1. SistaCafe
  2. ตัวแม่ชอบไทป์ลูกหมา แฮชแท็กฮิต TikTok ชวนคุยทำไมคนถึงแพ้ทางคนขี้อ้อน

ช่วงนี้ เราว่ามีอยู่หลายคนเหมือนกัน ที่กำลังอินกับแฟนไทป์ลูกหมา ลูกแมว แต่เดี๋ยวก่อนนะ มันคืออะไร สไตล์ไหนก่อน ตามไม่ทันแล้ว! ต้องบอกก่อนว่าคำค้นหา ตัวแม่ชอบไทป์ลูกหมา กระแสนี้มาแรงมาเลย ใน TikTok เพราะงั้นวันนี้ เราจะขอเกาะกระแสนี้ไปเลยแล้วกัน ชวนชาวซิสมาคุยเรื่องนี้กันหน่อย ที่ว่าไทป์ลูกหมา คืออะไร แบบนี้เขาเรียกคลั่งรักมั้ย มีวิธีรับมือและรักษาความรักแบบนี้ยังไง มาหาคำตอบไปพร้อมๆ กันเลยค่ะ


🐶🐶🐶🐶🐶🐶🐶🐶🐶🐶🐶🐶🐶🐶🐶


ทำไมแฟนไทป์ลูกหมาถึงมาแรง มันคืออะไร

เรามีหลายคนอยู่ ที่กำลังสงสัยว่า ไทป์ลูกหมา มันคืออะไร ปกติแล้ว เราจะได้ยินแค่คำว่า Introvert หรือ Extrovert แต่มีแฟนแนวไทป์ลูกหมาเป็นยังไง ไม่รู้ งั้นมาทำความรู้จักไปพร้อมๆ กันเลย จริงๆ แล้วทฤษฎีที่ใช้อธิบายบุคลิกภาพและสภาพทางจิตใจของมนุษย์ ตามหลักเขาจะแบ่งเป็นคนไทป์หมาและไทป์แมว ยากเข้าไปอีก แค่ไทป์หมาก็งงแล้ว มีแมวเข้ามาเสริมอีก! ทีนี้เรามาดูกันว่า ความแตกต่างของคนไทป์หมาและไทป์แมว มันแตกต่างกันยังไงบ้าง

ตัวเอง: Cat Person ชอบทำอะไรคนเดียว / Dog Person ชอบทำกิจกรรมแบบหมู่คณะ

ทัศนวิสัย: Cat Person ไม่ทำตามระเบียบแบบแผน / Dog Person ชอบเข้าสังคม

การกระทำ: Cat Person ความคิดสร้างสรรค์ / Dog Person ให้ความร่วมมือ

ความเสถียรทางอารมณ์: Cat Person ไม่ค่อยเสถียร / Dog Person ค่อนข้างเสถียร

มุมมองจากคนอื่น: Cat Person เปิดกว้าง / Dog Person ยุติธรรม



แต่โดยปกติแล้ว คนเราสามารถเป็นได้ทั้งไทป์หมาและไทป์แมว ไม่แปลกอะไร ทีนี้เรามาเข้าเรื่องที่ว่า แฟนไทป์ลูก กันดีกว่า สรุปแล้ว มันยังไง เอาจริงๆ บางคนอาจจะเก็ทแล้ว โดยทั่วไปก็จะเป็นการเปรียบเทียบนิสัยของสุนัขกับนิสัยของแฟน ที่อาจจะมีความคล้ายกันมากๆ ซึ่งสุนัขแต่ละพันธ์ก็จะมีนิสัยเฉพาะที่แตกต่างกันด้วย มันก็จะแตกหน่อออกไปอีกว่า ไทป์ลูกหมาของแฟนเรามันเป็นพันธ์ไหน ขอสรุปภาพรวมแบบกระชับ และเข้าใจง่ายๆ แฟนไทป์ลูกหมา จะมีความน่ารัก เวลาอยู่กับคนอื่นๆ อาจจะวางมาดนิ่ง แต่พออยู่กับเราแล้ว จะติดอ้อน ขี้แกล้ง ขี้หวง ดุแล้วก็โอ๋ คอยดูแลใส่ใจ ซื่อสัตย์ เทคแคร์เราดี มีความคลั่งรักอยู่ในตัวสูงประมาณนึง


