อย่าเพิ่งลาออกจ้า!เราเข้าใจคนที่ทำงานแล้วไม่มีความสุขมากๆ เลยนะ รู้แหละว่าพอใจมันไม่รักแล้ว ทำต่อไป มันก็ฝืน อึดอัดพอเป็นแบบนี้แล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นคือ คิดอย่างเดียวจะลาออกๆ จะเปลี่ยนงาน จะไม่ทำ จะไม่ทนอีกแต่เดี๋ยวก่อนนะ ใจเย็นๆ จ้า!วินาทีนี้ ด้วยเศรษฐกิจที่ตกต่ำ ของแพงสุดๆ เลยทำให้หลายคนมองว่าการมีงานทำนับว่าโชคดีแล้วอย่างน้อยๆ เราก็มีใช้จ่าย ไม่ต้องเครียดอดมื้อกินมื้อ แม้ปากจะบ่นว่าไม่พอกิน แต่ก็ยังดีกว่าไม่มีเนอะ ฉะนั้นใจร่มๆ ค่ะ วันนี้เรามี5 วิธีคิดแก้ปัญหาเรื่องงานจะทำยังไง ถ้าใจไม่รัก แต่ต้องทำต่อไป จะแก้ปัญหากับความอยากลาออกนี้ยังไง ลองเข้ามาอ่านกันดูก่อนตัดสินใจ เพื่อนๆ อาจจะเปลี่ยนความคิดเลยก็ได้ ไปอ่านพร้อมๆ กันเลยค่ะ
5 วิธีคิดแก้ปัญหาการทำงานในวันที่ใจไม่รัก ไม่อยากทำงานนี้แล้ว
1. ความไม่คิดหน้าคิดหลัง คือจุดเริ่มต้นของหายนะ!

เข้าใจแหละว่าพอเจอคนเจออะไรที่ไม่โอเคในที่ทำงานแล้ว ความอยากทำ ความอยากอยู่ต่อมันลดลง สิ่งที่เกิดขึ้นคือ อยากลาออก จะเปลี่ยนงาน จะไปท่าเดียว แต่รู้มั้ยว่าการทำอะไรไม่คิดหน้าคิดหลัง มันอาจเป็นจุดเริ่มต้นของหายนะได้นะ วันนี้พอเราเอาแต่คิดว่าไม่ชอบ ไม่อยากทำ จะลาออกวันนึงถ้าเราลาออกแล้ว คิดไว้หรือยังว่าจะไปทำอะไรต่อ? อย่าเพิ่งด่วนตัดสินใจ เพื่อนๆ อาจจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยิ่งลำบากได้ เพราะงั้นก่อนจะตัดสินใจอะไร คิดให้ดีๆ คิดอย่างรอบคอบก่อน อาจต้องคำนึงถึงผลเสียด้วยว่าถ้าเราออกแล้ว จะทำยังไงต่อ? มีงานรองรับมั้ย? ค่าใช้จ่ายจะจัดการยังไง?อย่าคิดแต่เพียงว่า ออกมาก่อนแล้วค่อยคิด ก่อนตัดสินใจควรวางแผนอนาคตไว้ก่อนด้วยนะ
2. ขออย่ายอมแพ้

บางคนทำงานหนักมาก แต่เงินเดือนนิดเดียว ยิ่งถ้าเจอหัวหน้า หรือเพื่อนร่วมงานที่เอาเปรียบ ยิ่งทำให้รู้สึกท้อใจ กำลังใจในการทำงานมันก็ยิ่งน้อยลงเราเข้าใจ งานทุกงานกว่าจะทำแล้วได้เงินมา มันเหนื่อยทั้งนั้นแหละ ให้คิดแบบนี้ เวลาเราอยู่ในบ้าน คนที่เราใช้ชีวิตอยู่ด้วยคือ คนในครอบครัว ซึ่งเป็นเซฟโซนของเรา แต่พอเราก้าวขาออกข้างนอก คนที่เราจะต้องเจอ เขามาจากคนละครอบครัว อย่างที่เขาชอบพูดกันว่าร้อยพ่อพันแม่ เราไม่รู้หรอกว่าเขาดีหรือร้าย ในที่ทำงานก็เหมือนกันอย่าให้คนที่ทำให้เรารู้สึกแย่มากดดันและทำลายกำลังใจที่เรามี อย่ายอมแพ้และสู้ต่อไปแนะนำให้โฟกัสคนที่สำคัญและหวังดีกับเรา รวมถึงปัจจัยอื่นๆ ร่วมด้วยเพื่อให้ดีกับตัวเองที่สุดจะดีกว่าแล้วเราจะมีความสุขกับการทำงานมากขึ้น
3. เหนื่อยก็พัก มีแรงแล้วค่อยเริ่มใหม่!

