มาย้อนเวลากลับไปดื่มด่ำความทรงจำและเรื่องราวที่อัดแน่นอยู่ในแต่ละหน้ากระดาษ เพื่อทำให้เราได้พัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นไปเรื่อยๆ กันดีกว่าฮายค่าซิสคนสวย! เราดีใจจังเลยที่วันนี้พวกเราได้กลับมาเจอกันในหัวข้อเรื่อง“การพัฒนาตัวเอง” อีกแล้วว อิอิ ส่วนตัวเราเองก็เป็นคนที่ชอบพัฒนาตัวเองในทุกๆ วันเหมือนกัน ดังนั้นเราเลยคิดว่าหัวข้อหนังสือดีเปลี่ยนชีวิตที่เราเอามาฝากวันนี้ จะต้องถูกใจเพื่อนๆ ที่มีไฟในการพัฒนาตัวเองให้ปั๊วะตลอดเหมือนกันแน่นอน

ซึ่งถ้าเพื่อนๆ พร้อมที่จะไปเพิ่มไฟและเปลี่ยนแปลงตัวเองให้เป็นคนใหม่ที่ดีกว่าเดิมแล้วพวกเราก็ไปส่อง 6 หนังสือเพิ่มพลังหญิงสุดประทับใจ ที่เราเอามาฝากวันนี้ได้เลยจ้าา

✿❀ 6 หนังสือดีเปลี่ยนชีวิตเพื่อพัฒนาตัวเอง ต้อนรับวันสตรีสากล ❀✿

1. Little Women

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/76/a3/b0/76a3b07154cb6c9af293c21ee466b52a.jpg

หนังสือเรื่องLittle womenเป็นวรรณกรรมอมตะระดับโลก ที่ถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตของผู้หญิงสมัยก่อนว่าถูกสังคมตีกรอบหรือวาดไว้ว่าต้องเป็นแบบไหนผ่าน 4 สาวพี่น้องที่ถึงแม้จะมีนิสัยและความฝันที่แตกต่างกัน แต่ก็สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างกลมกล่อมโดยมี เม็กพี่สาวคนโตที่มีความฝันคล้ายๆ กับผู้หญิงในสังคมยุคนั้นว่า การแต่งงานคือความฝันของเธอ แตกต่างกับ โจน้องสาวคนรองที่เห็นต่างว่าผู้หญิงเองก็มีความฝันและความสามารถเหมือนกัน โดยโจเชื่อว่าเป้าหมายหรือบั้นปลายชีวิตของผู้หญิงนั้นไม่จำเป็นต้องลงท้ายด้วยการแต่งงานเสมอไป

สำหรับเราชื่นชมหนังสือเรื่อง little women ว่าเขาตีแผ่มุมมองเรื่องสิทธิสตรีต่อกรอบความคิดของสังคมในยุคสมัยนั้นออกมาได้หลากหลายมุมมองมาก ซึ่งจุดสำคัญที่ผู้เขียนต้องการจะบอกคนอ่านเป็นนัยๆ ก็คือผู้หญิงเองก็มีความฝันและความสามารถที่ยิ่งใหญ่ไม่ได้น้อยไปกว่าใครเลยสำหรับเพื่อนๆ ที่ไม่เคยอ่านหนังสือเรื่องนี้นี่ต้องลองไปหาอ่านให้ได้สักครั้งจริงๆ นะคะ

2. The Fault In Our Star

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/c4/e6/24/c4e624c5c17f1f418243a42e6547cef3.jpg

