แวะพักใจตรงนี้ได้เสมอ! How to วางตัวยังไง ให้เป็นเซฟโซนของคนรอบตัว
ไม่ว่าใครก็ต้องการพื้นที่ปลอดภัยที่อยู่แล้วรู้สึกสบายใจกันทั้งนั้น แล้วนอกจากเราจะสร้างเซฟโซนให้กับตัวเองได้แล้ว ก็ยังสามารถเป็นเซฟโซนให้กับคนอื่นๆ ได้เหมือนกันนะ วันนี้เราจึงหยิบ How to วางตัวยังไง ให้เป็นเซฟโซนของคนรอบตัวมาฝากกันค่าา
เผยแพร่: 25 ม.ค. 2566 18:00 น.
Views: 3,001
รหัสบทความ: 92830
“ บ้านไม่ใช่เซฟโซน ”/“ เพื่อนไม่ใช่เซฟโซน ”/“ แฟนไม่ใช่เซฟโซน ”
ได้ยินคำว่า“ เซฟโซน ”อยู่บ่อยๆ จนชิน แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วคำนี้มันแปลว่าอะไรกันแน่ ???
สวัสดีค่าา วันนี้เราแวะมาส่งเสียงทักทาย พร้อมกับชวนเพื่อนๆ มา Talk เกี่ยวกับประเด็นสุดฮอตกันอีกแล้วนะคะเดี๋ยวนี้ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนๆ จะในชีวิตจริงหรือแม้แต่บนโลกโซเชียล เราก็มักจะได้ยินหรือได้เห็นคำว่าเซฟโซน ( Safe Zone )กันอยู่เสมอเลยนะโดยบางคนอาจพอรู้คร่าวๆ มาบ้างแล้วว่าเซฟโซนคือพื้นที่ปลอดภัย ซึ่งเป็นสิ่งที่เราทุกคนต้องการแวะไปพักใจในวันที่รู้สึกเคว้ง เครียด เศร้า หรือเหนื่อยล้าวันนี้เราจึงอยากพาชาวซิสไปทำความรู้จักกับเซฟโซนให้มากขึ้นกว่าเดิมว่ามันคืออะไรแล้วถ้าอยากจะวางตัวให้เป็นเซฟโซนของคนรอบข้างจะต้องทำยังไงบ้างอย่ามัวรอช้าแล้วรีบตามไปดูได้เลย
●●●●●●●
【 Safe Zone คืออะไร ? 】
เริ่มต้นด้วยการตอบคำถามฮิตที่ว่าเซฟโซนเซฟใจมันคืออะไรก่อนเลยดีกว่าค่ะ สำหรับนิยามของคำว่าเซฟโซน ( Safe Zone )คือพื้นที่ปลอดภัยที่ทำให้เรารู้สึกปลอดภัยจากการถูกตัดสินหรือสายของคนอื่นๆไม่ต้องกังวลว่าเขาเหล่านั้นจะคิดหรือรู้สึกกับเรายังไงรวมทั้งรู้สึกปลอดภัยจากการกล่าวโทษหรือต่อว่าตัวเองพร้อมที่จะเป็นแค่คนธรรมดาๆ คนหนึ่งที่อาจไม่สมบูรณ์แบบ มีบางช่วงเวลาที่ทำผิดพลาด มีอารมณ์ที่หลากหลาย ทั้งสุข เศร้า เหงา โกรธ ฯลฯเรียกง่ายๆ ว่าเซฟโซนเป็นสภาวะที่เรารู้สึกปลอดภัย อุ่นใจ สบายใจ และยอมรับทุกอย่างที่ตัวเองเป็นได้ทั้งในเชิงบวกและเชิงลบนั่นเองค่ะ
【 คนเรามี Safe Zone แบบเดียวกันรึเปล่า ? 】
