How to แต่งหน้าสำหรับ “สาวออฟฟิศ” ร้อนแค่ไหน หน้าก็ไม่เยิ้ม

สวัสดีค่ะ หลังจากที่ห่างหายจากงานฮาวทูมานาน

วันนี้จะกลับมาในลุคสาวออฟฟิศสวยท้าแดด พอดีได้โจทย์มาจากนีเวีย...

ให้แต่งหน้าไปคุยงานกับลูกค้าในวันที่แดดจ้าๆ ปุ้ยก็เลยจัดลุคนี้เลยค่ะ

ได้แรงบันดาลใจของลุคนี้จาก นางเอก " กระรัต " ในเรื่องสามีตีตรา แม้ว่าจะลาจอไปซักพักใหญ่แล้ว แต่ลุคเมกอัพของเธอก็ยังเป็นที่ปลื้มของปุ้ยที่สุดในช่วงนี้ เพราะดูแล้วแต่งง่าย สวยหวาน แกมเสน่ห์ แล้วยังทนน้ำ ทนแดด ทนน้ำตาได้อีกมากมาย เหมาะกับช่วงปลายร้อนต้นฝนแบบนี้มากๆ จึงหยิบมาทำฮาวทูให้ดูกันค่ะ

สำหรับลุคนี้ ชื่อว่า

“ สาวออฟฟิศ ”

ไปพบลูกค้าตอนเที่ยงแดดเปรี้ยงๆ

ลุคนี้เป็นลุคที่แต่งง่ายๆ ดูดีได้ไม่ยาก จุดเด่นของลุคอยู่ที่ดวงตา ซึ่งการให้โทนสีดวงตาเป็นเอิร์ทโทนดูธรรมชาติ แต่ว่ากิมมิกของลุคจะเน้นที่ขนตาปลอม เพื่อให้ดวงตาดูโดดเด่น สวยหวาน และน่าสนใจ ส่วนสีสันของลุคนั้นอยู่ที่พวงแก้มและริมฝีปาก สาวๆ สามารถเลือกโทนสีที่ชอบและประยุกต์ใช้ได้ตามสไตล์ของตัวเองได้เลย

เริ่มต้นลุคด้วยรูป ก่อนและหลังแต่งหน้า เทียบให้ดูยั่วน้ำลายกันก่อนค่ะ

STEP 01 MAKE-UP BASE

ขั้นตอนแรกเราจะเตรียมผิวก่อนแต่งหน้า โดยการป้องกันผิวหน้าจากแสงแดด และลงเมกอัพเบส เพื่อช่วยเมกอัพติดทนตลอดวัน

ปุ้ยเลือกผลิตภัณฑ์กันแดดสูตรเซรั่มสำหรับผิวหน้า (1) NIVEA SUN WHITENING PERFECT PROTECT MILK GLOW SERUM SPF 50 ที่ผสมเมคอัพเบส เนื้อน้ำนมใช้ง่าย ซึมเร็ว ไม่เหนียวเหนอะ เหมาะสำหรับใช้ทุกวัน เพื่อผิวกระจ่างใสเป็นธรรมชาติ ให้ผิวไม่มีหมองคล้ำค่ะ

How-to:

- เขย่าขวดให้เนื้อน้ำนมผสมเข้ากันดีก่อน

- เทผลิตภัณฑ์ลงที่หลังฝ่ามือ เพื่อจะได้ควบคุมปริมาณได้

- แต้มผลิตภัณฑ์ลงที่ใบหน้าเป็น 5 จุด ในปริมาณที่น้อย

- เกลี่ยให้กระจายทั่วใบหน้า ถ้าไม่ทั่ว ก็ค่อยๆ เพิ่มลงไปทีละนิด  ( ไม่แนะนำให้ลงผลิตภัณฑ์ในปริมาณที่มากในครั้งเดียว )

- รอผลิตภัณฑ์เซ็ทตัวกับผิวหน้าประมาณ 1-2 นาที

เพียงเท่านี้ผิวก็พร้อมสำหรับเมคอัพในขั้นตอนต่อไปแล้วค่ะ

STEP 02 MAKE-UP FOUNDATION

การทารองพื้นสำหรับการออกงานกลางแจ้ง ให้ผิวเนียนและไม่มีปัญหาเรื่องผิวเยิ้มเป็นคราบระหว่างวัน

เราควรเป็นรองพื้นชนิดน้ำ ปุ้ยเลือกรองพื้น (2) ที่มีเนื้อยืดหยุด ปกปิดปานกลาง แต่ให้เทคเจอร์ที่ดูเป็นธรรมชาติ

How-to:

