รูปภาพ:https://www.icegif.com/wp-content/uploads/sad-anime-icegif-1.gif

มีใครเคยรู้สึกว่า " ตัวเราไม่เก่งอะไรเลยสักอย่าง " ไหมคะ?ถ้าใครกำลังรู้สึกแบบนี้หรือเป็นแบบนี้ประจำแสดงว่ามาถูกทางแล้วค่า เพราะวันนี้เราจะชวนทุกคนไปรู้จักกับอาการ" Imposter Syndrome "หรืออาการที่คิดว่าตัวเองไม่เก่งนั่นเอง คือมันไม่ใช่แค่ความรู้สึกแค่บางช่วงนะคะ ถ้าเราคิดบ่อย ๆ มันอาจจะเป็นอาการนี้ได้เลย ซึ่งอาการพวกนี้ก็มีสาเหตุของการเกิดเหมือนกัน แต่ถ้าอยากจะรู้ว่าสาเหตุมันเกิดจากอะไร อาการเป็นยังไง อันตรายไหม แก้ไขได้รึเปล่าก็ต้องมาตามอ่านกันด้านล่างนี้เล้ย~อ่านแล้วก็ค่อย ๆ เช็กลิสต์กันไปนะคะว่าเราเข้าข่ายมีอาการแบบนี้รึเปล่า ถ้าพร้อมเช็กแล้วก็มาดูกันเลยค่า


◆ ◆ ◆ ◆ ◆ ◆ ◆ ◆ ◆ ◆ ◆


◘ " Imposter Syndrome " มันคืออะไร? ◘

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/736x/0c/44/f2/0c44f239cdb50877a87a683f14b3493f.jpg

Imposter Syndrome คือ " อาการ/ภาวะที่คิดว่าตัวเองไม่เก่ง "ไม่ได้นับเป็นโรคหรือความเจ็บป่วยทางจิตใจนะคะมันคือการที่เรารู้สึกไม่มั่นใจในความสามารถของตัวเอง แล้วก็มักจะตั้งคำถามกับความสำเร็จ/คำชมที่เราได้รับเช่น เราเรียนได้เกรด 4.00 มีเพื่อน ๆ มาชมว่าเราเก่งมาก ครอบครัวก็ชมว่าเราเก่งมาก แต่เราเกิดคำถามในใจว่าเราเก่งจริง ๆ เหรอ หรือแค่เพราะเราฟลุ๊คทำได้หรือเพราะว่างานกลุ่มช่วยทำให้คะแนนออกมาดี คือไม่ได้คิดเลยว่าตัวเองหนะมีความสามารถและเก่งพอที่จะได้รับสิ่งนี้ประมาณนั้นนั่นเองค่ะ หลาย ๆ คนก็อาจจะมีการตั้งมาตรฐานตัวเองไว้สูงแล้วก็พยายามทำทุกอย่างให้หนักขึ้นเพื่อจะได้รู้สึกว่าเราเหมาะสมกับมันจริง ๆจนมันเกิดความกดดันและความเครียดขึ้นซึ่งตรงนี้แหละค่ะที่จะเริ่มส่งผลกับสุขภาพ!


◘ แล้ว " Imposter Syndrome " มีสาเหตุมาจากอะไรได้บ้าง?◘

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/14/13/7a/14137a91aa2af014915fa95ff407b316.jpg

สาเหตุของอาการ Imposter Syndrome มีหลากหลายปัจจัยมาก ๆ เลยค่ะ ทั้งภายในและภายนอกภายในก็คือตัวเราเองที่ไปกดดันว่าเราไม่เก่งรู้สึกว่าตัวเองทำได้ไม่ดีพอกับสิ่งที่ได้รับ เราได้รับมันมากเกินไปอะไรประมาณนี้นะคะส่วนปัจจัยภายนอกก็คือคนรอบตัวค่ะ โดยเฉพาะกับครอบครัวที่ให้ความสำคัญกับการประสบความสำเร็จในชีวิตมาก ๆ เขามักจะมากดดันเราให้ต้องเก่ง ต้องดี จนทำให้เรารู้สึกว่าที่เป็นอยู่มันยังไม่ดี แม้ว่าจะมีเพื่อน ๆ บอกว่าเราทำดีแล้วก็ตามรวมไปถึงคนที่ชอบความเพอร์เฟคอย่าง Perfectionistก็มีโอกาสมีอาการแบบนี้เหมือนกันค่ะ เพราะเขารู้สึกว่าทุกอย่างต้องเป๊ะต้องดี หลาย ๆ ครั้งเลยรู้สึกว่าตัวเองยังไม่เก่งเท่ามาตรฐานที่ตั้งไว้


