สวัสดีค่าซิสส!! สบายดีกันรึเปล่าเอ่ยย ในช่วงหน้าร้อนแบบนี้เพื่อนๆ ต้องระวังและรักษาสุขภาพกันให้ดีๆ เลยน้า

โดยเฉพาะเพื่อนๆ คนไหนที่ต้องเดินทางบ่อยๆ หรือทำงานที่ต้องพบปะผู้คนมากหน้าหลายตานี่จะมีความเสี่ยงสูงมาก

ที่เราจะไปติดต่อหรือรับเชื้อโรคจากเขามา

การฉีดวัคซีนและดูแลสุขภาพควบคู่กันไป ถือเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่เราจะลดความเสี่ยงต่อการเกิดและติดต่อโรคร้ายเพื่อมีสุขภาพที่แข็งแรงในระยะยาวได้

ดังนั้นสำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่เคยฉีดวัคซีนแต่ตอนเด็ก ก็ลองมาทำความรู้จักกับวัคซีนที่ควรฉีดตอนโตกันบ้างเลยดีกว่า ไปกันเล้ยย!!

7 วัคซีนที่ผู้หญิงควรฉีด เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรค ʕ·ᴥ·ʔ

1. วัคซีนป้องกันการติดเชื้อ (HPV vaccine)

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/86/4e/4c/864e4cb9076b1cf799f412931fc3e92c.jpg

เชื้อ HPV คืออะไร: HPV เป็นเชื้อไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคบริเวณปากมดลูกของเพศหญิง และทวารหนักของเพศชาย โดย HPV นั้นมีอยู่ 2 ประเภท คือที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็งและไม่ก่อให้เกิดโรคมะเร็ง ตัวที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งสามารถเกิดได้ที่ ปากมกลูกและช่องคลอดเลย ส่วน HPV ที่ไม่ทำให้เกิดโรคมะเร็งจะกลายไปเป็นหูดหงอนไก่งอกออกมาจากอวัยวะเพศหญิงแทน

กลุ่มที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ: ส่วนใหญ่คนที่ติดเชื้อ HPV จะเป็นผู้หญิงวัยกลางคนที่มีลูกหลายคนแล้ว แต่โอกาสที่ผู้หญิงในช่วงวัยอื่นจะสามารถติดเชื้อได้ก็มีอยู่เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการ เปลี่ยนคู่นอนหลายคน การตั้งครรภ์ตั้งแต่อายุยังน้อย ฯลฯ

เกณฑ์การฉีดวัคซีนป้องกันการติดเชื้อ HPV:

อายุ < 14 ปี : ฉีด 2 เข็ม

อายุ > 14 ปี : ฉีด 3 เข็ม

2. วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ (Influenza vaccine)

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/79/84/87/798487f497fec86a751ab090588d6b69.jpg

เชื้อไข้หวัดใหญ่ คืออะไร: เวลาเราเป็นไข้นี่คือช่วงเวลาที่เลวร้ายของจริง เพราะร่างกายจะรู้สึกทรมานจากการที่มีอุณหภูมิสูงขึ้น รู้สึกอ่อนเพลียและปวดเมื่อตามร่างกาย แต่มันก็จะมีหลายๆ คนที่แอบสงสัยกันว่า แล้วไข้หวัดกับไข้หวัดใหญ่นี่มันต่างกันยังไง ซึ่งเอาจริงๆ แล้วทั้งไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่ก็คือ การติดเชื้อโรคผ่านทางระบบทางเดินหายใจเหมือนกัน เพียงแต่ไข้หวัดใหญ่จะมีผลกระทบอาการของโรคที่รุนแรงกว่า เช่นถ้าไข้หวัด จะมีไข้ไม่เกิน 38°เซลเซียส อ่อนเพลีย และไอจามเล็กน้อยเท่านั้น แต่ไข้หวัดใหญ่จะทำให้คนไข้หนาวสั่น มีอุณหภูมิร่างกายสูง 39 องศาเซลเซียส คลื่นไส้ เบื่ออาหาร และกล้ามเนื้อเกิดอาการอ่อนเพลียแบบเฉียบพลัน

กลุ่มที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ: กลุ่มที่สุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ส่วนใหญ่จะเป็นคนที่มีร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง และต้องการการดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษ อย่างเช่น สตรีมีครรภ์ เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ บุคคลที่มีโรคประจำตัว ฯลฯ

เกณฑ์การฉีดวัคซีนป้องกันการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่:

อายุ > 6 เดือน : ฉีด 1 เข็ม/ 1 ปี

3. วัคซีนป้องกันโรคสุกใส (Varicella vaccine)