แล้วสำหรับคนที่สงสัยว่าคนเราทุกคนมีเซฟโซนแบบเดียวกันรึเปล่า ? ทางเราก็ขอตอบเลยว่าไม่จำเป็นเสมอไปค่ะ เพราะเซฟโซนหรือพื้นที่ปลอดภัยไม่ได้หมายถึงแค่สถานที่แห่งใดแห่งหนึ่งเท่านั้นแต่ความจริงแล้วเซฟโซนของคนเราเป็นได้ทั้งสถานที่ บุคคล สิ่งรอบตัว หรือกิจกรรมที่ทำให้เรารู้สึกสบายใจและปลอดภัยเมื่อได้อยู่ในจุดนั้นๆเซฟโซนของแต่ละคนจึงมีความแตกต่างกันออกไปเช่น บางคนอาจรู้สึกว่าห้องนอนเป็นเซฟโซนที่ทำให้รู้สึกปลอดภัย บางคนอาจมีสัตว์เลี้ยงสุดรักเป็นเซฟโซนที่ช่วยเยียวยาใจ บางคนรู้สึกผ่อนคลายสบายใจเวลาที่ได้อ่านหนังสือเงียบๆ คนเดียว บางคนอาจมีเพื่อนสนิทเป็นเซฟโซนที่สามารถพูดคุยและระบายสิ่งต่างๆ ให้ฟังได้ เป็นต้น
【 แล้วถ้าอยากจะสร้าง Safe Zone ต้องทำยังไงบ้าง ? 】
ชีวิตในแต่ละวันของคนเราต้องพบเจอกับสิ่งต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์ที่หลากหลาย หรือผู้คนมากหน้าหลายตาที่แวะเวียนเข้ามาให้เจอ ซึ่งในบางครั้งก็ได้เจอกับสิ่งดีๆ คนดีๆ ที่ทำให้รู้สึกมีความสุขเหมือนได้รับพลังบวก และในหลายครั้งก็มีเรื่องหรือคนเข้ามาเป็นตัวการทำให้ทุกข์ใจ จนรู้สึกเหนื่อยล้า อ่อนแอ จิตใจเปราะบาง และต้องการพื้นที่ปลอดภัยที่สามารถพักใจได้
แล้วหากวันไหนก็ตามที่เพื่อนๆ รู้สึกอ่อนไหวมากๆ แล้วอยากจะสร้างเซฟโซนให้กับตัวเองสิ่งแรกที่ต้องทำให้ได้ก็คือเริ่มต้นจากการยอมรับความรู้สึกของตัวเองให้ได้ก่อนทำความเข้าใจอารมณ์และความคิดของตัวเอง ณ ขณะนั้นว่าเรากำลังรู้สึกยังไง มีสาเหตุมาจากอะไรเพราะการมองเห็นความรู้สึกของตัวเองได้อย่างชัดเจนจะช่วยให้เรามองหาเซฟโซนที่อยู่แล้วรู้สึกปลอดภัยและสบายใจได้ง่ายขึ้นไม่ว่าจะเป็นมุมเล็กๆ มุมหนึ่ง การทำกิจกรรมต่างๆ หรือแม้แต่การระบายให้คนที่เรารู้สึกไว้ใจได้รับฟังก็อาจช่วยให้ตัวเราเองเห็นมุมมองที่แตกต่างออกไปจากที่เคยเห็น และกลับมารู้สึกปลอดภัยได้อีกครั้ง
แล้วนอกจากเราจะสร้างเซฟโซนให้กับตัวเองไว้สำหรับพักพิงในวันที่อ่อนล้าได้แล้ว ตัวเราเองยังสามารถเป็นเซฟโซนของคนอื่นๆ เพื่อช่วยให้เขาเหล่านั้นรู้สึกอุ่นใจขึ้นได้ด้วยเหมือนกันนะ ถ้าอยากรู้ว่าจะต้องทำยังไงก็ตามไปดูฮาวทูวางตัวเป็นเซฟโซนของคนรอบตัวที่เราหยิบมาแชร์กันได้เลย
【 How to วางตัวยังไง ให้เป็นเซฟโซนของคนรอบตัว 】
« วิธีเป็นเซฟโซนให้คนที่บ้าน »