หลายๆ คนมักจะบ่นกับเรื่องงานบ่อยๆ ว่า เหนื่อย เหนื่อย เหนื่อย! เอาจริงๆ ไม่มีงานไหนไม่เหนื่อยค่ะการหักโหมกับงานมากเกินไป ไม่ใช่เรื่องดีนะบางทีถ้าเรารู้สึกเหนื่อยมากๆ พักสมองบ้างก็ได้ ลองเปลี่ยนจุดโฟกัส ไปทำอะไรที่เบาสมอง ผ่อนคลายอารมณ์ดูสัก 10-15 นาที แล้วค่อยกลับมานั่งทำงานใหม่ แบบนี้จะได้ไม่เครียดเกินไปไงงานอาจจะเป็นสิ่งสำคัญ แต่ไม่ใช่ทั้งชีวิต ไม่ใช่สิ่งที่จะอยู่กับเราไปจนตาย แต่เป็นร่างกายและสุขภาพของเราต่างหาก ที่จะอยู่กับเราไปตลอดชีวิตเพราะงั้นเราต้องใส่ใจและดูแลเขาหน่อย ไม่ได้บอกให้เลิกทำงานหรือไม่สนใจ ไม่ให้ความสำคัญกับงานนะ แต่อยากให้รู้จักการแบ่งเวลาค่ะ มีเวลาทำงานแล้ว ก็ต้องมีเวลาพักสมองบ้าง รู้มั้ย? แล้วหากได้พักผ่อนแล้ว ไม่แน่ปัญหาต่างๆ ที่เราเคยมีอยู่ก็อาจเบาลง และสามารถหาทางออกได้ก็ได้
4. หน้าที่การงานไม่ก้าวหน้า ชวนปวดหัว
คนเราพอทำงานไปนานๆ เข้า สิ่งที่เราต้องการคือความก้าวหน้าของชีวิต ที่นี้พอทำแล้ว มันมองไม่เห็นความก้าวหน้าเลย รู้สึกเหมือนย่ำอยู่กับที่ ความอยากทำงานนี้มันก็จะลดลงบางคนถึงขั้นเครียดจัดเลยนะ เราอยากจะบอกว่า เราเข้าใจค่ะ แต่อยากให้ลองมองในหลายๆ มุม บางทีเราอาจจะยังขาดบางอย่างไปก็ได้ลองพยายามดูอีกสักครั้งดีมั้ย เราเชื่อนะว่า ความพยายาม ความขยัน และความใจสู้ จะทำให้เพื่อนๆ ก้าวไปได้ไกลขึ้นค่ะแม้มันอาจจะช้ากว่าคนอื่นๆ แต่สักวันมันต้องเป็นวันของเรา อย่าท้อนะ ต้องสู้ๆ เอาความเจ็บช้ำตรงนี้ มาเป็นแรงผลักดันให้กับตัวเองค่ะ จะได้มีแรงฮึดสู้ต่อไป โอเคนะ!
5. อย่าคิดลบเกินไป

สุดท้ายนี้ อยากจะบอกคนทำงานเหมือนกัน เรารู้ว่าเวลาทำงานแต่ละคนเจอเรื่องราวทั้งดีและร้ายแตกต่างกันออกไป เพราะฉะนั้นอย่าเก็บทุกเรื่องมาคิดและบั่นทอนกำลังใจตัวเองจนทำให้ตัวเราเองหมดแรงกายและแรงใจที่จะทำงานต่อ ลองปรับความคิดเปลี่ยนมุมมองใหม่ เอาเรื่องพวกนั้นมาเป็นแรงผลักดันตัวเองแทน หาจุดที่สมดุลให้ตัวเอง อะไรที่มันเป็นเชิงลบ หรือปัญหาใดๆ ถ้าเจอก็ค่อยๆ แก้ไขไปทีละเรื่องเราเชื่อว่าสักวันนึง ปัญหาทุกอย่างมันจะคลี่คลายได้ เพราะฉะนั้นอย่าเพิ่งย่อท้อ อย่าเพิ่งยอมแพ้ อดทนอีกหน่อย สักวันมันต้องเป็นวันของเรา

การลาออกไม่ใช่เรื่องผิด แต่บางทีก็อาจไม่ใช่การแก้ปัญหา แถมยังอาจยิ่งเพิ่มปัญหาให้กับตัวเราด้วย เพราะงั้นถ้าใครคิดจะลาออก สิ่งที่ต้องทำและจำไว้คือคุณจะต้องรู้จักการวางแผนและคิดอย่างรอบคอบเพื่อไม่ให้เป็นการเพิ่มภาระและปัญหาให้กับตัวเอง ทางที่ดีที่สุดคือต้องมีงานรองรับก่อน ถึงจะออกจากที่เดิมได้ แต่ถ้ายังหาไม่ได้ แล้วยังมีความจำเป็นในเรื่องการเงินและชีวิตความเป็นอยู่ แนะนำให้อดทนอีกหน่อย เบื้องต้นลองใช้วิธีปรับมุมมอง หาจุดที่สมดุลให้ตัวเองก่อน แล้วเดี๋ยวเราค่อยหาหนทางต่อไป ขอเป็นกำลังใจให้ทุกๆ คนเลยสำหรับวันนี้ต้องลาไปก่อนแล้ว บ๊ายบาย