Pearrisa
ติดตาม

ใครทำอยู่บ้าง?! เช็กลิสต์ 7 พฤติกรรมทำร้ายสุขภาพที่คาดไม่ถึง รู้ก่อนแก้ก่อน แข็งแรงพร้อมเริ่มปีใหม่📌
วันนี้เราลิสต์ 7 พฤติกรรมทำร้ายสุขภาพที่คาดไม่ถึง มาให้ได้ส่องและลองเช็กกัน เผื่อว่าใครทำสิ่งเหล่านี้อยู่จะได้รู้ตัวและแก้ไขได้ทัน เพื่อเปลี่ยนแปลงตัวเองเป็นคนใหม่และเริ่มต้นปีใหม่แบบปังๆ ไปเลยค่าา
เลือกอ่านตามหัวข้อ
ปีใหม่ 2023 / 2566 ใกล้เข้ามาแล้ว ชาวซิสแต่ละคนเตรียมวางแผนชีวิตกันรึยังเอ่ย ???
เราเชื่อว่าพอใกล้ถึงช่วงส่งท้ายปีเก่า - ต้อนรับปีใหม่ หลายคนก็คงอยากจะทิ้งสิ่งแย่ๆ หรือเรื่องไม่ดีไว้กับปีเก่า แล้วเปลี่ยนแปลงตัวเองเป็นคนใหม่รับปีใหม่ โดยบางคนก็อาจจะวางแผนอนาคตเกี่ยวกับเรื่องการเงิน การงาน ความรัก หรือครอบครัว แต่ดันลืมเรื่องสำคัญสุดๆ อย่าง เรื่องสุขภาพ ไปซะงั้น ทั้งที่ความจริงแล้วการมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงถือเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ เพราะหากร่างกายพร้อม ใจพร้อม ก็จะช่วยให้เรามีความพร้อมในการลุยทำตามเป้าหมายต่างๆ ที่ตั้งใจเอาไว้ได้อย่างเต็มที่มากขึ้น
แล้วเพื่อนๆ รู้รึเปล่าว่าหนึ่งในตัวการทำร้ายสุขภาพ มันเกิดจากพฤติกรรมบางอย่างของตัวเราเองนี่แหละค่ะ วันนี้เราจึงลิสต์ 7 พฤติกรรมทำร้ายสุขภาพที่คาดไม่ถึง มาให้ได้ลองเช็กกัน เผื่อว่าใครทำสิ่งเหล่านี้อยู่จะได้รู้ตัว แก้ไขได้ทัน และเริ่มต้นปีใหม่แบบปังๆ ไปเลย
● ● ● ● ● ● ●
【 เช็ก 7 พฤติกรรมทำร้ายสุขภาพ รู้ก่อนแก้ก่อน แข็งแรงพร้อมเริ่มปีใหม่ 】
➀ ดื่มน้ำอัดลม / น้ำหวานแทนน้ำเปล่า

- ที่มารูป:
i.pinimg.com
เริ่มต้นเช็กพฤติกรรมทำร้ายสุขภาพข้อแรก ที่ควรทิ้งไปกับปีเก่าที่กำลังจะผ่านไป นั่นก็คือ การดื่มน้ำอัดลม / น้ำหวานแทนน้ำเปล่า ค่ะ เราขอเดาว่าเพื่อนๆ บางคนติดนิสัยดื่มน้ำน้อยหรือไม่ชอบดื่มน้ำเปล่า แต่ชอบดื่มเครื่องดื่มชนิดอื่นๆ เช่น ชา กาแฟ น้ำอัดลม น้ำผลไม้ ฯลฯ เพราะคิดว่าเป็นน้ำเหมือนกันคงทดแทนน้ำเปล่าได้ ซึ่งทางเราขอปฏิเสธดังๆ เลยว่าคิดผิดแล้วค่ะซิส!
นั่นก็เพราะว่า การดื่มน้ำน้อยเกินไปในแต่ละวันอาจทำให้เกิดภาวะขาดน้ำ ปากแห้ง คอแห้ง ผิวแห้ง รู้สึกไม่สดชื่นหรือไม่มีแรง รวมทั้งส่งผลกระทบต่อระบบย่อยอาหารจนเกิดอาการท้องผูกบ่อยๆ แถมการดื่มน้ำอัดลมหรือน้ำหวานเยอะๆ ก็อาจทำให้ร่างกายได้รับน้ำตาลในปริมาณมากแบบไม่รู้ตัว จึงควรเปลี่ยนมาดื่มน้ำเปล่าอย่างน้อยวันละ 8 แก้วจะดีกว่าค่ะ
นั่นก็เพราะว่า การดื่มน้ำน้อยเกินไปในแต่ละวันอาจทำให้เกิดภาวะขาดน้ำ ปากแห้ง คอแห้ง ผิวแห้ง รู้สึกไม่สดชื่นหรือไม่มีแรง รวมทั้งส่งผลกระทบต่อระบบย่อยอาหารจนเกิดอาการท้องผูกบ่อยๆ แถมการดื่มน้ำอัดลมหรือน้ำหวานเยอะๆ ก็อาจทำให้ร่างกายได้รับน้ำตาลในปริมาณมากแบบไม่รู้ตัว จึงควรเปลี่ยนมาดื่มน้ำเปล่าอย่างน้อยวันละ 8 แก้วจะดีกว่าค่ะ
➁ ติดสมาร์ทโฟน / จ้องคอมพิวเตอร์แบบไม่พักสายตา