◘ อาการแบบไหนถึงจะเรียกได้ว่าเป็น " Imposter Syndrome " ◘

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/1d/25/99/1d25998e612b124da01c12051765fcd3.jpg

รู้แล้วว่า Imposter Syndrome คืออะไร มีสาเหตุจากอะไร ก็คงอยากจะรู้แล้วใช่ไหมละคะว่าแล้วมันมีอาการแบบไหนบ้างนะ ถึงจะเรียกได้ว่าเราตกอยู่ในอาการคิดว่าตัวเองไม่เก่ง งั้นเรามาเช็กลิสต์กันตามนี้เลยค่ะ...• ประเมินความสามารถตัวเองต่ำ: คิดว่าตัวเองไม่เก่ง ไม่ดีพอแม้ว่าจะทำสิ่งใดสิ่งนึงสำเร็จ• สงสัยในความสำเร็จของตัวเอง: ตั้งคำถามเสมอว่าทำไมเราถึงทำมันสำเร็จ• รู้สึกว่าความสำเร็จมาจากปัจจัยภายนอก: คิดว่ามาจากความช่วยเหลือของคนอื่นหรือดวงดี• ตั้งเป้าหมายสูงเกินไป: ตั้งเป้าหมายสูงเกินกว่าความสามารถเลยมองว่าตัวเองไม่เก่ง• คิดว่าสิ่งที่ตัวเองทำได้ ใคร ๆ ก็ทำได้: มองว่าสิ่งที่เราทำได้มันก็คือสิ่งที่ทุกคนก็ทำได้ ไม่ได้พิเศษ• ทำทุกอย่างหนักขึ้น: รู้สึกว่าที่ทำไปยังไม่ดีพอ เราทำได้มากกว่านี้ เลยพยายามทำทุกอย่างหนักขึ้น


◘ " Imposter Syndrome " สามารถแก้ไขได้ไหม อันตรายรึเปล่า? ◘

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/25/77/9f/25779f0cbac2088a7f3d3f31d196ff2d.jpg

อย่างที่บอกเลยค่ะว่าImposter Syndrome มันไม่ใช่โรคหรือความเจ็บป่วยทางจิตใจเป็นแค่ภาวะหรืออาการเท่านั้นความอันตรายจึงมีไม่มากและสามารถแก้ไขให้หายจากอาการได้ค่ะแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมันก็ต้องขึ้นอยู่กับวิธีการและปัจจัยอื่น ๆ ด้วยนะคะ ถ้าเราไม่ปรับเปลี่ยนความคิดหรือยังกดดันตัวเองมากจนเกินไปก็จะทำให้มีความเครียดและอาจจะนำไปสู่การเจ็บป่วยทางจิตได้ถ้ามันเริ่มกระทบการใช้ชีวิตเมื่อไหร่เช่น นอนไม่หลับ รู้สึกว่าทำยังไงก็ไม่มีความสุขเลย มองโลกในแง่ร้ายก่อนตลอด อะไรพวกนี้คือจะต้องไปพบจิตแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษาอีกทีนะคะ แต่ถ้ายังไม่ได้ถึงขั้นกระทบการใช้ชีวิตก็มาดูการแก้ไขอาการเบื้องต้นในข้อด้านล่างกันเลยค่ะ ♥


◘ งั้นอาการ " Imposter Syndrome " ต้องแก้ไขยังไงบ้าง? ◘

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/736x/80/bf/bb/80bfbb27cd6f303908180307eab2e2ab.jpg