แต้มเนื้อรองพื้นลงที่ผิวในปริมาณที่น้อย แล้วค่อยๆ เพิ่มทีละนิด วิธีการคือ ใช้นิ้วมือค่อยๆ กดๆ รองพื้นให้กระจายออกในวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ ( หลีกเลี่ยงการใช้นิ้วปาด ) เพื่อให้รองพื้นเกาะติดผิวได้แน่นขึ้น รอรองพื้นเซ็ทตัวประมาณ ครึ่งนาที

และอย่าลืมที่จะปกปิดรองคล้ำใต้ดวงตา/จุดบกพร่องบนผิวด้วยปุ้ยเลือกคอนซีลเลอร์ ( 3 ) ที่ให้ความชุ่มชื้นกับผิวรอบดวงตา

แล้วตามด้วยคอนซีลเลอร์ ( 4 ) ที่ให้ระดับการปกปิดมากขึ้นอีกหน่อย ทับลงไปในจุดที่ต้องการปกปิดเป็นพิเศษ

สุดท้ายเซ็ทผิวด้วยแป้งฝุ่น ( 5 ) เนื้อละเอียดๆ แทนการใช้แป้งทูเวย์ค่ะ เพราะรองพื้นชนิดน้ำ+แป้งฝุ่น จะช่วยให้ผิวเนียน ป้องกันปัญหา แป้งเป็นคราบระหว่างวันได้ดีค่ะ

STEP 03 EYEBROW

คิ้วเข้มหนาตามลุคของกะรัต ต้องเข้มหนากว่าปกติหน่อยนึงค่ะ แต่ถ้าใครไม่คุ้นชิน ก็สามารถเขียนคิ้วตามปกติได้เลย

How-to:

ปุ้ยเริ่มต้นวาดโครงคิ้วด้วยดินสอเขียนคิ้วของ ( 6 ) ที่เนื้อนุ่มและให้เส้นเล็ก การลงดินสอเขียนคิ้วก่อนซึ่งจะช่วยให้ติดทนได้ดีทั้งวัน จากนั้นใช้ที่เขียนคิ้วแบบฝุ่นเขียนทับลงไป โดยระบายไล่นำหนัก จากหางคิ้วไปหัวคิ้ว เข้มไปอ่อน

และให้หัวคิ้วหนากว่าหางคิ้ว ( เลือกใช้ยี่ห้อที่เราถนัด ปุ้ยใช้ ( 7 ) สีเข้มสุดตรงหางคิ้ว ส่วนหัวคิ้วปุ้ยใช้สีอ่อนสุด แต่ถ้าใครไม่ชอบคิ้วเข้มลองใช้ ( 8 ) ดูค่ะ )  สุดท้ายใครที่อยากเน้นเส้นขนให้ชัดเหมือนกะรัตก็ใช้มาสคาร่าคิ้ว ปัดขนคิ้วในแนวตั้งขึ้นด้านบน แนะนำให้ใช้มาสคาร่าคิ้วแบบใสๆ ค่ะ จะเซ็ทขนคิ้วได้ดี ในรูปปุ้ยพลาดใช้แบบมีสีเลยไม่ค่อยเหมือนกะรัตเท่าไหร่นัก

STEP 04 EYESHADOW BASE

ขั้นตอนของอายแชโดว์เบส ถือว่าสำคัญไม่ควรมองข้าม เพราะจะช่วยให้อายแชโดว์ติดทนทั้งวัน รวมทั้งยังป้องกันปัญหาอายแชโดว์และอายไลเนอร์ร่วงลงมาใต้ตา กลายเป็นหมีแพนด้าระหว่างวันได้ด้วยค่ะ

How-to:

- เริ่มด้วยการทาอายแชโดว์เบส ( 9 ) แต้มเนื้อเบสลงที่เปลือกตาบน แล้วใช้นิ้วค่อยๆ กดให้กระจายทั่วเปลือกตา ( หลีกเลี่ยงการปาดไปมา เพราะทำให้เป็นคราบ )

- แต้มเบสที่เปลือกตาล่าง 3 จุด หัว กลาง และหางตา แล้วใช้นิ้วนางค่อยๆ แตะๆ กดๆ ให้กระจายไปทั่วเปลือกตาล่าง

- เลือกอายแชโดว์สีพื้นเกลี่ยให้ทั่วเปลือกตาทั้งบนและล่างเลยค่ะ

สำหรับอายแชโดว์สีพื้นในลุคนี้ปุ้ยใช้ ( 10 ) ผสมกับสีอ่อนใน ( 11 ) ซึ่งอายแชโดว์สีพื้นสามารถเลือกได้ตามสไตล์ของตนเอง ถ้าชอบลุคหวานๆ ก็เลือกโทนอมชมพู ถ้าชอบลุคที่ดูเป็นหวานๆ เป็นผู้ใหญ่ก็เลือกสีม่วงพลัม ถ้าชอบลุคที่ดูเก๋ๆ ก็โทนสีฟ้าเทาหรือเขียวเทา แต่ถ้าชอบลุคเปรี้ยวๆ สามารถใช้โทนสีส้มได้ค่ะ

