รูปภาพ:https://i.pinimg.com/originals/c2/41/fa/c241fa5894c1743cfb308b6b81eb5dde.jpg

หนึ่งในคำถามโลกแตกที่ยังคาใจใครหลายคนมาจนถึงตอนนี้ก็คงหนีไม่พ้นอาบน้ำอุ่นหรือน้ำเย็นดีต่อผิวมากกว่ากัน?!นี่แหละค่ะเพราะการอาบน้ำและล้างหน้าเป็นรูทีนที่ต้องทำเป็นประจำทุกวัน เพื่อทำความสะอาดผิวและขจัดสิ่งสกปรกต่างๆ ไม่ให้ตกค้างอยู่บนผิว แล้วทางเราขอบอกเลยว่าอุณหภูมิของน้ำก็ส่งผลต่อผิวพรรณด้วยเหมือนกันนะบางตำราก็แนะนำว่าน้ำอุ่นดีต่อผิว บางตำราก็เตือนว่าอาบน้ำอุ่นแล้วผิวแห้ง หรือบางตำราก็บอกว่าน้ำเย็น / น้ำแข็งช่วยแก้ปัญหาผิวยอดฮิตได้วันนี้เราจึงแอบไปสืบหาคำตอบมาคลายข้อสงสัยให้กับคุณสาวๆ แล้วว่าพร้อมกับตอบคำถามยอดฮิตที่หลายคนอาจกำลังเข้าใจผิดอยู่ด้วยค่าา


ข้อดีของ ' น้ำอุ่น '

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/05/16/8b/05168b55a19a2f14c78d67d372f7ff62.jpg

ถึงแม้ว่าเมืองไทยจะอากาศร้อนอบอ้าวจนทำให้เหงื่อไหลท่วมตัวขนาดไหน ก็ยังมีสาวๆ บางคนที่ชอบอาบน้ำอุ่นอยู่ดี โดยเฉพาะคนขี้หนาวที่กลัวการอาบน้ำเย็นเจี๊ยบค่ะซึ่งการอาบน้ำอุ่นไม่ได้มีดีแค่เรื่องการช่วยคลายความหนาวเย็นเท่านั้นหรอกนะ แต่ยังมีข้อดีต่อร่างกายและผิวพรรณหลายอย่าง ดังนี้

➀ ช่วยให้ระบบทางเดินหายใจทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ

หากใครที่เป็นหวัดบ่อยๆ และมักจะมีอาการคัดจมูก น้ำมูกไหล หายใจไม่สะดวก การอาบน้ำอุ่นก็จะช่วยเสริมให้ระบบทางเดินหายใจทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะช่วยละลายน้ำมูกและเสมหะ ทำให้หายใจโล่งและสะดวกมากขึ้นกว่าเดิมค่ะ

➁ ช่วยทำความสะอาดผิวไม่ให้มีสิ่งตกค้าง

สาวซิสอาจเคยได้ยินมาแล้วว่าการอาบหรือแช่น้ำอุ่นจะช่วยเปิดรูขุมขนให้สามารถขจัดสิ่งสกปรก น้ำมันส่วนเกิน และคราบเมคอัพไม่ให้ตกค้างหรืออุดตันรูขุมขน จึงทำให้ผิวสะอาดใสไร้สิ่งตกค้างด้วยนั่นเอง

➂ ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ

การอาบน้ำอุ่นเป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับที่ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อได้เป็นอย่างดีเลยนะคะ โดยการอาบน้ำอุ่นจะช่วยทำให้ร่างกายผ่อนคลาย ลดอาการปวดหรือเกร็งกล้ามเนื้อ แล้วยังช่วยลดระดับความเครียดได้อีกต่างหากหลังอาบน้ำอุ่นแล้วก็จะรู้สึกผ่อนคลาย สบายตัว และนอนหลับง่ายขึ้นค่ะ

➃ ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือด

และข้อดีของน้ำอุ่นอย่างสุดท้ายก็คือการช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือดค่ะ โดยการอาบน้ำอุ่นจะช่วยกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกายได้ดียิ่งขึ้นส่งผลให้อวัยวะภายในร่างกายทำงานได้อย่างปกติและเต็มประสิทธิภาพด้วยค่ะ


ข้อเสียของ ‘ น้ำอุ่น ’

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/aa/b8/5d/aab85d9a969a234b790600d16e63935e.jpg