การแก้ไขอาการคิดว่าตัวเองไม่เก่งสามารถแก้ไขแบบเบื้องต้นได้นะคะ โดยวิธีการส่วนใหญ่จะเป็นการปรับเปลี่ยนมุมมองความคิด แต่จะมีวิธียังไงบ้างก็มาอ่านกันเลยค่า• ไม่เปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น: การที่เรารู้สึกว่าเราไม่เก่งเท่าเขาอาจจะเป็นเพราะเราไม่ถนัดทางนี้แค่นั้นเองค่ะ คนเรามีความถนัดแตกต่างกันไป ดังนั้นอย่าเอามาเปรียบเทียบให้รู้สึกไม่ดีเลยเนอะ• มั่นใจในตัวเองบ้าง: ถ้าเราประสบความสำเร็จไม่ว่าจะด้านไหน ๆ ให้ชมตัวเองได้เลยค่ะว่าเราเก่งมาก ๆ ที่ทำมันได้ เรามีความสามารถนะ มั่นใจเข้าไว้ค่ะ• รับฟังทั้งคำชมติและคำชม: ถ้ามีคนติผลงานเราให้คิดไว้เสมอนะคะว่าเราอาจจะผิดพลาดและแค่ต้องไปปรับปรุงให้มันดีขึ้น อย่าเพิ่งรู้สึกแย่หรือถอดใจน้า เราจะได้พัฒนาไปอีกขั้น ส่วนคำชมให้เชื่อว่าเขาชมเราอย่างจริงใจ อย่ารู้สึกว่าเราไม่สมควรได้รับ เราต้องคิดว่าเรามีความสามารถและเราทำมันได้ดีจริง ๆ เขาถึงชื่นชมเรา• คิดบวกให้เป็น: ถ้าเราจมอยู่กับความคิดแย่ ๆ เราก็จะรู้สึกแย่ ให้ปรับเปลี่ยนมุมมองคิดบวกบ้าง ชีวิตเราก็จะได้มีแต่สิ่งดี ๆ เข้ามานั่นเองค่า


◘ ถ้ามีคนรอบตัวเป็น " Imposter Syndrome " เราจะทำยังไงได้บ้าง? ◘

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/1c/89/bf/1c89bffaed64bfbc09588a2801ad23a9.jpg

ถ้าคนใกล้ตัวเรามีอาการคิดว่าตัวเองไม่เก่ง สิ่งที่เราจะทำได้ก็คือคอยให้กำลังใจเขานั่นเองค่า ถ้าเขาทำในสิ่งที่ดีหรือเหมาะสมจะได้รับคำชม ให้ชื่นชมเขาอย่างจริงใจอะไรที่ติได้ก็ติแต่พยายามเลือกใช้คำให้ระมัดระวังนิดนึงเพื่อหลีกเลี่ยงทะเลาะหรือการรู้สึกไม่ดีน้าคือที่บอกว่าต้องมีการติบ้างก็เพราะว่าถ้าเราสุดโต่งแต่จะชมเขาเพราะอยากให้เขามีกำลังใจ มีความมั่นใจในตัวเอง มันจะไม่ได้ช่วยเขาในจุดที่เขาผิดพลาดหรือยังไม่ดีพอจริง ๆทำให้เขาไม่พัฒนาไปข้างหน้า ดังนั้นถ้ามีอะไรที่ยังไม่ค่อยโอเคก็ติเตียนกันบ้าง มีการชมไปบ้างจะดีที่สุดนะคะ ♥


◆ ◆ ◆ ◆ ◆ ◆ ◆ ◆ ◆ ◆ ◆


ใครที่มีอาการ" Imposter Syndrome "แบบที่ว่ามาก็ไม่ต้องกังวลเกินไปแล้วน้า~จริง ๆ มันก็ยังสามารถแก้ไขหรือปรับเปลี่ยนความคิดและพฤติกรรมกันได้แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่มันเริ่มมีผลกระทบกับชีวิต เช่น รู้สึกแย่จนนอนไม่หลับ คิดแง่ลบจนไม่มีความสุขเลยเราก็ควรที่จะไปพบจิตแพทย์เพื่อทำการรักษานะคะ การไปพบจิตแพทย์ไม่ใช่เรื่องที่ไม่ดีหรือจะทำให้ดูไม่ดีเลยน้า มันคือการรักษาอย่างนึงเพื่อให้สภาพจิตใจดีขึ้น ถ้าใครมีอาการแบบที่ว่ามาก็รีบไปรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ กันดีกว่าเนอะ ส่วนตอนนี้เราต้องขอตัวเซย์กู๊ดบายไปก่อนแล้วกลับมาพบกันใหม่ในบทความหน้านะคะ บ๊ายบาย ♥