นอกจากบ้านจะต้องมีความมั่นคงแข็งแรงในด้านโครงสร้าง เพื่อให้สมาชิกในบ้านสามารถอยู่อาศัยได้อย่างปลอดภัยแล้วความสัมพันธ์ระหว่างคนในบ้านหรือที่เรียกว่า “ ครอบครัว ” ก็ควรมีความอบอุ่นและปลอดภัยทางจิตใจด้วยนะคะเพราะหากคนในบ้านทำร้ายกันไม่ว่าจะด้วยคำพูดหรือการกระทำ ที่มันบั่นทอนจิตใจลงไปเรื่อยๆ ก็อาจทำให้บ้านกลายเป็นสถานที่ที่อยู่แล้วไม่มีความสุข ไม่ปลอดภัย เหมือนที่คนชอบพูดกันว่า#บ้านไม่ใช่เซฟโซนจนต้องออกไปหาเซฟโซนนอกบ้านเพื่อช่วยเยียวยาจิตใจแทน
แล้วถ้าเพื่อนๆ อยากจะเป็นเซฟโซนให้กับคนที่บ้าน หรือสร้างพื้นที่ปลอดภัยภายในบ้านก็ควรหาโอกาสพูดคุยกันอย่างสม่ำเสมอโดยอาจเริ่มต้นจากการบอกเล่าเรื่องราวที่พบเจอในแต่ละวัน เพื่อสร้างความคุ้นเคยและทำให้รู้สึกสบายใจที่จะเล่าเรื่องราวต่างๆ ให้กันและกันฟังมากขึ้นควรให้กำลังใจ คอยชื่นชม และไม่ซ้ำเติมกันเมื่อมีใครทำผิดพลาดเพื่อสร้างความรู้สึกที่ว่าคนในครอบครัวพร้อมจะยอมรับและซัพพอร์ตกันอยู่เสมอ แล้วก็ต้องไม่ลืมให้ความสำคัญเรื่องการที่ทุกคนในบ้านมีสิทธิ์มีเสียงเท่าเทียมกันสามารถแสดงความคิดเห็นหรือบอกความต้องการของตัวเองได้ โดยไม่มีใครมองข้ามหรือตัดสินแม้ว่าความเห็นอาจไม่ตรงกันไบ้าง วิธีเหล่านี้ก็จะช่วยทำให้บ้านเป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับเราได้ค่ะ
« วิธีเป็นเซฟโซนให้คนที่ทำงาน »
พื้นที่ปลอดภัยในที่ทำงานก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ไม่ควรมองข้ามนะคะเพราะหากบรรยากาศการทำงานเต็มไปด้วยความตึงเครียดหรือมีแต่พลังในแง่ลบ ก็อาจส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงานให้แย่ลง โดยเฉพาะการทำงานเป็นทีมก็ลองจินตนาการดูสิว่าถ้าต้องนั่งทำงานกับเพื่อนร่วมงานที่คอยจ้องจับผิดกัน ก็อาจทำให้คนในทีมไม่กล้าที่จะแสดงความคิดเห็น หรือเสนอไอเดียของตัวเองออกมาเพราะกลัวจะโดนต่อว่า แล้วถ้าคนในที่ทำงานคิดแต่จะแก่งแย่งแข่งขันกันตลอดเวลา ก็อาจเกิดความกดดันที่มากจนเกินไป หรือทำให้พนักงานบางคนรู้สึกขาดความมั่นใจจนไม่มีความสุขกับการทำงานค่ะ
ซึ่งการสร้างพื้นที่ปลอดภัยในที่ทำงาน หรือวางตัวเป็นเซฟโซนของเพื่อนร่วมงานก็ควรเปิดโอกาสให้พนักงานทุกคนสามารถแสดงความคิดเห็น หรือออกไอเดียได้อย่างเต็มที่ โดยที่เพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ ไม่ตัดสินผิด / ถูกหรือด่วนสรุปว่าดี / ไม่ดีแล้วพูดคุยปรึกษาและออกความเห็นร่วมกัน เพื่อต่อยอดให้ไอเดียเหล่านั้นดียิ่งขึ้น รวมทั้งเมื่อไหร่ก็ตามที่มีความผิดพลาดเกิดขึ้นจากการทำงานร่วมกันเป็นทีม ก็ไม่ควรชี้นิ้วโยนความผิดให้ใครคนใดคนหนึ่ง แต่ควรรับผิดชอบและหาทางออกร่วมกันเพื่อช่วยให้คนในทีมกล้าที่จะลงมือทำงานอย่างเต็มที่แบบไม่กั๊ก เพราะไม่ต้องกังวลว่าจะต้องแบกรับความผิดไว้คนเดียวยังไงล่ะ