อย่างที่คนชอบพูดกันว่า‘ เหรียญมีสองด้าน ’เจ้าน้ำอุ่นที่หลายคนชอบอาบกันก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียต่อผิวพรรณและร่างกายด้วยเหมือนกันค่ะเพราะหากอาบน้ำอุ่นที่อุณหภูมิสูงจนเกินไป ก็อาจเป็นการทำร้ายผิวแบบไม่รู้ตัว แถมการอาบน้ำอุ่นยังไม่เหมาะกับคนที่มีโรคประจำตัวบางอย่างด้วยนะคะทางเราจึงลิสต์ข้อเสียของน้ำอุ่นมาให้คุณสาวๆ ได้ลองส่องและเช็กกันค่ะ

➀ ทำให้ผิวแห้งหรือระคายเคืองผิว

การอาบน้ำอุ่นอาจกระตุ้นให้ผิวแห้งและเกิดการระคายเคืองผิวได้ง่ายขึ้น เพราะความร้อนอาจทำลายน้ำมันที่เคลือบปกป้องผิวตามธรรมชาติ ทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้น ผิวแห้งกร้านและอ่อนแอลงค่ะ

➁ ทำให้โรคผิวหนังอักเสบแย่ลง

สำหรับคนที่เป็นโรคผิวหนังอักเสบก็ไม่ควรอาบน้ำอุ่นนะคะ เพราะน้ำอุณหภูมิสูงอาจยิ่งทำให้ผิวแห้งเสีย และกระตุ้นอาการผิวหนังอักเสบให้แย่ลงกว่าเดิมได้นั่นเอง

➂ ทำให้ผมแห้งเสีย เกิดรังแค

นอกจากการอาบน้ำอุ่นจะทำให้ผิวแห้งขาดน้ำได้แล้ว การสระผมด้วยน้ำอุ่นก็อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เส้นผมและหนังศีรษะแห้งเสียได้ด้วยค่ะ เพราะน้ำอุ่นอาจทำลายน้ำมันธรรมชาติบนหนังศีรษะทำให้หนังศีรษะแห้ง คัน ลอก และเสี่ยงเกิดปัญหารังแคกวนใจอีกต่างหาก

➃ ไม่เหมาะกับคนเป็นโรคหัวใจ / ความดันโลหิตสูง

การอาบน้ำอุ่นไม่เหมาะกับคนที่มีโรคประจำตัวอย่างโรคหัวใจและโรคความดันโลหิตสูงค่ะ เพราะน้ำอุณหภูมิสูงจะทำให้ความดันเลือดเพิ่มขึ้น และเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายถึงชีวิตได้ด้วยนะคะ


ข้อดีของ ‘ น้ำแข็ง ’

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/aa/b8/5d/aab85d9a969a234b790600d16e63935e.jpg

หลังจากที่ได้เช็กข้อดีและข้อเสียของน้ำอุ่นไปแล้ว ก็แวะมาดูข้อดีของน้ำแข็งกันบ้างดีกว่าค่ะโดยมีตำราความงามและกูรูบิวตี้หลายคนที่พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า น้ำแข็งช่วยกระชับรูขุมขน เพิ่มพลังความสวยเนียนใสให้แก่ผิวหน้าได้ ทางเราจึงรวบรวมข้อดีของน้ำแข็งต่อผิวพรรณมาให้ได้ลองส่องกันค่ะ

➀ ช่วยลดอาการบวม

บางคนเวลาที่ได้รับบาดเจ็บก็มักจะประคบน้ำแข็งตรงจุดนั้นเพื่อบรรเทาอาการบวม แล้วน้ำแข็งก็ยังช่วยลดอาการบวมของผิวได้ด้วยเหมือนกันนะ เพราะความเย็นจากน้ำแข็งจะช่วยระบายของเหลวออกจากระบบน้ำเหลืองจึงช่วยลดอาการหน้าบวมไปได้นั่นเอง

➁ ช่วยลดถุงใต้ตา

สาวๆ ที่ชอบตื่นนอนตอนเช้ามาพร้อมกับถุงใต้ตาบวมๆ ปูดๆ เหมือนคนร้องไห้การประคบน้ำแข็งก็จะช่วยระบายของเหลวที่สะสมอยู่บริเวณใต้ตา ทำให้อาการบวมของถุงใต้ตาลดลงเร็วขึ้นค่ะ

➂ ช่วยปลอบประโลมผิวไหม้แดด

สำหรับคนที่โดนแสงแดดแผดเผาผิวจนผิวไหม้แดด และมีอาการแสบๆ ร้อนๆ บนผิวการประคบผิวด้วยน้ำแข็งก็จะช่วยปรับอุณหภูมิผิวให้เย็นลง ปลอบประโลมผิว และช่วยบรรเทาอาการแสบร้อนผิวได้ค่ะ

