
7 How to productive ต้อนรับเปิดเทอม✨
ฮัลโหลลลทุกคน นักเรียนทั้งหลาย เปิดเทอมกันรึยังเอ่ย ปิดเทอมนาน ๆ หลาย ๆ คนอาจใช้เวลาพักผ่อนอย่างเต็มที่ พอถึงเวลาเปิดเทอม ก็ทำให้เรารู้สึก'burn out'ได้ความรู้สึกขี้เกียจเกิดขึ้นได้กับทุกคน ดังนั้นเมื่อถึงเวลาเปิดเทอม เราต้องขจัดความรู้สึกเหล่านั้น และทำตัวเองให้เป็นProductive personเพื่อให้ชาวซิสทั้งหลาย สามารถเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพซึ่ง7 How to productive ต้อนรับเปิดเทอมที่ซิสเรียบเรียงมาให้นั้น ใช้ได้กับทุกคนเลยน้า ไม่ใช่แค่น้อง ๆ มัธยม แต่พี่ ๆ นักศึกษาก็สามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้เช่นเดียวกันค่าแต่ก่อนจะไปดู How to ซิสขอพามารู้จักกับอาการPost-vacation Bluesกันก่อนค่า
สังเกตอาการ Post-vacation Blues รับมือกับภาวะโรคฮิตหลังหยุดยาว!
หลายๆ คนอาจจะรู้สึกฟินที่ได้มีวันหยุเยาวนานๆ แต่รู้อะไรมั้ยว่า การหยุดพักผ่อนเป็นเวลานานๆ ก็ไม่ได้มีแต่ข้อดีอย่างเดียวนะ แต่มันมาพร้อมกับข้อเสีย ที่เราทุกคนอาจจะนึกไม่ถึงก็ได้ เพื่อนๆ เคยได้ยินภาวะ
Post-vacation Blues
หรือ
อาการซึมเศร้าหลังวันหยุดยาว
มั้ย โรคของคนหยุดยาวจนจะเฉาตาย
แม้จะไม่ได้ร้ายแรงมากมาย แต่ก็ควรรู้เอาไว้
วันนี้เราจะ
มาทำความรู้จักกับโรคนี้
กันค่ะ
ภาวะ “Post-Vacation Blues” คืออะไร
ภาวะ Post-Vacation Blues
คือ
อาการซึมเศร้าที่เกิดขึ้นหลังจากวันหยุดยาว
ภาวะนี้ ไม่ใช่โรคทางจิตเวช
ปกติจะเกิดขึ้นเพียงช่วงระยะเวลาหนึ่งและสามารถหายไปเอง
ได้ค่ะ โดยส่วนใหญ่ ช่วงเวลาที่อาจะทำให้เราเกิดภาวะนี้ได้ ก็มักจะเกิดจากช่วงที่เราได้รับวันหยุดยาว ได้พักผ่อนยาวๆ ได้มีความสุขสนุกกับการใช้ชีวิตในช่วงวันหยุด พอถึงวันที่เราได้กลับมาทำงานปุ๊บ มันเหมือนกับเราได้ตื่นขึ้นมาสู่โลกของความเป็นจริง กลับสู่สภาพแวดล้อมที่ชวนเครียด เลยทำให้เรานึกถึงและเกิดความ
คิดถึงช่วงเวลาในช่วงหยุดยาวที่ผ่านมา
จนทำให้เรารู้สึกจมและโหยหาวันหยุดยาวนั้น นี่เลยทำให้เราอาจจะมีโอกาสที่จะเกิดภาวะ Post-Vacation Blues ได้
สรุปแบบสั้นๆ เลยก็คือ
ภาวะ Post Vacation Blues
เกิดจากการที่
ร่างกายเคยชินกับการพักผ่อนและไม่พร้อมที่จะกลับมาเริ่มต้นอีกครั้ง
มักจะเกิดกับคนที่เบื่องานของตัวเองอยู่แล้ว และระดับความรุนแรงของอาการขึ้นอยู่กับความเบื่อหน่ายที่มีอยู่เดิมด้วย ยิ่งเบื่อมาก ยิ่งรุนแรงมาก โอ้โห!
อาการของคนที่กำลังตกอยู่ในภาวะ Post-vacation Blues
จริงๆ แล้วอาการของภาวะนี้ สังเกตเองได้ง่ายมากๆ เพราะว่าเป็นอาการที่สามารถเกิดขึ้นได้กับเพื่อนๆ ทุกคนเลยค่ะ อาจจะดูเหมือนเป็นอาการทั่วไป ของคนที่ขี้เกียจหรือเบื่องานที่ทำอยู่ด้วยซ้ำ
1. รู้สึกไม่อยากทำงาน
2. เบื่อหน่าย และมีอาการซึมเศร้า
3. ประสิทธิภาพการทำงานลดลง
4. สมาธิลดลง
5. หงุดหงิดง่าย
6. อารมณ์เสีย
7. ใจลอย
ทริครับมือกับภาวะ Post-vacation Blues
¸ . ★ ° :. . • ° . * :. ☆
¸ . ★ ° :. . • ° . * :. ☆
7 How to productive
มาดู 7 วิธีทำตัวเองให้ Productive สลัดความขี้เกียจออกไปซะ
มากระตุ้นไฟต้อนรับเปิดเทอมกัน
1. ทำแพลนเนอร์