🐶🐶🐶🐶🐶🐶🐶🐶🐶🐶🐶🐶🐶🐶🐶


คลั่งรัก คืออะไร

ด้วยนิสัยของสัตว์ โดยเฉพาะหมา เขาจะมีความซื้อสัตย์มากๆ พอได้รักก็จะรักมาก หวงมาก ฟีลนี้ มันให้ความรู้สึกของคนที่กำลังคลั่งรักอยู่เลย! บางคนอาจจะยังไม่เก็ทว่า คลี่งรัก มันคืออะไร อาการมันเป็นยังไง อาการของคนคลั่งรัก เป็นอะไรที่เรามักจะพูดติดปากกันอยู่บ่อยๆ แต่ความหมายของมันจริงๆ เราไม่รู้เลยว่า สรุปแล้วมันคือยังไง คลั่งรัก เป็นอาการของคนที่มีระดับของความรักความชอบที่มากอย่างชัดเจน เกินการควบคุมของตัวเอง ไม่สามารถหยุดตัวเองให้ลืมทำใจ หยุดคิด หยุดนึกถึงคนที่ชอบได้ อารมณ์แบบหมกมุ่นมาก! ซึ่งอาการคลั่งรักแบบนี้ ในสุนัขก็เป็นกันเหมือนกัน



คลั่งรัก VS ขี้อ้อน ต่างกันมั้ย

แน่นอนค่ะว่า คลั่งรักกับขี้อ้อนนั้น แตกต่างกันอยู่แล้ว นิสัยของแฟนไทป์ลูกหมาคลั่งรัก สังเกตได้ไม่ยาก ลองนึกว่าเราเลี้ยงสุนัขที่รักและหวงเรามากสักตัวดู เพื่อนๆ จะนึกออกเลย มันจะไม่ยอมให้สุนัขหรือสัตว์ตัวไหนเข้าใกล้เรา จะเห่า จะกัด คนที่เข้ามาใกล้เรา มันจะคอยเฝ้า คอยจับตามองเราตลอดเวลา คนคลั่งรักส่วนมากก็เป็นแบบนี้! แรกๆ เราอาจจะรู้สึกโอเค แต่นานวันเข้า มันจะไม่โอเคค่ะ เพราะงั้นเราจำเป็นที่จะต้องค่อยๆ บอกเขา เพื่อให้เขาเคยชินกับการที่เราต้องใกล้ชิดกับใคร หรือทำงานร่วมกับเพศตรงข้ามด้วย ทำให้เขาเชื่อว่า การที่เราต้องอยู่ใกล้กับใครมันไม่ได้หมายความว่าเราจะรักเขาน้อยลง แล้วสุดท้ายอาการคลั่งรักเกินเบอร์มันจะค่อยๆ ดีขึ้นเอง



ในขณะที่อาการขี้อ้อนคือ คนที่รู้จักวิธีการเข้าหาผู้อื่น รู้สึกวิธีการพูดคุย และแสดงออกให้เหมาะสมกับกาลเทศะ ซึ่งแน่นอนว่า มันต่างจากอาการของคนคลั่งรักมากๆ ความขี้อ้อน จะไม่ใช่ปัญหาชีวิตคู่เท่าไหร่ แต่มีบ้าง มันก็จะช่วยเติมเต็มความรักให้หวานฉ่ำขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่แล้วแฟนไทป์ลูกหมาหลายๆ คน ก็จะมีนิสัยแบบนี้ในตัวเวลาอยู่กับแฟนของตัวเองด้วย


🐶🐶🐶🐶🐶🐶🐶🐶🐶🐶🐶🐶🐶🐶🐶


ทริคดูแลความรักของแฟนผู้คลั่งรัก

1.มีเหตุผล เข้าใจกัน ไม่งี่เง่า

ปกติแล้วสำหรับแฟนที่เป็นไทป์ลูกหมา จะมีความเด็กๆ บางทีเอาแต่ใจ เราก็ต้องเข้าใจเขาด้วย นิสัยหมาตัวน้อย มันมีความงองแงง งี่เง่าอยู่เป็นเรื่องธรรมดา จริงๆ ถ้ามันไม่ได้หนักหนาอะไร มองว่าเป็นเรื่องน่ารักๆ ก็ได้อยู่ แต่เมื่อไหร่ก็ตาม ที่เขาเริ่มดื้อ เริ่มไม่ฟัง เริ่มทำตัวไม่น่ารัก ก็ต้องคอยบอก คอยสอน แต่ไม่ใช่ใส่อารมณ์ฟาดงวงฟาดงาใส่กันนะ ก็ต้องใช้เหตุและผลคุยกันแหละ หาจุดที่มันพอดี การทำความเข้าใจกันและกัน จริงๆ มันสำคัญมาสำหรับชีวิตคู่เลย เพราะงั้นเรื่องนี้สำคัญ ก็คนอะ ไม่ใช่หมาจริงๆ พูดกันรู้เรื่องอยู่แหละ