รูปภาพ:https://www.my-personaltrainer.it/2021/08/04/varicella-orig.jpeg

โรคสุกใส คืออะไร: ไม่ว่าจะคุณผู้ชายหรือคุณผู้หญิงคงไม่มีใครอยากติด โรคสุกใส หรือ อีสุกอีใส แน่นอน เพราะเวลาเป็นโรคสุกใสนี่มันทรมานมาก ไม่มีใครอยากเข้าใกล้เรา แถมหลังจากหายแล้วผิวเราก็อาจจะยังมีสะเก็ดแผลเป็นหลงเหลืออยู่ด้วย โรคสุกใส นั้นเป็นโรคที่เกิดจากการติดต่อของเชื้อไวรัสผ่านระบบหายใจและสารคัดหลั่งจากร่างกายของผู้ติดเชื้อ ที่ทำให้ร่างกายของผู้ป่วยเกิดตุ่มน้ำขนาดเล็กขึ้นทั่วร่างกาย ซึ่งก่อนที่เราจะรู้ตัวว่าเป็น โรคสุกใส เพื่อนๆ อาจจะ มีไข้ ปวดศีรษะ หรือ อ่อนล้าร่วมด้วยได้

กลุ่มที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ: ไม่ว่าจะเป็นใครอายุเท่าไหร่ ถ้าได้ไปสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยโรคสุกใสก็สามารถติดเชื้อได้ทั้งนั้น แต่ส่วนใหญ่คนที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อที่สุดจะเป็น เด็ก สตรีมีครรภ์ และ คนที่มีร่างกายอ่อนแอ เป็นต้น

เกณฑ์การฉีดวัคซีนป้องกันโรคสุกใส:

เด็ก : ฉีด 2 เข็ม (เข็ม 1: อายุ 1 - 1 ½ ปี, เข็ม 2: อายุ 4 - 6 ปี)

ผู้ใหญ่ : ฉีด 2 เข็ม (ระยะห่างเข็ม 1 และ เข็ม 2 ทั้งหมด 2 เดือน)

4. วัคซีนป้องกันโรคหัด, คางทูม, หัดเยอรมัน (MMR vaccine)

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/73/85/c6/7385c6da0eaf92d06bed50a93061541e.jpg

โรคหัด, คางทูม, หัดเยอรมัน คืออะไร: โรคหัด, คางทูม และ หัดเยอรมัน เกิดการติดต่อกันผ่านเชื้อไวรัสที่ล่องลอยผ่านการหายใจ การสัมผัสผ่านสารคัดคลั่งและสัมผัสโดยตรง ซึ่งทั้ง 3 อย่างนั้นจะทำให้เรามีไข้เหมือนกันหมด เพียงแต่ คางทูมจะทำให้ต่อมน้ำลายอักเสบ, หัดทำให้ ไอ ตาแดง มีผื่น, ส่วนหัดเยอรมันทำให้คนป่วยมีต่อมน้ำเหลืองโต และมีผื่นร่วมด้วยนั่นเอง

กลุ่มที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ: กลุ่มคนที่สามารถติดโรคหัด, คางทูม, หัดเยอรมัน ได้ง่ายที่สุดก็คือ เด็กทุกคน และ ผู้ที่ภูมิคุ้มกันบกพร่องทุกคน ส่วนกลุ่มคนที่ควรให้หลีกเลี่ยงการฉีด MMR ไปก่อนก็คือ กลุ่มสตรีมีครรภ์ เพราะแม่สามารถส่งผ่านเชื้อไปที่ลูกได้ และอาจทำให้แท้งก่อนกำหนดนั่นเอง

เกณฑ์การฉีดวัคซีนป้องกันการติดเชื้อโรคหัด, คางทูม, หัดเยอรมัน:

เด็ก : ฉีด 2 เข็ม (เข็ม 1: อายุ 12 - 15 เดือน, เข็ม 2: อายุ 4 - 6 ปี)

ผู้ใหญ่ : ฉีด 2 เข็ม (ระยะห่างเข็ม 1 และ เข็ม 2 อย่างน้อย 28 วัน)

5. วัคซีนป้องกันโรคไอกรน, คอตีบ, และบาดทะยัก (Tdap vaccine)

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/95/0f/75/950f75c5728d2c1051defd94f5298acb.jpg

โรคไอกรน, คอตีบ, และบาดทะยัก คืออะไร: โรคไอกรน, คอตีบ, และบาดทะยักเป็นโรคติดต่อที่เกิดการติดเชื้อผ่านแบคทีเรีย โดยที่ไอกรนจะทำให้เป็นไข้หวัด ไอรุนแรงได้, คอตีบจะทำให้เราเจ็บคอรุนแรง หอบเหนื่อยง่าย, ส่วนบาดทะยักจะส่งผลกระทบต่อระบบประสาทอย่างรุนแรง ซึ่งถ้าหากเกิดอาการแทรซ้อนก็สามารถทำให้ตายได้