ก่อนอื่นคือต้องวางแพลนก่อนเลยว่าเราต้องการจะทำอะไรบ้างจัดลำดับความสำคัญของกิจกรรม เรียงลำดับการทำก่อน-หลังจะทำเป็นรายเดือน หรือ รายสัปดาห์ก็ได้ อาจจะเขียนไว้แบบง่าย ๆ ในกระดาษเปล่า หรือจะเป็นแพลนเนอร์สำเร็จรูป แล้วตกแต่งตามใจชอบก็ได้ นอกจากจะได้ใช้ skill ศิลปะ (ที่มีน้อยนิดของเรา) แล้วยังได้ความเพลิดเพลินอีกด้วย ซิสชอบมากก ช่วยเตือนสิ่งที่ต้องทำสำหรับคนขี้ลืมได้ดีด้วย
2. เขียนto-do list

การเขียน to do list ประจำวัน
จะช่วยทำให้เราจัดระเบียบตารางชีวิตประจำวันได้ดีขึ้น รู้ว่าในวันๆนึงต้องทำอะไรบ้าง ไม่ว่างานหรืออะไรก็ตามที่สำคัญและต้องทำให้เสร็จเป็นอย่าง ๆ ไป อันนี้สำคัญมาก
เราควรทำทุกอย่างให้เสร็จก่อน ก่อนที่จะไปพักผ่อน
สำหรับซิสคือมันทำให้รู้สึกโล่ง หมดกังวล สามารถพักผ่อนได้เต็มที่ และรู้สึกภูมิใจในตัวเองด้วยเพราะเคลียร์งานเสร็จหมดแล้ว
3. จัดโต๊ะอ่านหนังสือ หรือ สภาพแวดล้อมให้น่าเรียน น่านั่ง

7 How to productive เติมไฟต้อนรับเปิดเทอม
อันนี้บางคนอาจจะคิดว่าถึงจะรกแค่ไหนถ้าใจมันอยากอ่านยังไงก็อ่านอยู่ดีนั่นแหละ ซึ่งสำหรับคนที่ขยันมันก็อาจจะใช่ แต่บางคนที่มีความขี้เกียจมากแบบ10000%หากเราจัดโต๊ะให้สวย ๆ หรือเป็นระเบียบเรียบร้อยมากขึ้นจะทำให้ความอยากนั่ง อยากอ่านของเราเพิ่มขึ้นมาจริง ๆค่ะ คอนเฟิร์ม !!โดยอาจส่องวิธีจัดโต๊ะจาก Pinterest หรือดูจาก Youtube พอเห็นโต๊ะสวย ๆ เราก็อยากจะจัดตามเองซิสชอบดูมาก เพลินดีแถมได้กำลังใจจัดห้องอีก
4.อ่านหนังสือโดยใช้แอปช่วยโฟกัส หรือจับเวลา