ต่อด้วยนวนิยายที่สอนให้รู้ว่าต่อให้เราจะเลือกชะตาชีวิตของตัวเองไม่ได้ แต่เราสามารถเรียนรู้ที่จะอยู่ไปกันมันได้นี่เป็นเรื่องราวความรักอันน่าประทับใจระหว่าง Hazel เด็กสาววัย 16 ปีผู้เฉลียวฉลาดและไม่ยอมแพ้ต่อชะตากรรมที่เจอ เธอป่วยโรคมะเร็งที่ต่อมไทรอยด์จนลามไปปอด ทำให้ต้องต่อสายออกซิเจนเพื่อช่วยหายใจตลอดเวลาและ Augustus เด็กหนุ่มวัย 17 ปี นักเบสบอลเก่าที่เสียขาไปข้างหนึ่งเพราะป่วยเป็นมะเร็ง ได้บังเอิญมาพบกันใน Support Group สังคมของผู้ป่วยโรคมะเร็งที่ต้องการให้กำลังใจและเยียวยากันขอบอกเลยว่าการพบกันขอทั้งคู่นั้นไม่ได้ดูหวานชวนเคลิ้มเหมือนคู่รักทั่วไป หรือตื่นเต้นเซอร์ไพรส์มากมายนัก เนื่องจากThe Fault In Our Starเป็นนวนิยายที่ต้องการจะบอกเล่าเรื่องราวของคู่รักธรรมดาคู่หนึ่ง ที่อยากทำทุกวันให้ดีที่สุด เพราะเราไม่มีทางรู้ได้เลยว่า วันไหนจะเป็นวันสุดท้ายที่เราจะมีโอกาสได้ตื่นมาเจอหน้าคนที่เรารักอีกดังนั้นถ้าในวันนี้เรายังมีโอกาสที่จะมอบความรักของเราให้ใครสักคน ก็ขอให้มันออกมาจากใจ แล้วในวันหนึ่งที่เราต้องจากไป เราจะไม่มีวันเสียดายในสิ่งที่เราคิดแต่ไม่ได้ทำเลยสำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่อยากได้แง่คิดหรือปรัชญาในการใช้ชีวิต น่าจะถูกใจนวนิยายขายดีสุดฮิต ชวนน้ำตาไหลอย่าง The Fault In Our Star แน่นอน

3. The Midnight Library

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/40/f5/f4/40f5f450a52b2462ea15a22406ad70e6.jpg

เพื่อนๆ เคยเป็นไหมคะ? ที่ในช่วงหนึ่งของชีวิต ได้เกิดทางแยกเป็น 2 ทางและบีบบังคับให้เราเลือกเดินไปได้แค่ทางหนึ่งจากทั้ง 2 ทางเท่านั้น ซึ่งถ้าเราเลือกเดินไปทางหนึ่งแล้วผลออกมาดี มันก็คงจะไม่มีอะไร แต่ถ้าทางที่เราเลือกไปนั้นมันทำให้เราต้องเจอกับหายนะ เราคงอยากย้อนเวลากลับไปและคงมีความคิดหนึ่งที่เข้ามาในหัวว่า“ถ้าตอนนั้นเราเลือกเดินไปอีกทางละก็…มันคงจะทำให้เราเจอสิ่งที่ดีกว่านี้แน่นอน”นอราห์ หญิงสาวอายุ 35 ปีได้ตัดสินใจจบชีวิตตัวเองลงด้วยการกินยาฆ่าตัวตาย เนื่องจากที่เธอไม่สามารถรับความทุกข์ทรมานที่เจอในชีวิตได้อีกต่อไป แต่แทนที่เธอจะตายจากโลกนี้ไป เธอกลับตื่นมาอยู่ในห้องสมุดเที่ยงคืนที่มีมิสซิสเอล์มที่เป็นบรรณาลักษณ์อยู่ที่นั่น มิสซิสเอล์มได้บอกกับนอราห์ว่า หนังสือที่อยู่ในห้องสมุดเที่ยงคืนนี้เป็นทางเส้นทางทั้งหมดที่สามารถเกิดขึ้นได้กับนอราห์ โดยมิสซิสเอล์มได้ให้โอกาสนอราห์ในการลองเลือกเส้นทางใหม่ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเจอเส้นทางที่เธอมีความสุขที่สุดหนังสือThe Midnight Libraryเป็นการเล่าเรื่องราวที่ทำให้เราเห็นว่าในชีวิตของคนๆ หนึ่งนั้นย่อมมีทางแยกหรือช่วงเวลาให้เราต้องตัดสินใจเสมอจงอย่าเสียดายหรือผิดหวังกับเส้นทางที่เราได้เลือกไป เพราะไม่มีใครสามารถทำถูกได้เสมอ สุดท้ายนี้ขอแค่เราสามารถสร้างความสุขเล็กๆ ให้ได้ในทุกๆ วันที่เรามีชีวิตอยู่ก็พอ