- ที่มารูป:
i.pinimg.com
พฤติกรรมทำร้ายสุขภาพที่ควรเลิกข้อต่อไปก็คือการใช้ชีวิตติดจอ ทั้งจอสมาร์โฟนและจอคอมพิวเตอร์ค่ะ เราเข้าใจดีนะว่าไลฟ์สไตล์ยุคปัจจุบันอาจทำให้เราต้องใช้สมาร์ทโฟนหรือคอมพิวเตอร์แทบจะตลอดเวลา ทั้งการทำงาน การติดต่อกับคนอื่นๆ หรือการสร้างความบันเทิงให้กับตัวเอง
แต่หาก ติดสมาร์ทโฟนจนถึงขั้นไถหน้าจอตลอดทั้งวัน หรือจ้องคอมพิวเตอร์นานหลายชั่วโมงแบบไม่พักสายตา ก็อาจ ทำให้ตาล้า ปวดตา ตาพร่ามัว แล้วถ้ายิ่งใช้สมาร์ทโฟนหรือคอมพิวเตอร์ก่อนนอน แสงสีฟ้าจากหน้าจอก็อาจรบกวนการนอนหลับ ทำให้นอนไม่หลับหรือหลับไม่สนิท ด้วยนะ รู้แบบนี้แล้วก็ควรลดการใช้สมาร์ทโฟนลง พักสายตาจากหน้าจอคอมบ้าง รวมทั้งก่อนนอนก็ควรปิดสมาร์ทโฟน / คอมพิวเตอร์ ปิดการแจ้งเตือน และวางอุปกรณ์เหล่านี้ให้ไกลตัวด้วยค่ะ
แต่หาก ติดสมาร์ทโฟนจนถึงขั้นไถหน้าจอตลอดทั้งวัน หรือจ้องคอมพิวเตอร์นานหลายชั่วโมงแบบไม่พักสายตา ก็อาจ ทำให้ตาล้า ปวดตา ตาพร่ามัว แล้วถ้ายิ่งใช้สมาร์ทโฟนหรือคอมพิวเตอร์ก่อนนอน แสงสีฟ้าจากหน้าจอก็อาจรบกวนการนอนหลับ ทำให้นอนไม่หลับหรือหลับไม่สนิท ด้วยนะ รู้แบบนี้แล้วก็ควรลดการใช้สมาร์ทโฟนลง พักสายตาจากหน้าจอคอมบ้าง รวมทั้งก่อนนอนก็ควรปิดสมาร์ทโฟน / คอมพิวเตอร์ ปิดการแจ้งเตือน และวางอุปกรณ์เหล่านี้ให้ไกลตัวด้วยค่ะ
➂ นอนดึก / โต้รุ่งเป็นประจำแทบทุกวัน