เวลาอ่านหนังสือแนะนำให้ใช้แอปพลิเคชันที่ช่วยโฟกัส อย่างเช่นForest และ YPT
-Forestเป็นแอปยอดฮิตเลยตอนเรากดเริ่มจับเวลาก็จะมีการปลูกน้องต้นไม้ไปด้วยค่ะ จะมีโฟกัสโหมดด้วยซึ่งเราสามารถเลือกว่าจะเปิดหรือปิดไว้ก็ได้ ถ้าเปิดไว้เมื่อเราออกจากแอพน้องต้นไม้ก็จะตายค่ะโฮร ถือว่าเป็นแอปที่ดีเลยค่ะ
-YPT หรือ Yeolpumtaดีมาก ๆ เลย จะมีโหมดโฟกัสเหมือนforest เลย มีตารางที่โชว์ว่าเราอ่านไปเป็นเวลาเท่าไหร่ สรุปเป็นแต่ละวัน และที่สำคัญเราสามารถสร้างกลุ่มแล้วอ่านกับเพื่อนได้ค่ะถ้าเพื่อนเริ่มกดอ่านเราก็จะเห็น มันดีตรงนี้แหละค่ะเพราะเราจะชอบส่องว่าเพื่อนอ่านอยู่ไหม อ่านได้เท่าไหร่แล้ว ถ้าเพื่อนอ่านไปเยอะแล้วแต่เรายังไม่เริ่มเราก็จะแอบรู้สึกผิดนิดนึง ละลุกไปอ่านตาม เหมาะสำหรับคนขี้เกียจอยู่นะเนี่ย
5. ตื่นเช้า

วิธีนี้ basic มาก แต่ก็ทำยากมากเช่นเดียวกันค่ะ ถ้าตื่นเช้าก็จะมีเวลาทำอะไรในวัน ๆ นึงเยอะ ถ้าตื่นเที่ยง บ่ายแปปนึงก็หมดวันแล้วค่ะ แง แต่ว่าแต่ละคนก็มีการจัดตารางชีวิตไม่เหมือนกัน บางคนอาจจะอ่านตอนดึกก็เลยตื่นสาย นอนดึกนี่อ่านหนังสือนะ ไม่ใช่นอนเล่นแล้วก็ต้องนอนให้มีประสิทธิภาพด้วย นอนให้ครบ จะได้ไม่ง่วงระหว่างวัน ที่สำคัญและหลายคนมองข้ามเลยคือ การพยายามตื่นเวลาเดิมและไม่กด snooze นาฬิกาปลุกเนื่องจากทำให้งัวเงียระหว่างวันได้ ฝืนตัวเองให้ได้ จะได้สดชื่น พลังเต็มร้อยค่าา
6.จัดเวลาเรียน/พักผ่อนให้สมดุล

ก่อนอื่นเราควรจัดตารางการเรียน/อ่านหนังสือในแต่ละวันเสียก่อน อาจจะแบ่งเป็นคาบ ๆ และไม่ลืมที่จะแบ่งเวลาพัก เพื่อผ่อนคลายหรือทำกิจกรรมส่วนตัวระหว่างวันไปด้วยการเรียนหรืออ่านสือของเราจะได้ไม่เครียดเกินไป หากไปเรียนเมื่อถึงเวลาพักก็ควรพักจริง ๆ และหากอ่านหนังสืออาจอ่านตาม"เทคนิคมะเขือเทศ"ทำให้การอ่านมีประสิทธิภาพ ซิสแปะ Link ไว้ให้แล้ว ลองทำตามกันดูน้า☻
วิธีอ่านหนังสือแบบเทคนิคมะเขือเทศ
https://www.edugentutor.com/content/?ctid=NjIwNzAwMTc=
วิธีอ่านหนังสือแบบเทคนิคมะเขือเทศ
https://www.edugentutor.com/content/?ctid=NjIwNzAwMTc=
วิธีอ่านหนังสือแบบเทคนิคมะเขือเทศ
https://www.edugentutor.com/content/?ctid=NjIwNzAwMTc=