« วิธีเป็นวิธีเป็นเซฟโซนให้คนในสังคม »
และฮาวทูวางตัวเป็นเซฟโซนอีกหนึ่งข้อก็คือการเป็นเซฟโซนให้กับคนในสังคมค่ะ แม้ว่าคนในสังคมอาจไม่ใช่คนที่เราสนิทสนม คุ้นเคย หรือใกล้ชิดกันมากๆ เหมือนกับคนในครอบครัวหรือเพื่อนฝูงแต่เราก็สามารถสร้างพื้นที่ปลอดภัยให้คนในสังคม รู้สึกอุ่นใจและไม่ทำร้ายจิตใจเขาเหล่านั้นได้เหมือนกันนะ
โดยวิธีเป็นเซฟโซนของคนในสังคมก็อาจเริ่มจากการยอมรับในความแตกต่างค่ะ อย่างที่รู้กันอยู่แล้วว่าสังคมคือการอยู่ร่วมกันของผู้คนที่มีความแตกต่างและหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเพศ อายุ ภาษา ศาสนา ความเชื่อ ฯลฯ เราจึงควรเคารพและยอมรับในความแตกต่างหลากหลายอย่างเท่าเทียมกันที่สำคัญก็ไม่ควรรีบด่วนตัดสินคนอื่นๆ จากการมองเห็นเขาเพียงแค่ด้านเดียว หรือตัดสินว่าเขาเหล่านั้นไม่ดีหรือเป็นฝ่ายผิด จากมุมมองของเราเพียงคนเดียวเพราะตัวเราเองไม่ได้ถูกต้อง 100% เสมอไป และการตัดสินคนอื่นๆ อาจทำร้ายและสร้างบาดแผลในจิตใจ จนทำให้เขาเหล่านั้นรู้สึกไม่ปลอดภัยได้ค่ะ
●●●●●●●
เป็นยังไงบ้างคะ หลังจากที่อ่านบทความนี้จบแล้ว เพื่อนๆ เข้าใจความหมายของคำว่าเซฟโซน ( Safe Zone )แบบชัดเจนมากขึ้นกว่าเดิมรึยังเอ่ย ??? เราขอสรุปให้ฟังชัดๆ อีกครั้งว่าเซฟโซนคือพื้นที่ปลอดภัยที่ทำให้เรารู้สึกอุ่นใจ สบายใจ และเป็นตัวเองได้เต็มที่ โดยไม่ถูกตัดสินจากคนอื่นหรือการกล่าวโทษตัวเอง แล้วเซฟโซนยังเป็นได้ทั้งสถานที่ กิจกรรม สิ่งรอบตัว หรือบุคคลด้วยซึ่งนอกจากเราจะสร้างเซฟโซนไว้สำหรับพักใจในวันที่อ่อนล้าให้กับตัวเองได้แล้ว ตัวเราเองยังสามารถเป็นพื้นที่ปลอดภัยให้กับคนอื่นๆ ได้ด้วยเหมือนกัน เพียงแค่มีความเข้าอกเข้าใจ เคารพกันและกัน และไม่ตัดสินคนอื่น ก็ช่วยสร้างเซฟโซนสำหรับเซฟใจให้คนรอบตัว และทำให้สังคมของเราน่าอยู่ขึ้นเยอะเลยค่ะ ♥
Designer :namoodong
Writer :Pearrisa
>>> ลิงก์รวมรูปสำหรับ Cover + OG ค่ะ
https://drive.google.com/drive/folders/1_ghFnMnRwaXQ7RJes_LBY8j3lYfuk_kr?usp=sharing