4. Me Before You

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/aa/6e/51/aa6e51b3fea32af6ff7bd7cd30cde34f.jpg

มาถึงหนังสือดีเปลี่ยนชีวิตเล่มที่ 4 กันแล้ว กับเรื่องราวโรแมนติกดราม่าสะท้อนชีวิต ที่สอนให้รู้ว่าเวลาเป็นสิ่งที่มีค่าขนาดไหนเรื่องราวได้ดำเนินไปผ่านมุมมองของ หลุยซ่า คลาร์ก หญิงสาวผู้ที่ไม่เคยได้ออกไปใช้ชีวิตของเธอสักที เนื่องจากเธอมีครอบครัวที่ยากจน เธอจึงต้องทำงานหาเลี้ยงครอบครัวมาโดยตลอด แต่แล้ววันหนึ่งพรหมลิขิตก็ดลบันดาลให้เธอได้มาทำงานดูแลชายหนุ่มผู้ที่เป็นอัมพาตตั้งแต่ช่วงคอลงไปอย่าง วิล เทรเนอร์ หนุ่มหล่อสุดเพอร์เฟกต์บ้านรวย ที่ได้ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาต้องการมาตลอด กำลังสิ้นหวังและรู้สึกหมดอาลัยตายอยาก เนื่องจากร่างกายของเขานั้นใช้การไม่ได้อย่างใจนึก อีกทั้งแฟนเก่าก็ทิ้งเขาเพื่อไปแต่งงานกับเพื่อนสนิทอีกสำหรับเรารู้สึกว่าMe Before Youเป็นนวนิยายที่อ่านแล้วประทับทั้งแง่คิดและการดำเนินเรื่องจากมุมมองทั้งฝั่งพระและนางเลยว่า ถ้าเราได้เกิดมาครั้งหนึ่งแล้ว เราก็ไม่ควรลังเลที่จะออกไปใช้ชีวิตของเราให้คุ้มค่าและรักษาสิ่งที่คิดว่าสำคัญสำหรับเราเอาไว้ให้ดีที่สุดเพราะชีวิตเรามันสั้นเราไม่รู้ได้เลยว่าพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้น แน่นอนว่าไม่มีใครที่ไม่เคยเจอเรื่องผิดหวังหรือเสียใจอยู่แล้ว แต่ขอเพียงแค่เราอย่าหยุดภาคภูมิใจและก้าวเดินต่อไปในวันใหม่อย่างสดใสให้ได้ก็พอ

5. To Kill A Mockingbird

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/7d/81/12/7d81126b16b9a12ecc67d395f45e4863.jpg