➃ ช่วยให้ผิวดูเปล่งปลั่งสดใส

ใครที่เจอปัญหาผิวหน้าดูโทรมและหมองคล้ำขั้นสุดความเย็นจากน้ำแข็งก็จะช่วยทำให้หลอดเลือดหดตัวลง ส่งผลให้ผิวดูเปล่งปลั่ง กระจ่างใส ดูมีชีวิตชีวาทำให้ผิวหน้าดูเนียนใสสม่ำเสมอกันมากขึ้นค่ะ


ข้อเสียของ ‘ น้ำแข็ง ’

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/736x/84/53/76/8453761424031c86d6274e353fbc3485--glossier-face-wash.jpg

อ๊ะๆ ไม่ใช่ว่าพอเห็นข้อดีของน้ำแข็งแล้วก็เกิดอาการตาลุกวาว รีบวิ่งไปหยิบน้ำแข็งออกจากช่องฟรีซแล้วนำมาถูๆ ขัดๆ ผิวหน้าแบบด่วนจี๋นะคะ เพราะน้ำแข็งก็ไม่ต่างอะไรจากน้ำอุ่นที่มีทั้งข้อดีและข้อเสียต่อผิวพรรณเหตุผลก็เป็นเพราะว่าการใช้น้ำแข็งบำรุงผิวอาจไม่เหมาะกับคนที่มีสภาพผิวหรือปัญหาผิวบางอย่างค่ะว่าแล้วก็ตามไปดูข้อเสียของน้ำแข็งที่มีต่อผิวพรรณได้เลย

➀ ทำให้ผิวเกิดการระคายเคือง

ถ้าใครที่เป็นคนผิวบางหรือผิวแพ้ง่ายก็ไม่แนะนำให้ใช้น้ำแข็งถูผิวหน้าค่ะ เพราะอาจกระตุ้นให้ผิวเกิดการระคายเคืองและแดงง่ายขึ้นจนเปิดทางให้ปัญหาผิวหน้าแวะมาทักทายอีกเพียบเลย

➁ ทำให้เส้นเลือดฝอยบนหน้าเห็นชัดขึ้น

สำหรับคนที่มีเส้นเลือดฝอยบนใบหน้าก็ไม่ควรใช้น้ำแข็งถูผิวหน้านะคะ เพราะน้ำแข็งอาจเป็นตัวการที่กระตุ้นให้มองเห็นเส้นเลือดฝอยเหล่านั้นชัดเจนขึ้น แถมยังทำให้การฟื้นฟูผิวช้าด้วยค่ะ

➂ ผิวอาจโดนทำลายจากความเย็นจัด

บางครั้งการใช้น้ำแข็งถูหน้าอาจเพิ่มความเสี่ยงที่ผิวจะโดนทำลายจากความเย็นจัด หรือที่เรียกว่าอาการน้ำแข็งกัด (Frostbite)โดยอาจทำให้ผิวแดง ปวดแสบปวดร้อน หรือเป็นแผลจากการที่ผิวโดยทำลายค่ะ


เราควรอาบ ‘ น้ำอุ่น ’ หรือ ‘ น้ำเย็น ’ กันแน่?

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/736x/82/75/72/827572807e5a8673e9b2580d9c4a3774.jpg

คราวนี้ก็ถึงเวลาตอบคำถามคาใจยอดฮิตบ้างแล้วนะคะ สำหรับคนที่ยังคงสงสัยว่าสรุปแล้วควรอาบน้ำอุ่นหรือน้ำเย็นกันแน่? คำตอบก็คือขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์และความต้องการค่ะ เพราะทั้งน้ำอุ่นและน้ำเย็นก็มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันออกไปอย่างถ้าอยากปลุกให้ร่างกายรู้สึกตื่นตัวและกระปรี้กระเปร่าก็เหมาะที่จะอาบน้ำเย็นแต่ถ้าอยากจะเพิ่มความผ่อนคลายให้ร่างกาย กล้ามเนื้อ และจิตใจ การอาบน้ำอุ่นก็จะช่วยให้รู้สึกสบายตัวและนอนหลับง่ายขึ้นกว่าเดิมนั่นเอง

แล้วสำหรับคนที่ชอบอาบน้ำอุ่นแต่ไม่อยากผิวแห้งเสีย เราก็มีเคล็ดลับดีๆ ที่ทำตามง่ายมากมาบอกต่อกันค่ะ นั่นก็คือไม่ควรอาบน้ำอุ่นนานเกินไป และควรทามอยส์เจอไรเซอร์หรือออยล์บำรุงผิวทันทีหลังอาบน้ำเสร็จแล้วเท่านี้ก็ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวไม่แห้งกร้านขาดน้ำได้แล้วค่ะ


‘ น้ำแข็ง ’ กระชับรูขุมขนได้จริงรึเปล่า ?

