ทำงานเหนื่อยมั้ย ? รวม " 7 วิธีผ่อนคลาย " ระหว่างทำงานที่แสนเคร่งเครียด

ทำงานเหนื่อย ๆ มาคลายเครียดกันหน่อย

สำหรับบทความนี้ขอเอาใจสายออฟฟิศกันหน่อยนะคะ

สำหรับในการทำงานคงต้องมีวันที่งานมันตึง มันเคร่งเครียดกันบ้าง แต่ถ้าเกิดว่าเราจดจ่อจนปวดหัวอาจจะส่งผลไม่ดีต่อสุขภาพทั้งร่ายกายและจิตใจได้นะ

บทความนี้เลยจะชวนเพื่อน ๆ มา

หาวิธีผ่อนคลายจากวันทำงานแสนเคร่งเครียดกัน

จะเป็นยังไง ไปคลายเครียดพร้อมกันเลย

ทำงานเหนื่อยมั้ย? รวม 7 ผ่อนคลายจากการทำงานแสนเคร่งเครียด

✩ ✩ ✩ ✩ ✩ ✩ ✩ ✩ ✩

1. กินของอร่อยคลายเครียด

เคยได้ยินมั้ยว่าเวลา

"เครียด ๆ ให้กินของอร่อยแล้วจะคลายเครียดได้"

ส่วนตัวเราใช้วิธีนี้ก็ช่วยได้จริงนะ เพราะ

เวลากินเรามักจะโฟกัสของอร่อยถูกใจตรงหน้า แล้วลืมความเครียดไปเลย

แต่ถ้าเครียดแถมกินจุบจิบทั้งวัน ก็คงไม่ดีต่อสุขภาพร่างกาย อยากคลายเครียดจากการทำงาน แถมสุขภาพดีไปด้วย

แทนที่จะเป็นขนมกรุบกรอบวางอยู่บนโต๊ะทำงาน ลองเปลี่ยนเป็นผลไม้รสชาติเปรี้ยว ๆ หวาน ๆ เพิ่มความสดชื่น หรือจะเป็นดาร์กช็อกโกแลต ชาเขียวร้อน

ที่ช่วยรักษาระบบน้ำตาลให้คงที่ และช่วยกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนความสุข ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีเหมือนกัน

2. บริหารร่างกาย ยืดเส้นคลายเครียด

นั่งทำงานนาน ๆ อาจจะทำให้เส้นยึดจนตึงเครียดได้

ลองปรับเปลี่ยนท่าทางบ่อย ๆ บริหารไหล่และกล้ามเนื้อคลายปวดเมื่อย ด้วยการขยับไหล่ไปด้านหน้าและหลัง อย่างละ 10 - 15 ครั้ง หรือลองลุกไปเดินเล่น ออกไปยืดเส้นยืดสายสักแป๊

บ

พอได้ขยับตัวโฟกัสกับสิ่งที่อื่นที่ไม่ใช่ อาจจะทำให้สมองปลอดโปร่ง และได้ไอเดียใหม่ ๆ กลับมาได้ด้วย

ส่วนใครที่จำเป็นต้องนั่งทำงานนาน ๆ อุปกรณ์เซฟหลัง เซฟร่างกายน่าจะเป็นอีกหนึ่งไอเทมที่เหมาะมากเลย เพื่อรักษาสุขภาพร่างกายให้ดี ห่างไกลจากออฟฟิศซินโดรม

ถ้าเก้าอี้ที่ออฟฟิศไม่ได้เป็นเก้าอี้ที่ซัพพอร์ตหลังเรามากขนาดนั้น ทนนั่งไปอาจจะทำให้ปวดหลังระยะยาวได้

" เบาะรองหลัง "

ก็เลยเป็นอีกหนึ่งไอเทมสำคัญที่ต้องมีของชาวออฟฟิศเลย นอกจากจะช่วยเซฟสุขภาพของหลังและร่างกายเราได้แล้ว ยังช่วยเสริมบุคลิกไม่ให้หลังค่อมอีกด้วย

นอกจากเบาะรองนั่ง ก็ยังมี

" หมอนรองคอ "

ไอเทมที่น่าจะช่วยผ่อนคลายความเมี่อยล้าให้กับชาวออฟฟิศได้ดีเลย และยังเป็นไอเทมป้องกันอาการออฟฟิศซินโดรมได้ด้วย นั่งทำงานเมื่อย ๆ ก็หนุนพิงหมอนรองคอให้ผ่อนคลาย แต่ระวังอย่าพิงหมอนเพลินแล้วเคลิ้มจนลืมทำงานกันน้า