- ที่มารูป:
i.pinimg.com
ใครถือคติที่ว่า #นอนน้อยแต่นอนนะ บ้างคะ ยกมือขึ้นเร็ว !!! เราขอเตือนไว้เลยว่า การนอนดึกจนพักผ่อนไม่เพียงพอ ก็เป็นอีกหนึ่งพฤติกรรมที่บ่อนทำลายสุขภาพแบบไม่รู้ตัวค่ะ โดยสาเหตุที่ทำให้หลายคนมีอาการนอนไม่หลับก็เกิดได้จากหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการดื่มกาแฟเยอะเกินไป การกินมื้อดึกใกล้เวลานอน ความเครียด ติดซีรีส์ ฯลฯ จนทำให้นอนดึกหรือนอนอีกทีเกือบเช้า
ซึ่งการนอนดึกเป็นประจำมันไม่ได้ส่งผลเสียแค่ ทำให้รู้สึกอ่อนเพลีย ไม่มีแรง สมองไม่แล่น อย่างเดียวเท่านั้นนะคะ แต่อาจ เพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดโรคร้ายแรงต่างๆ ด้วย เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง ฯลฯ แล้วถ้าอยากจะนอนหลับง่ายและหลับสนิทตลอดคืน ก็ต้องหยุดตัวการที่ทำให้นอนไม่หลับต่างๆ รวมทั้งฝึกเข้านอนและตื่นนอนเวลาเดิมทุกวัน เพื่อปรับให้ร่างกายรู้สึกชินกับเวลานอนหลับค่ะ
ซึ่งการนอนดึกเป็นประจำมันไม่ได้ส่งผลเสียแค่ ทำให้รู้สึกอ่อนเพลีย ไม่มีแรง สมองไม่แล่น อย่างเดียวเท่านั้นนะคะ แต่อาจ เพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดโรคร้ายแรงต่างๆ ด้วย เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง ฯลฯ แล้วถ้าอยากจะนอนหลับง่ายและหลับสนิทตลอดคืน ก็ต้องหยุดตัวการที่ทำให้นอนไม่หลับต่างๆ รวมทั้งฝึกเข้านอนและตื่นนอนเวลาเดิมทุกวัน เพื่อปรับให้ร่างกายรู้สึกชินกับเวลานอนหลับค่ะ
➃ กินจุบจิบตลอดทั้งวัน

- ที่มารูป:
i.pinimg.com
พอปากมันว่างก็ต้องหาของกินมาเคี้ยวเล่นเพลินๆ เป็นเรื่องธรรมดา… แต่รู้มั้ยว่าพฤติกรรมการกินจุบจิบมันไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ที่จะมองข้ามไปได้ แถมยังส่งผลเสียต่อสุขภาพมากกว่าที่คิดอีกนะ หลายคนชอบเกิดอาการหิวระหว่างวันอยู่บ่อยๆ จนต้องหาของว่างมากินแก้หิว แต่ถ้า เลือกกินแต่ของว่างที่รสชาติอร่อยแต่ไร้ประโยชน์ เช่น ขนมกรุบกรอบ ของหวาน อาหารขยะ ฯลฯ แล้วกินตลอดวัน ต่อให้ไม่หิวก็ยังกิน อาจทำให้น้ำหนักตัวพุ่งขึ้นเร็ว แถมยังทำให้ร่างกายได้รับเกลือและน้ำตาลมากจนเกินไป ส่งผลเสียต่อสุขภาพปากและฟัน เพิ่มความเสี่ยงของโรคเบาหวาน แล้วทำร้ายผิวจนสิวเห่อง่ายขึ้น
ทางที่ดีถ้าหยุดกินของว่างระหว่างวันไม่ได้ ก็ควรเปลี่ยนจากเมนูของหวานหรือของทอดมากินผลไม้ ธัญพืช หรือโยเกิร์ตแทน ก็จะช่วยบรรเทาความหิวแบบไม่ทำร้ายสุขภาพด้วยค่ะ
➄ ออกกำลังกายนานๆ ครั้ง

- ที่มารูป:
i.pinimg.com
ชีวิตกับคำว่า “ ออกกำลังกาย ” ดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่ห่างไกลกันเหลือเกิน~ หลายคนมักหาข้ออ้างที่จะไม่ออกกำลังกาย ไม่ว่าจะเป็นไม่มีเวลา ไม่มีชุดออกกำลังกาย ไม่สะดวกเข้าฟิตเนส ออกกำลังกายแล้วเหนื่อยจนจะเป็นลม และข้ออ้างอีกสารพัดอย่าง
แต่ขอให้รู้ไว้เลยว่า การออกกำลังกายนานๆ ครั้ง หรือไม่ออกกำลังกายเลย มันเป็นพฤติกรรมที่ทำร้ายสุขภาพหลายด้าน เลยค่ะ ทั้งทำให้ น้ำหนักตัวขึ้นง่าย กล้ามเนื้อหาย กระดูกพรุน ระดับคอเลสเตอรอลสูง รวมทั้ง เพิ่มความเสี่ยงของการเกิดโรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดสมอง และโรคหัวใจ ด้วยนะ แบบนี้ถ้าอยากจะเปลี่ยนแปลงตัวเองเป็นคนใหม่ที่แข็งแรงขึ้นกว่าเดิม ก็ควรลุกขึ้นมาออกกำลังกายเป็นประจำ อย่างน้อยวันละ 15 - 30 นาที โดยอาจเลือกรูปแบบการออกกำลังกายที่ชอบ เช่น เต้นแอโรบิก กระโดดเชือก วิ่งจ็อกกิง ฯลฯ เพื่อทำให้เรารู้สึกสนุกและมีกำลังใจในการออกกำลังกายมากขึ้นค่ะ
➅ นั่งอยู่ในท่าเดิมๆ นานหลายชั่วโมง