เคล็ดลับสำคัญที่หลายคนมักจะมองข้าม คือ การทาอายแชโดว์เบสและอายแชโดว์สีพื้นที่เปลือกตาล่างด้วย เทคนิคนี้จะช่วยป้องกันปัญหาแพนด้าอย่างดีเลยล่ะค่ะ

STEP 05 MIDIUM EYESHADOW

เลือกสีน้ำตาลเข้มระดับกลางมาสร้างมิติเงาให้เบ้าตา ปุ้ยเลือกสีกลางจากสีด้านซ้ายใน ( 12 )

How-to:

โดยใช้แปรงสำหรับเบลนด์สีรูปโดม ( ถ้าไม่มีใช้นิ้วนางของเราแทนได้ ) แตะอายแชโดว์นิดเดียว มาเบลนด์สีเบาๆ ค่อยๆ ไล่น้ำหนักจากบริเวณหางตา ไล่เข้ามาด้านในประมาณ 30% และสูงประมาณ 50% ของเปลือกตา

STEP 06 DARK EYESHADOW

เลือกสีน้ำตาลเข้มมากขึ้นกว่าขั้นตอนที่แล้วอีก 2 ระดับ มาสร้างมิติเงาบริเวณหางตา

ปุ้ยเลือกสีเข้มจากสีด้านขวาใน ( 12 )

How-to:

โดยใช้แปรงหัวเล็กลง ปุ้ยใช้แปรงรูปโดมที่หัวเล็กลงมาอีก ( ถ้าไม่มีใช้นิ้วนางของเราแทนได้ ) แตะสีอายแชโดว์มาเล็กน้อย แล้วเบลนด์สี ไล่น้ำหนักจากบริเวณหางตาไล่เข้ามาด้านในประมาณ 10% และสูงประมาณ 20% ของเปลือกตา

ใช้แปรงหัวแบนๆ แตะสีน้ำตาลเข้ม มาสร้างมิติเงาชิดเส้นขอบตาบน

และบริเวณหางตาด้านล่าง ใช้แปรงหัวแบนๆ แตะสีน้ำตาลเข้ม มาสร้างมิติเงาชิดเส้นขอบตาบน

How-to:ใช้แปรงหัวเล็กๆ แบนๆ ( ถ้าไม่มีใช้คอตตอลบัตได้ ) แตะสีอายแชโดว์มาเล็กน้อย แล้ว เบลนด์สีไล่จากหางตาเข้ามา เป็นแนวเส้นจางๆ จนถึงปลายตาดำ ความหนาของเส้นประมาณ 2-3 มม.

STEP 07 EYELINER

อายไลเนอร์ในลุคนี้ เน้นเส้นบางคม และหางไม่ยาวมากค่ะ

How-to:

- ใช้อายไลเนอร์ชนิดปากกา ( 13 ) วาดเส้นได้ง่าย ให้เส้นที่คมชัด เราจะลากเส้นบางๆ ไม่ต้องหนา ลากให้ชิดแนวขอบตา เริ่มจากหัวตาจรดที่ปลายหางตา จากนั้นต่อความยาวเส้น ให้เลยหางตาออกมา 0.5 ซม ไม่ตวัดสูง เอาแค่ลากต่อออกมาตรงๆ แบบนี้จะให้ลุคที่ดูหวาน แต่มีเสน่ห์ ดูไม่จงใจจนเกินไปนัก

- ใช้เจลไนเนอร์ เนื้อนุ่มๆ ( 14 ) สำหรับขอบตาด้านใน ใช้แปรงแตะเนื้อเจล แล้วปาดกับขอบขวดให้ขนแปรงเรียบ จากนั้นค่อยวาดถมเส้นใต้ฐานขนตาให้เต็ม เพื่อให้ลุคที่ดูสมบูรณ์แบบ

STEP 08 EYELASHES

กิมมิกของลุคนี้อยู่ขนตา ซึ่งจะทำให้ดวงตาสีเอิร์ธโทนดูน่าสนใจขึ้นอีกหลายเท่าตัว

How-to:

ดัดขนตาและปัดมาสคาร่าก่อน เพื่อไม่ให้ขนตาจริงกับขนตาปลอมแยกชั้นกัน

เลือกขนตาที่เป็นช่อห่างๆ กันติดทั้งด้านบนและล่าง โดยด้านบนปุ้ยเลือกใช้ขนตา 2 ชิ้น ติดผสมกัน ชิ้นแรกลงไปก่อน คือ ( 15 ) เป็นขนตาที่มีช่อจังหวะชัดเจน