วิธีอ่านหนังสือแบบเทคนิคมะเขือเทศ
https://www.edugentutor.com/content/?ctid=NjIwNzAwMTc=
7. แบ่งเวลา ให้งานอดิเรก สักวันละ 1 ชม.
มาถึงข้อสุดท้าย ที่อยากแนะนำมากที่สุดคือการแแบ่งเวลาให้งานอดิเรกโดยเฉพาะ หาสิ่งที่ตัวเองชอบทำเช่น ร้องเพลง เล่นดนตรี สิ่งเล็ก ๆ ที่เราชอบแต่ไม่เคยแบ่งเวลามาทำอย่างจริงจัง แบ่งไปเลย วันละ 1 ชม. เป็นการฝึก skill ของเราไปในตัวทำในสิ่งที่เราถนัด และมีความสุขสิ่งนั้นมันอาจต่อยอดไปในอนาคตได้ด้วยนะแต่งานอดิเรก ต้องไม่ทำให้เราตึงเครียดจนเกินไปน้าาปล่อยใจจอย ๆ เป็นการพักผ่อน คลายเครียดกันค่ะ
•——————•°•✿•°•——————•
ทั้งหมด7 How to productive เติมไฟต้อนรับเปิดเทอมที่ซิสได้แนะนำไป ดูทำตามได้ไม่ยากเลยใช่มั้ยล่ะคะ แต่ถ้าทำได้ แต่ทำทุกวันตามนี้ เราจะกลายเป็นProductive Personและเป็นคนที่มีความรับผิดชอบ มีระเบียบ ทำงานต่าง ๆ เสร็จตามเวลาทุกครั้ง ไปโดยไม่รู้ตัวทำให้เป็นรูทีน ไม่จำเป็นต้องกดดันตัวเอง ทำให้ได้เป๊ะ ๆ ทุกข้อภายใน 1 วันหรือ 1 อาทิตย์ ค่อย ๆ ปรับตัวกันไป อย่าเครียดกับมัน แค่ทำให้ได้วันละข้อไปเรื่อย ๆ ก็โอเคแล้วค่า♥︎♥︎♥︎
แต่เอาจริง ๆ ใน 7 ข้อนี้สามารถนำไปปรับใช้ได้กับทุกคนเลยไม่ว่าจะเป็นการทำแพลนเนอร์ การทำ to-do listวัยทำงาน ก็นำมาใช้ได้น้า มันช่วยจัดระเบียบตารางชีวิตเราได้ดีมาก ๆ ค่า
♥︎♥︎♥︎บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจต้อนรับเปิดเทอม ☻

7 แบรนด์ลิปมันน้องใหม่
https://sistacafe.com/summaries/94581
7 แบรนด์ลิปมันน้องใหม่
https://sistacafe.com/summaries/94581

7 ครีมกันแดดซองในเซเว่น พกง่าย ใช้ดีจนต้องบอกต่อ
https://sistacafe.com/summaries/94531
7 ครีมกันแดดซองในเซเว่น พกง่าย ใช้ดีจนต้องบอกต่อ
https://sistacafe.com/summaries/94531

10 เครื่องสำอางแต่งตาสไตล์หวานละมุน ราคาหลักร้อย!!
https://sistacafe.com/summaries/94439
10 เครื่องสำอางแต่งตาสไตล์หวานละมุน ราคาหลักร้อย!!
https://sistacafe.com/summaries/94439
Cr. 5 วิธีเรียนให้ Productive
https://www.ccnthailand.com/index.php/2021/12/07/study-methods/
Cr. How to ใช้ชีวิตยังไงให้ productive ! (ฉบับนักเรียนมอปลาย)
https://www.dek-d.com/board/knowledge/4035017/