเสบ คัน ผื่นแดง สะเก็ดเงินรวมถึงยังป้องกันผิวแห้งจนขาดน้ำอีกด้วย
➋ วิตามินอี (Vitamin E)
อีกหนึ่งวิตามินที่ช่วยเเก้ปัญหาผิวเเห้งได้เป็นอย่างดี คือ วิตามินอี โดยจะมีคุณสมบัติจะช่วยคืนความชุ่มชื้นให้กับผิว ทำให้ผิวมีความสมดุลเเละมีเกราะป้องกันที่เเข็งเเรงมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้วิตามินอียังมีบทบาทในการลดการอักเสบของผิวได้ด้วย จึงช่วยบรรเทาอาการแพ้ เเละอักเสบต่าง ๆ ของผิวหนังได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นปัญหา ผิวแห้ง คัน ลอก แดง ผื่น เป็นต้น นอกจากนี้วิตามินอียังเป็นต้านอนุมูลอิสระที่คุณภาพสูง จึงช่วยลดปัญหาหน้าเเก่ก่อนวัยได้อีกด้วย
➌ น้ำมันปลา (Fish Oil)

ใครว่า น้ำมันปลา มีประโยชน์เเค่บำรุงสมองเพียงอย่างเดียว เพราะจริง ๆ เเล้วสารอาหารชนิดมีคุณสมบัติที่ดีกับหลายระบบของร่างกาย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ ผิวพรรณ ของเรา เนื่องจากสารสำคัญ โอเมก้า-3 ในน้ำมันปลาจะช่วลดอาการคันเเละทำให้เกิดผื่นเเดงน้อยลง จึงช่วยลดการเกิดโรคผิวหนังบางชนิดได้ รวมถึงยังช่วยลดอาการเเห้งกร้าน ไม่เรียบเนียนของผิวได้อีกด้วย
➍ เเอสต้าเเซนธีน (Astaxantin)

หากจะพูดถึงวิตามินที่มาเเรง เเซงทุกทางโค้งที่เป็นตัวเเม่เรื่องต้านริ้วรอย หน้าเด็ก ต้องเป็น เเอสต้าเเซนธีน สารต้านอนูมูนอิสระประสิทธิภาพสูงที่มีฤทธิ์เเรงกว่า วิตามินซี วิตามินอี ชาเขียว เเละเบต้าเคโรทีน จึงช่วยปกป้องเซลล์ผิวจากการถูกทำลาย ชะลอความเสื่อม ช่วยยืดอายุเซลล์ผิวให้มีความแข็งแรงขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดเลือนจุดด่างดำที่เกิดจากความเสื่อมของผิวได้อีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นวิตามินที่ดูเเลภาพรวมของผิวได้ครบทุกด้าน
➎ คอลลาเจน (Collagen)

ถ้าพูดถึงเรื่องผิว คอลลาเจน เป็นอีกหนึ่งไอเทมสำคัญที่หลายคนมีติดบ้าน สำหรับคนผิวเเห้งการกินคอลลาเจนไม่ว่าจะในรูปเเบบชงดื่ม หรือเม็ดเเคปซูล ก็เป็นอีกทางหนึ่งที่จะช่วยให้ผิวกลับมาสุขภาพดีได้ ซึ่งปัจจุบันในท้องตลาดมีคอลลาเจนอยู่หลายประเภท เเต่คอลลาเจนที่จะช่วยเรื่องผิวโดยเฉพาะให้สังเกตจากคำว่า คอลลาเจนชนิดที่ 1 (Collagen Type I) เพื่อให้ได้ประโยชน์กับผิวพรรณโดยตรง
➏ วิตามินเอ (Vitamin A)

เชื่อว่ายังมีอีกหลายคนที่ยังไม่รู้ว่าการขาด วิตามินเอ เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ ผิวเเห้ง เเละตกสเก็ดได้เช่นกัน เนื่องจากวิตามินเอเป็นสารอาหารที่มีส่วนช่วยในกระบวนการเติบโตของผิวหนัง ดังนั้นหากได้รับวิตามินอีไม่เพียงพอ ย่อมเกิดปัญหาสุขภาพด้านผิวหนังตามมาได้ โดยสามารถพบวิตามินเอได้ในเนื้อสัตว์ ตับ ไข่เเดง นม เป็นต้น เเละนอกจากเรื่องผิวเเล้ว วิตามินเอยังช่วยบำรุงดวงตาของเราได้อีกด้วย
เพราะเราเข้าใจคนที่มีปัญหาผิวเเห้งว่ามันทรมาณ เเละส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตขนาดไหน หากกำลังหาวิธีเเก้ลองเลือกการบำรุงจากภายในด้วยวิตามินที่เราเเนะนำในครั้งนี้ไปลองใช้กันได้ เเต่อย่างไรก็ตาม วิธีการบำรุงที่ดีที่สุด คือ การดื่มน้ำให้เยอะ อย่างน้อยวันละ 8 เเก้ว รวมไปถึงควรทำไปพร้อมกับการบำรุงจากภายนอกเพื่อประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น
Comments