2.สร้างแรงดึงดูดระหว่างกัน

ว่าด้วยเรื่องของความรัก หรือการใช้ชีวิตคู่แล้ว ถ้าเราปล่อยให้มันราบเรียบไป ก็อาจจะทำให้เบื่อกันง่าย มันต้องคอยเติมเต็มกันและกันด้วยซิ ข้อดีของแฟนไทป์ลูกหมาคือ เขาเป็นจำพวกขี้อ้อน ขี้เอาใจ แต่จะปล่อยให้เขาทำอยู่ฝ่ายเดียวก็ไม่ได้นะ ลูกหมาน้อยของเรา ก็ต้องการความรัก ความเอาใจใส่เหมือนกัน การสร้างโมเมนต์น่ารักๆ ให้กันและกัน เป็นอีกหนึ่งวิธีการเติมเต็มความรักที่ดีเลย



3.ใส่ใจดูแลกันและกัน

ไม่ว่าจะเป็นคนหรือสัตว์ ต่างก็ต้องการการได้รับการใส่ใจดูแลทั้งนั้น คนเป็นแฟนกัน สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ การดูแลเอาใจใส่ซึ่งกันและกันค่ะ เอาใจเขามาใส่ใจเรา อย่างแรกเลยคือการเป็นผู้ให้และผู้รับที่ดี อย่างที่สองคือการคอยดูแลเทคแคร์กัน และอย่างสุดท้ายการให้ความสำคัญซึ่งกันและกัน เมื่อเราตัดสินใจที่จะใช้ชีวิตคู่ร่วมกับใคร สิ่งหนึ่งที่เราต้องจำไว้คือ การไม่แบ่งแยก ไม่มีเรื่องของเธอ หรือเรื่องของฉัน แต่มันเป็นเรื่องของเราสองคน ถ้าคิดจะจับมือกับใครแล้ว ก็ต้องรู้จักถนอมความรู้สึกนั้นเอาไว้ด้วย ความสัมพันธ์นี้จะได้อยู่กับเราไปนานๆ


4.เรื่องคำพูดก็สำคัญพอๆ กับการกระทำ

หลายๆ คนอาจจะคิดว่า การกระทำสำคัญกว่าคำพูด แต่ในความเป็นจริงแล้ว คำพูดดีๆ คำบอกรัก คำพูดที่แสดงออกซึ่งการห่วงใยกัน ก็สำคัญไม่แพ้กันเลย บางครั้งเราแสดงออกให้เขาเห็น เรื่องบางเรื่องเขาอาจจะไม่เข้าใจก็ได้ ถ้าเราไม่พูดออกมา ฉะนั้นอย่าทำจนชิน จนลืมที่จะพูดมันออกไปบ้าง คนบางคนก็ต้องการได้ยินคำพูดดีๆ หรือคำบอกรักจากแฟนทั้งนั้น เพราะงั้นอย่ามองว่ามั่นไม่สำคัญเด็ดขาด


5.มีมุมพิเศษๆ ให้กันและกันบ้าง

เราไม่จำเป็นต้องทำอะไรให้เขาแบบใหญ่โต สัตว์เลี้ยงเวลาเราให้ของเล่น นั่งเล่นกับมัน มันก็แฮปปี้แล้ว แฟนเราก็เหมือนกัน บางครั้งเราควรสร้างมุมพิเศษๆ ให้กันบ้าง อาจจะนั่งดูนั่ง กินข้าว สรรหาบรรยากาศใหม่ๆ ให้กันและกันบ้าง อาจจะไม่ต้องหวือหวามาก แค่ทำให้เขารู้สึกพิเศษ ก็พอแล้ว มุมบ้างมุมที่มันน่ารักๆ ทำให้เขาเห็นบ้างก็ดี บอกรัก หรือสกินชิพ ขาดไม่ได้ มีหน่อยก็ไม่เสียหาย ให้เขาได้รู้ว่า รักนะ จริงๆ