ติดขนตาบนอีกชิ้นทับลงไป ( 16 ) เป็นขนตาที่มีช่อเส้นบางๆ เรียงสลับจังหวะดูเป็นธรรมชาติ พอติดทับลงไป จะช่วยทำให้เห็นเส้นขนตาชัดเจน แต่เพิ่มความนุ่มนวล ดูหวานขึ้น

ส่วนขนตาล่างนั้น ปุ้ยเลือก ( 17 ) เป็นขนตาล่างแบบช่อเล็กๆ ที่ช่อห่างๆ กัน เทคนิคการติดขนตาล่าง ตัดแบ่งครึ่ง แล้วค่อยนำมาวางต่อกันใต้แนวขนตาล่างของเรา ช่วยให้รู้สึกไม่ตึงๆ บริเวณใต้ตา

STEP 09 HIGHLIGHT

การไฮไลท์ เพิ่มความสดใส ให้ใบหน้าดูโดดเด่น

เลือกไฮไลท์เนื้อละเอียดสีสว่างกว่าสีผิว ( 19 ) ใช้แปรงปัดแป้งขนาดเล็กให้เหมาะสมกับพื้นที่ที่จะปัด

How-to:

ปัดไฮไลท์ลงบริเวณ ทีโซน ใต้ดวงตา ร่องแก้มและคาง ( ที่ทำมาร์คไว้ในรูปค่ะ )

STEP 10 CONTOUR+SHADING

คอนทัวร์และเฉดดิ้ง สร้างโครงเงา และมิติ ช่วยให้้ใบหน้าคมชัด และปรับรูปหน้าให้ดูกระชับขึ้น

How-to:

เลือกเฉดดิ้งสีเข้มกว่าสีผิว ซัก 2-3 ระดับ ( 20 หรือ 21 ) ใช้แปรงขนสัตว์ที่มีความหยาบ ขนาดตามพื้นที่ที่ปัด พื้นที่บริเวณขอบหน้า ให้ปัดจากขอบเข้ามาด้านใน ปัดไลน้ำหนักบริเวณกรอบหน้า ขมับและใต้โหนกแก้ม

ส่วนบริเวณปีกจมูกนั้น แตะเฉดดิ้งครั้งเดียว ปัดไล่น้ำหนักจากปีกจมูกขึ้นไปยังสันจมูก

เทคนิคคือ ค่อยๆ ปัดสีทีละนิด แล้วเพิ่มให้เข้มขึ้นเรื่อยๆ จนกว่าจะพอใจ ไม่ควรปัดลงไปทีเดียวให้เข้มเลย

STEP 11 CHEEKS & LIPS

สีสันของลุคนี้ อยู่ที่แก้มกับเรียวปากค่ะ ปุ้ยเลือกโทนสีส้ม ให้ลุคหวาน สดใส มีเสน่ห์

“ เลือกโทนสี ของแก้มและปาก ให้แม็ทกัน แก้มปุ้ยใช้ ( 22 ) แล้วปัดทับด้านบนด้วย ( 23 ) ให้ดูกลมกลืนและหวานขึ้น ส่วนเรียวปากเลือกลิปสติกเนื้อแมท ให้ลุคดูเป็นผู้ใหญ่ และช่วยให้ติดทนตลอดทั้งวัน ปุ้ยใช้ สีส้ม ( 24 ) แล้วทับตรงกลางด้วย ( 25 ) ที่สีสดส้มกว่า ” แต่ถ้าใครอยากได้ลุคโทนชมพูของกระรัตก็แนะนำแก้มสี LAURA MERCIER [ Rose Petal ] หรือ M.A.C [ Dainty ] ส่วนลิปสติกแนะนำ BOBBI BROWN Creamy Matte Lip [ 4 True Pink ]

How-to:

ปัดแก้มบริเวณเหนือพวงแก้ม เน้นให้สูงกว่าลุคทั่วไปนิดนึง เป็นกิมมิกของลุคนี้ ทำให้ดูหวานๆ ซึ้งๆ

ส่วนเรียวปาก ก็ลิปสติกเนื้อแมท ใช้นิ้วแตะเนื้อลิปสติกแล้วมาแตะๆ เกลี่ยให้ทั่วปาก เทคนิคนี้จะให้สี แต่ไม่เก็บเนื้อลิปสติกส่วนเกินไว้ที่ริมฝีปาก จึงทำให้ไม่หลุดเวลารับประทานเครื่องดื่มหรืออาหาร ช่วยให้ติดทนตลอดทั้งวัน