- ที่มารูป:
i.pinimg.com
ชาวซิสเคยได้ยินประโยคที่ว่า “ Sitting Is the New Smoking ” รึเปล่า ??? เอ้าา ไม่ต้องทำหน้างงค่ะ ประโยคนี้มันก็แปลความหมายได้ว่าการนั่งเฉยๆ มันก็เหมือนกับการสูบบุหรี่ ที่ทำร้ายและส่งผลเสียต่อสุขภาพของเรานั่นเอง โดยเฉพาะ วัยทำงานหรือมนุษย์ออฟฟิศที่ต้องนั่งทำงานที่โต๊ะทำงานติดต่อกันนานหลายชั่วโมง ไม่ค่อยได้ขยับตัวหรือเปลี่ยนท่าทาง ก็อาจ ทำให้อ้วนง่ายขึ้นและเกิดอาการปวดตามร่างกายส่วนต่างๆ อย่างบริเวณหลัง ขา และสะโพก
ดังนั้น ถึงเวลาบอกลาพฤติกรรมแย่ๆ ที่ทำร้ายสุขภาพอย่างการนั่งอยู่ท่าเดิมนานๆ หลายชั่วโมงแล้วค่ะ หากเพื่อนๆ ทำงานออฟฟิศแล้วต้องนั่งทำงานที่เดิมทั้งวัน ก็ควร หาเวลาพักเพื่อขยับตัวยืดเส้นยืดสายไล่ความเมื่อย ลุกขึ้นเดิน - ไปมา หรือลองเปลี่ยนจากการนั่งมาเป็นการยืนทำงานบ้าง ก็ได้นะคะ
➆ คิดวนเวียนอยู่กับความคิดติดลบ

- ที่มารูป:
i.pinimg.com
และพฤติกรรมทำร้ายสุขภาพข้อสุดท้ายที่เลิกได้ให้รีบเลิกด่วนก็คือ การคิดวนเวียนอยู่กับความคิดติดลบ นั่นเอง เราขอเตือนเลยว่าสุขภาพจิตที่ไม่ดีก็สามารถส่งผลให้สุขภาพร่างกายอ่อนแอตามไปด้วย โดยเพื่อนๆ คนไหนที่ชอบคิดถึงแต่เรื่องแย่ๆ หรือเรื่องเครียดๆ ก็จะ ทำให้เกิดความเครียดสะสมหรือภาวะซึมเศร้า แล้วหากปล่อยให้ระดับความเครียดสะสมมากๆ เป็นเวลานาน ก็อาจ เพิ่มความเสี่ยงของการเกิดโรคความดันโลหิตสูง หรือภาวะอ่อนเพลียเรื้อรัง ที่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้
เพราะฉะนั้นใครที่รู้ตัวว่าชอบเก็บเรื่องนู้นเรื่องนี้มาคิดอยู่ตลอดเวลาหรือมีความเครียดสะสม ก็ต้องลองเอาตัวเองออกห่างจากสิ่งแวดล้อมหรือผู้คนที่ทำให้รู้สึกเครียด แล้วหาเวลาพักเพื่อคลายเครียดบ้าง โดยอาจจะใช้วิธีนั่งสมาธิ ฝึกโยคะ หรือทำกิจกรรมที่ตัวเองชอบ ก็จะช่วยให้เราหยุดคิดถึงเรื่องเครียดๆ สร้างความผ่อนคลาย และทำให้รู้สึกมีความสุขมากขึ้นค่ะ
● ● ● ● ● ● ●
และนี่ก็คือ พฤติกรรมทำร้ายสุขภาพที่คาดไม่ถึง ที่เราลิสต์มาให้ชาวซิสได้ลองเช็กกันดูค่ะ คราวนี้เพื่อนๆ ก็คงรู้ตัวแล้วนะว่าพฤติกรรมบางอย่างที่เราเผลอทำจนชิน และคิดว่าไม่ได้เป็นเรื่องร้ายแรงอะไร มันอาจจะทำลายสุขภาพให้ร่างกายอ่อนแอ หรือเกิดโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ แบบไม่รู้ตัวอยู่ก็ได้ แต่ในเมื่อวันนี้รู้ตัวแล้วว่าสิ่งไหนที่ทำแล้วไม่ดี ก็ต้องรีบหยุดและแก้ไขแบบด่วนๆ เลยนะ จะได้ดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง และมีเรี่ยวแรงพร้อมที่จะเริ่มต้นทำสิ่งต่างๆ ในปีใหม่ที่กำลังจะมาถึงค่ะ ♥