ปัญหาของแฟนที่คลั่งรักเกินต้าน

1.อึดอัดกับความคลั่งรักเกินเบอร์

บางทีเจอแฟนคลั่งรักมากไป ก็อึดอัดนะ ไทป์ลูกหมาก็น่ารักดี แต่ถ้าไม่รู้กาลเทศะ ก็แย่เหมือนกัน คนที่ลำบาก คือคนที่ต้องลองรับอารมณ์เหล่านั้น ซึ่งถ้าถามว่า มันไม่ดีหรอ ที่แฟนคลั่งรักเรา มันก็ดี แต่ถ้ามันมากเกินไป มันจะลำบากชีวิตินะ เพราะงั้นคลั่งรักได้ไม่ผิด แต่อย่าให้มันมากเกินไป จนกระทบกับชีวิตคู่ดีกว่า


2.สูญเสียตัวตนแบบไม่รู้ตัว

ทาสหมา ทาสแมว ส่วนใหญ่จะมีร่างที่สอง สาม เวลามีแฟนก็ไม่ต่างกัน บางครั้งเราก็อยากเอาใยเขา ยอมซื้อนั่นนี่ให้ บางทีก็ทำนั่นนี่ที่เขาต้องการให้ เพื่อให้เขาพอใจ เหมือนเวลาเลี้ยงสัตว์ เราก็ตะเอาใจเขา เพื่อให้เขาหันมารักและสนใจเรา ใช่มั้ย เหมือนกันเลย แต่ต่างกันตรงที่ นั่นมันสัตว์เลี้ยง แต่นี่แฟนค่ะ! การยอมทำทุกอย่างเพื่อเอาใจเขาเสมอๆ มันผิด! สุดท้ายแล้ว ไม่ใช่แค่เยานะที่เสียนิสัย ติดที่จะรับๆ อยู่ฝ่ายเดียว แต่เราก็จะสูญเสียความเป็นตัวเองไปทีละนิดๆ ด้วย ไม่เริ่ดบอกเลย!



3.ทำอะไรลำบาก

พวกคลั่งรัก มีนิสัยเสียอย่างนึงคือ ถ้าเจาคลั่งรักมา จะหวงมาก หึงมาก การอยู่กับคนขี้หวง เป็นอีกที่ลำบากที่สุด! จะทำอะไร จะไปที่ไหน หรือจะเข้าใกล้ใคร เป็นปัญหาไปหมด เพราะงั้นต้องปรับเปลี่ยนความคิดเขาตั้งแต่แรก ชัดเจนไปเลยว่า เราก็มีสังคม มีงาน มีหน้าที่ของเรา ต้องแยกแยะให้ออกว่าอะไรคืออะไร และต้องทำให้เขาเชื่อว่า เรารักเขาและซื่อสัตย์กับเขานะ เขาจะได้ไม่คอยตามติดหนึบจนชีวิตทำอะไรลำบาก


4.เสียสุขภาพจิต

การต้องคอยปรามแหนเวลาเขาทำอะไรเกินเบอร์ มันเสียสุขภาพจิตมาก เอาจริงๆ แฟนไทป์ลูกหมา ก็มีข้อเสียนะ ลูกหมามันก็จะมีโหมดดื้อรั้นของมันเหมือนกัน บางครั้งเราก็เอาใจมันไม่ถูก หรือบางทีนิสัยเสียเหล่านั้น ก็อาจจะทำให้เราอารมณ์เสียตามไปด้วยเช่นกัน ซึ่งตรงจุดนี้ อาจจะจ้องค่อยๆ ปรับและพูดคุยกันดีๆ ต่อไป ขืนปล่อยไว้ นานวันเข้า ได้ประสาทกินแน่นอน


5.เหนื่อยทั้งกายและใจ

แยกแยะให้ออกระหว่างแฟนไทป์ลูกหมา กับแฟนคลั่งรัก และไม่รู้จักโต สองอย่างหลังนี่หนักนะคะ อยู่ด้วยแล้วเหนื่อกายไม่พอ เหนื่อยใจมาก คนบางคน พอรู้จุดว่า อ้อนแล้วได้นั่นได้นี่ มันก็จะเสียนิสัย ทำไปเรื่อยๆ จนกลายเป็นความเคยชิน สุดท้ายพอไม่ได้ดั่งใจ ก็พลาดโมโหใส่ แบบนี้ก็ไม่ไหวนะ เพราะงั้นมันต้องเริ่มสอนตั้งแต่แรก อะไรได้บอกได้ อะไรไม่ได้คือไม่ได้ อย่าให้สายตาใส่ซื่อน่ารักเหมือนลูกหมาของเขา ทำให้เราใจอ่อนอยู่ร่ำไป ผลสุดท้ายคนที่ลำบากใจที่สุดอาจจะเป็นเราก็ได้