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/736x/82/75/72/827572807e5a8673e9b2580d9c4a3774.jpg

ส่วนอีกหนึ่งคำถามที่ฮอตไม่แพ้กันก็คือน้ำแข็งกระชับรูขุมขนได้จริงรึเปล่า?เพราะเวลาเสิร์ชหาเคล็ดลับกระชับรูขุมขนด้วยตัวเองง่ายๆ ทีไร ก็มักจะเจอคำแนะนำว่าให้ลองใช้น้ำแข็งถูหน้าเพื่อช่วยกระชับรูขุมขนให้แลดูเล็กลงอยู่บ่อยๆซึ่งน้ำแข็งช่วยกระชับรูขุมขนให้ดูเล็กลงได้จริง… แต่ผลลัพธ์ที่ได้เกิดขึ้นแบบชั่วคราวเท่านั้น!ไม่ได้หมายความว่าใช้น้ำแข็งถูหน้าแล้วรูขุมขนจะหายวับไปเหมือนเสกได้หรอกนะคะ

นั่นก็เพราะรูขุมขนกว้างเป็นปัญหาผิวที่เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ทั้งพันธุกรรมที่ถ่ายทอดผ่านคนในครอบครัว ผิวหน้ามันจนรูขุมขนต้องขยายตัวเพื่อขับน้ำมันส่วนเกินออก หรือคอลลาเจนถูกทำลายจนผิวขาดความยืดหยุ่น แบบนี้ถ้าอยากจัดการปัญหารูขุมขนอย่างตรงจุดก็ต้องขยันทำความสะอาดผิวเพื่อลดการอุดตัน และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่สำหรับรูขุมขนกว้างโดยเฉพาะด้วยค่ะ

ส่วนการใช้น้ำแข็งถูหน้าจะเน้นช่วยเรื่องการลดบวม ลดการอักเสบ และปลอบประโลมผิวไหม้แดดมากกว่าแล้ววิธีใช้น้ำแข็งถูหน้าให้ปลอดภัยกับน้องผิวมากที่สุด ก็แนะนำให้นำน้ำแข็งที่สะอาดมาห่อด้วยผ้าขนหนู แล้วใช้วิธีถูวนเป็นวงกลมทั่วใบหน้า และอย่ากดแช่ผิวบริเวณใดบริเวณหนึ่งเป็นเวลานานๆเพื่อป้องกันไม่ให้ผิวแดง เกิดการระคายเคือง หรือผิวโดนทำลายจากความเย็นค่ะ


ถ้าไม่ใช้ ‘ น้ำแข็ง ’ แล้วใช้อะไรแทนได้อีกบ้าง?

7


รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/f2/2f/14/f22f14266e0430316f5e218e108c8150.jpg

หลังจากอ่านบทความนี้จบแล้ว เราเชื่อว่าคุณสาวๆ คงเข้าใจแจ่มแจ้งเกี่ยวกับ‘ น้ำอุ่น ’และ‘ น้ำแข็ง ’ว่าน้ำแต่ละแบบมีข้อดีและข้อเสียต่อผิวยังไงบ้าง และเหมาะกับสภาพผิวแบบไหนมากที่สุดแล้วแน่ๆโดยถ้าอยากดูแลผิวให้สวยและสุขภาพดี นอกจากจะต้องใส่ใจเกี่ยวกับอุณหภูมิของน้ำที่ใช้อาบน้ำและล้างหน้าแล้วเนี่ย สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันเลยก็คือการดูแลรักษาความสะอาด ขยันทาสกินแคร์สม่ำเสมอ รวมทั้งนอนหลับให้เต็มที่ ดื่มน้ำเยอะๆ และเลือกกินอาหารบำรุงผิวสวยจากภายในด้วยถ้าทำได้ครบตามที่เราบอกไปก็มั่นใจได้เลยว่าทั้งผิวหน้าและผิวกายจะต้องสวยสตรองพร้อมสู้กับทุกสถานการณ์แน่นอนค่าา ♥


Writer :Pearrisa

>>> ลิงก์รวมรูป Cover & OG ค่ะ

https://drive.google.com/drive/folders/1uriOcYyuUhqbsvsCF5-5XD0592GQFnND?usp=sharing