มีคนเคยเปรียบเทียบเด็กให้เป็นเหมือนกับ กระดาษขาว ที่สามารถถูกแต้มให้เป็นสีอะไรก็ได้ที่เคยไปพบเจอมาเรื่องราวที่ถูกถ่ายทอดผ่านหนังสือเล่มนี้นั้นเปรียบได้กับการที่เรากำลังจะย้อนกลับไปเป็นเด็กอีกครั้งผ่านมุมมองของ สเกาท์ สาวน้อยอายุ 6 ขวบที่อาศัยอยู่กับแอตติคัส พ่อที่มีอาชีพเป็นทนายความในการตัดสินผู้ที่กระทำผิดให้ได้รับโทษTo Kill A Mockingbirdเป็นหนึ่งในนวนิยายชื่อดังก้องโลกที่แทบไม่มีคนไม่รู้จัก เนื่องจาก To Kill A Mockingbirdนั้นไม่ได้เพียงแค่สอนให้เรามองโลกตามความเป็นจริงเท่านั้น แต่ยังทำให้เราได้เห็นด้านมืดในสังคม ไม่ว่าจะเป็นด้าน สุข ทุกข์ ตลก ผิดหวัง การเหยียดกัน การไม่ได้รับความเป็นธรรม และเรื่องอื่นๆ ที่ไม่ได้สวยงามของโลกมนุษย์อีกมากมายแต่ถึงอย่างนั้นมันก็ทำให้เราได้เรียนรู้มุมมองทั้งร้ายและดี เพื่อนำมาใช้เป็นเกราะกำบังในการพัฒนาตัวเองให้เข้มแข็งต่อไปในอนาคตได้นั่นเอง

6. Big magic

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/4d/ba/c1/4dbac1702a1f6018535953e7f1ae8bf5.jpg

ส่วนตัวเราเคยอ่านหนังสือสร้างแรงบันดาลใจมามากมาย เพราะเราเป็นคนชอบปลุกไฟในตัวเองอยู่แล้ว ซึ่งขอบอกตรงๆ เลยว่า หนังสือสร้างแรงบันดาลที่อ่านแล้วว้าวว! สามารถปลุกใจเราได้ดีที่สุดตอนนี้ก็คือ Big magic ของ Elizabeth Gilbert นักเขียนหญิงมือทองที่ได้เขียนและบอกเล่าเรื่องราวในชีวิตของเธอออกมาเป็นตอนๆ เพื่อที่เธอจะได้เก็บมาเรียนรู้และสร้างความสุขให้กับตัวของเธอเองได้สำหรับBig magic หรือ พลังวิเศษของคนธรรมดาเป็นหนังสืออ่านง่ายที่ได้ตีความทุกช่วงชีวิตของนักเขียนออกมาเป็นตอนๆ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนอ่านที่ต้องการแรงกระตุ้นได้อย่างเพลิดเพลินที่สุด Big magicเปรียบเสมือนเพื่อนร่วมทางเดินชีวิต ที่คอยสะท้อนเรื่องราวของเราและคอยยืนหยัดอยู่ข้างๆ เพื่อเชียร์และให้กำลังใจเราอยู่เสมอ คอยผลักดันเวลาเราท้อ คอยปลอบโยนให้เราก้าวไปต่อ แม้ในวันที่ไม่มีใครสนใจเราไม่สามารถห้ามความคิดของคนอื่นว่า เราเป็นคนยังไงได้ เพราะจริงๆ แล้วความคิดพวกนั้นมันไม่ได้สำคัญหรือจำเป็นกับเราเลย ถ้าเราไม่รับมันมาใส่ใจยังไงเสียสิ่งที่สำคัญกับเราที่สุดก็คือ การที่เราได้ใช้ชีวิตในแบบที่อยากเป็น และได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรักต่อไปเรื่อยๆ ก็พอ

☆.。.:*・°☆.。.:*・°☆.。.:*・°☆.。.:*・°☆หนังสือทั้ง 6 เล่มนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของหนังสือดีที่ควรอ่านสักครั้งในชีวิตเพื่อพัฒนาตัวเองให้เปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ดีขึ้นมากสำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่มีหนังสือสร้างแรงบันดาลใจอื่นๆ ในดวงใจอีก ก็สามารถนำมาแลกเปลี่ยนกันได้นะคะ เพราะSharing is Caringนั่นเอง อิอิ ยังไงวันนี้เราคงต้องขอตัวก่อนแล้วไว้กล้บมาพบกันใหม่ในบทความต่อไปน้า บ๊ายบายย~