วิธีรับมือกับแฟนคลั่งรักยังไงไม่ให้เกิดความรู้สึกอึดอัด

1.คอยบอก คอยเตือน ถ้ามันมากเกินไป

โดยปกติแล้ว ถ้าเขาทำกับเราแค่สองคน ก็อาจจะพอรับได้ แต่ถ้าในที่สาธารณะ เขาก็แสดงออกแบบนี้ มากเกินไป หรือบางทีไม่เห็นหัวใครเลย อันนี้ก็ต้องคอยบอก คอยเตือน ให้เขารู้กาลเทศะบ้าง เรื่องบางเรื่อง การกระทำ หรือมุมมองบางมุม เราอาจจะมองว่า มันน่ารักดี ชอบ แต่กับคนอื่นๆ เขาอาจจะไม่ได้คิดแบบนั้น เพราะงั้นการวางตัวในที่สาธารณะสำคัญ ก็แสดงออกว่ารักกันได้ แต่ก็ต้องอยู่ในความพอดีด้วย


2.บางครั้งก็ต้องมีระยะห่างกันบ้าง

ถ้าคิดว่าการที่ตัวติดกัน มันดีต่อใจ ขอบอกเลยว่า มันแค่ช่วงโปร! พอนานวันไป คุณจะรู้สึกเลยว่า ห่างกันบ้าง ห่างกันหน่อยก็ได้ บางทีการตัวติดกันตลอดเวลา everything มันก็ไม่ได่ดีขนาดนั้น เป็นแฟนกัน อยากใกล้ชิดกัน ก็เข้าใจ แต่ไม่ต้องหนึบหนับขนาดนั้น! ก็คนไง ก็ต้องการพื้นที่หายใจหายคอเหมือนกัน มีเวลาส่วนตัวบ้าง เอาจริงๆ การให้พื้นที่กันและกัน มันก็ไม่ได้ยากอะไร จริงมั้ย แม้จะเป็นแฟนกัน แต่มันก็ต้องมีระยะ ให้ได้มีเวลาส่วนตัว ให้ได้หายใจหายคอบ้าง ไม่เคยได้ยินหรอ เว้นระยะให้กันสักนิด เพื่อที่เราจะได้รู้สึกโหยหาอีกฝ่ายเพิ่มขึ้นอีกหน่อย บางทีใกล้กันมากไป ก็อาจจะทำให้เรามองข้ามกันได้ในสักวัน หรืออาจจะทำให้รู้สึกอึดอัดได้ด้วย



3.ชัดเจนในเรื่องของการแสดงออก

การแสดงออกเป็นเรื่องที่สำคัญ ปกติเวลาเรารักใคร เราก็อยากแสดงออกให้เขาเห็นไปเลยว่า เรารักเขานะ เราสบายใจที่ได้อยู่กับเขา เวลาเรารักหรือเราชอบอะไร เรายังแสดงออกเลย ฉะนั้นเวลาเราไม่ชอบอะไร หรือรู้สึกว่า อาการอ้อน หรือการแสดงความรักของเขามักชักจะเกินไป อันนี้ก็ต้องทั้งพูดและแสดงออกให้เขาเห็นด้วยว่า แบบนี้ไม่โอเคนะ ควรต้องลดลงหน่อย ควรต้องวางตัวให้ดีหน่อย เขาจะได้รู้ เรื่องบางเรื่อง บางทีมันต้องชัดเจน เพื่อที่คนสองคนจะได้ไม่มีเรื่องอะไรติดค้างในใจกันและกัน