อีกหนึ่งไอเทมบรรเทาความเมื่อยล้า สาเหตุของความเครียด ก็คือ

" ที่วางเท้า "

เป็นอีกหนึ่งไอเทมที่ช่วยลดอาการออฟฟิศซินโดรมได้เหมือนกัน เพราะที่วางเท้าจะช่วยปรับสรีระท่านั่งให้ร่างกายอยู่ในท่าที่สบาย ลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อขา แผ่นหลัง และต้นคอ

3. นั่งสมาธิคลายเครียด

ในวันทำงานวุ่น ๆ อาจจะมีเรื่องเยอะแยะให้จัดการเต็มไปหมดจนเคร่งเครียด

ลองพักสักนิด นั่งสมาธิหรือค่อย ๆ หายใจเข้าและออกลึก ๆ ยาว ๆ สูดลมหายใจให้เต็มปอดทำให้เลือดลำเลียงออกซิเจนไปเลี้ยงสมองได้มากขึ้น ช่วยให้ผ่อนคลาย หายเครียด แถมสดชื่น กระปรี้ประเปร่าขึ้นด้วย

เป็นอีกหนึ่งวิธีเรียกสติ และผ่อนคลายความเครียดในการทำงานที่ดีเลยนะเนี่ย

4. หาเพลงฟัง / ฟัง Podcast คลายเครียด

การจดจ่อกับงานมากเกินไปอาจจะเพิ่มความเครียดโดยไม่รู้ตัว ลองเลือกฟังเพลงเพลิน ๆ ที่เหมาะกับการทำงาน เพิ่มความสุนทรีย์ให้งานตึง ๆ หรือ

แวะฟัง Podcast ไปเพลิน ๆ ไปด้วย นอกจากช่วยคลายเครียดจากการทำงานได้แล้ว เพื่อน ๆ อาจจะได้ไอเดียหรือแรงบันดาลใจใหม่ ๆ ในการทำงานเพิ่มขึ้นก็ได้

ถ้าไม่ได้เป็นกฎบังคับอะไร การแวะพักเล็ก ๆ น้อย ๆ ในเวลาทำงานไม่ได้เป็นเรื่องผิดอะไรเลย อาจจะทำให้เราทำงานได้สนุกยิ่งขึ้น จนทำผลงานออกมาได้ดียิ่งขึ้นด้วย

Podcast ฟังเพลิน ๆ ขณะทำงาน

5. มองวิว มองธรรมชาติที่ทำให้คลายเครียด

เวลาจ้องแต่หน้าจอนาน ๆ นอกจากจะทำให้เสียตา ยังส่งผลไปถึงอาการปวดตา ปวดหัว และความเครียดได้ด้วย ตอนทำงานแล้วจ้องหน้าจอนาน ๆ

ลองพักสายตาสักแป๊บ มองสิ่งที่ทำให้เราสบายตาสบายใจอย่างการมองต้นไม้ใบหญ้าธรรมชาติสีเขียว หรือใครทำงานอยู่บนตึกสูง ลองมองผ่านกระจกหน้าต่างออกไปไกล ๆให้เห็นวิวเห็นท้องฟ้ากว้างใหญ่ อาจจะทำให้รู้สึกปลอดโปร่ง

และผ่อนคลายขึ้นด้วย และใครที่ใช้สายตาทำงานหนัก ควรมีไอเทมสำหรับดูแลสายตาติดตัวไว้ด้วยก็ดีนะ

สำหรับใครที่ต้องทำงานหน้าจอ ต้องจ้องจอนาน ๆ อาจจะทำให้ตาแห้งได้

" น้ำตาเทียม "

ก็เป็นอีกหนึ่งไอเทมที่เหมาะสำหรับปัญหานี้ แต่การใช้น้ำตาเทียมก็ยังมีข้อควรระวังอยู่ด้วย ลองศึกษาส่วนผสมและคุณสมบัติของน้ำตาเทียมแต่ละยี่ห้อ ก่อนเลือกใช้กันด้วยน้า

อีกหนึ่งไอเทมดูแลสายตาของชาวออฟฟิศ ก็คือ

" แว่นกรองแสง "

นั่นเอง เพราะแสงสีฟ้าจากหน้าจอถ้าเกิดได้รับในปริมาณมาก ๆ อาจจะส่งผลเสียต่อจอประสาทตาได้ สำหรับใครที่ต้องทำงานหน้าคอม ต้องจ้องหน้าจอเป็นเวลานาน ลองหาแว่นที่เป็นเลนส์กรองแสงสีฟ้ามาใส่ดูค่า