กลุ่มที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ:  ไม่ว่าจะเป็นวัยไหน การฉีดวัคซีนป้องกันการติดเชื้อโรคไอกรน คอตีบและบาดทะยัก เป็นเรื่องที่จำเป็นมาก โดยเฉพาะเด็ก, สตรีมีครรภ์, ผู้สูงอายุ และ คนที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ

เกณฑ์การฉีดวัคซีนป้องกันการติดเชื้อโรคไอกรน, คอตีบ, และบาดทะยัก:

อายุ > 11 ปี : ฉีด 3 เข็ม (ฉีดกระตุ้นทุก 10 ปี)

6. วัคซีนป้องกันเชื้องูสวัด (Shingles vaccine)

รูปภาพ:https://www.sepainandspinecare.com/wp-content/uploads/2022/11/SEPSC-Nov-24-1080x675.png

เชื้องูสวัด คืออะไร: งูสวัดเป็นโรคผิวหนังที่เป็นเหมือนตุ่มน้ำใสๆ ปวดแสบปวดร้อนเหมือนถูกไฟไหม้ ขึ้นตามแนวเส้นประสาทคล้ายกับงู โดยเชื้องูสวัดจะกำเริบได้ในคนที่เป็นโรคสุใสเวลาร่างกายอ่อนแอ ซึ่งถ้าเราไม่รีบเข้ารับการรักษา ผู้ปาวยอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนอย่างรุนแรงได้เลย

กลุ่มที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ: คนที่เสี่ยงในการติดเชื้อโรคงูสวัดได้ง่ายที่สุดคือ คนที่เคยเป็นสุกใส ผู้สูงอายุ สตรีให้นมบุตร และ ผู้ป่วยภูมิคุ้มกันบกพร่อง เป็นต้น

เกณฑ์การฉีดวัคซีนป้องกันการติดเชื้องูสวัด:

เด็ก : ฉีด 2 เข็ม (เข็ม 1: อายุ 12 - 15 เดือน, เข็ม 2: อายุ 4 - 6 ปี)

ผู้ใหญ่อายุ > 50 ปี : ฉีด 2 เข็ม (ระยะห่างเข็ม 1 และ เข็ม 2 อย่างน้อย 2 - 6 เดือน)

7. วัคซีนป้องกันโรคปอดอักเสบ (Pneumonia vaccine)

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/c2/08/19/c20819efb38d34ce8fa9e27587fa6634.jpg

โรคปอดอักเสบ คืออะไร: ปอดอักเสบหรือปอดบวม เป็นอาการอักเสบจากการติดเชื้อแบคทีเรียและไวรัสบริเวณเนื้อเยื่อรอบปอด ที่ทำให้คนไข้หายใจลำบาก มีไข้ มีเสมหะ และคลื่นไส้ได้ โดยถ้าเรารู้ตัวว่าเป็นแล้วไม่รีบเข้ารับการรักษา อาจจะเกิดภาวะแทรกซ้อนกับปอดในระยะยาวได้เลย

กลุ่มที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ: คนที่มีภาวะสุ่มเสี่ยงต่อการเป็นโรคปอดอักเสบมากที่สุดคือ เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ

เกณฑ์การฉีดวัคซีนป้องกันการติดโรคปอดอักเสบ:

เด็กอายุ < 2 ปี : ฉีด 4 เข็ม

ผู้ใหญ่อายุ > 65 ปี : ฉีด 2 เข็ม

รูปภาพ:https://i.pinimg.com/564x/db/1f/06/db1f060f64c1d0f10b63ae3716897664.jpg

จบลงไปแล้วกับ

7 วัคซีนเพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคที่ผู้หญิงควรฉีด

เพื่อนๆ คนไหนที่

อยากป้องกันโรคที่จะเกิดกับตัวเองไว้ก่อน ก็สามารถเลือกที่จะฉีดวัคซีนได้นะคะ

เพราะบางโรคเวลาเป็นแล้วลำบากมาก

อย่างโรคสุกใสและงูสวัด ที่เวลาเป็นแล้วทำให้ผู้หญิงแบบเราเสียความมั่นใจและใช้ชีวิตได้ยากขึ้นมาก

เพราะฉะนั้นแล้วยังไงการไม่เป็นโรคก็ถือเป็นเรื่องที่ดีที่สุด

ที่จะทำให้เราสามารถใช้ชีวิตสนุกสนาน

ได้อย่าง

เต็มที่

สำหรับวันนี้เราขอเอาบทความมาฝากไว้แค่นี้ก่อน ไว้คราวหน้ากลับมาเจอกันในบทความน่าสนใจอีกนะคะ บ๊ายบายย