4.อย่าปล่อยให้แฟนเกาะติดเรามากเกินไป

การได้อยู่ใกล้ๆ กันก็ดี แต่จำไว้ด้วยว่า ไม่ว่าจะผู้ชายหรือผู้หญิง เราควรสอนให้เขาอยู่ได้ด้วยตัวเอง ทำอะไรเองให้เป็น ถ้าเราสอนให้แฟนเราเคยชินกับการที่เราคอยเอาใจ คอยตามใจ คอยทำให้ทุกอย่าง มันจะทำให้เขาเสียคน และพอถึงจุดๆ นึง เขาจะเอาแต่เรียกร้องให้เราต้องทำแบบนั้นแบบนี้ไม่จบไม่สิ้น เพราะงั้นต้องทำให้เขาได้รู้ว่า อ้อนได้ รักได้ สกินชิพได้นะ แต่เธอก็ต้องรู้จักรักและดูแลตัวเองด้วย ไม่ต้องใาเกาะติดอะไรมากมาย ออกไปใช้ชีวิตกับเพื่อนกับฝูงบ้าง ห่างกันสักหน่อย มันไม่ได้ทำให้ความรักเราน้อยลงหรอก!


5.เรียนรู้การใช้ชีวิตของกันและกัน

สุดท้ายแล้ว ชีวิตคู่มันไม่ได้เริ่มจากคนแค่คนเดียว แต่มันคือการเริ่มต้นการใช้ชีวิตร่วมกันของคนสองคนะค่ะ ฉะนั้นในวันที่เราตัดสินใจแล้วว่า เขาคือลูกหมาน้อยในใจ สิ่งนึงที่ต้องจำเอาไว้คือ เราต้องเรียนรู้การใช้ชีวิตของกันและกันให้มากๆ ไม่จำเป็นต้องเป็นระยะแรกเริ่มของความรักนะคะ จริงๆ การเรียนรู้กันและกันมันสามารถทำได้ตลอดอยู่แล้วค่ะ เพราะงั้นอย่าเลิกที่จะคอยดูแลเอาใจใส่ซึ่งกันและกันไปนะ หมั่นเติมเต็ม และคอยเอาใจใส่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ หน่อย ชีวิตรักจะได้หวานชื่นไม่จืดจาง



สรุป

เอาจริงๆ เลย การที่เราจะคลั่งรัก หรือทำตัวน่ารัก อ้อนแฟน ติดแฟน มันไม่ใช่เรื่องที่ผิดนะ แต่เราก็ควรมีระยะของความสัมพันธ์ที่ดีด้วย อย่าให้ความรักแฟนจนเกินเหตุกลายเป็นต้นเหตุของความสัมพันธ์ที่มันเป็นพิษ จนสุดท้ายก็ทะเลาะและเลิกรากันในที่สุดยอด การแสดงออกซึ่งความรักกับคนรัก ทำได้ค่ะ แต่ก็ควรอยู่ในจุดที่พอดี อย่าให้ความรักของเรากลายเป็นความทุกข์ของคนที่เรารัก จำเอาไว้

อีกเรื่องเลย ทำไม ตัวแม่ชอบไทป์ลูกหมา ก็ไม่แปลกนะ ใครๆ ก็ชอบแฟนขี้อ้อนป่ะ แต่ในความขี้อ้อน แฟนเราก็ต้องรู้หน้าที่และกาลเทศะด้วยนะ ไม่ใช่ถนัดอ้อน แต่วันๆ ไม่ทำอะไร ก็ไม่ได้นะยู! การออดอ้อน มันก็เหมือนรสชาติความรักอีกหนึ่งรสชาติ ที่จะเข้ามาช่วยเติมเต็มให้หัวใจมันชุ่มฉ่ำ มีบ้างก็ไม่เสียหายอะไร แต่บ่อยๆ เกินไป ก็ไม่ดี ทุกสิ่งทุกอย่าง ก็มีทั้งข้อดี ข้อเสีย คละๆ กันไป ยังไงก็เลือกใช้ให้ถูกวิธี เท่านี้ก็โอเคแล้ว ใครอยากลองแพ้ทางไทป์หมาเด็ก ลองดูได้ รับรองว่า จะหลงจนโงหัวไม่ขึ้น!


ผู้เขียนนำภาพประกอบทั้งหมดมาจาก Pinterest

ทั้งนี้ต้องขอขอบคุณทุกๆ แหล่งที่มาต้นฉบับมา ณ ที่นี้


บทความแนะนำเพิ่มเติม








เว็ปไซต์นี้ใช้คุกกี้

SistaCafe ให้ความสำคัญต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้โดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ แสดงว่าท่านยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา และ นโยบายการใช้คุกกี้