6. พูดคุยคลายเครียดกับเพื่อนร่วมงาน

เวลาที่เราอยู่กับตัวเองมากไปอาจจะไม่ได้ทำให้เราสงบลงไปได้ขนาดนั้น ถ้าเกิดเก็บเอาไว้นาน ๆ อาจจะทำให้เกิดความเครียดสะสม ส่งผลเสียต่อสุขภาพจิตใจและร่างกายของเราด้วย

ดังนั้นการที่ได้พูดคุยระบายปัญหากับคนที่ไว้ใจและเขาพร้อมรับฟัง อย่างเพื่อนร่วมงานที่เขาเข้าใจสถานการณ์ที่เราเป็นอยู่ อาจจะได้จัดระเบียบความคิดวุ่นวายที่อยู่ในหัวไปด้วย

น่าจะช่วยคลายความเครียดและความกังวลไปได้บ้างนะคะ

7. หาอะไรทำเพื่อเพิ่มความสดชื่น

เวลาเคร่งเครียดกับการทำงานเราคงรู้สึกเหนื่อย ๆ นอยด์ ๆ ไม่สดชื่นเท่าไร ลองหาอะไรทำ หรือหา

ไอเทมมาเพิ่มความสดชื่นน่าจะทำให้เรารู้สึกกระปรี้กระเปร่าพร้อมทำงานมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการหาอะไรกินเพิ่มความสดชื่นอย่างการเติมน้ำตาลด้วยลูกอมหวาน ๆ เปรี้ยว ๆ หรือจะอัดยาดม

เ

พิ่มความปลอดโปร่งโล่งสบาย หรือใช้น้ำมันหอมระเหย หรือน้ำหอมกลิ่นสดชื่น เวลาได้กลิ่นหอม ๆ ก็น่าจะช่วยให้การทำงานผ่อนคลายได้ดีเหมือนกัน

ไอเทมแรกที่ช่วยเพิ่มความสดชื่น คลายเครียดในการทำงานได้ดี ทำงานอยู่ดี ๆ แล้วหัววิ้ง ๆ เหมือนลมจะจับ ก็หยิบ

" ยาดม "

ยัดจมูกไปเลยจ่ะ ไอเทมหาง่าย ราคาประหยัด น่าจะเป็นของคู่ใจชาวออฟฟิศหลาย ๆ คน นอกจากจะทำให้กระปรี้กระเปร่า ปลอดโปร่งขึ้นนิดนึงแล้ว ยังช่วยแก้หวัดคัดจมูกได้อีกด้วย

ส่วน

" น้ำมันหอมระเหย "

ก็เป็นอีกหนึ่งไอเทมที่ช่วยทำให้ผ่อนคลายได้ดี พอได้กลิ่นอโรม่าหอม ๆ ก็จะช่วยให้ผ่อนคลายมากขึ้น และน้ำมันหอมระเหยยังช่วยรักษาอาการป่วย เป็นไข้ เป็นหวัด แก้อาการนอนไม่หลับได้ด้วย ส่วนกลิ่นน้ำมันหอมระเหยที่ช่วยเพิ่มความสดชื่น จะมีลาเวนเดอร์ เลมอน ยูคาลิปตัส เปเปอร์มินต์ ใบชา ส้มป่า เป็นต้น

ตามมาด้วย

" น้ำหอม "

อีกหนึ่งไอเทมให้กลิ่นหอมที่ช่วยเพิ่มความสดชื่นได้ดีเหมือนกัน สำหรับน้ำหอมกลิ่นสดชื่นมีให้เลือกมากมายเลย อย่างกลิ่น Citrus หอมสดชื่นสบายใจ หรือกลิ่น Floral ดอกไม้หอมละมุนสดชื่น หรือกลิ่น Woody ที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย

✩ ✩ ✩ ✩ ✩ ✩ ✩ ✩ ✩

ไปส่องวิธีผ่อนคลายจากการทำงานแสนเคร่งเครียดกันมาแล้ว พร้อมกับแนะนำไอเทมของมันต้องมีสำหรับวัยทำงานหวังว่าน่าจะพอช่วยบรรเทาความเคร่งเครียดในการทำงานของวันทำงานได้อยู่บ้างนะคะยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้กับเพื่อน ๆ วัยทำงานทุกคน ขอให้การทำงานราบรื่นมีวันที่เคร่งเครียดน้อยลงนะคะส่วนใครที่งานตึงก็ลองเอาวิธีผ่อนคลายความเครียดจากการทำงานในบทความนี้ไปลองปรับใช้กันได้ส่วนวันนี้เราขอตัวไปก่อนแล้ว บ๊ายบาย